บทที่ 17 การโจมตีหลอก
บทที่ 17 การโจมตีหลอก
“หลิวซี่หยาง ได้เวลาออกจากจุดพักฟื้นแล้ว!”
เมื่อหลิวซี่หยางได้ยินว่าถึงเวลาแล้ว เขาไม่ได้เดินออกไปทันทีแต่เขาหยุดไปชั่วครู่เพื่อป้องกันไม่ให้เย่หยวนใช้พลังของเขาตรึงร่างเอาไว้
แน่นอนว่าหลิวซี่หยางหลบการตรึงจากพลังของเย่หยวนได้สำเร็จ
แต่ถึงอย่างนั้นมู่ชิงอี้กับเย่หยวนนั้นสู้ได้เข้าขามากจริงๆ เพราะทันทีที่หลิวซี่หยางออกมาทั้งสองคนไม่ได้ใช้พลังใดๆอีกต่อไปและเข้ามาโจมตีเขาโดยตรง
ในขณะเดียวกัน โม่ซิ่วก็ใช้โอกาสนี้เพื่อพุ่งเข้ามาหาทั้งสามคนเช่นกัน เมื่อหลิวซี่หยางเห็นว่าทั้งสองคนกําลังโจมตี เขาจึงใช้พลัง “ร่างเงา” ของเขาทันที
มู่ชิงอี้และเย่หยวนมองไปทางซ้ายและขวา พวกเขาคิดว่าหลิวซี่หยางจะปรากฏตัวใกล้ๆพวกเขาเพื่อจะโจมตีให้พร้อมกับโม่ซิ่ว
แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าหลิวซี่หยางจะปรากฏตัวขึ้นหลังโม่ซิ่ว จากนั้นโม่ซิ่วก็หยิบธงของเขาออกมาและส่งต่อให้หลิวซี่หยาง
เย่หยวนตะโกนว่า "แย่แล้ว!"
ในตอนนี้หลิวซี่หยางกําลังถือธงอยู่ในระยะไกล ในขณะที่โม่ซิ่วกำลังเผชิญหน้ากับมู่ชิงอี้และเย่หยวนด้วยตัวคนเดียว
สถานการณ์ในตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว มู่ชิงอี้และเย่หยวนไม่คาดคิดเลยว่าโม่ซิ่วจะเลือกช่วยหลิวซี่หยางและเลือกจะเผชิญหน้ากับทั้งสองคนเพียงลําพัง
ทั้งสองคนเองก็รู้ได้อย่างชัดเจนเช่นกันว่า แม้ว่าโม่ซิ่วจะไม่สามารถเอาชนะพวกเขาทั้งคู่ได้ แต่คงจะก็ไม่ใช่ปัญหาสําหรับโม่ซิ่วที่จะเอาชนะมู่ชิงอี้เพียงคนเดียวได้
เมื่อเป็นเช่นนั้น เย่หยวนจึงปล่อยพลังธาตุออกมาสองธาตุรอบๆโม่ซิ่วและทำการตรึงร่างเขาไว้
"มู่ชิงอี้ ตอนนี้ล่ะ!"
มู่ชิงอี้วิ่งไปข้างหน้าในขณะที่โม่ซิ่วพยายามหลบการตรึงร่างของเย่หยวน
เมื่อมู่ชิงอี้เห็นว่าโม่ซิ่วไม่ได้เลือกที่จะกําจัดเย่หยวนก่อนและกําลังมุ่งมาหาเธอแทน เธอจึงเปิดใช้พลังของเธอทันทีและย้ายธงไปอยู่ในมือของเย่หยวน
เย่หยวนที่ได้รับธงจึงหยุดและซ่อนธงเอาไว้ด้านหลังเขา
ในตอนนี้ โม่ซิ่วกําลังจะคว้ามู่ชิงอี้เอาไว้ แต่เมื่อเขาเห็นว่าเย่หยวนไม่ได้ไล่ตามเขามา เขาจึงหันหลังกลับและเปลี่ยนเป้าหมายทันที
มู่ชิงอี้ที่เห็นการกระทําของโม่ซิ่ว จึงเปิดใช้พลังเคลื่อนย้ายครั้งที่สองทันที ซึ่งเธอได้ดึงธงให้กลับมาไว้ในมือและหันกลับมาเพื่อโจมตีหลิวซี่หยางต่อไป
ในขณะเดียวกัน จู่ๆมู่ชิงอี้ก็ได้ยินเสียงสองเสียงดังขึ้น
"ระวังข้างหลัง!"
"ขอโทษทีนะ"
เสียงตะโกนแรกนั้นดังมาจากเย่หยวน ส่วนเสียงที่สองนั้นดังมาจากโม่ซิ่วที่อยู่ด้านหลังมู่ชิงอี้
มู่ชิงอี้หันกลับมาทันที แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ช้าเกินไปแล้ว
โม่ซิ่วใช้มือขวาผลักไหล่ของมู่ชิงอี้และโอบร่างของมู่ชิงอี้เอาไว้ ขณะที่เขาวางร่างของมู่ชิงอี้ลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว
แม้ว่ามู่ชิงอี้จะแข็งแกร่ง แต่ความเร็วและความแข็งแกร่งของโม่ซิ่วนั้นสูงกว่าเธอมากซึ่งมันเป็นเพราะพลังข้ามขีดจำกัด
ในขณะนี้ หวังหยูได้ยืนขึ้นและพูดว่า “มู่ชิงอี้หมดสภาพแล้ว การแข่งขันสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้”
มู่ชิงอี้รีบลุกขึ้นยืนและจ้องไปที่โม่ซิ่วทันที
การจ้องมองของเธอนั้นดูเหมือนกับจะพูดว่า “นายกำลังจะไปจัดการเย่หยวนแท้ๆแล้วทําไมจู่ๆนายถึงมาอยู่ข้างหลังฉันได้?!”
อันที่จริงโม่ซิ่วแค่แกล้งทําเป็นว่าจะโจมตีเย่หยวนเท่านั้น อันที่จริงเขาแค่จะหันหลังและกลับมา
นอกจากนี้ กุญแจสู่ชัยชนะของพวกเขาก็อยู่ที่การชะงักในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
หวังเล่ยถอนหายใจและพูดว่า “น่าตื่นเต้นจริงๆ เจ้าโม่ซิ่วนั่นมักจะทําให้เราประหลาดใจทุกอย่าง หวังหยู นายอยู่แล้วใช่มั้ยว่ามันจะเป็นแบบนี้น่ะ?”
หวังหยูส่ายหัวและพูดว่า “ไม่หรอก ถึงฉันจะรู้ว่าการต่อสู้จะจบลงในไม่ช้า แต่ฉันเองก็ไม่ได้คิดว่ามันจะจบเร็วขนาดนี้”
หวังหยูยืนขึ้นและพูดกับโม่ซิ่วว่า "โม่ซิ่ว บอกฉันทีว่านายชนะได้ยังไง?"
“ผมแค่แกล้งทําให้มู่ชิงอี้คิดว่าผมจะกลับไปโจมตีเย่หยวนครับ”
มู่ชิงอี้จึงพูดด้วยสีหน้าสงสัยว่า "เรื่องนั้นฉันรู้ แต่นายรู้ได้อย่างไรว่าธงอยู่กับฉันน่ะ?"
มู่ชิงอี้และเย่หยวนค่อนข้างไม่พอใจที่พวกเขาแพ้แบบนี้ ในสายตาของพวกเขา โม่ซิ่วแค่ใช่ดวงเพื่อเอาชนะได้เท่านั้น
โม่ซิ่วอธิบายว่า “ง่ายมาก ฉันก็แค่คิดว่าถ้าฉันเป็นฉันจะทำยังไงเท่านั้นเอง”
“นอกจากนี้ด้วยพลังย่นระยะของเธอ เธอน่าจะสามารถเคลื่อนย้ายธงไปยังเพื่อนร่วมทีมของเธอได้ทันทีเช่นกัน”
“ดังนั้นฉันจึงรู้ว่ายังไงธงก็ต้องอยู่กับเธอ ส่วนที่เหลือฉันก็แค่เดิมพันกับความคิดของฉันเท่านั้นเอง”
“นอกจากนี้ตอนที่ฉันยืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอ เธอเลือกที่จะไปไล่ตามหลิวซี่หยาง ในขณะที่เย่หยวนนั้นอยู่ด้านหลังเพื่อหยุดฉันเอาไว้ แค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเย่หยวนนั้นไม่กลัวที่จะถูกกําจัด นั่นหมายความว่าธงจะต้องอยู่ที่เธอแน่ๆยังไงล่ะ”
พวกเขาทุกคนฟังอย่างตั้งใจ
มู่ชิงอี้จึงถามอีกครั้งว่า “ถ้ารู้ว่าตอนแรกธงถูกย้ายไปอยู่กับเย่หยวน ทําไมนายถึงไม่โจมตีเขาจริงๆ? ทําไมนายถึงต้องแกล้งทำเป็นจะโจมตีเย่หยวนเพื่อหลอกฉันด้วย? หรือว่านาย...”
โม่ซิ่วยิ้มและพูดว่า “ใช่ จากเมื่อวานที่สู้กันทำให้ฉันรู้ว่าเธอย่นระยะได้สองครั้ง ดังนั้นฉันจึงจงใจแกล้งทำเป็นโจมตีเย่หยวนเพื่อให้เธอดึงธงกลับคืนไป”
มู่ชิงอี้ที่ได้ยินดังนั้นจึงพูดว่า "แหมฉลาดแกมโกงเหลือเกินนะ!"
หลังจากนั้นหวังหยูได้เดินเข้ามาและพูดว่า “ในการต่อสู้แบบทีมครั้งนี้ พวกฉันต้องการให้พวกเธอใช้กลยุทธ์เพื่อต่อสู้ในสถานการณ์จริง ในตอนแรก ทีมของโม่ซิ่วนั้นให้ความสําคัญกับการต่อสู้มากเกินไป ในขณะที่ทีมของมู่ชิงอี้ก็ให้ความสําคัญกับกลยุทธ์มากเกินไป แต่สุดท้ายโม่ซิ่วนั้นได้ทำให้มันสมดุลและเอาชนะทีมของมู่ชิงอี้ได้ในตอนท้าย”
หวังเล่ยมองไปที่หวังหยูด้วยความประหลาดใจ โม่ซิ่วจึงวางแผนที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ได้ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบได้อย่างไร?
หรือว่าการให้หลิวซี่หยางรับธงไปในตอนแรกจะเป็นแผนการของเขาอยู่? ส่วนกุญแจสู่ชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้คือความสามารถของโม่ซิ่วในด้านการปรับตัว?
หลังจากนั้นหวังเล่ยได้พูดเสริมว่า “นี่เป็นบทเรียนที่สาม ฉันพวกว่าพวกเธอจะได้เรียนรู้ในไปใช้ได้ในสถานการณ์จริง
หวังหยูกล่าวต่อ “เอาล่ะ นี่คือทั้งหมดสําหรับวันนี้ พวกเธอทุกคนยังมีข้อบกพร่องในการต่อสู้ครั้งนี้อยู่ ดังนั้นจงกลับไปทบทวนตัวเองด้วยล่ะ”
...
ในตอนเย็น บนก้อนหินนอกที่พัก...
โม่ซิ่วและมู่ชิงอี้กำลังนั่งคุยกันอยู่
นับตั้งแต่ที่พวกเขาได้พูดคุยกันในคืนนั้น ทั้งสองคนจึงมีความเข้าใจกันและกันมากขึ้น ซึ่งพวกเขาจะมานั่งที่นี่ทุกเย็นเพื่อคุยกัน
มีบางครั้งที่พวกเขาคุยกันและบางครั้งพวกเขาก็เลือกจะนั่งเงียบๆ
“มู่ชิงอี้ เธอช่วยสรุปความผิดพลาดของฉันทีได้ไหม? ฉันจะได้รู้และนำไปปรับน่ะ”
“ฉันไม่คิดว่าทีมของเธอวางแผนพลาดนะ เพราะฉันก็เอาแต่ใช้กำลังแย่งมาอย่างเดียวเท่านั้นเอง”
“แล้วของฉันล่ะ? วันนี้ฉันทําผิดพลาดอะไรไปบ้าง?”
"เธอจะเอาเรื่องจริงหรือโกหก?"
"ถ้าอย่างนั้นบอกเรื่องโกหกมาก่อน!"
“เธอน่ะไร้ที่ติ ถ้าฉันเดาไม่ถูกในวินาทีสุดท้าย พวกเธอคงจะชนะไปแล้ว”
"ฮ่ะๆๆ แล้วความจริงล่ะ"
"แผนของเธอน่ะแย่มาก!"
“เฮอะ! มันจะไปดีเท่านายได้ยังไงล่ะ?!”
“อันที่จริงภายใต้กฎที่กำหนดไว้ พลังของนายน่ะแทบจะได้เปรียบที่สุดแล้ว แต่นายคิดว่านายคงจะเสียเปรียบดังนั้นนายจึงไม่ได้ใช้พลังของนายออกมา”
“ก็จริงนะ ยังไงซะฉันก็ชนะเพราะโชคจริงๆน่ะล่ะ”
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็มองไปที่ดวงจันทร์ด้วยความเงียบ
จู่ๆมู่ชิงอี้ก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย เธอก้มหน้าลงและพูดว่า “โม่ซิ่ว การสอบเข้าวิทยาลัยกําลังจะมาถึงในอีกไม่ช้าแล้ว นายคิดไว้รึยังว่าจะเข้าที่ไหนน่ะ”
“ฉันว่าจะไปมหาวิทยาลัยหยานจิ่ง แล้วเธอล่ะ”
“งั้นเหรอ ฉันน่ะยังไม่รู้หรอกแต่ฉันคงต้องจากนายไปไกลแน่ๆเลย”
“แล้วพวกเราจะได้พบกันอีกไหม?”
"ต้องได้เจอสิ ถ้าเธออยากเจอฉันล่ะก็มาหาได้ตลอดเลย!"