70

ในภาพ ภายใต้การควบคุมของโลกิ ชุดเกราะเดสทรอยเยอร์ได้ตกลงมาจากท้องฟ้าและก่อการทำลายล้างอย่างบ้าคลั่งในเมืองเล็กๆ ในเม็กซิโกนี้ โดยไม่มีใครสามารถต้านทานได้

แม้แต่ตอนแรก โคลสันยังคิดว่าเป็นชุดเกราะของโทนี่ สตาร์ค แต่ก็เกือบถูกฆ่าในวินาทีถัดมา

"คุณไม่รู้จักฉันเลยจริงๆ หรอ ชุดเกราะที่ดูแย่แบบนี้จะเป็นสไตล์ของฉันได้ยังไง?" โทนี่ สตาร์คที่อยู่นอกภาพมองโคลสันแล้วพูดเยาะเย้ย

โคลสันเองก็รู้สึกอึดอัดใจ

หลังจากนั้น เพื่อนๆ ของธอร์ก็ร่วมมือกันรับมือกับชุดเกราะเดสทรอยเยอร์ ขณะเดียวกันก็ต้องอพยพชาวเมืองออกจากเมือง

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเทพ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับชุดเกราะเดสทรอยเยอร์ พวกเขาก็แทบไม่มีข้อได้เปรียบเลย พูดให้แม่นยำกว่านั้นก็คือ ไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย ไม่ว่าจะเป็นพละกำลัง ความเร็ว หรือพลังงาน ก็เหมือนกันหมด

เมื่อโทนี่ สตาร์คเห็นว่าชุดเกราะเดสทรอยเยอร์ที่ถูกหอกแทงนั้นดับเครื่องไปแล้ว จากนั้นก็รีบูตอีกครั้ง ก็แสดงสีหน้าสงสัยและโล่งใจ

เห็นได้ชัดว่าชุดเกราะนี้ไม่มีวงจรไฟฟ้าเหมือนชุดเกราะของเขา ซึ่งเป็นโพรงกลวงเปล่า แต่เห็นได้ชัดว่ามีปัญญาประดิษฐ์ อย่างน้อยก็สามารถควบคุมจากระยะไกลได้ อาจใช้พลังจากเวทมนตร์ที่เขาไม่เข้าใจในขณะนี้

อาจเป็นอักขระเวทมนตร์บางอย่าง?

ภาพยังคงดำเนินต่อไป เมื่อเผชิญหน้ากับชุดเกราะเดสทรอยเยอร์ที่น่ากลัวนี้ ธอร์ตัดสินใจที่จะตายหลังจากแสดงการตระหนักรู้ที่น่าประทับใจ

ใช่ เขาตัดสินใจที่จะแลกด้วยการเสียสละตัวเองเพื่อให้โลกิหยุดการกระทำ

เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายของเขา แต่บางทีอาจมีเหตุผลบางอย่างที่เกลียดชังพี่ชายคนนี้ แล้วพี่ชายคนนี้แค่ยอมตาย ทุกอย่างก็จะจบลงใช่ไหม

ธอร์ในภาพเดินไปหาชุดเกราะเดสทรอยเยอร์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ดวงตาเต็มไปด้วยความแน่วแน่

"น้องชาย ไม่ว่าข้าจะเข้าใจผิดเจ้าอย่างไร หรือข้าจะนำเจ้าไปสู่จุดนี้ ข้าขอโทษ แต่คนเหล่านี้ไม่มีความผิด ฆ่าพวกเขาจะไม่ทำให้เจ้าได้รับเกียรติ ถ้าจะฆ่าก็ฆ่าข้าเถอะ หยุดสงครามเดี๋ยวนี้!"

ธอร์พูดด้วยสีหน้าที่ยอมรับความตาย

เมื่อเห็นว่าชุดเกราะเดสทรอยเยอร์ดับลง ธอร์ก็คิดว่าคำชักชวนของเขาได้ผลแล้ว รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจปรากฏบนใบหน้าของเขา

น้องชายยังรักข้าอยู่จริงๆ!

แต่เขาก็ยังมองน้องชายของตัวเองผิด

เมื่อมีคำบรรยายของหลินเฟิงปรากฏขึ้นว่า นี่เป็นฉากที่พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกันจริงๆ ชุดเกราะเดสทรอยเยอร์ก็หันกลับมาโจมตีธอร์ทันที

ในเวลานี้ เขาเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่มีพลังจากเทพเจ้าปกป้องร่างกาย จะทนทานต่อการโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร

ผู้คนนอกภาพ ทั้งเจ้าหน้าที่ของหน่วยชีลด์ โทนี่ สตาร์ค สไปเดอร์เกว็น และคนอื่นๆ ต่างก็รู้สึกเหลือเชื่อกับความโหดเหี้ยมของโลกิ เพราะนั่นคือพี่ชายแท้ๆ ของเขา ตอนนี้พวกเขาต้องมาฆ่ากันเองแล้วหรือ?

แต่ธอร์เบิกตาโต?

เป็นไปได้อย่างไร?

เขาพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมน้องชายของเขาถึงยังไม่ยอมปล่อยเขาไป ต้องฆ่าเขาให้ได้?

ในเวลานี้ ความคิดของเขาสับสนวุ่นวาย เพราะมีจุดที่เขาไม่เข้าใจมากเกินไป

เช่น น้องชายทะเลาะกับเขาทำไม?

เช่น ทำไมน้องชายต้องฆ่าเขา?

เขาไม่เข้าใจ!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้องชายของเขายังได้รับสิทธิ์ในการควบคุมชุดเกราะเดสทรอยเยอร์ ต้องรู้ว่านี่คือชุดเกราะที่พ่อของเขาสวมใส่เมื่อออกไปทำสงคราม ตามหลักแล้ว บุคคลที่มีสิทธิ์ใช้งานสูงสุดควรจะเป็นพ่อของเขาต่างหาก

พ่อของเขาจะยอมให้เด็กคนนี้ทำเรื่องไร้สาระได้อย่างไร แม้กระทั่งนั่งในตำแหน่งที่เดิมทีมีเพียงโอดินผู้เป็นพ่อเท่านั้นที่นั่งได้

ความสงสัยในหัวของเขามีมากขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งดูก็ยิ่งไม่เข้าใจ

ในเวลานี้ ธอร์ในภาพยังคงแสดงความรักกับแฟนสาวของเขา

เมื่อเห็นว่าธอร์ค่อยๆ หมดลมหายใจ ทุกคนก็โศกเศร้า

และชุดเกราะเดสทรอยเยอร์ก็กำลังจะจากไป โลกิก็รักษาสัญญาของตัวเอง ปล่อยเมืองนี้ไป

ที่ฐานนอกเมือง ค้อนของธอร์ที่เดิมทีไม่ขยับเขยื้อนก็ฟื้นคืนสภาพอีกครั้งเมื่อได้รับน้ำตาของโอดิน ราชันแห่งเทพเจ้า แล้วก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในทันที พร้อมกับเสียงคำรามของสายฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด!

ในเสี้ยววินาทีที่ใกล้จะถึงตัวธอร์ เขาก็คว้าค้อนของธอร์ไว้ในมือข้างหนึ่ง แล้วชุดเกราะของเขาก็ฟื้นคืนสภาพอีกครั้ง เขากลับมาเป็นธอร์ในตำนานอีกครั้ง

คราวนี้ เขาได้พลังจากเทพเจ้าคืนมาแล้ว!

เขาได้รับการยอมรับจากค้อนของธอร์อีกครั้ง!

เขายังสามารถใช้ค้อนของธอร์สร้างพายุทอร์นาโดขึ้นมาได้มากมาย จนดูดชุดเกราะเดสทรอยเยอร์ขึ้นไป

ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือดในอากาศ

เมื่อระเบิดที่น่ากลัวเกิดขึ้น ชุดเกราะเดสทรอยเยอร์ก็พ่ายแพ้ให้กับธอร์ที่ใช้พลังอันยิ่งใหญ่

เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของโทนี่ สตาร์คก็เบิกกว้าง นี่คือธอร์ในตำนานหรือ?

พลังที่ปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่ แม้ว่าจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับโอดินในระดับทวยเทพได้อย่างแน่นอน แต่ก็เกินกว่าที่พวกเขาคาดไว้มาก

การระเบิดที่น่ากลัวในครั้งสุดท้ายนั้นเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะทำลายเมืองทั้งเมืองได้แล้ว

ในเวลานี้ เขาถึงได้เข้าใจจริงๆ ว่าสิ่งที่หลินเฟิงพูด ถึงแม้ธอร์จะยังห่างจากโอดินผู้เป็นพ่อในระดับทวยเทพอยู่หลายระดับ แต่ในช่วงแรกของมาร์เวลเฟส 1 ในกลุ่มอเวนเจอร์ส ก็สามารถเป็นหนึ่งในสองเสาหลักได้แล้ว

พลังเช่นนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ อาจกล่าวได้ว่าอาจสามารถกำจัดกองทัพมนุษย์ได้ด้วยตัวเอง

แต่ตอนนี้เขาก็อยากรเหมือนกันว่าเสาหลักอีกคนหนึ่งที่หลินเฟิงพูดถึงคือใคร?

ตามที่เขาเข้าใจเกี่ยวกับหลินเฟิง เขาไม่น่าจะพูดถึงตัวเอง

และเขาก็กล้าพูดอย่างมั่นใจได้ว่า พลังในระดับนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถบรรลุได้ในตอนนี้ แม้แต่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็อาจเป็นไปไม่ได้ที่จะมีชุดเกราะที่มีพลังเช่นนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคลื่นพลังระเบิดครั้งสุดท้าย เว้นแต่ว่าเขาจะสร้างชุดเกราะที่ใช้ในการระเบิดโดยเฉพาะ แล้วปล่อยให้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ระเบิด จึงจะสามารถสร้างการระเบิดและแรงกระแทกในระดับนี้ได้

วิธีการเวทมนตร์เหล่านี้ช่างเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

และเมื่อทุกคนคิดว่าทุกอย่างจบลงแล้ว ทุกอย่างก็ยังไม่จบ