ตอนที่แล้วบทที่ 18 พี่สาวข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 20 เจ้าจะไม่มีโอกาสได้ลงมือ

บทที่ 19 การประลองระหว่าง หลัวเฉิงและหลัวฉี


เมื่อกลับมาถึงจวนตระกูลหลัว หลัวเฉิงก็ตั้งใจจะไปเยี่ยมอาการปู่ของเขาก่อน จึงรุดหน้าต่อยังจวนหลัก

แต่หลังจากเดินไปได้ไม่ไกลนัก ก็ประสบพบกับกลุ่มคนที่กำลังย่างกรายผ่านมาทางเขา

คนที่นำอยู่ข้างหน้าหาใช่คนอื่นไกล แต่เป็นหลินหยานป้าของหลัวเฉิง

“หลัวเฉิง!” ครั้นหลินหยานเห็นหลัวเฉิง นางก็เลิกคิ้วขึ้นทันที

นางรีบปรี่เข้ามาใกล้ แล้วแผดเสียงอันแหลมคมประหนึ่งใบมีด “ช่วงนี้ตระกูลของเราประสบปัญหามากมาย เจ้าหายหัวไปอยู่ไหนมา!”

หลัวเฉิงสูดหายใจลึกๆ ก่อนกล่าวอย่างใจเย็น “ข้าออกไปฝึกฝนเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์”

“ประสบการณ์?” นางทวนวาจาเขาด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา

หลินหยานหัวร่อเบาๆ แล้วกล่าวอย่างเหยียดหยาม  “ด้วยวิญญาณยุทธ์ขยะ ทั้งยังอยู่ในขั้นหลอมกายาระดับสี่ เพียงแค่นี้เจ้าจะสามารถสู้กับอะไรได้ ข้าคิดว่าเจ้าคงไปที่ไหนสักแห่งเพื่อหาความสุขใส่ตัวมากกว่า!”

“พ่อเจ้ายอมทิ้งเกียรติและศักดิ์ศรีเพียงเพื่อสตรีนางเดียว สร้างความอับอายต่อวงศ์ตระกูล ซึ่งเจ้ามันก็เลวทรามไม่ต่างกัน! ข้าคิดว่าตระกูลหลัวคงต้องย่อยยับด้วยน้ำมือของสองพ่อลูกเป็นแน่!”

หลัวเฉิงตะคอกเสียงแข็งกร้าว “ท่านป้า ท่านเป็นผู้อาวุโสข้าจึงให้ความเคารพ แต่อย่าได้กล่าววาจาดูหมิ่นให้มันมากนัก!”

หลินหยานหรี่ตาลงอย่างเย็นชา แล้วกล่าวเสียงกระแทก “ทำไม ข้ากล่าวสิ่งใดผิดไปหรืออย่างไร! หากมิใช่เพราะเจ้า ตระกูลหลัวของเราจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้หรือ”

“กระทั่งตอนนี้ปู่ของเจ้าก็ยังไม่ได้สติ! ข้าเกรงว่าหลังจากชุมนุมล่าสัตว์ คงไม่มีชื่อตระกูลหลัวของเราหลงเหลือในเมืองฉีซานอีก ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะเจ้า!”

“ท่านแม่ ไยท่านต้องกล่าวมากมายกับคนไร้ค่านี้ด้วย!” จู่ๆ เสียงของหลัวฉีก็ดังแทรกขึ้น

เขาเหลือบมองหลัวเฉิง แล้วเหยียดยิ้มกล่าวว่า “หลัวเฉิง เจ้าคงมิได้ลืมข้อตกลงของเราใช่หรือไม่”

หลัวเฉิงพยักหน้า “แน่นอนว่าข้าจำได้ ไว้ข้าค่อยประลองกับเจ้าในวันพรุ่งนี้”

หลัวฉีก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไยต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้ มาเริ่มกันเลยดีกว่า! แม้ว่าจะเริ่มพรุ่งนี้หรืออีกสิบวัน มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน!”

หลัวเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่ได้คิดจริงจังกับการประลองมากนัก แต่หลัวฉีมิได้คิดเช่นเดียวกับเขา

เนื่องจากอีกฝ่ายอยากประลองกับเขาจนตัวสั่น จึงไม่แปลกนักที่หลัวฉีจะมาปรากฏอยู่ที่นี่เวลานี้ คงอยากทำให้เขาขายหน้าเต็มทีแล้วกระมัง!

“ย่อมได้” หลัวเฉิงพยักหน้า แล้วเดินเข้าหาหลัวฉีทีละก้าว “เช่นนั้นก็มาเริ่มกันเลย”

หลัวฉีคลี่มุมปากยิ้มเล็กน้อย “ไม่ใช่ที่นี่ แต่เป็นสนามประลอง”

นี่คือการต่อสู้ครั้งแรกของเขาหลังจากปลุกวิญญาณยุทธ์ และมันยังเป็นการต่อสู้ที่สร้างชื่อเสียงให้เขาอีกต่างหาก! แล้วจะให้เขาประลองโดยไม่มีผู้ใดรู้เห็นได้อย่างไร

เขาจะเอาชนะหลัวเฉิงและเหยียบไว้ใต้เท้าต่อหน้าทุกคน เพื่อพิสูจน์ความสามารถของตนให้ทุกคนได้ประจักษ์ชัด ว่าเขาผู้นี้คืออัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลหลัว

หลังกล่าววาจาเช่นนั้นแล้ว หลัวฉีก็ไม่รีรออีกต่อไป เขารีบสืบเท้าอย่างรวดเร็วมุ่งสู่สนามประลองทันที

หลัวเฉิงมิได้กล่าวสิ่งใดเพิ่มเติม และเดินตามหลังไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย

คนอื่นในตระกูลหลัวที่อยู่รอบข้างเพลานี้ ต่างมองหลัวเฉิงด้วยความประหลาดใจ

พวกเขาไม่คาดคิดว่า หลัวเฉิงจะกล้าต่อสู้กับหลัวฉีจริงๆ!

ระหว่างที่หลัวหมิงซานบาดเจ็บสาหัสและยังไม่ได้สติ บิดาของหลัวฉีจึงเป็นผู้ดูแลตระกูลแทนชั่วคราว ด้วยเหตุนี้ หลัวฉีจึงได้รับโอสถหลอมกายาสองเม็ด ทำให้เขาทะลวงเข้าสู่ขั้นหลอมกายาระดับห้าได้เมื่อสามวันก่อน!

“ดูเหมือนหลัวเฉิงจะยังไม่รู้ ว่าหลัวฉีได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นหลอมกายาระดับห้าแล้ว!”

บางคนส่ายศีรษะพลางทอดถอนใจ เพราะสงสารหลัวเฉิงที่กำลังเดินไปสู่สนามประลองด้วยความไม่รู้

แต่ ณ ที่แห่งนั้น ยังมีคนหนึ่งซึ่งมิได้คิดเฉกเช่นผู้อื่น นั่นคือหลัวอวิ๋นที่กำลังยืนเหยียดยิ้มอยู่คนเดียวในเวลานี้

“หลัวฉีก็เป็นแค่ผู้ที่อยู่ในขั้นหลอมกายาระดับห้า คิดว่าตนแข็งแกร่งมากหรืออย่างไร” หลัวอวิ๋นพึมพำเสียงเบา

ณ สนามประลองของตระกูลหลัว

ฝูงชนจำนวนมากต่างมารวมตัวกันรอบสนามประลองในเวลานี้

ครั้นได้ยินว่า จะมีการประลองฝีมือระหว่างหลัวเฉิงและหลัวฉี พวกเขาจึงรีบกรูกันมาดูด้วยความตื่นเต้น

“เฉิงเอ๋อร์…” เสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก

หลัวหงผู้เป็นบิดาของหลัวเฉิง ก็ยืนปะปนอยู่ในฝูงชนด้วยเช่นกัน เมื่อเขามองหลัวฉี สีหน้าก็พลันแสดงออกถึงความกลัดกลุ้ม

นั่นเพราะ เขาได้ยินเกี่ยวกับความก้าวหน้าของหลัวฉี ที่ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นหลอมกายาระดับห้าเมื่อสามวันก่อน

หลินหยานผู้ยืนอยู่อีกฟากของสนามประลอง นางมองไปยังหลัวหงพลางเหยียดยิ้มอย่างเยาะเย้ย

ในอดีต หลัวเฉิงนั้นเหนือกว่าหลัวฉี ทั้งในแง่ของสถานะและความสามารถในการฝึกฝน เขาเป็นหลานชายหัวแก้วหัวแหวนของหลัวหมิงซาน ซึ่งหลัวฉีมิอาจเทียบได้แม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตาม เรื่องเลวร้ายทั้งหมดนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว

อีกเพียงไม่กี่อึดใจ ข้อเท็จจริงจะเป็นสิ่งพิสูจน์ว่าหลัวฉี บุตรชายของนางแข็งแกร่งที่สุด!

ส่วนผู้ที่มีนามว่าหลัวเฉิง ซึ่งเป็นทายาทของตระกูลจีนั้น จะมิอาจเป็นสิ่งใดได้อีกนอกจากขยะ!

เวลานี้ หลัวเฉิงและหลัวฉียืนอยู่ตรงข้ามกัน ในใจกลางสนามประลองที่ถูกปูโดยหินอ่อน

จู่ๆ หลัวฉีก็ยิ้มย่องเอ่ยขึ้นว่า “หลัวเฉิง ข้าจะบอกเรื่องดีๆ ให้ เมื่อสามวันก่อน ข้าทะลวงเข้าสู่ขั้นหลอมกายาระดับห้าแล้ว!”

เขามองไปยังหลัวเฉิง ด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความภาคภูมิ เพลานี้เขาอยากเห็นหลัวเฉิงแสดงสีหน้าตื่นตระหนกตกใจ

แต่ช่างน่าเสียดาย ที่หลัวเฉิงทำให้เขาต้องคลาดหวัง เพราะยามนี้ใบหน้าของหลัวเฉิง ยังคงเรียบเฉยดั่งเคยเป็นมาตั้งแต่แรก

หลัวเฉิงเพียงพยักหน้ากล่าวว่า “จริงหรือ เช่นนั้นก็ยินดีด้วย รีบลงมือให้เสร็จๆ เถอะ ข้าอยากพบท่านปู่”

ประกายแสงเย็นเฉียบส่องวาวในดวงตาของหลัวฉีทันที

ด้วยท่าทางสงบนิ่งเช่นนี้ของหลัวเฉิง พานให้เขาเดือดดาลเป็นที่สุด

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดว่ากำลังจะได้สอนบทเรียนให้หลัวเฉิง ความสุขก็ฉายบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด