ตอนที่แล้วChapter 8 บุคคลที่มีความประพฤติไม่เหมาะสม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 10 ความฝันตั้งแต่วัยเยาว์

Chapter 9 คุณเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ


บทที่ 9

จริงๆแล้ว คนทั่วๆไปไม่สามารถเข้าถึงหน่วยงานนี้ได้ แต่เมื่อฤดูหนาวปีที่แล้วจี้เจียนกั๋วเป็นผู้แนะนำให้เสิ่นเหม่ยเข้าทำงานในครัว

เขาบอกว่าเสิ่นเหม่ยเป็นแม่ม้ายซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ ของเขา มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะดูแลลูกด้วยตัวคนเดียว

เขารู้สึกสงสารเธอมาก ดังนั้นจึงขออนุญาตให้เสิ่นเหมยได้เข้ามาทำงานที่นี่

ผู้ที่ทำงานในห้องครัวล้วนแต่เป็นพนักงานชั่วคราว ไม่มีพนักงานประจำ ดังนั้นจึงเป็นการง่ายในการรับคนเข้าทำงาน

แต่ใครจะรู้ล่ะ ว่าหญิงผู้นี้จะมีความสัมพันธ์เช่นนี้กับจี้เจียนกั๋ว

ใบหน้าของเสิ่นเหม่ยซีดลงทนทีเมื่อเธอได้ยินคำพูดของผู้อำนวยการฉิน

เธอมองผู้อำนวยการฉินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว “มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ ผู้อำนวยการฉิน ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆกับพี่เจี้ยนกั๋ว  พวกเราถูกใส่ร้ายนะคะ”

ผู้อำนวยการฉินอยู่ในวัยกลางคน ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความสามารถที่เก่งกาจเของเขา เขาจึงไปถึงตำแหน่งนี้ได้ภายในระยะเวลาไม่นาน ดังนั้นเขาจึงไม่ใช่คนที่จะใจอ่อน ยอมแพ้อะไรง่ายๆ

เขาไม่เหมือนจี้เจียนกั๋ว  เขาไม่มีทางหลงกล มารยาเล็กๆ น้อยๆ ของเสิ่นเหมยแน่

เขาไม่สนใจเสิ่นเหมยเลยแม้แต่น้อย และมองไปที่จี้เจียนกั๋ว “คุณรีบไปจัดการเรื่องที่บ้านเถอะ ถ้าคุณไม่มีเงิน ฉันจะช่วยคุณจ่ายก่อนก็ได้ เด็กตัวใหญ่ขนาดนี้ พวกเค้าอยู่ในวัยเจริญเติบโต จะปล่อยให้พวกเขาหิวได้อย่างไร”

“วันนี้คุณไม่ต้องเข้ามาทำงาน ไปจัดการเรื่องที่บ้านให้เรียบร้อย แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาหาฉันที่ออฟฟิส” หลังจากพูดจบ เขาก็หยุดนิ่ง

ผู้อำนวยการฉินมองไปที่จี้หยวนหยวนซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลังหลี่ซู “เพื่อนตัวน้อย ต่อไปหากหนูมีปัญหาอะไรอีก มาหาลุงได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ  ถ้าลุงช่วยหนูไม่ได้ ก็ยังมีคุณลุงอีกคนที่เหนือกว่าอยู่”

จี้หยวนหยวนเงยหน้าขึ้นและยิ้มหวานให้ผู้อำนวยการฉิน “เข้าใจแล้วค่ะคุณลุง”

หลังจากที่ผู้อำนวยการฉินพูดอย่างนั้น เขาก็หันหลังกลับและจากไป

เสิ่นเหมยรู้สึกร้อนรนกระวนกระวายใจและต้องการเข้าถึงตัวผู้อำนวยการฉิน “ผู้อำนวยการคะ ขอให้ฉันได้อธิบายหน่อยนะคะ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดจริงๆ…”

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะเข้าถึงตัวผู้อำนวยการฉิน เธอก็ถูกขัดขวางโดยผู้หญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้อำนวยการ “นี่ คุณไม่ได้ยินสิ่งที่ผู้อำนวยการพูดหรอกเหรอ?”

“เสี่ยวหมิ่น ช่วยฉันพูดกับพ่อของคุณทีสิ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆนะ พี่เจียนกั๋วและฉันเป็นผู้บริสุทธิ์ อย่าฟังเรื่องไร้สาระของเด็กนั่น”

เธอรับไม่ได้ที่จะสูญเสียงานนี้ไป งานนี้ไม่เพียงเป็นงานที่ง่าย แต่เงินเดือนก็สูงด้วยเช่นกัน ที่สำคัญเธอท้องก่อนแต่งงานและมีลูกด้วย นอกจากที่นี่แล้ว ก็ไม่มีที่อื่นที่ยินดีจะรับเธอเข้าทำงาน

จี้หยวนหยวนจึงตระหนักได้ว่าผู้หญิงที่พาพวกเขาเข้ามา จริงๆ แล้วคือลูกสาวของผู้อำนวยการฉิน

ฉิน เสี่ยวหมิ่น มองไปที่เสิ่นเหม่ย และเยาะเย้ย "เด็กน้อยไร้เดียงสาจะไม่พูดโกหก เดี๋ยวฝ่ายบัญชีจะตรวจสอบและส่งเงินเดือนเดือนสุดท้ายให้คุณอย่างเร็วที่สุด ถ้าคุณไม่ออกไปตอนนี้ ฉันจะโทรหา รปภ.”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นเหม่ยจ้องเขม็งที่จี้หยวนหยวนด้วยความเกลียดชัง “ทำไมคุณถึงทำให้ฉันตกงาน”

จี้หยวนหยวนมองไปที่เสิ่นเหม่ยอย่างสะใจ

เมื่อเทียบกับสิ่งที่คุณและลูกสาวคุณทำกับฉันเมื่อชาติที่แล้ว หรือเทียบกับสิ่งที่คุณทำกับแม่ของฉัน ตอนนี้มันก็แค่การหยอกล้อของเด็กอมมือเท่านั้นล่ะ

ด้านหลี่ซุ  เสิ่นเหมยไม่เคยอยู่ในสายตาเธอเลย เธอมองตรงไปที่จี้เจียนกั๋ว “ผู้อำนวยการฉินพูดไปแล้ว คุณยังต้องการกลับคำพูดของคุณอยู่อีกหรือเปล่า”

จี้เจียนกั๋วใคร่ครวญถึงสถานการณ์เขาในตอนนี้ จึงตอบกลับด้วยความคับแค้น "พวกคุณ ตามฉันมา!!"

ผู้อำนวยการฉินได้เตือนเขาอย่างชัดเจนเมื่อครู่นี้ สถานะเขาแตกต่างจากเสิ่นเหมย เขาเป็นพนักงานประจำอย่างเป็นทางการและมีพนักงานใต้บังคับบัญชา จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไล่เขาออก อย่างไรก็ตาม หากผู้อำนวยการฉินไม่ยอมแพ้เขาจริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

เขาต้องทำให้แน่ใจว่าหลี่ซู พอใจกับข้อตกลงนี้ มิฉะนั้น หากพวกเขาไปหาผู้อำนวยการฉินอีกครั้ง เขาจะต้องเดือดร้อนอีกเป็นแน่

สิ้นเสียงจี้เจียนกั๋ว   หลี่ซูก็รีบอุ้มเด็กทั้งคู่ด้วยแขนของเธอและตามเขาออกไป

หลังจากที่พวกเขาออกไปไม่นาน ในสำนักงาน ผู้คนยังคงซุบซิบกันถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ใบหน้าของเสิ่นเหมยแลดูซีดเซียว  ขาของเธอก็เริ่มอ่อนแรง และเธอฟุบลงกับพื้น

หลังจากที่จี้เจียนกั๋วพาพวกเขาออกมา การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน “หลี่ซู คุณต้องการอะไร?”

สีหน้าของเธอเรียบเฉย  “จี้เจียนกั๋ว คุณกำลังพยายามทำอะไรอยู่? พวกเขาก็เป็นลูกของคุณเหมือนกัน ฉันต้องการแค่ห้าพันหยวนเท่านั้น คุณบังคับให้ฉันทำแบบนี้เองนะ”

จี้เจียนกั๋วจ้องไปที่หลี่ซูและเขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า  เขาคิดจริงๆว่าหลี่ซูคงจะไม่กล้าทำในสิ่งที่เธอพูด

“ผมจะกลับไปเตรียมเงินก่อน แล้วจะเอาไปให้คุณตอนบ่าย คุณกลับไปรอที่บ้านได้เลย” เขากัดฟันด้วยความอดทนไว้เป็นเวลานานก่อนที่เขาจะเอ่ยปาก

เขาหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง  “หลี่ซู่คุณเปลี่ยนไปมากจริงๆ คุณกลายเป็นผู้หญิงหน้าเงินเห็นแก่ได้ ตอนนี้ผมดีใจมาก  คุณทำให้ผมมั่นใจว่าผมตัดสินใจไม่ผิดที่หย่ากับคุณ”  พูดจบ จีเจียนกั๋วหันหลังกลับและจากไปทันที

หลี่ซูที่ยืนอยู่ตรงนั้นตัวเย็นวาบ  นี่คือคนที่ร่วมหลับนอนกับเธอมานานกว่าสิบปี!

ในฐานะที่จี้ซีอังยังเป็นเด็ก เขาอาจยังไม่ค่อยเข้าใจว่าคำพูดของจี้เจียนกั๋วนั้นเจ็บแสบเพียงใด แต่ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ จี้หยวนหยวน เธอเข้าใจมันเป็นอย่างดี

เธอจึงเอื้อมมือออกไปกอดหลี่ซูเพื่อให้กำลังใจ

ขณะที่ทั้งสามกำลังจะจากไป จู่ๆ ก็มีคนตะโกนว่า "พี่สาวหลี่ !!"

หลี่ซู่ หันกลับมาตามเสียงเรียก  ฉินเสี่ยวหมิ่น เดินออกมาพร้อมกับกล่องของขวัญสองกล่องในมือ

เธอเดินมาหาหลี่ซูพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญสองกล่องให้  “พี่หลี่ นี่เป็นของขวัญจากหน่วยของเรา ฉันไม่ชอบกินของพวกนี้หรอก คุณเอามันกลับไปให้เด็ก ๆ กินเถอะ”

หลี่ซู่กำลังจะปฏิเสธ แต่จี้ซีอังจอมตะกละรีบขอบคุณเธอ "ขอบคุณฮะ พี่สาวฉิน"

ฉินเสี่ยวหมิ่น อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขณะที่เธอเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของเด็กน้อยจี้ซีอังอย่างแผ่วเบา “ด้วยความยินดีจ้า”

จากนั้นเธอก็ยืดตัวขึ้นและมองไปทางหลี่ซู เธอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “พี่สาวหลี่ คุณสุดยอดมากเลยรู้มั้ย ถ้าคุณมีปัญหาอะไรอีก  มาหาฉันได้ตลอดเวลานะ”

คนที่มีจิตใจเมตตาแบบนี้หาได้ยากจริงๆ  หลี่ซูคิดและกล่าวขอบคุณ “คุณฉิน ขอบคุณคุณมากนะ สำหรับวันนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณและพ่อของคุณ เราอาจจะ…”

วันนี้เธอได้พบกับ ฉินเสี่ยวหมิ่นและผู้อำนวยการฉินซึ่งเป็นคนมีเหตุมีผลและยุติธรรมเป็นอย่างมาก

หากเธอพบกับผู้นำที่ปกป้องลูกน้อง หลี่ซู่ก็คงไม่สามารถทำอะไรจี้เจียนกั๋วได้เลย

ฉินเสี่ยวหมิ่นส่ายหัว  “เมื่อพวกคุณกลับไป ถ้าจี้เจียงกัวยังไม่ยอมจ่ายเงินให้คุณ  คุณกลับมาหาฉันได้ตลอดเวลานะ”

หลี่ซู่ พยักหน้าและสะกิดเด็กทั้งสอง "บอกลาน้าฉินสิจ๊ะ"  “ลาก่อนค่ะ/ฮะ คุณน้าฉิน” จี้หยวนหยวนและจี้ซีอังกล่าวอำลาฉินเสี่ยวหมิ่นอย่างพร้อมเพรียง

หลี่ซู อุ้มเด็กทั้งสองคนจากไป

จี้หยวนหยวนอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง

ฉินเสี่ยวหมิ่นและฉินมู่เชิง พวกเขามีนามสกุลเดียวกัน  ฉิน!!?!

เมื่อเธอหันกลับไป เธอเห็นว่าฉินเสี่ยวหมิ่นยังคงอยู่ในจุดเดิมและเฝ้าดูพวกเขาจากไป

จี้หยวนหยวนโบกมือให้ฉินเสี่ยวหมิ่น เธอยิ้มและโบกมือกลับ

เมื่อพวกเขาถึงจุดเลี้ยวตรงหัวมุม ร่างของฉินเสี่ยวหมิ่นก็หายไป จี้หยวนหยวนจึงถอนสายตากลับมา

กว่าที่ทั้งสามคนจะกลับถึงบ้านก็คงหลังสิบโมง จี้ซีซวนมีไหวพริบดีมาก เขาจึงกำลังเตรียมอาหารกลางวันไว้รอพวกเขา

ที่บ้านมีกะหล่ำปลีเพียงไม่กี่ต้น จี้ซีซวนจึงล้างกะหล่ำปลีอย่างระมัดระวังและหั่นมันเป็นชิ้นๆ เตรียมไว้รอให้หลี่ซูกลับมาผัด

ระหว่างมื้อกลางวัน ขณะที่กำลังตักผัดกะหล่ำปลีจากชามของเธอขึ้นมากิน จี้หยวนหยวนก็ยังคงจมอยู่กับความคิด ถ้าเธอบอกแม่เรื่องมิติพิเศษ มันจะทำให้เธอกลัวไหมนะ?

แต่ถ้าไม่บอกเธอ แล้วจะนำอาหารพวกนั้นออกมากินได้อย่างไร?

ทุกวันนี้เธอคิดแล้วคิดอีกแต่ก็ยังไม่มีคำตอบ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด