ตอนที่แล้วตอนที่ 34 เขียนชะตากรรมใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 36 รักษาการแทน

ตอนที่ 35 กลืนกิน


นับตั้งแต่ย้ายมาประจำการที่เขตลี่ซาน นี่เป็นครั้งแรกที่หม่าเหลียนพบคนที่มีตำแหน่งต่ำกว่า กล้าท้าทายเขาแบบนี้ เขาถอดถุงมือหนังออกขณะเดินเข้าหาเกาหมิง

เมื่อรับรู้ถึงภัยคุกคาม เกาหมิงไม่ได้พูดอะไร แต่คว้าขวานที่จูเหมียวเซียวพิงไว้ขึ้นมาอย่างเงียบๆ คมขวานสะท้อนแสงไฟจนเกิดประกายอันน่าเย็นเยียบขึ้นมา

มุมปากของหม่าเหลียนกระตุกเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเกาหมิงกล้าที่จะทำร้าย อย่างไรก็ตามฝีเท้าของเขากลับดูช้าลง

"เหล่าหม่าอย่า!" เฉินปิงหยุดหม่าเหลียนไว้ขณะที่แทรกตัวเข้ามาระหว่างทั้งคู่ นั่นทำให้หม่าเหลียนรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด

"ไม่ต้องมายุ่ง!" หม่าเหลียนตะโกนออกมา ชี้นิ้วใส่เกาหมิง "ครั้งหน้า ฉันจะมอบ'บทเรียน'ที่พิเศษให้คุณแน่" หลังจากพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกจากห้องไป

เฉินปิงเป็นลูกสาวของเฉินหยุนเทียน เธอรู้ว่าพ่อของเธอให้ความสําคัญกับเกาหมิงมากแค่ไหนเธอจึงไม่ได้พูดอะไรมาก "ทีมหนึ่งมีคนไม่พอ พวกคุณควรใช้เวลานี้เพื่อพักผ่อน เราจะออกเดินทางกันตอนเที่ยงคืน"

หลังจากที่ทุกคนออกจากห้องไป จูเหมียวเซียวก็รีบคว้าขวานของเธอคืนมา "พี่ชาย! นี่มันจะคุ้มกับผลที่ตามมาหรอ ทำไมคุณไม่เพิกเฉยต่อคำพูดของเขาไป"

"ผมทำอะไร ผมแค่เห็นขวานของคุณสวยดีเลยหยิบมาดูเฉยๆ" เกาหมิงเปิดห้องพักพนักงานภายในสำนักงานก่อนจัดที่นอนให้ว่านหยู "ว่านหยูคืนนี้คุณนอนที่นี่ไปก่อน ถ้าต้องการอะไรก็บอกฉันได้ นี่เบอร์ของฉัน"

หลังจากมั่นใจเรื่องว่านหยูแล้ว เกาหมิงก็กลับมานั่งพักผ่อนที่โต๊ะทำงาน รอเวลา

"คุณไม่เหมือนใครจริงๆ" จูเหมียวเซียวเห็นว่าในไม่ช้าเกาหมิงก็ผล็อยหลับไป อดยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าจะประเมินเกาหมิงว่าอย่างไรดี

บางคนอาจคิดว่าเอาเกาหมิงเอาแต่ใจ แต่เขาจะเป็นคนแรกที่พุ่งตัวเข้าหาอันตรายเพื่อคนอื่น

บางคนอาจจะคิดว่าเขาเฉยเมย แต่เขากลับดูแลเด็กกําพร้าที่มีปัญหาทางจิตเหมือนคนในครอบครัว

บางคนอาจจะบอกว่าเขาเห็นแก่ตัว แต่จากสิ่งที่เธอเห็น ภายในห้องพักพนักงานที่มีเตียงแค่สองเท่านั้น หลังจากจัดเตียงให้ว่านหยู เขาก็ปล่อยอีกเตียงที่ยังว่างอยู่เพื่อให้เธอพักผ่อน เพราะเขารู้ดีว่าเธอมีวันที่ยากลำบากแค่ไหน

'ถึงมีข้อบกพร่อง แต่เขาเป็นคนดีจริงๆ' เธอคิดกับตัวเองขณะที่ตั้งนาฬิกาปลุกและนอนลงบนเตียงเพื่อพักผ่อน ไม่ช้าก็ผล็อยหลับไป

เวลา 23.30 น. เกาหมิงตื่นขึ้นมาสวมเสื้อคลุมออกจากศูนย์ลี่ซานอย่างเงียบๆ ขึ้นขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเพื่อเดินทางไปถนนหมินหลงอีกครั้ง แม้ว่าการลาดตระเวนตอนกลางคืนมักจะใช้คนหลายคน แต่เกาหมิงรู้สึกมั่นใจพอที่จะจัดการเรื่องนี้คนเดียว

เมื่อถึงถนนหมิงหลง เกาหมิงจอดสกู๊ตเตอร์ก่อนเดินเข้าอาคารตรงไปยังห้องโถงชั้นสี่

เกาหมิงพบเก้าอี้ที่เสียหายแต่ยังพอนั่งได้อยู่ จึงยกเก้าอี้ขึ้นมาย้ายไปกลางห้องก่อนนั่งลง พร้อมกระเป๋าที่เต็มไปด้วยรูปถ่ายมรณกรรมบนหลังของเขา

ถ้ามีใครมาเห็นฉากนี้เข้าอาจจะตกใจกลัวได้

"สถานที่ ภาพถ่ายมรณกรรม สุดท้ายตัวเรา 'องค์ประกอบทั้งสามครบแล้ว' เหลือแค่เลียนแบบพฤติกรรมและนิสัยของผู้ตายก่อนเสียชีวิต" เกาหมิงพึมพำออกมาเบาๆ

ความคิดของเขาล่องลอยไปหาเด็กน้อยจากห้อง 405 'เด็กคนนั้นดูเหมือนจะยังมีชีวิตอยู่ แต่สภาพของเขาไม่ต่างอะไรกับผี'

เกาหมิงเริ่มปล่อยให้ความเจ็บปวดและความกลัวเติบโตขึ้นในหัวใจของเขา ไม่นานเกาหมิงเริ่มได้ยินเสียงทะเลาะดังขึ้น เสียงโต้เถียง เสียงจานแตก เสียงการตบตี ทุกเสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ผ่านช่องว่างประตูห้อง 405

"พึบ!" ทันใดนั้นเสียงที่นุ่มนวลแต่ชัดเจนของการปิดประตูตู้เสื้อผ้าดังขึ้น ดึงสติของเขากลับมา

ดวงตาของเกาหมิงเบิกโพรง เงาไม่ปรากฏขึ้น แต่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติรอบตัว

'เราเข้ามาแล้ว' เกาหมิงถือกระเป๋าสะพายหลังมุ่งไปยังห้อง 405 ผลักประตูออกอย่างระมัดระวัง ตรงไปยังที่มาของเสียง

เกาหมิงก้าวเข้าไปในห้องนอนเด็ก "เสียงมาจากตรงนี้สินะ" เกาหมิงกระซิบกับตัวเอง

ขณะที่ค่อยๆเปิดประตูตู้เสื้อผ้าออก กลับพบกับตุ๊กตาผ้าขาดๆภายในตู้

เกาหมิงรู้สึกงุนงง 'เราส่งให้ทางสำนักงานนำไปตรวจสอบแล้ว มันกลับมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?'

เกาหมิงหยิบตุ๊กตาออกมาอีกครั้ง มีเศษขนมตกลงพื้น เมื่อมองกลับเข้าไปในตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง บนผนังด้านในตู้ที่ขึ้นรา สามารถมองเห็นตัวอักษรที่เขียนไว้ด้วยดินสอสี - ออกไป ผมจะไม่ทำร้ายใคร

'......นี่ นับเป็นภัยคุกคามหรือเปล่า?' เกาหมิงเชื่อว่าเด็กชายไม่ใช่ผี เขาไม่เคยออกแบบผีให้เขียนตัวพินอินได้*

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เกาหมิงหยิบดินสอสีขึ้นมาเขียนลงบนพื้นที่ว่างในตู้เสื้อผ้า - ถนนหมินหลงอยู่ภายใต้การดูแลของฉัน ไม่ว่าจะขนม ของเล่น วีดีโอเกมหรือตำราเรียน ถ้าเธออยากได้อะไรขอแค่บอกฉันมา

เมื่อพบว่าไม่เหลือที่ว่าง เกาหมิงจึงบีบตัวเข้าไปในตู้เสื้อผ้าเพื่อหาที่ว่างเขียนต่อ - ถ้าเธอเหงาฉันจะเป็นเพื่อนให้เธอเอง ฉันหวังว่าเธอจะไม่ทำร้ายใครก็ตามที่ติดอยู่ในเงามืด

ภายในตู้เสื้อผ้าตอนนี้ดูรกไปด้วยข้อความราวกับถูกสาปแช่ง

เมื่อวางดินสอสีลง เกาหมิงบิดข้อมือซ้ายเล็กน้อย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ใครจำลายมือได้ เขาจึงเขียนด้วยมือซ้าย

เกาหมิงวางตุ๊กตากลับเข้าที่ แล้วเริ่มนั่งรอ

เวลาประมาณ 02.00 น.  สายรัดข้อมือของเขาสั่นอย่างกะทันหัน เปล่งแสงสีแดงสีเหลืองสลับกัน

"เกิดอะไรขึ้นทําไมไฟทั้งสองดวงถึงติดสลับกัน!?"

เมื่อเห็นข้อความปรากฏบนสายรัดใบหน้าของเกาหมิงก็บิดเบี้ยวซับซ้อน โดยไม่ชักช้าเขารีบเดินทางกลับไปที่สํานักงานสืบสวนหลี่ซานในทันที

หลังจากที่เขาจากไป ฉากประหลาดก็เกิดขึ้นในห้องนอน ตุ๊กตาผ้าที่ไม่น่าดูราวกับถูกสิง หยิบดินสอสีขึ้นมาและขีดฆ่าคําว่า'ตําราเรียน'

เกาหมิงรีบกลับไปที่สำนักงานลี่ซานด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เมื่อมาถึงเขาสัมผัสได้ถึงความเคร่งเครียดในอากาศ เจ้าหน้าที่ทุกคนดูตื่นตัวเป็นพิเศษ

ในไม่ช้าเฉินหยุนเทียนก็ปรากฏตัวขึ้นบนจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ภายในศูนย์ สีหน้าของเขาเคร่งขรึมและมืดมน

"ผู้อำนวยการ ทุกคนมาถึงแล้ว" หม่าเหลียนยืนอยู่ด้านหน้าสุดพูดออกมาเบาๆ ตอนนี้เขาไม่กล้าพูดเสียงดังเกินไป

เฉินหยุนเทียน ด้วยท่าทางเคร่งขรึมเขาแจ้งข่าวร้ายว่า "เราเพิ่งได้รับการยืนยันว่าทีมสืบสวนที่ส่งไปเขตตะวันออกทั้งหมดหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย.."

การประกาศนี้ส่งคลื่นกระเพื่อมไปทั่วห้อง ไป๋เสี่ยวถือเป็นบุคลากรที่สำคัญของสำนักงานสืบสวนลี่ซาน ด้วยสัญชาตญาณเหนือมนุษย์และประสาทสัมผัสที่เฉียบคม เคยผ่านประสบการณ์ระดับสามถึงสี่ครั้งในซินลู่

ทีมหนึ่งเคยเป็นทีมที่ดีสุดของสำนักงานสืบสวนลี่ซาน แต่ตอนนี้กลับเหลือเพียงสอง คนหนึ่งเพิ่งเข้าร่วม ส่วนอีกคนยังไม่มีแม้แต่สายรัดข้อมือ

"ท่านผู้อํานวยการ เกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์ผิดปกติในเขตตะวันออก!" หม่าเหลียนตกใจมาก

"ฉันกําลังรีบไปที่โรงพยาบาลพิเศษที่จัดตั้งขึ้นโดยศูนย์สืบสวนเมืองตะวันออก มีเจ้าหน้าที่สองคนเท่านั้นที่หลบหนีออกมาได้ หนึ่งในนั้นสูญเสียแขนและขา ไม่นานก็เสียชีวิต อีกคนแม้จะยังมีชีวิตอยู่แต่...เสียสติไปแล้ว" สายตาของเฉินหยุนเทียนจับจ้องไปที่เกาหมิงชั่วครู่ในขณะที่อธิบาย "ฉันจะกลับมาก่อนรุ่งสาง รักษาหน้าที่ตามปกติของคุณไว้ งานที่ปกติมอบหมายให้กับทีมหนึ่งจะถูกแจกจ่ายไปยังทีมอื่นชั่วคราว"

เมื่อการฉายภาพสิ้นสุดลง มีเพียงเสียงของลมหายใจ ทุกคนยังไม่ฟื้นสติจากข่าว

'มีกี่คนที่ถูก'กลืนกิน'โดยเหตุการณ์ผิดปกตินี้? ฉินเทียน ไป๋เสี่ยว แม้แต่...บุคลากรชั้นยอดของเขตอื่นๆ' ยิ่งเกาหมิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติมากขึ้นเท่านั้น 'ยิ่งเรื่องราวสยองขวัญมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแทรกซึมเข้ามาได้ช้าลงเท่านั้น การเร่งกระบวนการต้องใช้อารมณ์ด้านลบจำนวนมาก มีคนจงใจเร่งกระบวนการอยู่แน่ๆ แต่ใครกัน?'

ทันทีที่ความคิดนี้ปรากฏขึ้น เกาหมิงเริ่มรู้สึกหนาวสั่นไปถึงขั้วหัวใจ 'ไม่ได้! เราจะปล่อยให้เหตุการณ์นี้เติบโตต่อไปไม่ได้! เราต้องรวบรวมคนแล้วมุ่งหน้าไปที่นั่นในคืนพรุ่งนี้!'

เกาหมิงคว้าโทรศัพท์ของเขาและโทรหาหยานฮัวโดยไม่ลังเล โดยสั่งให้เขามาที่สํานักงานสืบสวนหลี่ซานในตอนเช้า

แต่ยังไม่ทันเช้า เพียงสองชั่าโมงต่อมา หยานฮัวก็ปรากฏตัวนอกศูนย์สืบสวนลี่ซาน ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตรวมถึงรอยสักที่น่าสยดสยองของเขา ดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที

"ทําไมคุณถึงมาที่นี่เร็วจัง คืนนี้คุณไม่มีแมตช์เหรอ?" เกาหมิงสอบถาม ระหว่างพาหยานฮัวเข้าไปในสำนักงานของทีมสืบสวนที่หนึ่ง

"คุณต้องการให้ผมทําอะไร" คําตอบของหยานฮัวนั้นตรงไปตรงมา

"สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว คืนพรุ่งนี้ผมต้องการเข้าสู่เหตุการณ์ผิดปกติ......" เกาหมิงอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเขตตะวันออก

"ถ้าเรื่องไร้สาระนี่ไม่จริง ผมจะเป็นคนแรกที่ฆ่าคุณ" หยานฮัวเลือกที่จะเชื่อเกาหมิง เขาดึงป้ายเงินออกจากแขนเสื้อแล้วโยนลงบนโต๊ะ "ในวงการใต้ดิน ทุกคนรู้จักผมในฐานะหมายเลขสิบเจ็ดเวลาอยู่ข้างนอกให้เรียกผมสิบเจ็ด"

"ได้"

เมื่อเกาหมิงกําลังเตรียมตัวสำหรับภารกิจในคืนพรุ่งนี้ เฉินหยุนเทียนก็กลับมาที่ศูนย์ เขามอบหมายงานให้กับทีมอื่นแล้วเดินไปที่สํานักงานของทีมหนึ่ง

เขาเป็นคนเชิญเกาหมิงมา เวลาผ่านไปไม่ถึงสี่สิบแปดชั่วโมง ตอนนี้เหลือเพียงสองจากคนทั้งหมด ด้วยอัตราการหายตัวไปที่สูงเช่นนี้ถ้าเขาเป็นเกาหมิงเขาคงเลือกที่จะจากไปอย่างแน่นอน แค่คิดก็ทำให้เฉินหยุนเทียนปวดหัว

ขณะที่เขาเปิดประตูห้องสำนักงานเพื่อเตรียมพร้อมสําหรับความเป็นไปได้ที่เกาหมิงจะลาออก เขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างไม่คาดคิดจากร่างสูงเกือบสองเมตรอันโอ่อ่าของหยานฮัว

"นี่ใคร?!"

*พินอิน ระบบการถอดเสียงภาษาจีนมาตรฐานด้วยอักษรละติน (อักษรโรมัน) ทำให้สามารถอ่านภาษาจีนง่ายขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด