ตอนที่แล้วบทที่ 32 : ถึงเวลาแล้วโม่ซิ่ว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34 : ผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็คือ!

บทที่ 33 : จะบอกดีๆไหม?


บทที่ 33 : จะบอกดีๆไหม?

ร่างของนักสู้สีเงินถูกกระแทกลงกับพื้นทันทีจนกลายเป็นหลุมลึกปรากฏขึ้นบนพื้นเวที

ซู่จินไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไปเมื่อเขาเห็นแบบนี้ เขาทุบโต๊ะและยืนขึ้นก่อนจะจ้องไปที่โม่ซิ่วด้วยความไม่เชื่อ

โม่ซิ่วเองก็หันไปมองซู่จินด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาด้วยเช่นกัน

ซู่จินถึงกับตัวสั่นเมื่อได้ห็นรอยยิ้มของโม่ซิ่ว “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

พิธีกรยังคงไม่ตอบสนองใดๆ แต่หลังจากนั้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเขาก็ประกาศผลทันที

"หมัดเลือดเดือดไม่ทําให้ผิดหวังจริงๆ เขาเอาชนะได้อย่างง่ายดายไปเลยครับ!"

เสียงของพิธีกรนั้นดังก้องไปทั่วสถานที่ ซึ่งทำให้เหล่าผู้ชมจำนวนมากต่างได้รับเงินจากการเดิมพัน

คนปกติทั่วไปนั้นจะเดิมพันว่าโม่ซิ่วต้องเป็นผู้ชนะครั้งนี้ ดังนั้นเหล่าผู้ชมจึงตื่นเต้นมาก

ในตอนนี้เสียงเชียร์ของเหล่าผู้ชมนั้นดังจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงใดๆแทรกเข้ามาได้เลย

ในขณะเดียวกันโทรศัพท์ของซู่จินนั้นดังขึ้น เขาเหลือบไปมองมันก่อนจะรับสาย ซึ่งจากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงและพูดอะไรบางอย่างขณะที่เขารีบเดินไปที่หลังเวทีอย่างเร่งรีบ

โม่ซิ่วกระโดดลงจากเวทีและไปขวางซู่จินเอาไว้

ซู่จินตะโกนด้วยความโกรธทันที “โม่ซิ่ว! หลีกไปซะ! ฉันจะจัดการเรื่องของนายในภายหลัง!”

หลังจากนั้นก็มีลูกน้องห้าคนข้างๆซู่จินมายืนขวางอยู่ตรงหน้าโม่ซิ่ว

โม่ซิ่วยกมือขวาขึ้นที่หัวของเขา

ซู่จินนั้นค่อนข้างสงสัยในขณะที่เขากำลังถือโทรศัพท์ “มันกำลังทำอะไรของมันอยู่กันแน่?”

ทันใดนั้นก็มีเรื่องบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

ดาบสั้นได้พุ่งออกมาจากความมืดด้านหลังซู่จิน ซึ่งเข้าไปปักเข้ากับโทรศัพท์ของซู่จิ

ซู่จินนั้นคว้าโทรศัพท์ไว้ไม่ทัน จากนั้นโทรศัพท์กระเด็นออกไปเข้ามือของโม่ซิ่ว

โม่ซิ่ววางโทรศัพท์ไว้ที่หูของเขาและได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์

“เฮ้! เฮ้! เกิดอะไรขึ้น? นายต้องชดใช้การสูญเสียในวันนี้นะเว้ย!”

โม่ซิ่วตอบว่า "แน่นอน แต่ว่า...ต้องหลังจากที่ฉันไปหานายแล้วนะ"

ขณะที่ซู่จินกําลังจะสั่งให้คนของเขาชิงโทรศัพท์กลับมา ดาบสั้นอีกเล่มก็ปรากฏขึ้นสกัดกั้นทางหลบหนีของพวกเขา ซึ่งทำให้โม่ซิ่วใช้โอกาสนี้หายตัวไป

คนที่ปาดาบสั้นมานั้นแน่นอนว่าต้องเป็นมู่ชิงอี้แน่นอน

มู่ชิงอี้นั้นอยู่รอบๆเวทีมาโดยตลอด อันที่จริงมู่ชิงอี้นั้นปรากฏตัวในทุกครั้งที่โม่ซิ่วต่อสู้ด้วยซ้ำ

นอกจากนี้มู่ชิงอี้ยังรอใช้พลังของเธอเพื่อชิงโทรศัพท์ของซู่จินมาอีกด้วย

หน้าที่ที่โม่ซิ่วมอบหมายให้มู่ชิงอี้ตั้งแต่แรกคือการคอยช่วยเหลือเขาในยามวิกฤต

ดังนั้นมู่ชิงอี้จึงมาที่นี่ทุกวันที่โม่ซิ่วต่อสู้เพื่อคอยช่วยเหลือเขาหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น

แม้ว่ามู่ชิงอี้นั้นจะไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปในดังศัตรูได้ แต่ด้วยสถานะและภูมิหลังของเธอทําให้เธอสามารถเข้ามาที่เวทีต่อสู้ได้โดยไม่ถูกสงสัย

เนื่องจากพ่อแม่ของเธอได้เตรียมการทั้งหมดไว้เพื่อเธอตั้งแต่เธอยังเด็กทำให้เธอนั้นขาดอิสระ

แต่ตอนนี้การสอบเข้าวิทยาลัยได้สิ้นสุดลงแล้ว ในที่สุดเธอก็ได้รับอิสรภาพในช่วงเวลาสั้นๆ ดังนั้นจึงไม่ยากที่จะเข้าใจว่าทําไมเธอถึงได้มาที่นี่เพื่อมาค้นหาความตื่นเต้น เพราะมีหลายคนที่เป็นเหมือนกับมู่ชิงอี้ ดังนั้นคนเหล่านี้จะไม่โดนสงสัยจากซู่จิน

ซู่จินตะโกนสั่งทันที "รีบจับตัวมันมาเร็วเข้า!"

ในขณะเดียวกัน ท่ามกลางความโกลาหลของฝูงชน สถานที่แห่งนี้ค่อยๆเงียบลงซึ่งทุกคนเริ่มรู้แล้วว่ามีการต่อสู้บางอย่างกําลังเกิดขึ้นด้านนอก

หลังจากการต่อสู้เกิดขึ้นได้ไม่นาน คนกลุ่มหนึ่งได้เดินเข้ามาจากด้านนอก

หลังจากที่ได้เห็นเครื่องแบบของคนกลุ่ม สถานที่แห่งนี้จึงเงียบลงในทันที

เพราะคนกลุ่มนี้เป็นคนของสหพันธมิตร

ผู้นํากลุ่มได้ชี้ไปที่ซู่จินและทำการจับกุมตัวเขาเอาไว้ทันที

แม้ว่าซู่จินจะยังไม่รู้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้ชัดเจนนัก แต่เขาได้เปิดใช้งานพลังทั้งสี่อย่างของเขาทันทีเพื่อเพิ่มความเร็วและคิดจะหนีออกไปข้างนอก

แต่หลังจากนั้นห้านาที ซู่จินก็ถูกลากตัวกลับเข้าไปในเวที สาเหตุที่ไม่มีใครสามารถหนีออกไปได้นั้นเพราะดาดฟ้าทั้งหมดในตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของสหพันธมิตรแล้ว

“ซู่จิน ฉันคือเย่ฉิงเฟิงจากสหพันธมิตรที่ร่วมมือกับทีมควบคุมกฎเพื่อจับตัวนาย”

ซู่จินจึงแสร้งเฉไฉทันที “อะไรกันๆ ผมแค่มาที่นี่เพื่อดูการต่อสู้เท่านั้น ถ้าจะจับผมผมก็โดนจับแค่ในฐานะผู้ชมเท่านั้น”

เย่ฉิงเฟิงหยิบรายชื่อออกมาและถือเอาไว้ให้ทุกคนได้เห็น

เมื่อซู่จินเห็นรายชื่อเขาจึงรู้ว่าวันนี้เขาจบเห่แล้ว

เย่ฉิงเฟิงตะโกนขึ้นว่า “นี่คือรายชื่อของทุกคนที่อยู่ที่นี่ในวันนี้ ดังนั้นพวกเราจึงรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของพวกนายทุกคนที่นี่ ใครก็ตามที่บอกฉันได้ว่าใครคือผู้ควบคุมที่นี่ ฉันจะปล่อยคนที่บอกออกไปโดยที่ไม่ต้องถูกลงโทษ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนจึงตะโกนขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันว่า "ซู่จิน ครับ!"

"ใช่แล้ว ซู่จินเป็นคนคุมทุกอย่างที่นี่จริงๆ!"

เย่ฉิงเฟิงพูดว่า “ได้ยินแล้วใช่ไหมซู่จิน? ตอนนี้ฉันมีหลักฐานมากมายที่จะพิสูจน์ได้ว่านายเป็นผู้ที่คุมทุกอย่างที่นี่ เอาล่ะทีนี้นายมีอะไรอยากจะพูดอีกมั้ย?”

ซู่จินก้มหน้าลงและไม่พูดอะไรอีกต่อไป

เย่ฉิงเฟิงพูดต่อ "บอกฉันมาซะว่าใครคือเจ้านายของนาย?"

“ใครคือเจ้านายของฉันงั้นเรอะ? ก็ฉันนี่แหละที่คุมที่นี่ นายเองก็ตรวจสอบทุกอย่างมาแล้ว ทําไมนายถึงยังถามอีกว่าใครคือเจ้านายของฉัน?”

เย่ฉิงเฟิงไม่ได้รีบร้อนมากนัก เขาเดินไปลากเก้าอี้ตัวหนึ่งและนั่งลงบนเก้าอีกนั้นอย่างสบายใจ “เอาล่ะโม่ซิ่ว ทำให้มันเห็นทีว่ามันจะปากแข็งไปได้อีกนานแค่ไหน?”

ในขณะเดียวกัน โม่ซิ่วและมู่ชิงอี้ก็เดินออกจากฝูงชน

เมื่อซู่จินเห็นโม่ซิ่วปรากฏตัวขึ้นในตอนนี้ เขาจึงเข้าใจทุกอย่างและตะโกนด่าทันที

“โม่ซิ่ว ไอ้สารเลว ฉันคิดมาตลอดว่านายเป็นแค่ชายหนุ่มที่หยิ่งผยองเท่านั้น ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะฉลาดขนาดนี้ได้!”

โม่ซิ่วส่ายหัวและพูดว่า “ที่ผ่านมาฉันแค่แสดงเท่านั้น นายต่างหากที่มั่นใจมากเกินไป เอาล่ะบอกฉันทีว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้? และใครคือคนที่โทรหานายเมื่อกี้นี้ด้วย?”

ซู่จินตอบว่า “เขาเป็นแค่ลูกค้ารายใหญ่เท่านั้น ไม่มีใครสามารถสั่งฉันได้หรอก!”

โม่ซิ่วยิ้มออกมาเล็กน้อย

“ฮ่าๆๆๆ งั้นเรอะ? ฉันรู้นะว่าแหล่งทำเงินที่แท้จริงของนายไม่ใช่แค่การเดิมพัน แต่มาจากการเจ้านายของนายที่อยู่เบื้องหลังมาตลอด เจ้านายของนายจะลงเดิมพันในฝั่งที่ชนะ และนายก็เป็นคนดูแลผลกําไรของเจ้านายของนายเท่านั้น”

ซู่จินจ้องไปที่โม่ซิ่วราวกับว่าเขาต้องการจะฆ่าเขาให้ได้

อันที่จริงโม่ซิ่วได้รู้เรื่องนี้หลังจากการต่อสู้ครั้งแรกที่เขาได้เป็น “ราชานักสู้” เพราะซู่จินนั้นให้เงินที่เข้าได้มามากกว่าขึ้นให้กับโม่ซิ่ว

หลังจากนั้นโม่ซิ่วก็ได้เห็นคนดูแลบัญชีที่อยู่กับซู่จิน จนกระทั่งในที่สุดโม่ซิ่วก็ยืนยันได้ว่ารายได้ที่ซู่จิน ได้มาจากการต่อสู้ในแต่ละครั้งนั้นไม่สูงมาก

และหลังจากที่ได้รู้วิธีการเดิมพันของที่นี่ ในที่สุดโม่ซิ่วก็สามารถยืนยันได้ทันทีว่าต้องมีใครบางคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ซึ่งซู่จิน ก็มีโอกาสสูงที่เป็นควบคุมการเดิมพันของคนๆนั้นโดยการมาดูการต่อสู้เป็นบางครั้ง และแม้ว่าเขาจะไม่มาเอง เขาก็จะส่งคนที่เขาไว้ใจมาได้

ดังนั้นในวันนี้ โม่ซิ่วจึงจงใจไม่ทําตามบทในระหว่างการต่อสู้เพื่อดูว่าซู่จินและเจ้านายคนนั้นจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

ซู่จินได้วางแผนการต่อสู้ครั้งนี้มาเป็นเวลานานและให้ความสําคัญกับมันมาก ดังนั้นเขาจะต้องลงทุนด้วยเม็ดเงินจํานวนมหาศาลอย่างแน่นอน

หากมีการเปลี่ยนแปลงในผลลัพธ์ของการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นซู่จินหรือเจ้านายคนนั้นที่ลงเดิมพัน พวกเขาจะต้องสูญเสียเงินก้อนใหญ่และต้องโกรธเป็นอย่างมาก

เมื่อการต่อสู้ได้สิ้นสุดลง ซู่จินก็ได้รับโทรศัพท์ลึกลับทันที ดังนั้นโม่ซิ่วจึงสามารถยืนยันได้ว่าเจ้านายคนนั้นอยู่เบื้องหลังจริงๆ

โม่ซิ่วได้กล่าวต่อว่า “ตอนนี้ฉันมีโทรศัพท์ของนายแล้วและฉันก็ได้บอกหมายเลขโทรศัพท์นั้นไปยังทีมควบคุมกฎแล้ว อีกไม่นานทีมควบคุมกฎก็คงได้รู้ว่าเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์นั้นเป็นใคร เอาล่ะ นายจะบอกมาดีๆหรือว่าจะให้หัวหน้าเย่ฉิงเฟิงตามหาตัวคนๆนั้นเอง?”

ใบหน้าของซู่จินเริ่มซีดขณะที่เขาพูดว่า “แล้วถ้านายรู้ว่าฉันคุยโทรศัพท์กับใครแล้วล่ะ? นายจะแน่ใจได้ยังไงว่าคนๆนั้นคือผู้บงการตัวจริง?”

โม่ซิ่วดึงมู่ชิงอี้ออกไปเพื่อหลีกทาง

จากนั้นหลิวซี่หยางและเย่หยวนก็พาใครบางคนมา

คนๆนั้นก็คือนักบัญชีของซู่จิน จางซี่เรียว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด