ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1109 พลิกกระดาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1111 การต่อสู้ตัดสินครั้งสุดท้าย

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1110 แม่น้ำเลือด (อ่านฟรี)


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1110 แม่น้ำเลือด (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT  

หลี่ฉิงซานจะปล่อยโอกาสดีๆให้หลุดลอยไปได้อย่างไร ลายพยัคห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา จิตสังหารของเขาปะทุขึ้นขณะที่เขาใช้ความสามารถโดยกำเนิดปีศาจพยัคฆ์คลั่ง เขารักษาสถานะปีศาจสงครามและจุดจบความคลั่งเอาไว้เช่นกัน ดังนั้นพลังอำนาจและความบ้าคลั่งจึงปะทุขึ้นอย่างรุนแรง เขาตะโกนว่า “หายไปซะ!”

ราชาปีศาจสงครามรู้สึกเหมือนถูกต่อยที่ใบหน้า มันกระเด็นไปข้างหลังด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

ภายใต้ความมึนงง ราชาปีศาจสงครามเห็นปีศาจพยัคฆ์ที่คาบดาบไว้ในปากพุ่งผ่านไป และหลังจากนั้นหลี่ฉิงซานก็กลับคืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง เขาหยุดใช้ความสามารถโดยกำเนิดไปแล้ว กระดูกของเขาเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว และร่างกายของเขาก็เกือบพังทลายลง เขามองย้อนกลับไปและเผยรอยยิ้ม “เจ้าแพ้แล้ว!”

ราชาปีศาจหลายตนระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในเวลาเดียวกัน พวกมันถูกสังหารในการโจมตีเดียวของหลี่ฉิงซาน

“ไม่!”

ราชาปีศาจสงครามคำรามอย่างดุร้าย พวกมันได้รับการสนับสนุนจากพิภพปีศาจ แล้วพวกมันจะพ่ายแพ้ให้กับคนเพียงไม่กี่คนได้อย่างไร แต่ท่ามกลางผู้ฝึกตนทั้งหมด คนไม่กี่คนนี้เป็นตัวตนที่ปริมาณไม่สามารถแข่งขันกับคุณภาพ

หลี่ฉิงซานเพิกเฉยต่อเสียงกรีดร้องของคนขี้แพ้ เขากล่าวกับกู่เยี่ยนหยินที่อยู่ในระยะไกลว่า “เจ้ามาดูงั้นหรือ?”

“ข้าคิดว่าข้าไม่จำเป็นต้องทำสิ่งใดเลย ข้าเพียงต้องเฝ้าดูเจ้ากับท่านลุงเอาชนะศัตรูอย่างไรเท่านั้น แต่ก็เป็นเช่นนั้น!”

หลังจากมาถึงภูเขาพระใหญ่ กู่เยี่ยนหยินก็ยืนดูอยู่ในระยะไกลมาตลอด นางมองราชามังกรแห่งทะเลหมึกและหลี่ฉิงซานร่วมมือกันต่อต้านศัตรูซึ่งทำให้นางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความยินดี

ทันใดนั้นนางก็คลี่พัดออกและสะบัดลงไปด้านล่างก่อนจะกวาดขึ้นไป นางดึงลมร้อนจากนรกขึ้นมาเพื่อปัดเป่าเหล่าปีศาจ

ราชาจั๊กจั่นทองยืนอยู่บนหม้อของมณฑลชิงโจว ใบหน้าของเขาปราศจากอารมณ์ใดๆ ขณะที่เสียงร้องของจั๊กจั่นเคลื่อนผ่านกองทัพปีศาจ แม้แต่ราชาปีศาจก็ยังสั่นสะท้าน มีเพียงราชาปีศาจสงครามเท่านั้นที่สามารถอดทนต่อเสียงร้องของจั๊กจั่นได้ในระดับหนึ่ง

สายลมหวีดหวิว จั๊กจั่นขับขาน และสถานการณ์ก็ค่อยๆพลิกผัน

หลี่ฉิงซานรู้สึกถึงความอบอุ่นของเปลวไฟวิหคเพลิงอมตะที่รักษาบาดแผลของเขาอย่างรวดเร็ว

ในอดีต หากเขาปลดปล่อยความบ้าคลั่งทั้งหมดออกมาพร้อมกัน ร่างกายของเขาจะพังทลายลงทันที

แต่ตอนนี้หลังจากผ่านการต่อสู้อันขมขื่น เขายังสามารถออกจากสถานะนั้นได้อย่างง่ายดายและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว นี่คือความก้าวหน้าครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคัมภีร์วิหคเพลิงอมตะของเขาอยู่ห่างจากขั้นที่ห้าเพียงนิ้วเดียวเท่านั้น!

เมื่อเขาก้าวเข้าสู่ขั้นที่ห้าของวิหคเพลิงอมตะ มันไม่เพียงจะเพิ่มโอกาสในการกำเนิดใหม่หรือการคงอยู่ได้นานขึ้นอีกเล็กน้อยในสภาวะระเบิดพลังแห่งความบ้าคลั่งของเขา แต่เขาจะสามารถรักษาสมดุลระหว่างเทพปีศาจทั้งสี่ได้อย่างสมบูรณ์ ความแข็งแกร่งของเขาจะก้าวเข้าสู่อาณาจักรใหม่ทั้งหมด!

การต่อสู้ครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความก้าวหน้าของเขา

ก่อนที่เขาจะรู้ตัว เสียงระฆังก็ค่อยๆเงียบลงแล้ว

กองทัพปีศาจนับล้านตกสู่ความบ้าคลั่งไปอย่างสมบูรณ์ มากกว่าครึ่งของกองทัพปีศาจพังทลายลงแล้ว ขณะที่ปีศาจที่เหลืออยู่ฉีกกระชากกันเองอย่างเมามัน แม่น้ำเลือดไหลไปทุกหนทุกแห่ง หากไม่มีความช่วยเหลือจากภายนอก มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะกลับมามีสติอีกครั้ง

เสี่ยวอันถอนหายใจและเก็บระฆังปลุกวิญญาณ ด้วยการโบกมือซ้าย ลูกประคำหัวกะโหลกบินออกไปและสร้างค่ายกลปีศาจโครงกระดูกบินอยู่รอบๆหม้อของมณฑลชิงโจวเพื่อสะกัดกั้นการโจมตีจากราชาปีศาจพร้อมกับหยุดการรุกคืบของปราณปีศาจในเวลาเดียวกัน

ด้วยการโบกมือขวา แม่น้ำเลือดไหลออกมาจากธงทะเลเลือด มันกวาดผ่านกองทัพปีศาจ มันกลืนกินซากศพรวมถึงสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและทำให้ตัวมันเองแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

ในชั่วพริบตา แม่น้ำเลือดก็ขยายออกไปหลายร้อยเท่า มันสาดซัดไปรอบๆเหมือนมังกรแดง แม้แต่ขุนพลปีศาจและผู้บัญชาการปีศาจก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการถูกกลืนกิน จากนั้นมันก็บินกลับมาและขดตัวอยู่รอบๆภาพลวงตาของมณฑลชิงโจวซึ่งทำให้หม้อของมณฑลชิงโจวไม่สามารถถูกสัมผัส

เสี่ยวอันประสานฝ่ามือของนางเข้าด้วยกัน แม่น้ำเลือดและค่ายกลปีศาจโครงกระดูกรวมตัวกันเป็นค่ายกลที่ทรงพลังยิ่งขึ้น

ราชาปีศาจที่โจมตีหม้อของมณฑลชิงโจวสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ พวกมันต้องการออกจากที่นั่นทันทีแต่พวกมันค้นพบว่าบริเวณโดยรอบกลายเป็นทะเลเลือดและทะเลเพลิงไปแล้ว

ท่ามกลางทะเลเลือด โครงกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนยื่นมือกระดูกออกมาและพยายามคว้าพวกมันขณะที่ปีศาจโครงกระดูกจะพุ่งเข้ามาโจมตีพวกมันเป็นครั้งคราว

โดยพื้นฐานแล้วพวกมันรู้สึกเหมือนติดอยู่ในนรกซึ่งทำให้แม้แต่ราชาปีศาจก็ยังตกใจและหวาดกลัว

ราชาอาณาจักรชูมองเสี่ยวอัน ธงทะเลเลือด ชุดคลุมนักบวช และเส้นผมของนางปลิวไปตามสายลม ร่างกายของนางไม่ได้ใหญ่โตเป็นพิเศษทำให้นางดูไม่ยิ่งใหญ่หรือครอบครองความแข็งแกร่งที่ไม่อาจต่อต้าน อย่างไรก็ตามนางกลับทรงพลังอย่างที่สุด ทันใดนั้นเขาก็ค้นพบว่าเหนือสิ่งอื่นใด ‘นางคือลูกสาวของข้า...’

ความประหลาดใจเล็กๆฉายผ่านดวงตาของราชาจั๊กจั่นทองเช่นกัน เขาสงสัยว่าตนเองตัดสินใจถูกหรือไม่ที่ส่งนางไปวัดเทวนาคา อย่างไรก็ตามเขาละทิ้งความคิดนี้ทันทีที่มันผุดขึ้นมา เขาสัมผัสได้ว่าธรรมชาติแห่งพุทธะของนางไม่ใช่เรื่องหลอกลวง

พระผู้กล้ากับพระอาจารย์ไร้กังวลมองสิ่งนี้และพูดไม่ออก

นี่เป็นพลังของศัตรูของพระพุทธเจ้างั้นหรือ?

“ศิษย์พี่...ศัตรูของพระพุทธเจ้า...อาจจะเกินกว่าที่เราจะจัดการได้ แต่เมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมของนาง นางก็ไม่ได้คล้ายกับศัตรูของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริงเช่นกัน” พระอาจารย์ไร้กังวลกล่าว

ความใจกว้างและความอดทนของพระอาจารย์ไร้กังวลเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดา เขาจะไม่เรียกนางว่าศัตรูของพระพุทธเจ้าเพียงเพราะเคล็ดวิชากระดูกขาวและความงามอันเป็นนิรันดร์

“ไม่ว่านางจะเป็นศัตรูของพระพุทธเจ้าหรือไม่ก็ไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับเราอีกต่อไป แม้พระสังฆราชฝ่ายซ้ายจะอยู่ที่นี่ด้วยตนเอง แต่เขาจะทำสิ่งใดได้?”

พระผู้กล้าส่ายศีรษะ หากรวมหลี่ฉิงซานที่ดุร้ายเข้าไปด้วย ผู้ใดยังจะสามารถต่อต้านนางได้ ผู้ใดยังจะกล้าทำร้ายนาง พุทธสาวกอาจยินดีเสียสละตัวเองอย่างไม่เกรงกลัว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขายินดีตายอย่างไร้จุดหมาย และดังที่พระอาจารย์ไร้กังวลกล่าว นางไม่ได้สังหารหมู่ผู้คน มันเป็นการสังหารหมู่ปีศาจที่ชั่วร้ายเช่นราชาตั๊กแตนทะยาน

ในชั่วพริบตาสถานการณ์ก็พลิกกลับ ราชาปีศาจทั้งหมดถูกสังหารทีละตนและกลายเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเลือด

เสี่ยวอันไม่ได้ควบคุมปีศาจโครงกระดูกและอนุญาตให้พวกมันเข่นฆ่าศัตรูได้อย่างอิสระ นางจับธงทะเลเลือดเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าและกวัดแกว่งไปมา

คลื่นแสงสีแดงเลือดถูกส่งออกไปจากธงทะเลเลือด และราชาปีศาจสองตนก็หายตัวไปทันที

ธงทะเลเลือดเต้นรำอยู่ในมือของนาง ขณะที่แสงสีแดงเลือดพุ่งผ่านอากาศและกลืนกินราชาปีศาจทีละตัว พวกมันถูกดูดเข้าไปในธงทะเลเลือดและต้องต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในทะเลเลือดที่บ้าคลั่ง

ร่างกายของพวกมันถูกกัดกร่อนและกลืนกินเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

ย้อนกลับไป ธงทะเลเลือดมีพลังที่ค่อนข้างจำกัดมากมาโดยตลอด แม้มันจะมีพื้นที่มิติของตัวเอง แต่เมื่อใดก็ตามที่เสี่ยวอันได้รับทรัพยากร นางมักจะใช้ทรัพยากรเหล่านั้นกับการบ่มเพาะส่วนตัวของนางเสมอ จากนั้นก็จะใช้ทรัพยากรที่เหลือปรับแต่งกระบี่สังหารพระพุทธเจ้า ตามมาด้วยลูกประคำหัวกะโหลก และสุดท้ายจึงเป็นธงทะเลเลือด ดังนั้นมันจึงมีประโยชน์ไม่มากนัก

อย่างไรก็ตามหลังจากกลืนกินกองทัพปีศาจนับล้านตน ธงทะเลเลือดก็ก้าวเข้าสู่ระดับใหม่ มันสามารถแสดงพลังอำนาจอันน่าสะพรึ่งกลัวของทะเลเลือดอันไร้ขอบเขตออกมา

ภายใต้การสนับสนุนจากราชาจั๊กจั่นทองและกู่เยี่ยนหยิน หลี่ฉิงซานและราชามังกรแห่งทะเลหมึกสามารถสังหารราชาปีศาจมากกว่าสิบตนติดต่อกัน ราชาปีศาจสงครามแทบจะถูกโดดเดี่ยว และมันก็ไม่แข็งแกร่งเหมือนก่อนหน้าอีกต่อไป กระทั่งการหลบหนีก็กลายเป็นปัญหาสำหรับมันในเวลานี้

“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร!?” ราชาปีศาจสงครามปฏิเสธที่จะยอมรับสิ่งนี้ ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดึงขึ้นในหูของมัน “เจ้าอยากชนะหรือไม่?”

“ผู้ใด!?”

“ปรับแต่งข้าและฆ่าพวกมันให้หมด!”

กระบี่ที่บิดเบี้ยวพุ่งออกมาจากความว่างเปล่า มันปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าราชาปีศาจสงคราม และราชาปีศาจสงครามก็คว้าจับมันเอาไว้โดยสัญชาตญาณ