Chapter 8 บุคคลที่มีความประพฤติไม่เหมาะสม
บทที่ 8
จี้หยวนหยวนยิ้มอย่างมีเลศนัยพร้อมกับชี้ไปที่เสิ่นเหม่ยแล้วพูดว่า “แม่ นั่นไงคุณน้าคนนั้น” หนูเห็นคุณน้ากับพ่อจูบกัน”
ทันทีที่จี้หยวนหยวนพูดจบจี้ซีอังก็รีบวิ่งไปราวกับลูกวัว ปรี่เข้าหาเสิ่นเหมย
เสิ่นเหมย ไม่ทันได้ตั้งรับเลยถูกกระแทกล้มลงกับพื้น
“ว้ายย เจ้าเด็กร้ายกาจพวกนี้มาจากไหน…” เสิ่นเหม่ยสบถ แต่น้ำเสียงของเธอก็ฟังดูนุ่มนวลมาก
ในชีวิตก่อนหน้านี้ จี้หยวนหยวนคิดมาโดยตลอดว่าเสิ่นเหม่ยเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวานคนนึง แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามันไม่ใช่เลย
เธอได้ยินคำพูดของจี้หยวนหยวนอย่างชัดเจน และรู้ว่าคนเหล่านี้เป็นอดีตภรรยาและลูกๆ ของจี้เจียนกั๋ว อย่างไรก็ตาม เธอยังคงเสแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และหันไปสบตาจี้เจียนกั๋วด้วยสายตาที่ออดอ้อนดูน่าสงสาร
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หัวใจของจี้เจียนกั๋วก็เหมือนถูกทำร้าย เขารีบเดินตรงไปช่วยประคองเสิ่นเหม่ยขึ้นมา “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เสิ่นเหมยส่ายหน้าทำน้ำตาคลอ เธอพูดขึ้นว่า "พี่คะ ฉันไม่อะไร"
ในปีนี้เสิ่นเหมยอายุเพียง 25 ปี น้อยกว่า จี้เจียนกั๋ว แปดปี ใบหน้าของเธอจึงยังคงเต็มไปด้วยคอลลาเจน ประกอบกับดวงตากลมโตที่เปล่งประกาย จี้เจียนกั๋วเห็นเข้าก็ตกหลุมรักเธอโดยทันที
“จี้ซีอัง ลูกเป็นอะไร? ทำไมถึงหยาบคายขนาดนี้” จี้เจียนกั๋วเข้าไปคว้าตัวจี้ซีอังและตีไปที่ก้นของเขา “ขอโทษคุณน้าเสิ่นเดี๋ยวนี้นะ”
จี้ซีอังไม่คิดเลยว่าพ่อจะตีเขาเพื่อปกป้องผู้หญิงคนนี้ เขาตกตะลึง
จี้เจียนกั๋วไม่เคยสนใจครอบครัวของเขาเลย ไม่แม้แต่จะดุด่าหรือแม้กระทั่งการลงโทษเล็กๆน้อยๆ
ดังนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่จี้ซีอังถูกตี
เมื่อเห็นสิ่งนี้ จี้หยวนหยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้ววิ่งไปที่ด้านข้างของจี้ซีอังพร้อมกับบีบน้ำตา “พ่อคะ หยุดตีพี่เขาได้แล้ว พี่รองไม่ได้ตั้งใจ หนูไม่เห็น.. หนูไม่เคยเห็นพ่อกับป้าเสิ่นจูบกัน หนูโกหกเอง พ่อหยุดเถอะ”
ในขณะนี้ หลายคนมาถึงที่ออฟฟิศแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ ทุกคนก็เริ่มซุบซิบ
“อ๋อ จี้เจียนกั๋วกับเสิ่นเหมย มีความสัมพันธ์กันแบบนี้นี่เอง แต่พวกเขาบอกว่าเป็นญาติห่างๆกันนี่นา”
“จุ๊.จุ๊.จุ๊ จี้เจียนกั๋วคนนี้ดูเป็นคนเคร่งครัด ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาพาเสิ่นเหมยไปอยู่ที่ห้องครัวน่ะ คงสะดวกสำหรับพวกเขาที่จะพบกัน”
-
จี้เจียนกั๋วได้ยินเสียงซุบซิบ เขาจึงรีบตำหนิจี้หยวนหยวนทันทีด้วยใบหน้าดุดัน “หยวนหยวน ทำไมลูกหัดพูดโกหกตั้งแต่อายุยังน้อยขนาดนี้? น้าเสิ่นเขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับพ่อ อย่าพูดเรื่องไร้สาระออกไปแบบนี้นะ”
ในขณะนี้จี้เจียนกั๋วเองก็สับสน เขาระวังตัวอยู่เสมอเมื่อเขาออกเดทกับเสิ่นเหม่ย แล้วหยวนหยวนเห็นพวกเขาเมื่อไหร่กันนะ
หลี่ซูซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล เธอมองไปที่จี้เจียนกั๋วและเสิ่นเหมย แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
เสิ่นเหม่ยคนนี้เป็นเพื่อนร่วมงานของจี้เจียนกั๋วจริงๆ ดังนั้นเธอตระหนักแล้วว่าหลายปีที่ผ่านมา ตอนที่เจียนกั๋วไม่กลับบ้าน เขาอ้างว่าเขาต้องทำงานที่ออฟฟิศทั้งวันทั้งคืน เขาอยู่กับเสิ่นเหมยงั้นหรอ ?
นี่ สามีของเธอแอบนอกใจเธอมานานหลายปีแล้วใช่มั้ย?
“จี้เจียนกั๋ว ฉันไม่สนใจเรื่องระหว่างคุณกับผู้หญิงคนนี้หรอกนะ” “แต่เด็กพวกนั้นก็เป็นลูกของคุณเช่นกัน หลังจากที่เราหย่า ถ้าคุณไม่ให้เงินฉันแม้แต่สตางค์แดงเดียว ฉันจะเลี้ยงดูพวกเขาต่อไปได้ยังไง ?” ตอนนี้ครอบครัวของเรายากจนและอดอยาก คุณมีแก่ใจที่จะเห็นลูกๆไม่มีอะไรจะกินใช่ไหม?“ ฉันเคยพูดไปแล้ว ตราบใดที่คุณให้ฉันห้าพัน พวกเราแม่ลูกจะไม่มีปัญหากับคุณอีก” หลี่ซูสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ระงับสติอารมณ์
จี้เจียนกั๋วก้าวเท้าไปข้างหน้าและผลักหลี่ซู “ตกลง ผมจะให้เงินคุณก็ได้ แต่พวกคุณต้องออกมากับผม เราอย่ามาพูดกันที่นี่”
ห้าพัน!??! การแสดงออกของเสิ่นเหมยเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเธอได้ยินเงินจำนวนนี้
ใครๆก็รู้ว่า 5,000 หยวนไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆเลยในยุคนี้
ในขณะที่จี้เจียนกั๋วมีเงินเดือนอยู่เพียง 600 หยวนต่อเดือนเท่านั้น
5,000 หยวนเท่ากับเงินเดือนของเขาเกือบหนึ่งปี
เสิ่นเหมยแสดงอาการไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เมื่อคิดอีกที ถ้าห้าพันหยวนสามารถแลกกับกำจัดภาระเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ เพื่อไม่ให้มารบกวนจี้เจียนกั๋วกับเธออีกต่อไป มันก็ดูจะเข้าที
ดังนั้นเสิ่นเหมยจึงเลือกที่จะสงบและยืนฟังอยู่เงียบๆ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ จี้หยวนหยวนก็เดินไปกอดต้นขาของจี้เจียนกั๋ว และร้องไห้ฟูมฟาย ว่า “พ่อคะ หนูไม่ได้เห็นอะไรจริงๆ พ่ออย่าตีแม่นะ อย่าตีแม่ของหนูนะ…”
"นี่ มันเกิดอะไรขึ้น!!?" หญิงคนนั้นเข้ามาพร้อมกับชายวัยกลางคน
เมื่อมองดูเผินๆ ชายวัยกลางคนคนนี้มีลักษณะดูเป็นผู้นำที่น่าเกรงขามอย่างเห็นได้ชัด เขามีรูปร่างที่สง่างาม
ดวงตาเฉียบคมของเขามองไปรอบ ๆ และมองกลับไปที่จี้เจียนกั๋ว
ผู้หญิงคนนั้นยืนเยื้องไปข้างหลังเขาแอบขยิบตาให้หลี่ซู
ใบหน้าของจี้เจียนกั๋ว ค่อยๆซีดลงเมื่อเห็นชายคนนี้ “ผู้อำนวยการฉิน นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย คนนี้คือภรรยาของฉันและก็ลูกทั้งสองคน…”
“ฉันเป็น อดีตภรรยาค่ะ !!” หลี่ซู โพล่งขัดจังหวะจี้เจียนกั๋วออกไปอย่างเย็นชา
เขารู้สึกกังวลใจอย่างมากในตอนนี้ เขาหันไปหาหลี่ซูแล้วกัดฟันพูดด้วยเสียงโทนต่ำ “หยุดพูดจาเลอะเทอะได้แล้ว กลับไปแล้วเราค่อยคุยกัน”
ขณะที่เขาพูด เขาก็กระชากตัวหลี่ซูแล้วรีบพาเดินออกไป “ผู้อำนวยการฉิน เดี๋ยวผมจะกลับมาอธิบายให้คุณฟังนะ…”
จี้หยวนหยวนได้แต่กลอกตาแล้ววิ่งไปอยู่ข้างๆชายวัยกลางคน เธอกอดต้นขาของเขาแล้วร้องไห้ “คุณลุงคะช่วยบอกพ่อให้ที ว่าอย่าทำร้ายแม่ของหนูนะ หนูไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ” เธอพูดพร้อมสะอื้นไปด้วย
จี้หยวนหยวนเป็นคนหน้าตาดีมาตั้งแต่เด็ก เธอรับส่วนที่ดีมาทั้งหมดจากหลี่ซูและจี้เจียนกั๋ว ผิวของเธอขาวละมุนและเรียบเนียน ดวงตาของเธอก็กลมโตเป็นประกาย ทรงผมประบ่าสีน้ำตาลอมทอง
แม้ว่าเสื้อผ้าของเธอจะเก่ามีร่องรอยปะบ้างเล็กน้อย แต่ก็สะอาด ผู้ใหญ่คนไหนที่เห็นเธอก็อดไม่ได้ที่จะเอ็นดูเด็กหญิงตัวเล็กๆ ผู้นี้
โดยปกติแล้วผู้อำนวยการฉินจะเป็นคนเคร่งขรึม ไม่ค่อยมีรอยยิ้มต่อคนอื่น แต่ในตอนนี้สีหน้าอ่อนโยนลงมากเมื่อเห็นจี้หยวนหยวน
เขาก้มลงและถามด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เพื่อนตัวน้อย หนูอย่ากังวลไปเลย ไหนบอกลุงสิ ว่าหนูเห็นอะไรมา”
จี้หยวนหยวนมองไปที่จี้เจียนกั๋วแล้วถอยกลับ เธอส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ค่ะ หนูไม่เห็นอะไรเลย”
จี้เจียนกั๋วคิดในใจ มีดราม่าควีนในครอบครัวของเราตั้งแต่เมื่อไหร่?
เขาไม่เคยแตะต้องแม้แต่ปลายนิ้วของเธอเลยด้วยซ้ำ แต่ทำไมตอนนี้ดูเหมือนเขาตบตีเธอบ่อยๆล่ะ?
“หนูน้อยจ๊ะ หนูโกหกไม่เก่งหรอก ถ้าบอกความจริงน้าจะให้ขนมนะ” ผู้หญิงคนนั้นก็นั่งยองๆ ลงและหยิบอมยิ้มออกมาจากกระเป๋าของเธอแล้วยื่นตรงหน้าจี้หยวนหยวน
จี้หยวนหยวนกระพริบตา เลียริมฝีปากแล้วกระซิบว่า “ฉันเห็นคุณน้าคนนั้นกำลังจูบพ่อ”
เธอเอื้อมมือออกไปและชี้ไปที่เสิ่นเหมย
ใบหน้าของเสิ่นเหมยซีดลงเช่นกัน “ไม่ ฉันไม่ได้.....”
ผู้อำนวยการฉินไม่สนใจเธอและถามต่ออีกครั้งว่า “แล้วหนูเห็นพวกเค้าเมื่อไหร่กันล่ะ”
ดวงตาของจี้หยวนหยวนจับจ้องไปที่อมยิ้ม
“มันเป็นช่วงวันหยุดฤดูร้อนของหนู” หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็ยิ้มอย่างพอใจและยื่นมือไปหาผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงคนนั้นวางอมยิ้มบนมือของเธอแล้วเอื้อมมือไปสัมผัสหัวของเธอ
จี้หยวนหยวนหยิบอมยิ้มแล้ววิ่งกลับไปหาหลี่ซูเพื่อซ่อนตัวทันที เธอแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หากเขายังคงถามต่อไป เธอกลัวว่าจะถูกจับได้
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าจี้เจียนกั๋วและเสิ่นเหมยกำลังมีความสัมพันธ์กัน แต่เธอก็ไม่เคยเห็นพวกเขาจูบกันจริงๆ
ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนจี้เจียนกั๋วและหลี่ซู ยังไม่ได้หย่าขาดจากกัน ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำจากจี้หยวนหยวน ก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าจี้เจียนกั๋วกับเสิ่นเหมยมีความสัมพันธ์ระหว่างที่เขายังแต่งงาน
เขาไม่เพียงมีชู้ระหว่างแต่งงานเท่านั้น แต่ยังทำให้ภรรยาและลูกออกจากบ้านโดยไม่ให้อะไรติดตัวไปเลย
ใบหน้าของผู้อำนวยการฉินเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที เขามองไปที่เสิ่นเหมยก่อน “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณไม่จำเป็นต้องเข้ามาทำงานที่นี่นะ เราเป็นหน่วยงานราชการ ไม่ต้องการคนที่ไม่มีศีลธรรม”