ตอนที่แล้วบทที่ 19 การประลองระหว่าง หลัวเฉิงและหลัวฉี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 21 เว้นเสียแต่ว่าจะมีโอสถระดับสี่ดาว

บทที่ 20 เจ้าจะไม่มีโอกาสได้ลงมือ


หลัวฉีกล่าวเสียงเข้ม “ข้าจะให้โอกาสเจ้าลงมือก่อน เดี๋ยวผู้คนครหาว่าข้ารังแกเจ้า”

“โอ้ เช่นนั้นเองหรือ” หลัวเฉิงเลิกคิ้วขณะยกคางขึ้นเล็กน้อย

เขาหรี่ตาลงแล้วกล่าวอย่างใจเย็น “หากปล่อยให้ข้าลงมือก่อน เกรงว่าเจ้าจะไม่มีโอกาสได้โต้ตอบแม้แต่กระบวนท่าเดียว”

ทันทีที่เขากล่าวเช่นนั้น บรรดาคนโดยรอบที่ได้ยินสิ่งนี้ต่างมีสีหน้าตกตะลึง พานให้บรรยากาศเงียบงันลงอย่างฉับพลัน ไม่ช้าเสียงโห่ร้องก็ดังขึ้น

นั่นคงไม่ได้หมายความว่า เขาสามารถเอาชนะหลัวฉีผู้ปลุกวิญญาณยุทธ์หอกห้าดาวขึ้นมา และอยู่ในขั้นหลอมกายาระดับห้า ได้ด้วยกระบวนท่าเดียวกระมัง!

กล้าพ่นวาจาเช่นนี้ออกมา มันไม่อวดดีเกินไปหรือ!

ดวงตาของหลัวฉีฉายแสงเย็นวาบ เขาหัวร่อพลางกล่าวเยาะเย้ย “ฮ่าฮ่า ข้าอยากเห็นนักว่า เจ้าจะมีปัญญาเอาชนะข้าด้วยกระบวนท่าเดียวได้อย่างไร!”

หลัวฉีแผดเสียงคำราม แล้วปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ของตนออกมา

พัฟ!

วิญญาณยุทธ์หอกที่มีดาวห้าดวงจรัสแสง ก็พลันปรากฏออกมาอยู่เบื้องหลังเขาทันที

ด้วยพลังอันเปล่งประกายของวิญญาณยุทธ์หอกระดับห้าดาว ทำให้หลัวฉีดูสง่ายิ่งนักในยามนี้ เขาจ้องไปยังหลัวเฉิงพร้อมสีหน้ากระหยิ่มใจ “ย่อมได้! แต่หากเจ้าไม่สามารถเอาชนะข้าด้วยกระบวนท่าเดียว ข้าจะเคี้ยวกระดูกเจ้าให้แหลก!”

หลัวเฉิงส่ายศีรษะเล็กน้อย ก่อนเริ่มก้าวเข้าไปหาหลัวฉีด้วยใบหน้าเรียบเฉย คราบรรลุถึงจึงชกหมัดใส่โดยตรง

แม้แต่วิญญาณยุทธ์ก็ไม่ได้ถูกปลดปล่อย และเขาก็ไม่ได้โคจรปราณแท้เสริมพลังเลยด้วยซ้ำ!

หมัดนี้เป็นเพียงหมัดธรรมดาทั่วไปเท่านั้น

เมื่อเห็นฉากนี้ หลัวฉีก็แสดงสีหน้าเหยียดหยาม

นี่เขาต้องการจะเอาชนะข้าด้วยกระบวนท่าเดียวจริงหรือ เพียงหมัดแบบนี้จะไม่ดูถูกกันเกินไปหน่อยหรืออย่างไร

ช่างเขลานัก!

ข้าผิดหวังในตัวเจ้าจริงๆ!

เมื่อหลัวฉีถูกกระทำการหยามเกียรติเช่นนี้ เขาจึงยกมือขึ้นป้อง หมายสกัดหมัดของหลัวเฉิงโดยตรง

ทันทีที่ฝ่ามือของเขาสัมผัสหมัดของหลัวเฉิง สีหน้าของหลัวฉีก็เปลี่ยนไป เพราะรู้สึกถึงพลังที่ไม่อาจต้านทานได้พุ่งเข้ามา!

แครก!

มีเสียงกระดูกแตกลั่นดังอย่างชัดเจน และหมัดของหลัวเฉิงก็กระแทกเข้าที่อกหลัวฉีอย่างรุนแรง จนร่างเขาลอยลิ่วออกไปราวยี่สิบฉื่อ พร้อมมีเลือดพุ่งจากปาก

ครั้นทุกคนประสบพบฉากเช่นนี้ บรรยากาศรอบข้างสนามประลองที่เคยมีเสียงโห่ร้องก็พลันเงียบสงัด ดวงตาพวกเขานิ่งแข็งค้างด้วยความประหลาดใจ

หลัวเฉิงเอาชนะหลัวฉีได้ในหมัดเดียว!

“เรื่องแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้...เป็นไปไม่ได้!” หลัวฉีไม่อาจยอมรับความเป็นจริงตรงหน้าได้

เขาปลุกวิญญาณยุทธ์หอกระดับห้าดาว ทั้งยังเลื่อนระดับพลังยุทธ์ จากขั้นหลอมกายาระดับสี่เป็นระดับห้าในเวลาเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น เขาผู้เป็นถึงอัจฉริยะอย่างแท้จริง! จะแพ้ให้คนไร้ค่าได้อย่างไร! เป็นเพียงคนไร้ค่าที่มีวิญญาณยุทธ์ขยะอีกต่างหาก!

หลัวเฉิงเหลือบมองหลัวฉี แล้วกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าบอกเจ้าแล้ว หากปล่อยให้ข้าลงมือก่อน เจ้าจะไม่มีโอกาสได้โต้ตอบแม้แต่กระบวนท่าเดียว”

“เจ้า!” ใบหน้าของหลัวฉีเต็มไปด้วยความอับอาย

เขากระอักเลือดออกมาคำใหญ่ ก่อนหมดสติไปพร้อมกับความโกรธแค้น

“ฉีเอ๋อร์!” หลินหยานแผดเสียงกรีดร้องทันที หลังเห็นผู้เป็นบุตรชายนอนแผ่หลาอยู่บนพื้นสนามประลอง

นางรีบปรี่เข้าไปหาแล้วพยุงร่างหลัวฉีขึ้นมา ก่อนสาดสายตาอำมหิตใส่หลัวเฉิง “หลัวเฉิง เจ้าใช้วิธีสกปรกอะไรเอาชนะเขา”

แม้นจะเห็นเต็มสองตา แต่นางก็ไม่เชื่อว่าหลัวเฉิงจะสามารถเอาชนะบุตรชายของนางได้จริงๆ!

ทันใดนั้น เสียงตะโกนด้วยความตื่นตระหนก ก็ดังขึ้นท่ามกลางฝูงชนจำนวนมาก

“อะไรนะ! หลัวเฉิงเอาชนะคนห้าคนจากตระกูลฉี! อีกทั้งหนึ่งในนั้นยังอยู่ในขั้นหลอมกายาระดับหกงั้นหรือ!”

เสียงนั้นก้องกังวานท่ามกลางบรรยากาศอันสงัดเงียบ พานให้ทุกคนรอบสนามประลองยามนี้ รับรู้เรื่องที่น่าตกใจในทันที

“เพียงคนเดียวแต่สามารถล้มได้ถึงห้าคน! หรือว่าหลัวเฉิงทะลวงเข้าสู่ขั้นหลอมกายาระดับหกไปแล้ว!”

“ในเวลาเพียงครึ่งเดือน เขาสามารถทะลวงผ่านขั้นหลอมกายาระดับสี่ เข้าสู่ขั้นหลอมกายาระดับหก เรื่องเช่นนี้เป็นไปได้จริงงั้นหรือ”

สิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเตี๊ยมจุ้ยอวิ๋นเชวี่ย แพร่สะพัดไปทั่วเมืองฉีซานแล้วตอนนี้

หลังได้ยินข่าวใหญ่นี้ ทุกคนก็ตื่นตระหนก จนโดยรอบสนามประลองตกอยู่ในความโกลาหลทันที

แม้แต่ หลัวหงก็มิอาจสงบสติอารมณ์ได้เช่นกัน เขารีบเข้าไปในสนามประลอง แล้วหันมองบุตรชายด้วยความประหลาดใจยิ่ง

“เฉิงเอ๋อร์ เจ้าทะลวงเข้าสู่ขั้นหลอมกายาระดับหกแล้วงั้นหรือ” หลัวหงกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

หลัวเฉิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

“ฮ่าฮ่า ดี! ดีมาก!” หลัวหงหัวเราะอย่างสำราญเบิกบานใจ

แต่สิ่งที่ทำให้เขาสุขใจยิ่งกว่าความสำเร็จของหลัวเฉิงในตอนนี้ คือการที่บุตรชายเขาไม่ยอมแพ้ต่อชะตาตนเอง แม้จะปลุกได้วิญญาณยุทธ์ขยะก็ตาม!

“หลัวเฉิง! ในเมื่อเจ้าทะลวงเข้าสู่ขั้นหลอมกายาระดับหกแล้ว! ไฉนเจ้ายังยอมรับคำท้าประลองของฉีเอ๋อร์! เจ้าจงใจทำให้เขาขายหน้าใช่หรือไม่” ใบหน้าของหลินหยานบิดเบี้ยวไปด้วยความเกรี้ยวกราด

ดวงตาสดใสสีแดงราวกับหงส์เพลิงของนาง จ้องเขม็งหลัวเฉิงด้วยความแค้นใจ

“เจ้าจงใจรังแกน้องชายตนเองอย่างหน้าไม่อาย อาศัยว่าตนเป็นผู้ใหญ่รังแกผู้น้อย เจ้ามันชั่วช้าสามานย์ คิดว่าตนนั้นมีพลังยุทธ์สูงกว่า จะเที่ยวไปรังแกผู้ใดก็ได้กระนั้นหรือ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด