Chapter 1 ฉันจะไม่ปล่อยคุณไป 1
บทที่ 1
ตอนเช้าตรู่ของฤดูหนาวหลังจากที่ฝนโปรยปราย ภูเขาถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก
ภายในบ้านที่มีหลังคากระเบื้องเก่าๆ ตั้งอยู่บนไหล่เขา มีเสียงครวญครางของหญิงสาวคนหนึ่งเล็ดลอดออกมาเป็นระยะๆ ราวกับว่าเธอเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
ชายคนหนึ่งลุกขึ้นจากเตียงที่ก่อด้วยอิฐ เดินตรงไปที่เล้าหมูอย่างหมดความอดทน เขาสูงไม่ถึง 1.6 เมตร สวมเสื้อแจ็คเก็ตผ้าฝ้ายทอเรียบและสกปรก ฟันสีเหลืองซี่ใหญ่ของเขายื่นออกมาจากริมฝีปาก
“นังสารเลว แกจะร้องไห้ทำไม ก็แค่คลอดลูก แกจะร้องไปเพื่ออะไร” เขาเดินตรงไปยังเล้าหมูพร้อมกับถ่มน้ำลายและข่มขู่ “ถ้าแกยังกล้าส่งเสียงออกมาอีก ฉันจะหักขาแกซะ”
เล้าหมูคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหม็น มีหมูจำนวนมากถูกเลี้ยงไว้ภายในคอกไม้ บนพื้นคอกพบหญิงสาวคนหนึ่งผมเพ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าและเนื้อตัวของเธอสกปรกมอมแมมกำลังขดตัวอยู่ตรงมุมผนัง
เท้าของเธอถูกตรวนด้วยโซ่เหล็กหนาขนาดหนึ่งนิ้ว ส่วนปลายอีกด้านของโซ่ถูกตรึงเข้ากับผนัง
เธอดึงกางเกงลงมาจนถึงข้อเท้า รอบๆตัวของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด
เห็นได้ชัดว่าเธอพยายามคลอดลูกด้วยตัวของเธอเอง เธอกัดฟัน และออกแรงเบ่งอย่างสุดความสามารถ จนเหงื่อผุดออกมาเต็มหน้าผาก
แม้ว่าเธอจะอยู่ในสภาพที่น่าสิ้นหวัง แต่ก็ไม่สามารถเก็บซ่อนความรู้สึกของเธอเอาไว้ได้
ครู่ต่อมา เธอมองไปที่ชายคนนั้นแบบไม่แยแสพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาว่า “ขอน้ำร้อนสักอ่างและก็กรรไกรให้ฉันหน่อยได้ไหม”
ชายคนนั้นรู้สึกโกรธมากเมื่อเห็นการแสดงออกของหญิงสาว นังตัวดีอยู่ที่นี่มาสองสามเดือนแล้ว และไม่ว่าเขาจะทรมานเธอมากแค่ไหน เธอยังคงดูเหมือนร่างไร้วิญญาณ เขาคงจะบีบคอเธอตายไปนานแล้วถ้าบุคคลนั้นไม่ได้มาห้ามเขาไว้
เขาจึงเตะไปที่ท้องของเธออย่างบ้าคลั่ง ปิดประตูอย่างแรงแล้วเดินจากไปทันที
ชายคนนั้นใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีในการเตะ จี้หยวนหยวนรู้สึกเจ็บปวดแทบจะกรีดร้อง และตอนนี้เด็กในท้องของเธอก็ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวแล้ว
เธอรีบหายใจเข้าลึก ๆ และเตรียมที่จะใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มี
นี่คือลูกของเธอกับเทียนหัว เธอได้เข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นเวลาหลายปีก่อนที่จะได้เด็กคนนี้มาในที่สุด ถ้าเทียนหัวรู้ เขาคงจะมีความสุขมากอย่างแน่นอน
หากเธอไม่ประมาท คงไม่ตกอยู่ในแผนการอันชั่วร้ายของลูกสาวแม่เลี้ยงของเธอ และคงไม่ถูกขายไปยังประเทศที่ยากจนแห่งนี้ นี่เธอตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไรกันนะ
ถ้าเธอกลับไปได้ เธอจะส่งหญิงชั่วคนนั้นเข้าคุกให้ได้อย่างแน่นอน ….
ในช่วงบ่าย รถยนต์หรูคันหนึ่งมาจอดอยู่หน้าบ้านอันทรุดโทรม
คนขับเป็นคนแรกที่ลงจากรถ เขาหยิบพรมแดงออกจากท้ายรถแล้วค่อยๆ ปูลงบนพื้น
จากนั้นรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่งก็ออกมาจากรถและเหยียบบนพรมแดง
หญิงร่างสูงสง่างามคนหนึ่งลงจากรถ เธอโบกมือที่ปลายจมูกด้วยความรังเกียจและขมวดคิ้ว "มันเหม็น."
เธอคิดอะไรบางอย่างแล้วหัวเราะอีกครั้ง “ฉันไม่แน่ใจว่าพี่สาวที่ถูกตามใจของฉันเคยอยู่ที่นี่ซะจริงๆ”
อีกด้านหนึ่งของรถ ชายคนหนึ่งเดินลงมา เขาสูงและหล่อ เขาเบะปากออกแสดงขยะแขยงและยืนอยู่ข้างผู้หญิงคนนั้น “เข้าไปดูคุณก็จะรู้เองล่ะ”
“พี่เทียนหัว ฉันเกรงว่าหัวใจของคุณจะเจ็บปวดเมื่อเห็นภาพต่อจากนี้นะคะ” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างอ่อนโยนและพิงร่างของชายคนนั้น
ดวงตาของชายคนนั้นเป็นประกาย และเขาตอบกลับอย่างอ่อนโยน “หากฉันจะรู้สึกเสียใจ นั่นคงเพราะฉันรู้สึกผิดต่อคุณ ที่นี่สกปรกมากนะ ระวังรองเท้าของคุณด้วย”
เมื่อเห็นดังนั้นหญิงสาวก็หัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ
ประตูถูกเปิดออก และจี้หยวนหยวนก็ฝืนลืมตาขึ้นมา
ทันใดนั้นหัวใจของเธอก็ถูกสูบฉีดและดวงตาของเธอแดงรื้นไปด้วยน้ำตา “พี่เทียนหัว ในที่สุดคุณก็มาช่วยฉันแล้ว”
เธอแทบรอไม่ไหวที่จะก้าวออกไปเพื่อโชว์เด็กน้อยในอ้อมแขนของเธอแก่จ้าวเทียนหัว เธอสะอื้น “ดูสิ เค้าคือลูกของเรานะ จับเขาสิ…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอก็หยุด
“เสิ่นหลิงซู่!” เธอหายใจถี่ขึ้น และน้ำเสียงของเธอก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เธอจ้องเขม่งไปที่เสิ่นหลิงซู่ ราวกับว่าเธอต้องการจะฉีกร่างนั้นออกเป็นชิ้นๆ
เสิ่นหลิงซู่เองที่เป็นคนหลอกเธอให้ดื่มไวน์แก้วนั้น และนางเป็นผู้ที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
เสิ่นหลิงซู่ ก้าวเท้าออกไปจับที่แขนของจ้าวเทียนหัว “พี่สาว เธอคิดว่าเด็กคนนี้คือลูกของพี่เทียนหัวจริงๆ หรอ” เธอพูดอย่างยียวน
คำพูดของ เสิ่นหลิงซู่ ราวกับสายฟ้าฟาด ทำให้จี้หยวนหยวนค้างอยู่ตรงนั้น
เสิ่นหลิงซู่ และ จ้าวเทียนหัว…
“พี่เทียนหัว เขาสุ่มหาคนที่เจอเดินบนท้องถนนเพื่อเตรียมตัวอสุจิสำหรับการผสมเทียม ตลอดเวลาที่พี่เทียนหัวอยู่กับคุณก็เพื่อให้มีสิทธิที่ถูกต้องตามกฎหมายในการรับช่วงต่อกิจการของลุงจี้” “คนที่เขารักก็คือฉัน ทำไมเขาจะอยากมีลูกกับคุณด้วยล่ะ” เสิ่นหลิงซู่ มองไปที่จี้หยวนหยวนอย่างชั่วร้าย
จี้หยวนหยวนรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง เธอก้มหน้าลง มองดูเด็กที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอ