ตอนที่ 65 เจสสิก้า
ตอนที่ 65 เจสสิก้า
ดิโิอตัดสินใจเผายาเสพติดทั้งหมดในบ้านแล้วกวาดเรียบสิ่งที่ขนได้
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าหัวหน้ากลุ่มผู้มีอำนาจบางคนต้องอยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ เขาก็ไม่ค่อยแคร์เท่าไหรร่!
อยู่ดีๆกล้องวงจรปิดก็ไม่ มีพยานก็ไม่มี ไม่มีใครโยงเขามาที่นี่ได้หรอก
หลังจากเก็บกวาดเสร็จสิ้น เขาก็ออกจากที่นันทันที มุ่งหน้าหาโรงแรทค้างคืน
ที่นิวยอร์กซิตี้ มีบุคคลร่างตัวยักษมายืนอยู่บนชั้นสูงสุดของตึกแหงหนึ่ง มองลงมาที่เบืืองใหญ่
เสียงเคาะประตูดั้งขึ้นขัดจังหวะความคิดของเขาทันที
เขาอนุญาตให้แขกก็เข้ามา ก่อนจะถามทันทีว่าความเสียหายคือเท่าใด
ชายใส่สูทไม่รูว่าจะแจ้งแบบไหนให้ผู้ชายร่างยักษไม่โมโห แต่ก็ทำใจกล้ารายายงานตามความเป็นจริงริง เพราะการโกหกจะแย่ยิ่งกว่าเมื่อความจริงริงถูกเปิดเผย
"เราเสียหายมหาศาลเลยครับ! สินค้าที่สูญหายเป็นศูนย์กลางที่ควรโอนไปยังรัฐอื่น คิดคำนวณแล้วน่าจะเท่ากับกำไรหนึ่งในสี่ของเดือนนี้ครับ" ชายใส่สูทรายงานอย่างประหม่า
"เจอสาเหตุไหม?" ผู้ชายร่างยักษถาม
"ทางตำรวจวอชิงต้นนแจ้งมาว่าเป็นการวางเพลิงสาเหตของการตายยังคลุมเครือเพราะศพอยู่ในสถาพสยดสยอง และคนทำให้ร้ายก็ยังหลบหนีอยู่ครับ!" ชายใส่สูทตอบอย่างร้อนรน
"จิลอยู่ที่ไหน? เขารอดไหม?" พคคลร่างยักษถามเสียงเรียบ
"ไม่ครับ เขาก็ตายอยู่ในห้องนั้นเช่นกัu" ชายใส่สวมรายงาน ประหม่าขึ้นอีกเพราะท่าทางของชายตรงหน้าอย่างน่ากลัว
"จำได้ว่าเขามีภรรยาที่สวย และลูกแฝดหญิงนี่นา?" ผู้ชายร่างยักษพูดเหมือนทวนความจำ
"ครับ ถูกต้องแล้ว" ชายใส่สวมงง
“ฉันคาดหวังว่านายจะรวมครอบครัวนั้นเข้าด้วยกันโดยเร็วที่สุด ฉันไม่ชอบเห็นครอบครัวที่รักกันเช่นนี้ต้องพลัดพราก และที่สำคัญ ฉันต้องการให้นายตามตัวคนที่รับผิดชอบเรื่องทั้งหมดมาให้ได้ภายใน 3 วัน นี่คือคำสั่ง เพราะฉันเกลียดที่จะต้องเห็นครอบครัวของนายหายไป หลังจากที่ร่วมงานกับฉันมานาน” ร่างใหญ่กล่าวอย่างเย็นชา
ชายในชุดสูทถึงกับตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของร่างใหญ่
เขาพยักหน้าและรีบออกจากห้องนั้นทันที
หากหาผู้รับผิดชอบไม่พบภายในสามวัน ครอบครัวของเขาจะตกอยู่ในอันตราย!
เขาไม่อาจหนี และไม่สามารถหักหลังชายคนนั้นได้ ชายผู้ควบคุมโลกใต้ดินของอเมริกามาเป็นเวลานาน
ในโลกมาเฟียเขาคือ 'คิงพิน' (Kingpin) แต่ในชีวิตประจำวัน เขารู้จักกันในนาม วิลสัน ฟิสก์ (Wilson Fisk) มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ
ในอีกมุมหนึ่ง ดิโอไม่รู้ตัวเลยว่าได้สร้างศัตรูคนสำคัญในวงการใต้ดินเข้าให้แล้ว ขณะนี้เขายังกลุ้มใจหนักที่หารถไปโรงแรมไม่ได้
ขณะที่เขากำลังตัดสินใจจะโบกรถคันไหนก็ได้ที่ขับผ่านมา เสียงแตรรถก็ดังขึ้น ทำให้ดิโอสะดุ้งสุดตัว
"หวัดดี พ่อครัวรูปหล่อ! จะไปไหนตอนดึกดื่นอย่างนี้ล่ะเนี่ย" เสียงคุ้นเคยทักทายดิโอ
"เจสสิก้า!" ดิโออุทานอย่างโล่งใจ
"ขึ้นรถสิ!" เจสสิก้าแซวอย่างเป็นกันเอง
ดิโอรีบขึ้นรถทันที พร้อมกับถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าแล้ว
"สบายดีไหม ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะ" เจสสิก้าเปิดบทสนทนา
"ก็เรื่อยๆ น่ะ ทำนู่นทำนี่ไปตามเรื่อง แล้วเธอมาทำอะไรที่วอชิงตัน ดี.ซี. ล่ะเนี่ย" ดิโอถามอย่างไม่ถือตัว
"บริษัทของฉันอยู่ที่นี่ ฉันเลยค้างอยู่แถวนี้อ่ะ แล้วร้านอาหารล่ะ ปิดชั่วคราวหรือยังไง" เจสสิก้าถามอย่างขี้เล่น
"เปล่าหรอก อันที่จริงฉันควรจะไปนิวยอร์คตั้งแต่ตอนนี้แล้วล่ะ แต่หารถไปไม่ได้เลย คิดว่าน่าจะต้องกลับไปตั้งหลักตอนเช้าแทน" ดิโอตอบอย่างสบายๆ
บทสนทนาของดิโอกับเจสสิก้าดำเนินไปอย่างมีชีวิตชีวา
พวกเขาคุยกันถึงชีวิตและการงาน แล้วยังพูดถึงน้องสาวของเจสสิก้าด้วยว่าเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากที่ดิโอช่วยดูแลรอยแผลให้
"ดูเหมือนว่าธุรกิจของคุณจะไปได้ดีนะดิโอ! แล้วทำไมครั้งนี้ถึงเดินทางมาแบบไม่พร้อมขนาดนี้เนี่ย" เจสสิก้าถามพลางแซว
"ก็น่าอายจริงๆ แหละ พอดีมีลูกค้าบางคนกินแล้วไม่จ่ายเงินค่าอาหาร ตอนนี้พวกเขาเลยเรียกฉันมาที่นี่เพื่อรับเงิน แต่กลับไม่จัดแจงที่พักหรือรถรับส่งให้เลยด้วยซ้ำ" ดิโอเล่าไปพลางเกาหัวไป
"แล้วคิดว่าจะไปไหนต่อล่ะเนี่ย อย่าบอกนะว่าจะให้ฉันไปส่งถึงนิวยอร์ค" เจสสิก้าแซวพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
เมื่อได้ยินคำพูดของเจสสิก้า ดิโอก็หน้าแดงก่ำเล็กน้อย เขาค่อนข้างกระดากที่จะต้องอาศัยรถผู้หญิงแบบนี้