เจ้าชายปีศาจไปสถานศึกษา ตอนที่ 1
เจ้าชายปีศาจไปสถานศึกษา ตอนที่ 1
เคยมีคนพูดกันว่า หากทำความผิดก็ต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน แต่เรื่องแบบนั้นมันไม่เห็นจะมาถึงสักทีเลย
นั่นน่ะเป็นสิ่งที่ใครๆเขาพูดกัน
เช่นว่า ถ้าคุณทำผิดคุณก็ต้องไปใช้กรรมในนรกไม่ว่า จะผิดเล็กผิดน้อยสักแค่ไหน แหงล่ะ ผมเองก็ไม่เห็นด้วยกับคำพูดนั้นเหมือนกัน
แต่ก็ใช่ว่า ผมจะพูดแบบนั้นเพราะมีประสบการณ์ด้วยตัวเองเสียเมื่อไหร่
จะว่าไปหากเจอสถานการณ์ที่ยากจะเข้าใจ ในหัวคนๆนั้นก็จะคงแปลความง่ายๆ
ในออฟฟิศแห่งหนึ่ง ผมโดนผู้หญิงใส่สูทหน้าไม่รับแขกคนนึงบังคับให้ต้องเลือก
มันเป็นอะไรที่ซับซ้อนเข้าใจยาก เอาอย่างนี้พูดให้ง่ายๆเลยก็แล้วกัน
มันก็น่าจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า นรกนั่นแหละ และผมก็ตายแล้วมาอยู่ที่นี่
สาเหตุการตายของผมเหรอก็ไม่มีอะไรมากมายนัก
มันก็คือ 'ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันอันเนื่องมาจากความดันสูงเกินขนาด '
ที่ผมความดันขึ้นสูงขนาดนั้นก็เพราะผมดันไปอ่านคอมเม้นท์สุดท็อกซิก
จากข้อมูลที่ผมได้ยินมาอะนะ
ความดันผมขึ้นจนตายเพราะคอมเม้นท์แย่ๆแบบนั้นเนี่ยนะ? เอาจริงดิ? สาเหตุนั้นจริงๆเหรอเนี่ย?
แววตาผมเลื่อนลอยออกไป
เจ้านั่นมันควรจะเป็นภาพสุดท้ายของผมจริงๆเหรอเนี่ย ?
“รีบๆเซ็นตรงนี้ด้วยค่ะ”
เธอโยนแบบฟอร์มมาตรงหน้าผม มันมีอะไรต่อมิอะไรเขียนอยู่มากมาย แล้วก็มีช่องว่างด้านล่างเหมือนจะให้ผมเซ็นชื่อ
“……เอ่อคือ , ผมตายแล้วเหรอ ? ผม , ผมอ่านคอมเม้นท์แย่ๆแล้วความดันก็ขึ้น แล้วผมก็ตายเนี่ยนะ ? คนเรามันจะตายแบบนั้นได้ด้วยเหรอ ?”
“จำเป็นที่คนจะต้องตายด้วยเหตุการณ์สำคัญเสมอไปหรือคะ ? มีคนมากมายที่ตายเพราะลื่นน้ำแข็งบนถนน ช่างเถอะ ,รีบๆตัดสินใจได้แล้วค่ะ”
ถึงผมจะไม่อยากเชื่อแต่ผมก็ไม่ได้มีทางเลือกมากมายนั
………ถึงอย่างไรเสีย , ผมก็มาอยู่ในนรกแล้วนี่ตอนนี้
ดูเหมือนผมโดนจับเซ็นสัญญาอะไรสักอย่าง
ผมก็แค่เซ็นๆมันลงไป โดยการโดนบังคับให้เลือกตัดสินใจในสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
แล้วก็มีบรรทัดในแบบฟอร์มที่ผมรู้สึกคุ้นตา
[เมืองแห่งความตาย] [The City of the Dead]
[เอาชีวิตรอดในโลกที่ล่มสลาย] [Surviving in the Ruined World]
[นักล่ากลายเป็นผู้จัดการ] [The Hunter became a Manager]
[การกลับมาของขยะ] [The Trash returned]
[ไม่รู้อีท่าไหน เกมดันกลายเป็นชีวิตจริงขึ้นมา แต่ผมก็ดั้นกลายเป็นภารโรงเสียนี่ [Somehow, the Game became Reality, but I'm just a Janitor]
[จอมมารตายแล้ว] [The Demon King is Dead]
ทั้งหมดนั่นมันชื่อ นิยายที่ผมเขียนทั้งนั้นเลย
ข้อหาของผมคือ ‘การกระทำผิดซ้ำซาก’ และ ‘ไม่มีการแก้ไขปรับตัว’
ดังนั้นผมจึงโดนส่งไปยังโลกนิยายที่ผมเขียนขึ้นเอง
“เอ่อ ผมจะโดนส่งไปยังโลกนิยายของผมเองเหรอครับ ?”
“ใช่ค่ะ จะกลายเป็นตัวละครในนิยายของคุณก็แล้วแต่ดวงเลยค่ะ”
ฉิบหายละ
อันที่จริงผมควรเขียนนิยายที่มันแบบ ชีวิตดี๊ดีสุขีสโมสรมากกว่านี้จริงๆ
จากคำอธิบายที่ผมเดาว่า เธอน่าจะเป็นยมทูตที่เป็นลูกจ้างอยู่ในนรก
ทุกคนต่างมีบาปด้วยกันทั้งนั้น
มีกรณีที่น้อยแบบ น้อยมากๆ ที่จะโดนส่งไปยังสวรรค์ทันที นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทุกคนต่างต้องผ่านกระบวนการพิพากษาความผิดบาปเล็กๆน้อยๆในชีวิตก่อน
แถมความผิดบาปแต่ละคนก็ยังมีระดับที่แตกต่างกันไปอีกด้วย กระบวนการตัดสินก็เลยต้องแยกเป็นรายคนไป
ผมเป็นนักเขียนนิยาย นักเขียนนิยายบนเว็บที่หาทางจบนิยายตัวเอง แล้วใครๆต่างก็เรียกว่า มันเป็นนิยายเกรดB เกรด C
บาปใหญ่ของผมคือ เทงานเขียนกลางทางทั้งที่เป็นงานเขียนเชิงพาณิชย์รับเงิน
ฉันบอกกับผู้อ่านที่กำลังรออ่านนิยายตอนต่อของฉันว่า มันเป็นอะไรที่แย่มากเลยนะที่จะปล่อยเรื่องค้างคาไว้แบบนั้น ก่อนที่ผมจะทำตัวชิลๆแล้วไปเอาแอคสำรองขายงานอื่นต่อ
“คุณไม่คิดบ้างหรือคะว่า , บาปที่คนๆหนึ่งทำอยู่บ่อยๆครั้งแม้มันจะเล็กน้อยแต่ถ้าสะสมไปเรื่อยๆ ขนาดของบาปนั้นมันจะใหญ่ขึ้นน่ะ?”
“อ่า , ครับ ….”
อะไรคือการที่ใช้การบวกแต้มบาปตรงๆง่ายๆแบบนั้นกันนะ ? แบบนั้นมันได้ด้วยเหรอ ?
แต่พอได้ยินเธอพูดแบบนั้นผมก็หนาววาบยันไขสันหลัง
น้ำเสียงอันขื่นขมที่ออกมาปากคุณยมทูตหญิงมันเสียดแทงทะลุถึงหัวใจผม มันเป็นขั้นสุดของความขมขื่นเหนือธรรมดา
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าตอนนี้ความดันผมขึ้นพรวดขึ้นมาอีกล่ะ ? นี่ผมจะตายซ้ำตายซ้อนจากตอนที่ตายอยู่แล้วรึเปล่า ?
บาปของผมมันสั่งสมมาตลอดชั่วชีวิตผม
ดังนั้นบทลงโทษที่ผมได้รับก็คือ ผมต้องอดทนกลายเป็นตัวละครแบบสุ่มในนิยายที่ผมเขียนขึ้นมา จนกว่ามันจะ 'จ บ'
หากผมทำแบบนั้นได้ ผมก็จะถูกส่งไปสวรรค์
แต่ก็เห็นๆกันอยู่ว่าโดยมากผู้คนมักจะโดนส่งตรงไปยังนรก ผมเข้าใจดีเรื่องที่คุณยมทูตมพยายามจะปลอบใจผมอยู่ แต่มันไม่ได้ผลหรอกนะ
“แต่ในนิยายที่คุณเขียน ,คุณรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วไม่ใช่หรือว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ? แบบนั้นจะเรียกว่า การลงโทษยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ? อันที่จริงแล้วมันคงจะง่ายสำหรับคุณล่ะสิ ?”
คุณยมทูตพูดน้ำเสียงเรียบๆโดยไม่เหลือบมองผมด้วยซ้ำ
“ไม่หรอกครับ ,คือ มันก็แล้วแต่ว่าเป็นนิยายเรื่องไหน ….”
“ทำไมหรือ ?”
“ก็เอ่อ ,ผมน่ะ , อ่า ……ผมเขียนแต่นิยายที่มีคนตายกันเยอะๆน่ะ……”
“ถ้าอย่างนั้นขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ คิดเสียว่าเป็นบทลงโทษเล็กๆน้อยๆสำหรับการไม่ให้ความสำคัญกับชีวิตนะคะ ”
บ้าเอ๊ยยย ใช่ว่า ผมไปฆ่าใครในชีวิตจริงที่ไหนกันเล่าา ?! มันก็แค่นิยายป้ะ !
ไม่สิ ถ้ารู้งี้ว่า วันหนึ่งผมต้องมาใช้ชีวิตในโลกที่ผมสร้างขึ้น ผมต้องสร้างดินแดนในฝันที่แบบ เต็มไปด้วยสวนสนุกสุดหรรษาเป็นเซตติ้งเรื่องอยู่แล้ว ?
ผมจะไปรู้ได้ไงล่ะ ว่าจะโดนลงโทษจากการเขียนนิยายแบบนั้นด้วย ใครมันจะไปเขียนนิยายด้วยการตั้งธงในใจแบบนั้นแต่แรกกันฟะ?
ใครมันจะไปเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับสุดยอดมือปืนโดยไม่ใส่ปืนลงไปล่ะฟะ ?!
แต่ทั้งหมดมันก็แค่เรื่องในหัวผมไม่ใช่รึไง ! แค่ผมเขียนลงไปว่า ผมสามารถชกได้รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ก็ไม่ได้แปลว่า ผมทำได้แบบนั้นจริงเสียเมื่อไหร่
แถมผมยังป่วยเป็นโรคตอแหลอักเสบอีกด้วย ผมเลยเขียนเรื่องราวที่มีคนตายกันเยอะๆ ไม่พอผมยังเสพติดการเขียนแบดเอนด์อย่างที่ใครๆก็ไม่ชอบกัน นี่ถ้าผมเขียนตอนจบแฮปปี้เอนด์ผมต้องคลั่งตายแน่ๆ
หรือความผิดบาปจริงๆของผมคือ การไปทำให้พวกนักอ่านรู้สึกแย่เพราะตอนจบแบดเอนด์ของผม ตลอดหลายปีที่ผ่านมากันนะ
ไม่สิ มันใช่เรื่องแบบนั้นจริงๆเหรอ ?
นิยายที่ผมเขียนมันนับเป็นอะไรกันนะ?
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมโดนส่งไปอยู่โลกพวกนั้นกันล่ะ ?
[เมืองแห่งความตาย] [City of the Dead]
นิยายแนวซอมบี้
ผมว่า ผมคงตายอนาถตั้งแต่วันแรกเลยล่ะ
[ใช้ชีวิตรอดในโลกที่ล่มสลาย] [Surviving in the Ruined World]
ยุคโลกาวินาศ
ตอนนี้ผมก็อยู่ในนรกตอนนี้ก็เพราะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในโลกที่แสนวุ่นวายอีกต่อไป ไม่เข้าใจรึไง ?อยากเห็นผมโดนฆ่าด้วยคอมเม้นท์ท็อกซิกอีกเรอะ ?
[จอมมารตายแล้ว] [The Demon King is Dead]
นิยายที่เรทติ้งคะแนนแย่ที่สุด แต่ในความคิดผม ผมว่าเรื่องนี้ดีที่สุดละ
เพราะมันเป็นนิยายแนวใช้ชีวิตสบายๆชิลๆ
เนื่องจากผมโดนนักอ่านด่าบ่อยแล้วเรื่องที่เขียนจบเลวร้าย ผมเลยเขียนเร่องนี้ออกมาโดยไม่มีสถานการณ์วิกฤตระดบโลกอะไรเลยตั้งแต่ต้นยันจบ ผมเขียนมันไม่จบด้วยซ้ำ ช่วงแรกก็เริ่มต้นด้วยชีวิตหลั่นล้าสีกุหลาบ ,ชีวิตอันแสนสวยสดงดงามและสันติสุข
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่เหล่าผู้กล้าทั้งหลายกำจัดบอสในฉากปฐมบทได้แล้ว
นั่นแหละ เหตุผลที่ว่า ทำไมชื่อเรื่องถึงได้เป็น ‘จอมมารตายแล้ว’ ยังไงล่ะ
เรื่องทั้งหมดมันเป็นเหตุการณ์หลังจากที่จอมมารตายไปแล้วไง
อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ไม่เหมือนเรื่องอื่นๆนะที่ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนเอาตัวรอดตั้งแต่ต้นยันจบ
ไม่ว่ายังไง ผมก็ต้องเอาเรื่องนี้แหละ
ผมตัดสินใจเอาเรื่องนี้ !
แล้วผลลัพธ์ล่ะ มันก็เป็นไปตามที่ผมต้องการนั่นแหละ ผมได้ตั๋วสุ่มมา แล้วก็กลายเป็น
“ลูกชายของจอมมาร” จากเรื่อง [จอมมารตายแล้ว The Demon King is Dead]
ลูกชายของจอมมารที่ไม่เคยปรากฏหน้าปรากฏตามาในนิยายผมตั้งแต่แรก
เธอบอกว่า จะส่งผมไปสุ่มเป็นตัวละคร แต่เอ่อ สิ่งที่ผมได้เนี่ยมันไม่สามารถนับได้ว่าเป็นตัวละครด้วยซ้ำนะ
ถ้าคนมันจะโชคร้าย ล้มผงายหลังไปจมูกก็หักอยู่ดี
นั่นเป็นสิ่งที่เธอพูดกับผม
เอาจริงๆนี่ สรุปว่าผมตายเพราะโมโหคอมเม้นท็อกซิกจนความดันขึ้นจริงๆเหรอเนี่ย ?
พอผมโล่งใจจากการที่ได้ไปอยู่ในนิยายสุดปลอดภัยก็ดันเป็นว่า ผมจะไปอยู่ในจุดที่จะตายตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว !
ผมไม่ได้เป็นแม้แต่จอมมารด้วยซ้ำ เป็นแค่เจ้าชายเอง
มันคงจะดีกว่านี้ด้วยซ้ำหากผมเป็นจอมมารเสียเอง ถ้าผมได้เป็นจอมมารนะผมจะได้อยู่ ณ จุดสูงสุดของเผ่าปีศาจก็จะได้สามารถเลือกได้ว่าจะอยู่สงบๆ, ยอมแพ้ หรือหนีไปเลยก็ได้
ถึงจอมมารจะตายตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่มันก็ไม่ใช่ตัวละครประกอบไร้สาระนะ แต่ผมดันกลายเป็นเจ้าชายแห่งโลกปีศาจ ที่อายุย่าง 17 ปี
วาเลียร์ จูเนียร์ (Valier Jr)
อายุ : 17
สเตตัส : [พลัง Force: 3.4(F)]
[ความเร็ว Agility 4.3(F+)]
[ความแม่นยำ Dexterity 5.2(D-)]
[พลังเวทย์ Magic power 9.9(C-)]
[ความแข็งแกร่ง Strength 5.7(D-)]
เผ่า : อาร์คเดม่อน Arcdemon
ทาเล้นท์ : ไม่มี
อบิลิตี้
[การปกครองปีศาจ D](สกิลเฉพาะของอาร์คเดม่อน )
ประเมินอบิลิตี้ (Comprehensive Ability Assessment) – ปีศาจระดับต่ำสุด
ประเมินความสามารถในการต่อสู้(Combat Level Assessment) – F
ถึงนิยายเรื่องนี้จะหลอกคนไปทั่วแต่ยังโชคดีที่ผมยังรู้ว่า ตัวเองเป็นใครจากหน้าจอเหมือนระบบเกมตรงหน้า
ผมไม่เคยใส่เซตติ้งแบบนี้ลงไปในนิยายตัวเองนะ หรือใครบางคนที่ส่งผมมาเกิดสงสารเห็นใจผมเหรอ ?
แต่ถ้าตามแนวนิยายนะ มันก็เป็นสถานการณ์ปกตินั่นแหละ ที่โดยมากนักเขียนจะชอบใส่ระบบเกมลงมาในนิยายตัวเอง
ถึงงั้นก็เถอะ ไม่มีจะเป็นแนวไหนมันก็ไม่มีทางรู้สึกว่า มันจะคุ้นชินขึ้นมาได้หรอก ถ้าอยู่ๆมันมามีอะไรแบบนี้ในชีวิตจริงน่ะ แล้วผมก็ไม่ซาบซึ้งกับอบิลิตี้แสนสะดวกนี้ด้วยหรอกนะ
อันที่จริงผมเป็นญาติของจอมมารก็ควรจะเก่งกว่านี้ไม่ใช่รึไง ?
อาร์คเดม่อนเป็นเผ่าพันธุ์ที่ตรงไปตรงมา แต่จากสถานการณ์ตอนนี้มันเลวร้ายในเลวร้ายที่สุดแล้วไม่ใช่เรอะ ?
เจ้าหมอเนี่ย มันไม่มีพลังในการต่อสู้เลยด้วยซ้ำไป
ถึงผมจะเห็นว่าตัวเองมีความสามารถในการบังคับบัญชาปีศาจก็เถอะ แต่รอบข้างผมก็มีแต่ศพปีศาจทั้งนั้น
นี่มันสถานการณ์นรกแตกชัดๆ
แล้วปฐมบทก็เริ่มขึ้น
[อีเว้นท์เควส : การล่มสลาย ]
[คำอธิบาย : ความพ่ายแพ้ของกองทัพจอมมารใกล้เข้ามาแล้ว , แต่คุณไร้พลังไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งนั้น จงพยายามเต็มที่เพื่อเอาชีวิตรอด ]
[เป้าหมาย : ออกจากปราสาทจอมมาร ]
[รางวัล : 100 แอคชีฟเม้นพ้อยท์]
ที่ผมทำได้ก็มีแต่วิ่ง วิ่งเท่านั้น
ผมแทบไม่ได้สนใจกับไอ่เจ้าระบบหน้าต่างลึกลับตรงหน้าด้วยซ้ำไป
-เกร้ง เป้ง ! บรึ้มมม !
“บ้าไปแล้วววว !”
ผมไม่สามารถทำอะไรเพื่อหยุดสงครามนี่ได้เลย
ดูเหมือนจอมมารกับปาร์ตี้ผู้กล้ากำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดในปราสาทจอมมาร
เกิดเสียงระเบิดรุนแรง และมีเสียงสายฟ้าคำรามก้อง ทำทำให้รู้เลยว่า เกิดการต่อสู้กันอย่างหนัก
ด้านนอกก็มีเสียงตะโกน กรีดร้องและมอนสเตอร์ร่ำไห้ขณะที่โดนปิดล้อมอยู่ ดูเหมือนเจ้าพวกนั้นจะวงแตกแล้ว
ห้องโถงทางเดินเต็มไปด้วยร่างของปีศาจล้มตายเต็มไปหมด
ผมไม่คิดฝันมาก่อนว่าจะได้เห็นคนตายอยู่ตรงหน้า แต่ที่เลวร้ายกว่าคือ การเห็นมอนสเตอร์ที่ควรจะมีแต่ในจินตนาการมากองตรงหน้า มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเลยว่า ความตายใกล้เข้ามาแล้ว ผมยังคงวิ่งต่อไป
ผมเชื่อว่า ถ้าหยุดแวะอ้วกนี่ตัวเองได้ตายตรงนั้นแน่ๆ
หรือนี่ผมไม่ได้เป็นเจ้าชายแสนดีแห่งอาณาจักรปีศาจรึยังไงกันนะ ?
“บ้าเอ๊ยยยย !”
แต่เลวร้ายและอันตรายกว่านั้นคือ การที่ได้มาเป็นเจ้าชายในตอนที่อาณาจักรปีศาจกำลังล่มสลาย !
ผมอยากไปเป็น ทหารมนุษย์(1) มากกว่า !
ผมแน่ใจเลยว่า ถ้าก้มหัวย้ายฝั่งได้น่ะ ผมทำแน่ๆ !