ตอนที่แล้วเจ้าชายปีศาจไปสถานศึกษา ตอนที่ 6
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเจ้าชายปีศาจไปสถานศึกษา ตอนที่ 8

เจ้าชายปีศาจไปสถานศึกษา ตอนที่   7


เจ้าชายปีศาจไปสถานศึกษา ตอนที่   7

ผมไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่า ในชีวิตผมจะโดนแทรกแซงด้วยเด็กสาวที่ไม่ใช่แม้แต่เป็นตัวละครหลักในนิยายด้วยซ้ำ

ผมไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะได้เจอพวกทหารที่มาขโมยข้าวของในสงครามโลกจอมมารที่ผมเขียนบรรยายด้วย

ก็มันไม่มีเหตุจำเป็นหรือเหตุผลกลใดเลยด้วยซ้ำที่ผมต้องมานั่งจินตนาการสิ่งนี้ตอนที่ผมเขียนนิยาย

ตามปกติแล้วก็ไม่มีใครสนใจสิ่งที่ไม่ได้เขียนในนิยายเนื้อเรื่องหลักอยู่แล้ว ไม่ใช่รึไง ? มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องหลักเลย แต่โลกใบนี้ก็มีขนาดใหญ่กว่าเนื้อเรื่องหลักอีก ?

ในขณะที่ตัวละครหลักกำลังรอการเข้าไปวิหารการ์เดียส แล้วก็ให้จินตนาการหลั่งไหลออกมา ในบางมุมของอารัมภบทก่อนที่เนื้อเรื่องหลักจะเริ่ม , เจ้าหญิงก็ถูกลอบสังหารและเจ้าชายปีศาจก็พยายามสู้ยิบตาเพื่อช่วยเหลือเธอ

นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ โลกนี้ที่ผมบรรยายต่างมีช่องว่างให้เติมเต็ม และมันสมจริงยิ่งกว่าที่ผมจินตนาการ

มันทำให้ทุกอย่างยิ่งน่ากลัวขึ้นไปใหญ่

ไดรัสนั้นยังคงเดินไม่หยุดขณะที่เขาดูผิดหวังและโกรธที่โดนปฏิบัติแบบเดียวกับไอ้พวกบ้าสงครามที่ละโมบโลภเห็นแก่ตัว

ตอนที่ผมกำลังรีบออกจากปราสาทจอมมาร อยู่ๆไดรัสก็มาคว้าแขนผมไว้

ไดรัสหลบเข้าไปที่ห้องทางเดินข้างๆไม่ใช่ตรงทางเดินหลัก แล้วซ่อนผมไว้หลังรูปปั้นกากอยในห้องโถงทางเดิน สีหน้าของเขานั้นเคร่งเครียด

“พวกอัศวินของดยุคซาลาเรี่ยน”

ผมรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ผมถึงกับกลั้นหายใจ

ดยุคซาลาเรี่ยน

เป็นครอบครัวทางฝั่งแม่ของเบอตัสนั่นจึงเป็นสาเหตุที่พวกเขามีผู้ติดตามมากมาย

หากชาร์ล็อตตัดสินได้ว่า เซอร์ฟรานซิสนั้นไม่ใช่ศัตรู

ดยุคซาลาเรี่ยนก็ย่อมต้องเป็นศัตรูคนสำคัญของเธออย่างแน่นอน

เป้าหมายสูงสุดของดยุคซาลาเรี่ยนคือการทำให้เบอตัสกลายเป็นจักรพรรดิ

ดูเหมือนเซอร์ฟรานซิสจะโดนพวกเขาฆ่า

ไดรัสนั้นกลั้นหายใจและตึงเคร่ง   ผมไม่รู้ฐานะของไดรัสแต่เขาบอกว่า ตัวเองเป็นร้อยโท

พวกอัศวินของดยุคซาลาเรี่ยนนั้นเป็นตระกูลชนชั้นสูงที่มีอำนาจมากที่สุดในจักรวรรดิ จึงมีความภาคภูมิใจที่สูงมากเมื่อเทียบกับชนชั้นสูงตระกูลอื่น

ถึงผมไม่มั่นใจเท่าไหร่นักแต่พวกเขาก็น่าจะเป็นอัศวินระดับสูงกว่าอัศวินธรรมดา

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องทักษะเลย

-เกร้ง,เกร้ง , เกร้ง

พวกเขามากันเยอะ

– นี่แกแน่ใจแล้วรึ ว่าพวกนั้นเข้าไปในปราสาทแล้วยังไม่ออกมา ?

-ครับ  , ใช่ครับ

– ก็ไม่รู้ว่า จะถือเป็นเรื่องดีหรือแย่ ….

– เราทำยังไงดีใครถึงจะหาตัวเขาเจอ?

• แกต้องการจะบอกอะไร ?

– พวกเรากำลังจะทำแบบนั้นในที่นี่ด้วยหรือ?

– มันคงเป็นชะตากรรมนั่นแหละที่ต้องสิ้นสุดลงอย่างโชคร้ายแบบนี้

ถึงพวกเขาจะไม่ได้พูดตรงๆชัดๆว่าเป็นใครในบทสนทนา แต่เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่า พวกเขากำลังตามหาใครอยู่

พวกเขาน่ะกำลังตามหาผมกับไดลัส ไดลัสเองก็กัดฟันแน่น

พวกนั้นจะผ่านเราไป พวกนั้นไม่รู้ว่าเราอยู่กันที่นี่

แต่ตอนนั้นเอง ที่ผมตระหนักได้ว่าตัวเองน่ะโง่ขนาดไหนที่คิดว่า จะสามารถตบตาเซ้นส์ของพวกอัศวินระดับสูงได้

“ข้าว่า พวกนั้นอยู่ที่นี่แล้วล่ะ”

หนึ่งในอัศวินพูดอย่างใจเย็น พวกนั้นเจอพวกเราง่ายๆเลย

“เจ้านั่นมันหายใจหนักมาก ดูเหมือนจะตื่นเต้นกันอยู่

หึ , มันไม่ยากที่จะจับสังเกตได้ ”

อัศวินคนอื่นๆก็มาตามเสียงเรียก

รวมแล้วเป็นอัศวินสี่คน

ผมกับไดรัสเดินถอยออกมาจากด้านหลังของรูปปั้น

อัศวินทั้งสี่คนนั้นใส่เกราะเพลทเมล์ดีๆและมองจ้องมาที่ไดรัส

อัศวินคนหนึ่งแสดงสีหน้าสบายๆพลางเดาะลิ้นเบาๆ

ดูแล้วน่าจะเป็นคนที่มีฐานะสูงที่สุดพูดขึ้นมา

“องค์หญิงน่ะเป็นเด็กสาวที่น่าสังเวชเหลือเกิน”

“แทนที่จะได้ฆ่าคนเดียวแล้วจบ แต่ดันทำให้ข้าต้องมาฆ่าคนเพิ่มซะได้”

อัศวินคนนั้นถอนใจในเรื่องที่เขาต้องฆ่าคนนับ 10 แทนที่จะเป็นคนแค่คนเดียว

ผมไม่สามารถสัมผัสถึงความลำบากใจของเขาได้ด้วยซ้ำ

“น่าละอายนัก สำหรับอัศวินแห่งจักรวรรดิที่มาแตะต้องเชื้อพระวงศ์ !”

ไดรัสตะโกนลั่น

“หากแกคิดว่าการร้องห่มร้องไห้ให้กับเด็กคนนึงที่ข้าไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำแบบนั้นมันจะทำให้ข้าเสียเกียรตินี่

…… โทษทีว่ะ ข้าไม่สน ”

เขาดูไม่สนใจคำด่าว่าจากบุคคลที่ไม่มีค่าในสายตเขา

“ก็ใช่แหละ , มันไม่ใช่อะไรที่ชวนให้สบายใจเลย ข้ายอมรับเรื่องนั้น”

เขายิ้มขมขื่นให้กับตัวเอง

“ข้าก็ไม่อยากเชื่อว่า ต่อจากเลือดเจ้าพวกปีศาจก็ต้องมาเปื้อนเลือดมนุษย์ด้วยกันต่อ”

มันเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสบายใจนักสำหรับเขาที่ต้องแบบนั้น เพียงเพราะเจ้าหญิงไม่ยอมตายๆไปแต่โดยดี เขาถึงต้องมาลงมือทำอะไรแบบนี้

หากไม่นับความไม่สบายใจเรื่องนั้นแล้ว เขาก็ลงมืออย่างไม่ลังเล

-ชิ้ง !

ยามที่อัศวินคนนั้นชักดาบออกมา อัศวินคนอื่นๆก็ทำอย่างเดียวกัน ถึงพวกเราจะหนีไปได้ แต่ก็แน่ใจเลยว่าจะโดนไล่ตามทันในเวลาไม่ช้าไม่นานนัก

ความสามารถทางร่างกายของเขานั้นไม่ได้แค่เหนือผมหากแต่ยังเหนือไดรัสด้วย

คัมภีร์

เราจะสามารถผ่านสถานการณ์นี้ไปโดยใช้คัมภีร์เวทย์ได้ไหมนะ?

ถึงผมจะใช้เวทย์ออกจากหนังสือคัมภีร์ พวกเขาก็วิ่งเข้าใส่แล้วฟันคอผมหลุดก่อนที่ผมจะทันฉีกหน้าเสร็จด้วยซ้ำ

ผมอุตส่าห์หลบหนีจากปราสาทจอมมาร แต่นี่ผมกลับมาตายแบบนี้เนี่ยนะ ? แค่คิดว่าตัวเองต้องมาตายอนาถในสถานการณ์บ้าๆแบบนี้ทำเอาผมปวดใจ

นี่ผมตายซ้ำซ้อนภายในเวลาไม่ถึงวันหลังจากตายแล้วเหรอเนี่ย

อัศวินใกล้เข้ามาหาพวกเราเรื่อยๆ ผมหายใจหอบ ถึงจะมีทางเดินขนาดใหญ่แต่อัศวินสามคนก็ล้อมกรอบไว้

ถ้าพูดให้ถูกก็คือ ไม่ได้ยืนอุดขวางทางเดินเต็มตัวคับที่หรอก แต่มันให้ความรู้สึกแบบนั้น

การมีอยู่ของพวกอัศวินแทบไม่อาจเทียบได้กับรูปปั้นกากอยที่ผมกับไดรัสไปแอบอยู่เมื่อกี้นี้เลย ….

เดี๋ยวก่อนนะ

กากอย งั้นเหรอ?

ผมหันไปมองรูปปั้นกากอยด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

นั่นไง

ไม่ใช่ว่าตามปรกติแล้วเจ้านี่มันควรจะขยับได้หรอกเหรอ ?

ทันทีที่ความคิดน่ากลัวแวบเข้ามา

-วู้มมมมม !

-ตูม!

ง้าวยักษ์ของกากอยก็ฟาดลงใส่อัศวินที่เข้ามาหาพวกเราจากด้านหน้า

เสียงระเบิด

ความประหลาดใจ

ความตาย

“วิ่ง !”

และการตัดสินใจ

ตอนนี้น่ะไม่มีเวลามาให้คิดแล้ว

กากอยตัวใหญ่บดขยี้อัศวินที่เข้ามาใกล้พวกเราอย่างไม่ปรานีด้วยแรงมหาศาล

ผมเห็นกับตาชัดเจนเลยว่า เกราะของอัศวินระดับสูงนั้นโดนบดขยี้ พวกเขาไม่มีโอกาสจะได้ร้องเลยสักแอะ

พวกเขาอาจจะแข็งแกร่งก็จริงแหละแต่ที่นี่คือ ปราสาทจอมมาร

ที่ตั้งของกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกปีศาจ

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเข้าใจได้ว่า กากอยนั้นเป็นมอนสเตอร์ที่ทรงพลังเทียบได้กับอัศวินระดับสูง

ผมทนคลื่นไส้ไม่ไหวก็เลยเดินเลี่ยงๆร่างนั้น โดยไม่คิดนึกภาพของมันอีก

-ตุบ ! ตูม ! ตุบ !

พวกเราสามารถสลัดพวกอัศวินที่ตามไล่พวกเรามาได้ในจังหวะที่สั่งใช้งานกากอย

“ทะ , ทำไมอยู่ๆมันถึงขยับได้ ?”

“ผะ , ผมก็ไม่รู้ !”

ไม่หรอก , ผมรู้ดีเลยล่ะ

เห็นกันชัดๆเลยว่า ความสามารถทางร่างกายผมนั้นไม่ต่างจากมนุษย์เด็กแต่ผมมีความสามารถในการสั่งการปีศาจได้

อาจเป็นเพราะความคิดของผมก็ได้ที่ทำให้กากอยเปิดการใช้งาน หรือไม่ก็มันอาจสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าของพวกอัศวินแล้วมันก็ลงมือไปด้วยตัวเอง

จะทางไหนก็ตามแต่ เห็นได้ชัดว่า มันทำไปเพื่อปกป้องผม

ผมเกิดมาพร้อมกับพลังที่ใช้ควบคุมปีศาจ

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็บอกเขาไม่ได้ แถมตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการวิ่ง ไม่สำคัญว่า จะมีอัศวินอยู่ตรงนั้นสักกี่คน ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่สามารถรับการโจมตีของมอนสเตอร์ตัวใหญ่ยักษ์แบบนั้นได้หรอก

ปราสาทที่กำลังอยู่ระหว่างสำรวจ ก็อลหม่านขึ้นมาเพราะแรงระเบิดที่อยู่ๆก็เกิดปะทุ

ผมกับไดรัสใช้โอกาสนั้นรีบเผ่นออกจากปราสาทจอมมาร

“มันต้องมีคนอื่นตามเรามาแน่”

“ใช่”

พวกอัศวินของซาลาเรี่ยนนั้นกระจายตัวแล้วออกตามหาเรา

ถึงจะมีการปะทะเกิดขึ้น แต่พวกนั้นจะคงไล่ตามทันทีที่รู้ว่า เรากำลังหนีอยู่

ไดรัสวางผมไว้บนหลังม้าแล้วพวกเราก็ขี่มันมุ่งหน้าออกจากปราสาทไป

แม้จะมีสายตาแปลกๆมองมายังพวกเราที่กำลังเร่งร้อน แต่มันไม่ใช่เวลามาใส่อะไรพวกนั้นแล้ว

-ฮู่ว , ฮู่ว,  ฮู่ว, ฮู่ว!

ทันทีที่ไปถึงกองบัญชาการ เราต้องรีบออกไปจากที่นี่พร้อมกับชาร์ล็อต

ผมเกือบสติแตกตอนที่ขี่ม้าอยู่เพราะมันยากที่จะทรงตัวไว้

“บ้าเอ้ย ! พวกมันตามมาไล่จับเรา !”

ระบบถ่ายทอดคำสั่งของพวกนั้นทำงานสมบูรณ์แบบ พวกอัศวินของดยุคซาลาเรี่ยนไล่ตามเราแทบจะในทันที ถึงจะมีผู้คนจับจ้องอยู่มากมายแต่พวกนั้นก็ต้องการที่จะจับตัวเรา โดยไม่กลัวว่าจะตกเป็นข่าวเลย

การทำแบบนั้นก็แปลว่า พวกเขาสามารถฆ่าผมกับไดรัสได้เลยทันที โดยไม่ต้องกังวลเรื่องหลังจากนั้น

จริงอยู่ที่ไม่สามารถฆ่าเจ้าหญิงกลางถนนได้ แต่หากเป็นพวกเราน่ะจะฆ่าทิ้งยังไงก็ได้แล้วค่อยอ้างเหตุผลขึ้นมาสนับสนุนทีหลัง

“ให้ตายเหอะ !”

ม้าที่พวกอัศวินขี่นั้นมีฝีเท้าเร็วกว่าม้าที่ไดรัสขี่มาก

ขนาดพวกมันสวมเกราะแล้วก็ยังเร็วอยู่ดี

แม้ทีแรกจะห่างไกลออกไป แต่ก็เริ่มชิดขึ้นมาเรื่อยๆ

จำนวนผู้ที่ไล่ล่าพวกเราตอนนี้มาเกิน 10 นายแล้ว

ทหารคนหนึ่งที่ขนเกวียนลากของ ส่วนอีกคนหนึ่งก็ลากเชลยศึกก็มองตามหลังเรา

“ร้อยโท ! จับเอวผมไว้ให้แน่นๆนะ !”

“ได้ !”

ไดรัสคว้าเอวผมไว้ไม่ให้หล่นโดยไม่ถามว่า ผมตั้งใจจะทำอะไร

ผมเปิดหนังสือคัมภีร์ที่อยู่ที่เอว แล้วรีบมองหาเวทย์มนตร์ที่จะช่วยพวกเราในสถานการณ์แบบนี้

อะไรก็ได้ 

มันไม่มีอะไรที่พวกเราใช้ได้เลยหรือไง?

[เฮส], [Haste]

ผมเปิดคัมภีร์ขึ้นมาแล้วร่ายเฮสใส่ม้า

– ฮู่ว, ฮู่ว, ฮู่ว , ฮู่ว!

จู่ๆ ม้าก็วิ่งไวขึ้น โดยมีฟองสีขาวฟ่อดออกมารอบปากม้า

“บ้าเอ้ย ! ไวขึ้นมันก็ดีแหละแต่มันจะฆ่าม้าของเราก่อนไปถึงน่ะสิ !”

เฮส นั้นทำให้ความเคลื่อนไหวของคนๆหนึ่งว่องไวขึ้นแต่ก็แลกกับการที่กินพละกำลังไปอย่างรวดเร็ว

ม้าเองก็ไม่ใช่สัตว์ที่สามารถเร่งฝีเท้าในเวลานานๆแต่แรกแล้ว

แถมผมยังใส่เวทย์เร่งความเร็วใส่ ซึ่งมันจะกระตุ้นระบบเผาผลาญพลังงาน ทำให้เผาผลาญชีวิตม้าหนักไปอีก

มันน่าจะจบลงเร็วๆนี้แล้วแหละ

“ตายในหนึ่งนาทีก็ยังดีกว่าตายในสามนาที !”

“นี่มันเป็นงานที่บ้าระห่ำจริงๆ !”

แม้ในสถานการณ์แบบนี้เขายังมีเวลามาหัวเราะขณะพูด

ไดรัสควบม้าอย่างบ้าคลั่ง  แต่ถึงจะขี่ม้าที่เร็วได้ยากขนาดไหน เขาก็ยังคงจับตัวผมไว้แล้วคุมม้าด้วยมือเดียว

“ชิ …!”

ไดรัสมองไปด้านหลังแล้วสบถออกมา

“พวกมันกำลังจะยิงธนูใส่ !”

พวกอัศวินไม่ใช้ดาบ พวกนั้นตั้งใจจะยิงธนูเพราะเริ่มไล่ตามพวกเราไม่ทัน

นับว่าโชคดีมากที่ไดรัสสามารถเอี้ยวตัวหลบแบบโลดโผนและสะท้อนลูกธนูได้

“ม้ามันเริ่มเหนื่อยมากแล้ว!”

เงื่อนไขของม้าเรากับม้าพวกนั้นมันผิดกั

ไดรัสน่ะให้ม้าของเขาเร่งฝีเท้ามาตั้งแต่ออกจากปราสาทจอมมาร

จากม้าที่เริ่มล้าแล้ว ก็ยังมีผมร่ายเวทย์เฮสใส่เพิ่มเข้าไปอีก ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ม้าจะหมดแรงในไม่ช้านี้

ผมมองไปที่หนังสือคัมภีร์เผื่อว่าจะมีเวทย์อะไรที่ฟื้นฟูพละกำลังของม้าได้ แต่มันดันไม่มีเวทย์แบบนั้นน่ะสิ

มันมีแต่เวทย์ใช้งานจิปาถะอย่างภาพหลอน หลงไหล ไม่ก็ลวงตา

“นี่นายคิดว่า เจ้าพวกนั้นจะได้รับผลจากเวทย์เสน่งั้นเหรอ ?!”

“มันไม่ได้ผล ! การจะเป็นอัศวินได้น่ะมีผ่านการฝึกต้านเวทย์มาแล้ว !”

พวกเขาทุกคนสวมอุปกรณ์ต้านเวทย์ไว้ด้วย

เวทย์ทั่วไประดับล่างไม่มีทางได้ผลกับเขา นั่นคือสิ่งที่ไดรัสอยากจะบอกผม

ใช่ , ผมก็คิดไว้แล้วล่ะ ว่ามันไม่น่าจะเวิร์ค

มันคงเป็นอะไรที่น่าขำมากหากสุดยอด กองทัพระยะประชิดจะมาตายเพียงเพราะโดนโปรยเวทย์ใส่ ดังนั้นก็เลยต้องมีการฝึกเตรียมการต่อต้านรับมือเวทย์มนตร์ไว้ด้วย

ผมรู้เรื่องนั้นดีเพราะผมได้ใส่หลักสูตร “การฝึกต้านเวทย์” ไว้ในหลักสูตรของสถานศึกษาด้วย แต่กลายเป็นว่าการตั้งค่านั้นกำลังขัดขวางผมแทน

ถึงอย่างนั้นผมก็ต้องใช้คัมภีร์อยู่ดี

มันเป็นการเดิมพัน

ผมใช้ภาพลวงตา

“บอกนายแล้วไงว่ามันไม่ได้ผล !”

“ผมไม่ได้เล็งไปที่อัศวิน !”

ผมเปิดคัมภีร์ออกมาแล้วใช้เวทย์เป้าหมายไม่ใช่พวกอัศวิน

ผมทำตามภาษิตโบราณที่ว่า

หากคิดจะยิงนายพล ให้ยิงม้าของเขาก่อน

[ภาพลวงตา ] [Illusion]

สั่งใช้เวทย์

-ฮรี้ !

เท่านั้นแหละ

-พั่บ !

จากนั้นก็ได้ยินเสียงอัศวินหล่นกระแทกพื้นส่วนม้าเองก็ร้องเสียงดังอยู่ด้านหลังพวกเรา

นับว่าโชคดีนะที่ม้าน่ะไม่ได้ฝึกต้านเวทย์มาด้วย

หากเวทย์มันไม่ได้ผลกับอัศวินก็ใช้มันกับม้าของพวกเขาแทน

ผมแสดงให้ม้าพวกนั้นได้เห็นภาพหลอนเป็นมังกรตัวหนึ่ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด