Chapter 6 คุณเป็นใคร
บทที่ 6
ในขณะนี้จี้ซีซวนและจี้ซีอัง พุ่งพรวดออกมาจากบ้านและยืนอยู่ตรงหน้าจี้หยวนหยวนกับหลี่ซู
จี้เจียนกั๋วโกรธมากเมื่อเขาได้ยินคำพูดของจี้ซีอัง
"ยังเห็นฉันเป็นพ่อของพวกแกอยู่รึป่าว ?" เขาชี้ไปที่หัวของจี้ซีอังและถามออกไปด้วยความโกรธ
จี้ซีอัง ตะคอกกลับ “คุณสนใจเรื่องของตัวเองเถอะ!”
จี้เจียนกั๋วถึงกับกลั้นหายใจไปครู่หนึ่งแล้วมองไปที่หลี่ซู “นี่คือเด็กที่คุณเลี้ยงมาเหรอ? หากพวกเธอไร้การศึกษามาก ก็อย่าบอกคนอื่นนะว่าเป็นลูกของฉัน ลูกของจี้เจียนกั๋ว”
“ใครมันจะไปอยากเป็นลูกของคุณกันล่ะ” จี้ซีอังจ้องเขม่งไปที่จี้เจียนกั๋วด้วยความดูถูก
เดิมทีแม้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกจะไม่ค่อยดีนักแต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณที่ยอมรับได้ หลังจากหย่าร้างและจี้เจียนกั๋วก็เคยกักขังสองพี่น้องไว้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้พวกเขากลายเป็นศัตรูกับจี้เจียนกั๋วไปแล้ว
“ฉันจะให้เวลาคุณสามวัน ถ้าคุณไม่เอาเงินมาให้ ฉันจะไปที่หน่วยของคุณแล้วก็จะคุยกับหัวหน้าของคุณเป็นการส่วนตัว” หลี่ซูกล่าวด้วยสายตาที่แน่วแน่ “คุณไปได้แล้ว พวกเราไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก”
จี้เจียนกั๋วยืนอยู่กับที่และมองจี้หยวนหยวนด้วยความโกรธแค้น “วันนี้หยวนหยวนต้องมากับผม…”
ขณะที่เขาพูด เขาก็กำลังเข้าไปดึงตัวจี้หยวนหยวน เมื่อเห็นดังนั้น จี้ซีอังก็คว้าไม้กวาดที่วางอยู่ถัดจากตัวเขาแล้วกระโจนเข้าใส่จี้เจียนกั๋วทันที “รีบออกไปซะ อย่าแม้แต่จะคิดแตะต้องหยวนหยวนนะ”
ละอองฝุ่นลอยคลุ้งไปในอากาศ จี้เจียนกั๋วรีบใช้มือของเขาปัดป้องอย่างไม่ทันตั้งตัว "ดี..ดี. พวกคุณเก่งกันนักนะ…” เขาพูดพลางหันหลังกลับแต่กลับชนที่จักรยานอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เค้กและขนมปังลูกพีชร่วงกระจายลงบนพื้น เขาไม่มีเวลาไปเก็บพวกมัน เขาทำได้เพียงหยิบจักรยานแล้วรีบผละจากไป
เมื่อเห็นเช่นนี้ จี้ซีซวนก็หยิบเค้กและขนมปังลูกพีชที่อยู่บนพื้นขว้างออกไป “เอาของของคุณกลับไปด้วย พวกเราไม่ต้องการมันหรอก”
จากนั้นเขาก็กระแทกประตูให้ปิดลงอย่างแรง
จี้ซีอังตัวแข็งทื่อ และไม้กวาดในมือของเขาก็หล่นลงบนพื้น
จี้ซีซวนสะบัดมือที่สกปรกของเขา จี้ซีอังผุ้ซึ่งอยู่ถัดออกไปรีบวิ่งอย่างเร็วราวกับก้อนเล็กๆของกระสุนปืนใหญ่ถูกยิงออกไป “อร่ายย ทำไมคุณถึงโยนอาหารอร่อยๆทิ้งไปอย่างนั้นล่ะ ไม่มีสมองเอาซะเลย…”
เมื่อเห็นฉากนี้ จี้หยวนหยวนก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
จี้ซีอังจอมตะกละคนนี้นึกถึงแต่เรื่องกินตลอดเวลาจริงๆ
อย่างไรก็ตาม หลี่ซู เธอไม่ตลกด้วยเลย
หลี่ซูขมวดคิ้ว “จี้ซีอัง ใครสอนให้ลูกหยาบคายขนาดนี้? พูดแบบนั้นกับพ่อได้ยังไง เขาเป็นพ่อของคุณนะ”
ไม่ว่าจี้เจียนกั๋วจะทำผิดแค่ไหน เขาก็ยังคงเป็นพ่อของพวกเขา พวกเขาไม่ควรทำแบบนี้
จี้ซีอังหลบสายตาลง เหลือบมองไปที่จี้หยวนหยวนและนินทาว่า “น้องเล็ก คุณเห็นเขาจูบคุณน้าจริงๆ เหรอ?”
จี้หยวนหยวนรู้สึกจนมุม จี้ซีอังผู้นี้ช่างโง่เขลามาตั้งแต่เยังเด็กจริงๆ
เขาคือพ่อของคุณ พ่อของคุณจูบกับผู้หญิงคนอื่น ทำไมคุณถึงพูดนินทาเขาลับหลังแบบนี้?
เธอจึงเพิกเฉยต่อจี้ซีอังและหันไปกอดหลี่ซู พร้อมกับปลอบเธอว่า “แม่คะ หยวนหยวนรักแม่ที่สุดในโลก”
ดวงตาของหลี่ซูแดงก่ำน้ำตาเริ่มเอ่อออกมาเมื่อเธอได้ยินคำพูดของจี้หยวนหยวน
เมื่อเห็นอย่างนี้ จี้ซีซวนก็เดินเข้าไปกอดแม่และน้องสาวด้วย
จี้ซีอังเด็กโง่ แต่เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังกอดกันอยู่ เขาก็ไม่ยอมถูกทิ้งไว้ข้างหลังแน่ๆ ดังนั้นเขาจึงรีบเข้าไปกอดพวกเธอเช่นกัน
หลี่ซูสูดจมูกและบังคับตัวเองไม่ให้ร้องไห้
เธอกับจี้เจียนกั๋วรู้จักกันจากการนัดบอด เคยพบกันเพียงสามครั้งเท่านั้นก่อนแต่งงาน พ่อของเธอบอกว่าจี้เจียนกั๋วเขาเป็นคนน่าเชื่อถือและมีความสามารถ ดังนั้นเธอจึงตกลงแต่งงานกับเขา
สองปีแรกของการแต่งงานก็ไม่ได้เลวร้ายนัก จี้ซีซวนเป็นลูกชายคนแรกของพวกเขา ดังนั้น จี้เจียนกั๋วจึงค่อนข้างเอาใจใส่
แต่นับตั้งแต่จี้ซีอังเกิด ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
เขาเริ่มกลายเป็นสามีที่ไม่ยอมช่วยทำอะไรเลย เมื่อกลับถึงบ้านเขาจะนอนลงและไม่แม้แต่จะหยิบขวดน้ำมันเมื่อมันกลิ้งตกลงมา ยิ่งไปกว่านั้น เขามักจะพูดจาตะคอกใส่เธออยู่เสมอ ราวกับว่าเขาทั้งคู่ไม่ใช่สามีภรรยากัน แต่เป็นศัตรู
ในช่วงหลัง จี้เจียนกั๋วมักจะอยู่แต่ในออฟฟิศไม่ยอมกลับบ้านและหายตัวไปนานราว 10-15 วัน
ดังนั้นชีวิตของเธอก็ไม่ต่างจากหญิงหม้ายในหมู่บ้าน
ความจริงระหว่างเขาทั้งคู่ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใหญ่โต พวกเขารู้สึกแค่ว่าชีวิตแต่งงานมันน่าเบื่อ ดังนั้นเมื่อเธอตัดสินใจที่จะหย่าทุกคนจึงไม่เข้าใจ แม้แต่พ่อแม่ของเธอ ซึ่งเธอเองก็ยังสงสัยในการตัดสินใจครั้งนี้เช่นกัน และเธอก็ไม่ได้เรียกร้องสิ่งใดจากการหย่าร้าง
ในขณะที่พวกเขาทั้งสี่กำลังกอดกันอยู่นั้น ดูเหมือนจะมีคนสองคนเข้ามาในลานบ้าน
พวกเขาคือคุณยายและน้าเล็ก
คุณตาและคุณยายมีลูกทั้งหมดสี่คน หลี่ซูเป็นลูกคนโต ถัดมาคือน้าชายสองคน และน้าเล็กเป็นน้องสาวคนสุดท้อง
ตอนนี้น้าชายทั้งสองไม่อยู่บ้าน น้าชายคนโตอยู่ในกองทัพ และน้าชายคนรองทำงานอยู่ในมณฑล ตอนนี้น้าเล็กเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย กำลังเตรียมตัวสอบเข้าวิทยาลัยในปีหน้า มันยากมากสำหรับเธอที่จะได้กลับมาในสองสามเดือนนี้
บ้านหลังนี้สร้างขึ้นมาใหม่โดยคุณตาและคุณยาย พวกเขาวางแผนที่จะมอบให้น้าชายคนโตเพื่อเป็นของขวัญแต่งงานซึ่งเขาจะปลดประจำการในปีหน้า
พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลี่ซูและลูกๆ ของเธอจะได้ใช้มันก่อน
คุณตาคุณยายและเหล่าคุณน้าของเธออาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่า
หลี่เมี้ยวโบกมือให้เด็กๆ “มาเร็วๆ น้าจะพาไปซื้อขนมน๊า”
หลี่ซูเอื้อมมือออกไปลูบหัวจี้ซีซวน “ไปสิ ดูแลน้องๆด้วยนะลูก” จี้ซีซวนพยักหน้า
จี้หยวนหยวนรู้ว่าคุณยายคงมีบางอย่างที่อยากจะพูดกับหลี่ซูเพียงลำพัง เธอจึงรีบลุกขึ้นและเดินไปอยู่ข้างๆหลี่เมี้ยวด้วยขาสั้นๆของเธอ และจับมือคุณน้าของเธอไว้
หลี่เมี้ยวพาเด็กทั้งสามออกจากบ้านแล้วค่อย ๆ เดินไปยังร้านขายขนม
จี้หยวนหยวนอดไม่ได้ที่จะมองทุกสิ่งรอบๆตัวเธอ เธอจำภาพในยุค 1990 ได้เพียงเลือนลาง ดังนั้นทุกสิ่งที่เธอเห็นในขณะนี้จึงให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่
เมื่อหลี่เมี้ยวเห็นเข้า เธอก็อุ้มจี้หยวนหยวนขึ้นมาด้วยความสนุกสนาน “หยวนหยวน หนูกำลังดูอะไรอยู่จ๊า”
จี้หยวนหยวนรู้สึกชั่วขณะตอนที่ร่างกายของเธอไร้น้ำหนัก เธอกอดคอของหลี่เมี้ยวอย่างรวดเร็ว
เธอเม้มริมฝีปากและคิดกับตัวเองด้วยความละอายใจว่า “ความรู้สึกที่เท้าถูกยกขึ้นจากพื้นมันดีจังเลย”
หลี่เมี้ยวแอบเห็นสายตาของเธอสอดส่องไปรอบๆ จึงอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปหยิกแก้มเล็กๆ ของเธอ "หยวนหยวน อยากได้อะไรมั้ย? น้าจะซื้อให้”
จี้หยวนหยวนยิ้มอย่างมีความสุขและแสร้งทำเป็นหิว “อมยิ้มหมีน้อยค่ะ”
เธอจำได้ลางๆว่าเธอเคยกินอมยิ้มชนิดหนึ่งเมื่อตอนเด็กๆ มันมีรูปร่างเหมือนหมีตัวน้อย เธอไม่รู้ว่าตอนนี้มีจำหน่ายหรือไม่
หลี่เมี้ยวพยักหน้า “เอาล่ะ น้าจะซื้อให้หนูนะ”
ร้านขายขนมตั้งอยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้าน และหลี่เมี้ยวก็พาพวกเขาไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว
หลี่เมี้ยววางจี้หยวนหยวนลงแล้วโบกมือ “อยากได้อะไรก็เลือกได้เลยนะ เดี๋ยวน้าจะจ่ายให้เอง”
เมื่อจี้ซีอังได้ยินเขารีบประจบประแจงทันที “คุณน้าเก่งที่สุด ขอให้มีอายุยืนยาวนะฮะคุณน้า!”
หลี่เมี้ยวยิ้มและสะบัดหน้าผากของจี้ซีอัง “ปากหวานจริงๆ นะเราน่ะ”
ร้านขายขนมไม่ใหญ่นักแต่ก็มีของมากมาย หนังสือบางเล่มก็มีวางขายด้วยซ้ำ หลี่เมี้ยวรักการอ่าน เมื่อเธอเห็นหนังสือเธอก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปดู
จี้ซีซวนและจี้ซีอังหยิบขนมขึ้นมาเป็นโหลๆ
แม้ว่าเงินดำรงชีพของหลี่เมี้ยวจะมีไม่มากนัก แต่เธอก็ไม่ตระหนี่กับหลานชายของเธอ
หลี่เมี้ยวและหลี่ซู มีอายุห่างกันมากกว่าสิบปี เมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็ก หลี่ซูเป็นคนเลี้ยงดูเธอมา ดังนั้นพวกเขาทั้งคู่จึงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน