แค่ได้ร่วมทีมก็เป็นบุญแล้ว ไม่ต้องเอาส่วนแบ่งหรอก (อ่านฟรี 29/07/2567)
“ผิวหนัง เนื้อ ขา พวกเราจะแบ่งออกเท่า ๆ กันสำหรับสิบคน มีใครจะเสนอความเห็นอะไรไหม ?” ทวันซูกล่าวถามออกมา
“ฉันว่าเราแบ่งกันเก้าส่วนจะดีกว่านะ สำหรับคนแบกของไม่ต้องมีหรอก แค่ได้มาเกาะดูดเวลฟรี ๆ ก็เกินพอแล้วมั้ง ?” ซาฮา นักธนูประจำทีมที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้าคริสมากนักกล่าวออกมา
ซึ่งนั่นก็ทำให้สมาชิกทีมคนที่เหลือรู้สึกคล้อยตามไม่ได้ ถ้าตัดตัวหารออกไปคนหนึ่งมันก็ทำให้พวกเขาได้รับส่วนแบ่งมากขึ้น ยังไงก็มีแต่ผลดี
อีกอย่างคนแบกของก็เป็นแค่นักผจญภัยแรงค์ F แค่ได้รับรางวัลจากการเคลียดันเจี้ยนก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว
ดังนั้นสมาชิกคนที่เหลือจึงไม่มีใครกล่าวแย้งอะไร รวมถึงคริสก็เช่นกัน เพราะเขาไม่ได้ใส่ใจกับมอนสเตอร์ระดับสามตรงหน้าสักนิด เขาเพียงต้องการเก็บประสบการณ์ในการเข้าดันเจี้ยนก็เท่านั้น แต่ถ้าเป็นบอสมอนสเตอร์ระดับสามก็ค่อยน่าสนใจหน่อย
“ขอโทษด้วยนะครับคุณคริส...” ทวันซูที่ขัดอะไรคนในทีมไม่ได้ เขาจึงเดินมากล่าขอโทษชายหนุ่มที่รับหน้าที่แบกสัมภาระขนาดใหญ่ของทีม
“ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้ใส่ใจมันหรอก” คริสตอบกลับไปตามตรง ในเวลานี้เขากำลังให้ความสนใจกับเลเวลของตัวเองที่เพิ่มขึ้นมาอยู่
‘แค่อยู่ในทีม ก็ได้เลเวลเพิ่มขึ้นมาสี่เลเวล ตอนนี้ข้าเลเวลห้าแล้ว’ ชายหนุ่มเปิดหน้าต่างสเตตัชขึ้นมาดูก่อนจะรู้สึกแปลก ๆ อยู่บ้าง
เพราะพอเลเวลเขาอัพ เขาก็จะได้รับค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นมาบางส่วน และได้รับพอยท์ไว้อัพแยกอีกต่างหากด้วย
[ คริสกุซ เซอวัล
อายุ 18 ปี ส่วนสูง 175ซม.
อาชีพ : ผู้กลืนกินสรรพสิ่ง
เลเวล
ค่าพลังโดยรวม 550
พลังทำลาย (โจมตี) 55+5
พลังป้องกัน 40+5
พลังเวทย์ 10+1
สตามิน่า (ความอึด) 50+1
ความว่องไว 68+2
แต้มคงเหลือ 4 พอยท์ ]
ในตอนนี้ค่าพลังของคริสอยู่ในระดับเดียวกับนักผจญภัยแรงค์ D ทั้งพลังทำลาย พลังป้องกัน สตามิน่า ความว่องไว มีเพียงพลังเวทย์เท่านั้นที่เป็นเพียงแรงค์ F ชายหนุ่มรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างที่ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องฝึกฝนเช่นนี้
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดจนเขาอธิบายออกมาไม่ถูก
“มาแบ่งส่วนของแต่ละคนกันเถอะ! ผมเอากล่องเก็บวัตถุดิบมาด้วยสิบกล่อง แบ่งกันคนละกล่องก็จะครบพอดี” ทวันซูที่ได้ยินคำตอบของคริสรวมถึงสังเกตดูแล้วว่าเขาไม่ได้ใส่ใจจริง ๆ ก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย เพราะซากมอนสเตอร์เหล่านี้นั้นขายได้ราคาเยอะพอตัวเลยทีเดียว
อีกฝ่ายที่เป็นเพียงนักผจญภัยแรงค์ F ทำไมถึงไม่สนใจกันนะ ? แต่เขาก็ไม่ได้เก็บมาคิดนานนัก เขาเดินไปหยิบกล่องเก็บวัตถุดิบจากกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ที่คริสแบกมาไปแจกให้กับทุกคน
มันเป็นกล่องขนาดประมาณหนึ่งไม้บรรทัด ทำจากวัตถุดิบอะไรสักอย่างที่เป็นสีเงิน มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ลวดลายสีฟ้าอ่อนบนตัวกล่องคือวงจรเวทมนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษด้วยผู้ปลุกพลังสาขาการผลิต ทำให้พื้นที่ด้านในกล่องแห่งนี้มีขนาดกว้างถึงสี่ตารางเมตร แถมยังสามารถปรับเปลี่ยนอุณหภูมิได้อีกด้วย
ครึ่งหลัง
“งั้นก็มาแล่มอนสเตอร์กันเถอะ!” ชายซึ่งมีอาชีพเป็นหัวขโมยกล่าวออกมา ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปแล่มอนสเตอร์แมงป่องยักษ์อย่างคล่องแคล่ว
การจะหาเงินสำหรับนักผจญภัยนั้นมีอยู่หลายวิธี นอกจากเคลียดันเจี้ยน หาของขาย ก็มีชำแหละซากมอนสเตอร์เพื่อขายนี่แหละที่ได้ราคาดี พวกเขาเป็นเพียงนักผจญภัยไร้สังกัดย่อมทำเรื่องพวกนี้มาจนเคยชินอยู่แล้ว
“ขอข้าลองชำแหละด้วยได้ไหม ?” คริสที่มองอยู่ก็เกิดความสนใจขึ้นมาจึงลองกล่าวถามดู
“นายเคยชำแหละมอนสเตอร์ด้วยเหรอ ?” ชายผมแดงที่มีอาชีพเป็นนักรบดาบถามออกมา เขามองอีกฝ่ายด้วยความคลางแคลงใจ
“เคยครั้งนึง ข้าแค่อยากลองแล่ แต่ข้าจะไม่รับส่วนแบ่งอย่างแน่นอน” คริสที่เห็นความสงสัยในดวงตาของอีกฝ่ายจึงชิงกล่าวออกมา เมื่ออีกฝ่ายได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้าให้ก่อนจะหันไปมองทุกคน
แน่นอนว่าถ้าคริสไม่เอาส่วนแบ่งก็ไม่มีใครคัดค้านอะไร ดีเสียอีกจะได้เปลืองแรงในการแล่ด้วยตัวเองอีกต่างหาก นอกจากนี้ถึงจะแล่ซากมอนสเตอร์ได้แย่แค่ไหนมันก็คงเป็นชิ้นเป็นอันบ้างแหละ
“ตกลงตามนั้น เชิญนายแล่ได้เลย แต่ทำตามที่ฉันบอกด้วยล่ะ” ชายผมแดงตอบกลับมาซึ่งสมาชิกในทีมคนอื่นก็ไม่ได้คันค้านอะไร
เนื่องจากซากมอนสเตอร์มีขนาดใหญ่จึงทำให้การแล่ซากเป็นไปอย่างเชื่องช้า ทั้งต้องตัดขาแต่ละปล้องอย่างละมัดระวัง เลาะเส้นพิษโดยไม่ให้มันแตกออก เลาะผิวหนังที่แข็งเหมือนเหล็กออกโดยไม่ให้กระทบกับเนื้อภายใน ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงจึงจัดการเสร็จ
เมื่อแล่เสร็จก็นำซากมอนสเตอร์ใส่ในกล่องเก็บวัตถุดิบทั้งเก้ากล่องเท่า ๆ กัน มีเพียงหาง แก่นเวทย์ เส้นพิษ ที่มีเพียงหนึ่งอัน และก้ามสองข้าง ที่แบ่งกันได้ไม่ลงตัว จึงตัดสินใจว่าเก็บไว้ในกล่องของคริสชั่วคราวแล้วค่อยแบ่งกันทีหลัง
“ดูเหมือนจะได้เลเวลเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย ส่วนทักษะไม่มีอะไรพัฒนาขึ้นสักเท่าไร” สาวผมทองผู้ใช้แส้เป็นอาวุธกล่าวออกมาหลังจากเช็ครายงานที่แจ้งเตือนเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งสมาชิกในทีมส่วนใหญ่ก็ได้เลเวลเพิ่มกันคนละหนึ่งถึงสองเลเวล ที่ขึ้นน้อยแค่นี้ทั้งที่เป็นคนลงมือโจมตีก็เป็นเพราะพวกเขาส่วนใหญ่มีเลเวลประมาณ 10-15 กันแล้วนั่นเอง
“ก็ยังดีนะที่เลเวลอัพกัน” หมอยาที่กำลังผสมยาอยู่กล่าวออกมา เขากำลังผสมยาที่ใช้ในการต้านความร้อนอยู่ ถึงแม้มันจะออกฤทธิ์ได้เพียงไม่นานแต่ก็คุ้มค่าที่จะทำไว้
“นั่นสินะ แบบนี้คนไร้ประโยชน์บางคนก็คงได้เลเวลเหมือนกัน” ชายหัวสามสีที่เป็นมือปืนของทีมกล่าวออกมาพลางเหลือบมองไปยังคนบางคนที่ว่า ซึ่งเจ้าตัวก็รับรู้ได้แต่เขาไม่ได้ให้ความสนใจ
“ไม่เอาน่า...พวกเรารีบเตรียมตัวให้เรียบร้อยกันเถอะครับ” ทวันซูพยายามกล่าวห้ามปราบออกมาก่อนจะชี้ไปยังอีกทีมที่ยืนส่งสัญญาณมือให้ว่าพร้อมแล้ว
หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็พากันออกเดินทางตามหาบอสมอนสเตอร์ระดับสามกันอย่างขันแข็ง ภายในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงพวกเขาก็เจอกับมอนสเตอร์ระดับหนึ่งและสองตลอดทาง รวม ๆ แล้วมากกว่ายี่สิบตัวเห็นจะได้ มีบ้างบางทีที่เจอฝูงมอนสเตอร์จำนวนมากจนทำให้พวกมันหลุดเข้าสู่ใจกลางขบวนที่มีคริสกับนักผจญภัยสายสนับสนุนยืนอยู่
จนทำให้คริสต้องลงมือเป็นบางครั้งซึ่งนั่นก็สร้างความประหลาดใจให้กับหลายคนได้เช่นกันที่คริสซึ่งเป็นนักผจญภัยกรอบสีขาวสามารถจัดการมอนสเตอร์ได้อย่างง่ายดาย เมื่อเดินตามหาจนครบสองชั่วโมงพวกเขาทุกคนก็เคลียเงื่อนไขดันเจี้ยนจนเกือบครบแล้ว เหลือเพียงสังหารบอสมอนสเตอร์ระดับสามก็เท่านั้น
ซึ่บ ซึ่บ ซึ่บ ครืดด ครืดด
ที่ด้านหน้าของพวกเขาปรากฏกลุ่มคนขนาดใหญ่อยู่กลุ่มหนึ่ง ดูเหมือนจะเป็นกลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวกันของหลายทีมเหมือนดังที่พวกเขาทำ นับจากสายตาแล้วน่าจะมีประมาณสามสิบคนเห็นจะได้ ซึ่งกลุ่มนั้นก็สังเกตเห็นกลุ่มของคริสเช่นกัน
ทั้งสองกลุ่มพูดคุยกันอยู่นานก่อนจะตัดสินใจรวมกลุ่มขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ตอนนี้มีนักผจญภัยกว่าห้าสิบชีวิตอยู่ร่วมกัน พวกเขาเดินตามหาบอสมอนสเตอร์จนกระทั่งตะวันตกดินจึงตัดสินใจกางเต็นท์ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อน หลายคนเริ่มเข้านอนด้วยความอ่อนล้าแต่ก็มีการแบ่งคนไว้เฝ้าเวรยามเพื่อความปลอดภัยเช่นกัน
ส่วนคริสที่เป็นคนแบกสัมภาระแน่นอนว่าไม่มีเต็นท์ส่วนตัวอยู่แล้ว เขาได้รับแค่ถุงนอนมาหนึ่งอันก็เท่านั้น
ครืนนนนนนนนนนนนน
“มอนสเตอร์บุก!! ทุกคนระวัง!!” มีเสียงตะโกนดังขึ้นกลางดึกทำให้สมาชิกทุกคนของทั้งสองกลุ่มเตรียมความพร้อมกันอย่างกะทันหัน
พื้นทรายที่เรียบนิ่งมาโดยตลอด ในตอนนี้กลับเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง นักผจญภัยทั้งห้าสิบคนต่างสัมผัสได้ถึงแรงดึงดูดอันรุนแรงจากด้านล่าง