บทที่ 13 : นิกายหลางหยาเทียนจง!
บทที่ 13 : นิกายหลางหยาเทียนจง!
หลังจากมอบรางวัลแล้ว ลู่ชิงซวนก็เหลือบมองสมาชิกในคฤหาสน์ที่ยังคงจมอยู่กับความตื่นเต้นเเละพูดต่อ
“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทรัพยากรการฝึกพื้นฐานของสมาชิกทุกคนในคฤหาสน์คฤหาสน์ราชาลู่จะเพิ่มขึ้นสองเท่าทุกเดือน”
ทรัพยากรทั้งหมดของสามตระกูลใหญ่ถูกยึดมาหมดแล้ว, รวมถึงทรัพยากรที่ระบบส่งมอบให้
ยามนี้คฤหาสน์ราชาลู่ก็มีทรัพยากรมากมายมหาศาล
เพื่อที่จะปรับปรุงความแข็งแกร่งโดยรวมของตระกูลโดยเร็วที่สุด, แน่นอนว่าลู่ชิงซวนจะต้องใช้ทรัพยากรเหล่านี้อย่างรวดเร็ว
เเละเมื่อทุกคนได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึงทันที
ในที่สุด, สมาชิกในตระกูลทั้งหมดต่างโค้งคำนับลู่ชิงซวน
"ขอบคุณท่านผู้นำคฤหาสน์!"
เสียงของฝูงชนดังขึ้น
ในเวลานี้แเมื่อพวกเขามองไปยังลู่ชิงซวน, ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมและความเคารพ
ลู่ชิงซวนพยักหน้ารับและพูดต่อ
"เเต่หากเจ้ายังต้องการได้รับทรัพยากรการฝึกฝนมากขึ้น, ก็ขอให้ทำภารกิจกับตระกูลให้มากขึ้น และรับคะแนนช่วยเหลือตระกูลเพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากรเพิ่มเติมที่แต่ละคนต้องการ!"
แม้ว่าทรัพยากรพื้นฐานที่สมาชิกตระกูลได้รับทุกเดือนจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า, แต่ระบบมีคะแนนการมีส่วนร่วมของสมาชิกคฤหาสน์ราชาลู่เเละมันยังคงจำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจัง
หลังจากให้ขอการสนับสนุนให้ทุกคนช่วยเหลือตระกูลให้มากขึ้น, ลู่ชิงซวนก็สั่งให้สมาชิกในตระกูลทั้งหมดออกไปและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า
“แม้ว่าคฤหาสน์ราชาลู่จะกลายเป็นผู้นำในเขตเหนือเเล้ว, แต่นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น”
"ข้าหวังว่าสมาชิกในตระกูลทุกคนจะทำงานหนักขึ้นเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคและรวมเป็นหนึ่งเดียว, ตราบใดที่พวกเจ้าไม่ยอมแพ้ คฤหาสน์ราชาลู่ของเราจะไม่มีวันทอดทิ้งเจ้า"
"พวกเจ้าแต่ละคนคืออนาคตของคฤหาสน์ราชาลู่ของเรา, ภายใต้การนำของข้า ข้าหวังว่าพวกเจ้าแต่ละคนจะสามารถเป็นเสาหลักของคฤหาสน์ราชาลู่ และทำให้คฤหาสน์ราชาลู่ก้าวต่อไปและแข็งแกร่งขึ้น!"
“เเค่เจ้าต้องจำไว้ว่าไม่ว่าข้างนอกจะอันตรายแค่ไหน, ตระกูลก็จะคอยสนับสนุนพวกเจ้าอยู่เบื้องหลังเสมอ!”
คำพูดให้กำลังใจเหมือนฟ้าร้องดังก้องอยู่ในหูของสมาชิกทุกคนในคฤหาสน์ราชาลู่
เเละเมื่อคำพูดของลู่ชิงซวนจบลง สมาชิกทุกคนของคฤหาสน์ราชาลู่ต่างก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาก็เพิ่มสูงขึ้นทันที
ทันใดนั้น, พวกเขาแต่ละคนหันไปหาลู่ชิงซวนและพูดด้วยความเคารพอย่างสูง
"เราจะอุทิศตนให้กับตระกูลและดำเนินชีวิตตามความคาดหวังอันสูงส่งของท่านผู้นำคฤหาสน์"
[ติ๊ง! ความสามัคคีของตระกูลได้รับการปรับปรุงอีกครั้ง, โฮสต์ได้รับคะเเนนโชคลาภของตระกูล: หนึ่งพันคะแนน]
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลู่ชิงซวนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เเละเมื่อจำนวนคะแนนของคฤหาสน์ราชาลู่เพิ่มขึ้น, โชคลาภของตระกูลก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ
บางทีในอนาคต, หากคะแนนโชคลาภของตระกูลมากพอ เเค่คนในตระกูลออกไปหน้าบ้านพวกเขาอาจจะสามารถเก็บสมบัติได้เเล้ว
จากนั้นลู่ชิงซวนก็สงบลง, เหลือบมองเหล่าผู้คนที่มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้พลุ่งพล่าน และพยักหน้าเล็กน้อย
“ผู้อาวุโสหลักอยู่ต่อ, คนอื่นๆจงไปฝึกฝนให้ดี”
ตามคำแนะนำของลู่ชิงซวน, สมาชิกในตระกูลทั้งหมดก็ออกจากห้องประชุมทีละคน
และในท้ายที่สุดก็เหลือเพียงผู้อาวุโสหลักห้าคนเท่านั้น
สำหรับผู้อาวุโสเหล่านี้ ลู่ชิงซวนไม่ตระหนี่และตอบแทนพวกเขาแต่ละคนด้วยทรัพยากรอย่างใจกว้าง
ซึ่งมันก็เพียงพอที่จะสร้างความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในการฝึกฝนของพวกเขา
ผู้อาวุโสทั้งห้ามองไปที่ทรัพยากรระดับสูงมากมายในมือด้วยสีหน้าตื่นเต้นและดวงตาที่สดใส
พวกเขาเป็นผู้อาวุโสหลักมาหลายปี, แต่พวกเขาไม่เคยได้รับทรัพยากรการบ่มเพาะมากมายขนาดนี้มาก่อน
พวกเขาเชื่อว่าด้วยทรัพยากรเหล่านี้, พวกเขาจะมีโอกาสที่จะฝึกฝนจนถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำได้อย่างเเน่นอน
ในอดีตพวกเขาส่วนใหญ่ไม่มีความหวังที่จะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำด้วยซ้ำไป
ยามนี้พวกเขามั่นใจว่ามีแต้มต่อหกถึงเจ็ดแต้ม
พวกเขายังเชื่ออย่างแน่วแน่ว่าภายใต้การนำของลู่ชิงซวน
คฤหาสน์ราชาลู่ทั้งหมดจะไม่เพียงแต่จะดีขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น
แต่พวกเขาจะยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย
บางทีวันหนึ่งพวกเขาอาจจะสามารถเเผ่อำนาจออกจากเขตเหนือหรือแม้แต่ออกจากราชวงศ์เมฆาสวรรค์ได้
ในขณะนี้พวกเขาเต็มไปด้วยพลังและตั้งตารอวันนั้นที่จะมาถึง
เเละเมื่อเห็นการแสดงออกของผู้อาวุโสทั้งห้า, ลู่ชิงซวนก็ยิ้มแล้วค่อยเริ่มลงมือทำงาน
ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งสามตระกูลใหญ่เพิ่งถูกทำลายโดยคฤหาสน์ราชาลู่
ดังนั้น, คฤหาสน์ราชาลู่ยังคงต้องรับช่วงต่อหลายสิ่งหลายอย่าง
หลังจากนั้น ลู่ชิงซวนได้สั่งให้เหล่าผู้อาวุโสเข้าควบคุมกิจการต่างๆของสามตระกูลใหญ่
และในเวลานี้, ลู่ชิงซวนก็ค้นพบว่าผู้อาวุโสหลักทั้งห้านั้นไม่เพียงพออย่างเห็นได้ชัด
หลังจากพูดคุยกัน
ลู่ชิงซวนก็ดำเนินการปฏิรูปเหล่าผู้อาวุโสหลัก
ประการแรก, เขาได้จัดตำแหน่งผู้อาวุโสหลักทั้งห้าใหม่
ให้ผู้อาวุโสสองได้รับการเลื่อนขั้นเป็นผู้อาวุโสใหญ่, ผู้อาวุโสสี่เป็นผู้อาวุโสสอง, ผู้อาวุโสหกเป็นผู้อาวุโสสาม และอื่นๆ
แม้ว่าเมื่อคราวที่พ่อของเขาครองอำนาจ
ตระกูลนี้มีผู้อาวุโสหลักทั้งหมดเก้าคน
เเบ่งเป็นสี่คนจากสายตรง, สามคนจากสายรอง, และสองคนจากสายนอก
แต่ยามนี้ในบรรดาห้าคนที่เหลือ มีผู้อาวุโสสองคนมาจากสายตรง สองคนจากสายรอง และอีกหนึ่งคนจากสายนอก
แน่นอนว่าคนสายนอกแต่ไม่ใช่สายนอกจริงๆ
เพียงแต่ว่าสมาชิกในตระกูลเหล่านี้เป็นลูกของสตรีคฤหาสน์ราชาลู่และสามีที่แต่งงานเข้าคฤหาสน์ราชาลู่
โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงในคฤหาสน์ราชาลู่จะไม่แต่งออกนอกบ้าน แต่รับสมัครลูกเขยเพื่อแต่งเข้ามาในคฤหาสน์ราชาลู่เเทน
สิ่งนี้จะป้องกันไม่ให้ลูกๆ ของคฤหาสน์ราชาลู่อพยพออกไป และทำให้คฤหาสน์ราชาลู่เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากจัดเรียงตำแหน่งของผู้อาวุโสทั้งห้าแล้ว ลู่ชิงซวนขอให้ผู้อาวุโสทั้งห้าแนะนำผู้อาวุโสธรรมดาๆคนอื่นๆให้เขาจากสายตรง สายรอง และสายนอกภายในสองวัน
ลู่ชิงวางแผนที่จะเลือกผู้อาวุโสสายตรงสองคน ผู้อาวุโสสายรองหนึ่งคน และผู้อาวุโสสายนอกหนึ่งคนจากที่ถูกแนะนำ
เอามาเพื่อเติมเต็มตำแหน่งผู้อาวุโสหลักอีกสี่ตำแหน่งที่ขาดหายไป
เเละเมื่อผู้อาวุโสหลักเสร็จสมบูรณ์แล้ว, เท่านี้จึงจะสามารถจัดการทรัพยากรจำนวนมากของคฤหาสน์ราชาลู่ให้เป็นสัดเป็นส่วนได้
หลังจากตัดสินใจเกี่ยวกับการปฏิรูปแล้ว, ลู่ชิงซวนก็จดจำสิ่งสำคัญได้อีกประการหนึ่ง
เขาหันไปมองลู่เฉียนชวนซึ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อาวุโสสองทันที
………..
“ผู้อาวุโสสอง ครั้งสุดท้ายที่ข้าขอให้ท่านสอบสวนการตายของสมาชิกในคฤหาสน์ราชาลู่ในต่างแดน”
“ท่านมีเบาะแสอะไรบ้างใหม?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้, ผู้อาวุโสสองก็ยืนขึ้นและรายงานด้วยความเคารพว่า
"ท่านผู้นำคฤหาสน์ เรื่องนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก, แต่มีการค้นพบบางอย่างบ้างเเล้ว"
“หลังจากทำการสืบสวนอย่างลับๆ, ในช่วงนี้เราพบว่าแม้ว่าจะมีกองกำลังจำนวนมากที่ต่อสู้เพื่อโอกาสในต่างแดน, แต่ก็ไม่มีใครเห็นว่าคนในตระกูลของเราเสียชีวิตได้อย่างไร”
“ส่วนผลลัพธ์ของการต่อสู้เพื่อโอกาสในต่างเเดนนั้นกลายเป็นนิกายหลางหยาเทียนที่เป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และไม่เคยแพ้ใคร”
“สำหรับกองกำลังอื่นๆ ที่เข้ามาคว้าโอกาสนี้, มีผู้ฝึกตนสูญเสียไปไม่มากก็น้อย แถมความแข็งแกร่งของผู้ที่ส่งมาก็ไม่แตกต่างจากคฤหาสน์ราชาลู่ของเรามากนัก”
"หากพลังนั้นสามารถสังหารสมาชิกทุกคนในคฤหาสน์ราชาลู่ของเราอย่างเงียบๆได้, ก็มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นฝีมือของนิกายหลางหยาเทียนจง"
ลู่เฉียนชวนบอกข้อมูลทั้งหมดเที่ได้ทำการสืบสวนลับล่าสุด
“นิกายหลางหยาเทียนจง?”
ลู่ชิงซวนหรี่ตาลงเล็กน้อย
นิกายนี้เป็นนิกายระดับห้า
ไม่เพียงแต่มีมหาอำนาจอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำหลายสิบคนในนิกายเท่านั้น, แต่ยังมีมหาอำนาจอาณาจักรวังวิญญาณเจ็ดหรือแปดแห่งคนอีกด้วย
หากพี่ชายคนโตของเขาและกลุ่มคนจากคฤหาสน์ราชาลู่ถูกล้อมสังหารโดยนิกายหลางหยาเทียนจง
โอกาสนี้, มันก็เป็นไปได้มากจริงๆ
เขาสงสัยมาโดยตลอดว่าสมาชิกในคฤหาสน์ราชาลู่ถูกฆ่าโดยไม่มีเหตุผลในขณะที่ต่อสู้เพื่อโอกาสในต่างแดนหรือไม่
ดังนั้นหลังจากเข้ารับตำแหน่งเป็นนายเหนือในคฤหาสน์ราชาลู่แล้ว, เขาจึงส่งคนไปสอบสวนเรื่องนี้
เเต่เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่ากองกำลังที่น่าสงสัยที่สุดจะเป็นนิกายหลางหยาเทียนจง
“ติดตามเรื่องนี้ต่อไปและรายงานความคืบหน้าให้ข้าทราบเรื่อยๆ” ลู่ชิงซวนสั่ง
“ท่านผู้นำคฤหาสน์อย่ากังวล มีศิษย์คนหนึ่งในตระกูลของเราชื่อลู่เทียนหมิง”
“เขาเข้าร่วมนิกายหลางหยาเทียนจงมาหลายปี, เเละในยามนี้เขาได้กลายเป็นศิษย์สายในแล้ว”
“ข้าสามารถขอให้เขาสืบค้นข้อมูลภายในของนิกายหลางหยาเทียนจง
ให้ "
ลู่เฉียนชวนพยักหน้าและบอกวิธีรับข่าว
เมื่อได้ยินเช่นนี้, ลู่ชิงซวนก็ครุ่นคิดเล็กน้อยและพูดว่า
"ตกลงตามนั้น, เเต่อย่าลืมปกป้องคนของคฤหาสน์ราชาลู่ให้ดี, และอย่าปล่อยให้นิกายหลางหยาเทียนจงระเเคะระคายถึงการสอบสวนของเราได้"
ลู่เฉียนชวนเห็นด้วยและนั่งลงบนที่นั่งของเขา
ในที่สุดการประชุมทั้งหมดก็สิ้นสุดลง
หลังการประชุม, ลู่ชิงซวนได้ฝังสายเเร่วิญญาณระดับปฐพีจำนวนมากไว้ใต้เกาะสวรรค์ขึ้นเป็นครั้งแรก
แน่นอนว่าสายเเร่วิญญาณเหล่านี้เป็นของสามตระกูลใหญ่, และยามนี้พวกมันได้กลายเป็นรางวัลของคฤหาสน์ราชาลู่เเล้ว
จากนั้น, เขาก็ได้จัดวางค่ายปกป้องตระกูลระดับสวรรค์ขั้นสูงลงบนเกาะสวรรค์รุ่งโรจน์ทั้งหมด
ด้วนสิ่งนี้, การรักษาความปลอดภัยของตระกูลจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
หลังจากทำสิ่งเหล่านี้, ลู่ชิงซวนก็ไปหาเจียงซวนหยา มารดาของเขาอีกครั้งเพื่อมอบทรัพยากรมากมายให้กับนาง
หลังจากออกมาจากตำหนักที่มารดาของเขาอยู่, ลู่ชิงซวนก็ตรงไปยังที่ที่หลิงซีเยว่อยู่เช่นกัน
………………………………..