48

คิงพินได้รับการขนานนามว่าเป็นจักรพรรดิใต้ดินทั้งเมืองนิวยอร์ก แม้แต่ในทั้งประเทศสหรัฐอเมริกาก็ยังมีอิทธิพลมหาศาล ลูกน้องของเขาแม้จะมีระดับเหนือธรรมชาติไม่มากนัก แต่กองทัพนาวิกโยธินสหรัฐและกองกำลังพิเศษที่เก่งกาจอื่นๆ นั้นมีจำนวนมากมาย

แม้แต่เขายังสามารถหาอุปกรณ์ที่เชี่ยวชาญที่สุดมาให้พวกเขาได้ ซึ่งเทียบเท่ากับกองทัพขนาดเล็ก

ครั้งนี้บุกเข้ามาโดยตรง มีมากถึงร้อยคน!

บลูอาย หัวหน้า เห็นลักษณะของหลินเฟิงแล้วก็ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มชาวเอเชียตรงหน้าจะเป็นโฮมแลนเดอร์ที่ทำลายธุรกิจหลายอย่างของพวกเขาไป

แม้ว่าคิงพินจะสืบสวนจนมาถึงที่นี่ตามร่องรอย แต่ก็ยังไม่รู้จักตัวตนของหลินเฟิง

"บุกรุกเข้ามาในบ้านของเจ้าของโดยไม่ได้รับอนุญาต นี่มันไม่มีมารยาทเลย!"

แววตาของหลินเฟิงเต็มไปด้วยความโกรธ ตอนนี้ที่นี่ถูกทำลาย เสียงที่เกิดขึ้นก็ไม่น้อย ตอนจัดการก็จะยุ่งยาก ที่สำคัญที่สุดคือหลินเฟิงไม่ต้องการให้เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อครอบครัวของเขา

ซูเปอร์ฮีโร่หลายคนเลือกที่จะปกปิดชื่อจริงก็เพราะไม่อยากเปิดเผยตัวตน

ซูเปอร์ฮีโร่ที่เปิดเผยตัวตนในอดีตไม่มีจุดจบที่ดีนัก มักจะส่งผลกระทบต่อญาติและเพื่อนของตนเองในที่สุด

แม้แต่โทนี่ สตาร์กที่ยอมรับในตัวตนของตัวเองหลังจากนั้น ในไอรอนแมน 3 ก็ยังถูกดร.คิลเลียนส่งคนไประเบิดคฤหาสน์จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด

พูดตามตรง หากไม่มีแสงคุ้มครองของตัวเอก คนๆ นั้นคงต้องตายอยู่ในคฤหาสน์

ดังนั้นหากจะกล่าวว่าก่อนหน้านี้ทัศนคติของหลินเฟิงยังคงมีส่วนของความสนุกสนาน ไม่ได้สนใจคิงพิน แต่ตอนนี้คิงพินสามารถติดตามไปยังห้องฝึกซ้อมของเขาได้แล้ว ตอนนี้ยังเห็นหน้าเขาอีก ดังนั้นไม่ช้าก็เร็วก็จะสืบหาตัวตนของครอบครัวเขาได้

นี่เป็นสิ่งที่หลินเฟิงไม่สามารถยอมรับได้!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ความโกรธในใจของหลินเฟิงก็เริ่มเดือดพล่าน

"ฆ่า!"

บลูอาย ไม่ลังเล ในความเป็นจริง ก่อนที่จะติดตามมาถึงที่นี่ พวกเขาก็ได้ตรวจสอบวิดีโอที่เกิดเหตุหลายๆ ครั้ง ซึ่งพลังที่หลินเฟิงแสดงออกมานั้นน่าทึ่งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคนิคการต่อสู้ น่าจะเป็นการเรียนรู้กังฟูของจีน

บลูอาย เองก็ถือว่าเป็นปรมาจารย์ด้านการต่อสู้เช่นกัน จึงมองออกได้ง่ายๆ ว่าเทคนิคการต่อสู้ของหลินเฟิงนั้นมีเทคนิคการต่อสู้ของกังฟูหลายรูปแบบผสมผสานอยู่

เทคนิคการต่อสู้เช่นนี้เมื่อรวมกับพลังของหลินเฟิงที่แสดงออกมาซึ่งเกือบจะถึงขีดสุดของร่างกายมนุษย์แล้ว ในสายตาของเขาแล้วก็เป็นบุคคลที่อันตรายมาก

ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่ได้คิดที่จะจับตัวมาสอบถามก่อน แต่ลงมือโดยตรงเลย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะคิดว่าเตรียมพร้อมแล้วและจัดการกับพลังการต่อสู้ของหลินเฟิง แต่ในความเป็นจริงก็ยังประเมินหลินเฟิงต่ำเกินไป

"ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง!"

เสียงปืนกลดังขึ้นในที่เกิดเหตุ

ในกระบวนการนี้ หลินเฟิงแสดงความเร็วที่น่ากลัวมาก ร่างกายกระพริบไปมา หลบหลีกการยิงปืนกลเหล่านี้ได้อย่างหมดจด

ก่อนอื่นเขาเล็งไปที่พวกที่ถือจรวดก่อน หากปล่อยให้พวกเขายิงระเบิดอย่างบ้าคลั่ง โรงงานแห่งนี้ก็คงพังพินาศ

เขาหยิบลูกแก้วออกมาจากกระเป๋า ซึ่งเป็นอาวุธโจมตีระยะไกลที่เขาเตรียมไว้ให้ตัวเองก่อนที่จะพัฒนาวิธีโจมตีระยะไกลอย่างเลเซอร์อาย

ลูกแก้วเหล่านี้ทำจากโลหะผสมชนิดพิเศษมีความแข็งแกร่งมาก

และในเวลานี้ ในมือของหลินเฟิงก็แสดงพลังที่ยากจะจินตนาการได้

"ฟิ้ว!"

เสียงทะลวงอากาศที่น่ากลัวดังขึ้น เจ้าหน้าที่ติดอาวุธของคิงพินที่ถือจรวดอยู่ด้านหลังคนหนึ่งครางออกมาแล้วล้มลงทันที หน้าผากของเขาถูกยิงเป็นรูเลือด

บลูอาย รู้สึกขนลุกในทันที พลังของเขาอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่คนทั้งหมด ดังนั้นความรู้สึกอันตรายจึงแรงกล้าที่สุดเช่นกัน ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที เขาก็รู้สึกถึงความน่ากลัวของบุคคลตรงหน้า

ความเร็วเหมือนปีศาจ ลูกแก้วที่ขว้างออกไปด้วยมือเปล่ากลับเร็วกว่าเสียงได้ เสียงทะลวงอากาศที่น่ากลัวนั้นชัดเจนว่าเป็นเสียงระเบิดเหนือเสียง

นี่คือมนุษย์?

เขาก็เป็นปรมาจารย์ด้านการขว้างปาอาวุธเช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถบรรลุขั้นของหลินเฟิงได้อย่างแน่นอน!

พูดอย่างแม่นยำ เขาก็เป็นปรมาจารย์ด้านเทคนิค ส่วนหลินเฟิงในแง่นี้เป็นเพียงการใช้พลังล้วนๆ

อาศัยเพียงการมองเห็นแบบไดนามิกที่น่ากลัวของตัวเอง ผสานกับพละกำลังที่เหนือมนุษย์จึงสามารถสร้างผลลัพธ์ที่เหลือเชื่อเช่นนี้ได้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขาตกใจ หลินเฟิงก็ขว้างลูกแก้วทีละสามลูกออกไป เพียงไม่กี่ลมหายใจก็ฆ่าเจ้าหน้าที่ติดอาวุธที่ถือจรวดเหล่านั้นจนหมดสิ้น

"ฆ่าเขา ยิง!"

บลูอาย ตะโกนด้วยความตกใจ

ในที่สุดเขาก็เป็นเพียงตัวร้ายทั่วไปในกลุ่มฮีโร่ในเมือง ในแง่ของพลังก็ไปถึงขีดสุดของมนุษย์แล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับมนุษย์เหนือธรรมชาติอย่างหลินเฟิงที่ไม่ใช่คนแล้ว ก็ไม่มีโอกาสชนะเลย

ร่างของหลินเฟิงเหมือนปีศาจ กระพริบไปปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าหน้าที่ติดอาวุธเหล่านั้นทันที เทคนิคการใช้พลังแบบข้ามภูเขาตีวัว หมัดเดียวก็ต่อยทะลุเสื้อเกราะกันกระสุนของพวกเขา หลังของพวกเขายื่นออกมาทันที ถูกหลินเฟิงต่อยฆ่าตาย

ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต่อยคนละหมัดตาย!

เจ้าหน้าที่ติดอาวุธระดับกองกำลังพิเศษกว่าร้อยคน พร้อมด้วยอาวุธที่หรูหรา แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับผู้ก่อการร้ายนับพันก็ยังสามารถต่อสู้ได้ แต่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเฟิงเลย ถูกฆ่าตายในเวลาเพียงไม่กี่นาที

ในเวลานี้ หลินเฟิงได้แสดงเทคนิคการต่อสู้ที่เขาเรียนรู้ในช่วงเวลานี้จนถึงขีดสุด

อย่างไรก็ตาม นี่ก็ยังไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา หากพัฒนาเลเซอร์อายในภายหลัง เพียงมองก็สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้ ซึ่งสะดวกกว่าตอนนี้มาก

นี่ก็เป็นเหตุผลพื้นฐานที่ทำให้หลินเฟิงถ่อมตัวในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะเริ่มก้าวไปสู่ขั้นแรกของการไม่เป็นคนแล้ว แต่ก็ยังห่างไกลจากระดับที่ไม่มีใครเทียบได้

เมื่อเผชิญหน้ากับการสังหารที่รวดเร็วเช่นนี้ แม้ว่าสภาพจิตใจจะแข็งแกร่งอย่างบลูอาย ก็ยังตกใจจนตัวสั่น

พูดก็พูดเถอะ หลินเฟิงก็ต่อยออกไปทันที ทันใดนั้นก็เกิดลมกรดที่น่ากลัวขึ้นมา ในเสี้ยววินาทีเดียวก็จะต่อยหัวบลูอายจนตาย

บลูอาย ไม่สามารถต่อต้านได้เลย ราวกับว่าตัวเองได้พบกับสัตว์ป่าโบราณ ถูกพลังของหลินเฟิงข่มขู่จนไม่สามารถขยับตัวได้

ในตอนที่เขาคิดว่าหัวของตัวเองจะถูกหมัดที่ใหญ่เท่ากระสอบทรายนี้ต่อยจนระเบิด ก็เห็นว่าหมัดขนาดใหญ่เท่ากระสอบทรายหยุดอยู่ห่างจากตัวเองหนึ่งเซนติเมตร

ในเวลานี้ เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าร่างกายของตัวเองเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็นราวกับเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ

ในเวลานี้ อาชญากรสุดโหดที่มองความเป็นความตายเป็นเรื่องธรรมดาคนนี้ เพิ่งจะได้สัมผัสเป็นครั้งแรกจริงๆ ว่าความตายนั้นน่ากลัวเพียงใด

เดิมทีความตายเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก

ตอนนี้ ในที่สุดก็รอดชีวิตแล้ว