53

  ก็เหมือนกับที่เขาไม่ค่อยจะเข้าไปยุ่งกับอาณาจักรแก๊งค์ของคิงพิน เพราะว่าไม่จำเป็น ทั้งสองฝ่ายต่างกันเกินไป

  ไม่ใช่คนในระดับเดียวกัน!

  【ถึงแม้ว่าจะเพื่อนำไปสู่เรื่องของแมงมุมสามตัว แต่สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ร้ายแรงขนาดนี้ก็ยังคงอยู่ที่ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์เอง แต่ถ้าละทิ้งความจริงไปแล้ว แปลว่าด็อกเตอร์สเตรนจ์ไม่มีส่วนผิดเลยหรือ? แปลว่าโทนี่ สตาร์คตายไปแล้วจะไม่ต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้เลยหรือ? (หัวเราะเยาะ)】

  โทนี่ สตาร์คเห็นเนื้อหาใหม่ที่อัปเดตในไดอารี่แล้ว ความดันโลหิตสูงขึ้นมาทันที

  ฟังสิ นี่มันคำพูดของมนุษย์หรอ?

  โอ้โห้ ละทิ้งความจริงไปแล้ว!

  อะไรนะที่ว่าเขาตายไปแล้วจะไม่ต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้?

  ตัวเองตายไปแล้ว จะรับผิดชอบยังไง?

  ทุกคนมองโทนี่ สตาร์คด้วยสายตาแปลกๆ เพราะว่าถ้าหลินเฟิงไม่ได้พูดเล่น แสดงว่าโทนี่ สตาร์คอาจจะตายในอนาคตจริงๆ

  โทนี่ สตาร์คได้แต่ยักไหล่และพูดด้วยท่าทางสบายๆ ว่า "คนเราก็ต้องตายอยู่แล้ว มีใครที่ไม่ตายบ้างล่ะ แปลกตรงไหน?" ต่อหน้าสายตาแปลกๆ ของทุกคน

  เอาล่ะ จริงๆ แล้วเขาไม่ได้สงบเลย เพียงแต่ว่าความตื่นเต้นทั้งหมดได้ผ่านไปแล้วตั้งแต่ตอนที่คาดการณ์ว่าเขาอาจจะตาย ตอนนั้นเขาทั้งพลิกตัวไปมาทั้งคืนนอนไม่หลับ

  เพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าวันหนึ่งในอนาคตตัวเองจะต้องตายได้อย่างใจเย็น เมื่อตัวเองยังหนุ่มยังมีชีวิตที่ดีอยู่

  แต่ไม่ว่าเขาจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจ นี่ก็เป็นเรื่องของอนาคต

  ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป!

  และเขาก็ปลอบใจตัวเองว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในตัวเขาแล้ว บางทีอนาคตอาจจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็ได้

  ทุกคนก็โดดขึ้นมาทันทีและเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อโทนี่ สตาร์คในทันที คาดไม่ถึงว่าเขาจะมีด้านที่เปิดกว้างขนาดนี้

  “แมงมุมสามตัวในนี้ มันคือแมงมุมที่หลินเฟิงเคยพูดถึงใช่มั้ย ที่สามารถเดินทางข้ามจักรวาลได้?” แบล็กวิโดว์ นาตาชาพูดขึ้นมา "ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็คงสนุกน่าดูเลยใช่มั้ยล่ะ?"

  ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ตอนนี้พวกเขาสามารถเห็นสไปเดอร์เกิร์ลได้แล้ว ถ้าแมงมุมหลายๆ ตัวมารวมตัวกัน มันคงจะสนุกมาก

  “แต่คำพูดของหลินเฟิงมันแปลกๆ นะ อะไรคือเพื่อนำไปสู่เรื่องของแมงมุมสามตัว คำพูดแบบนี้มันแปลกๆ!” โคลสันพึมพำ

  “เขาพูดแปลกๆ เยอะแยะไปหมด คำพูดหลายๆ อย่างตอนนั้นเราไม่เข้าใจ แต่พอมาเจอในไดอารี่อีกครั้งก็ถึงบางอ้อ!”

  ฮอว์คอาย บาร์ตันพูดขึ้นด้วยท่าทางคุ้นเคย เห็นได้ชัดว่าสำหรับเขาแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะว่ายังไงก็ต้องรู้ในอนาคตอยู่แล้ว

  ทุกคนยังไม่ทันได้คิดอะไรมากเท่าไหร่ วิดีโอใหม่ก็ปรากฏขึ้นในสมุดไดอารี่

  【อันดับสามของมาร์เวล จอมปากเสียที่ปากเสียกว่าโทนี่ สตาร์ค ปากเสียขนาดไหนถึงก่อวิกฤตระดับมัลติเวิร์สได้ (หัวเราะ)】

  เปลือกตาของโทนี่ สตาร์คกระตุกเล็กน้อย เขาคิดว่าหลินเฟิงกำลังจงใจพูดถึงเขา แน่นอนว่าจงใจพูดถึงเขา!

  เขาเป็นจอมปากเสียตรงไหน?

  เขาเป็นคนจริงจังและเย็นชา ดูยังไงก็เป็นหนุ่มหล่อมาดขรึม จะเป็นจอมปากเสียได้ยังไง?

  นี่มันต้องเป็นการใส่ร้ายป้ายสีแน่นอน。。。มั้ง!!!

  ทุกคนไม่ได้สนใจเรื่องนี้ รีบกดเข้าไปดูเลยว่าวิกฤตระดับมัลติเวิร์สที่ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง

  สิ่งแรกที่ปรากฏขึ้นในสายตาของทุกคนคือภาพที่มืดมิด พร้อมกับเสียงบรรยายที่ทำเป็นลึกลับ

  “เรามีเบื้องหลังของเหตุการณ์โจมตีในลอนดอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อ ให้วิดีโอนี้มา!”

  “เควนติน เบค หรือที่รู้จักกันในชื่อมิสเตริโอ เขาเตือนก่อนที่จะเสียชีวิตว่าวิดีโอนี้โหดร้ายมาก!”

  พร้อมกับเสียงบรรยายที่เหมือนกับเสียงพากย์นี้ ก็มีเสียงที่ค่อนข้างรีบร้อนตามมา

  “ฉันส่งเอเลเมนทอลไปในช่องว่างเวลา แต่ฉันคงจะไม่รอดแล้ว สไปเดอร์แมนโจมตีฉันโดยไม่ทันตั้งตัว เขามีโดรนโจมตี เขามีเทคโนโลยีของสตาร์ค เขาก็บอกว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่จะเป็นไอรอนแมนคนต่อไป!”   

  เป็นใบหน้าของชายวัยกลางคนผิวขาวมีเคราแพะ เขาพูดด้วยความตกใจกลัว

  “คุณแน่ใจหรือที่จะใช้โดรนโจมตี?”

  ในตอนนี้ เสียงของ AI อัจฉริยะอย่างฟรายเดย์ก็ดังขึ้น

  “มันจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง!”

  “ใช้ทั้งหมด!”

  เสียงของสไปเดอร์แมนตัวน้อย ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ดังมาจากนอกจอ

  “วิดีโอน่าตกใจนี้เผยแพร่บนเว็บไซต์ของเดลี่ บิวเกิลเมื่อไม่นานมานี้!”

  “นี่คือหลักฐานที่พิสูจน์ว่าสไปเดอร์แมนฆ่ามิสเตริโออย่างโหดเหี้ยม เพื่อปกป้องโลก นักรบข้ามมิติที่เสียสละตัวเอง เขาคือสุดยอดซูเปอร์ฮีโร่ในประวัติศาสตร์ แต่ไม่เพียงแค่นี้ นี่คือสิ่งที่เปิดเผยออกมาจริงๆ คุณควรจะนั่งลงก่อน...”

  จากนั้นก็เป็นมิสเตริโอที่ตกใจกลัวกำลังเปิดเผยความลับ “ชื่อจริงของสไปเดอร์แมนคือ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์!”

  ภาพเปลี่ยนไป รูปถ่ายปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ตอนโตเต็มวัยก็ปรากฏขึ้นบนจอยักษ์

  และในขณะเดียวกัน บนเสาไฟถนนในย่านที่คึกคักของนิวยอร์ก ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ก็ได้เห็นภาพนี้เช่นกัน เขาตกใจจนร้องออกมาว่า “อะไรวะเนี่ย?!”

  ในตอนนี้ ภาพในวิดีโอก็เป็นบรรณาธิการของเดลี่ บิวเกิลที่กำลังพูดด้วยท่าทีแน่วแน่ว่า “ถูกต้องแล้ว ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ นักเรียนมัธยมวัย 17 ปีที่โหดเหี้ยม...” เป็นนักเลงหัวไม้ที่ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ เป็นสไปเดอร์แมนที่เป็นคนเลวตัวฉกาจ!”

  ในฝูงชน ชายชาวเอเชียคนหนึ่งก็ดึงตัว MJ มาถามว่า “เธอเป็นแฟนสาวของสไปเดอร์แมนเหรอ?”

  ในที่สุด ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ตัวน้อยก็กระโดดเข้ามาเพื่อช่วยแฟนสาวของตัวเอง แต่ตอนนี้เขาก็ถูกล้อมรอบไปด้วยฝูงชนแล้ว

  “คุณเป็นเด็กเหรอ?”

  เห็นได้ชัดว่าคนคนนี้ไม่คิดว่าสไปเดอร์แมนชื่อดังจะยังเป็นเด็ก

  “คุณฆ่ามิสเตริโอเหรอ?”

  “คุณเป็นพวกเดียวกันเหรอ?”

  ฝูงชนโกลาหลอลหม่าน บางคนก็พยายามจะแกล้ง ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ก็เลยต้องใช้ใยแมงมุมพาแฟนสาว MJ หนีออกจากที่เกิดเหตุ

  “ทุกคนเคารพเขามาก พวกเขาคิดว่าเขาเป็นฮีโร่ แต่ฉันจะคิดว่าเขาเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง!”

  วิดีโอมาถึงตรงนี้ สำหรับทุกคนแล้ว ข้อมูลที่ได้รับนั้นมีมากมายมหาศาล

  ทุกคนก็หยุดวิดีโอในสมุดไดอารี่ไว้ชั่วคราวเพื่อวิเคราะห์ เพราะว่าข้อมูลมันเยอะเกินไป ถ้าไม่จัดการให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะรู้สึกว่าไม่สามารถดำเนินการต่อได้

  “อย่างแรกเลยคือเรื่องอายุ จากการสืบสวนของเรา ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์น่าจะเกิดในปี 01 ดังนั้นถ้าในวิดีโอพูดว่าเขาอายุ 17 ปีไม่ผิด ภาพนี้ก็น่าจะปรากฏขึ้นในอีก 9 ปีข้างหน้าในปี 2017!” แบล็กวิโดว์ นาตาชาพูดขึ้นมา

  “ก็แปลว่าตอนนั้นฉันตายไปแล้วเหรอ?” โทนี่ สตาร์คก็คาดไม่ถึงว่าตัวเองจะตายเร็วขนาดนี้ ตอนนี้ตัวเองก็เพิ่งจะอายุสามสิบกว่าๆ ถึงตอนนั้นก็แค่สี่สิบกว่าๆ เท่านั้นเอง แต่ตัวเองกลับตายเร็วขนาดนี้?