ตอนที่แล้วตอนที่ 238 ความมุ่งมั่นของ ตระกูลฉี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 240 ผู้จัดการร้านหวาดกลัว

ตอนที่ 239 คำขอที่หยาบคาย(ปัญญาอ่อน) และไร้เหตุผล


เมื่อเห็น ซูเหวิน พูดแบบนี้ เพื่อนๆ ก็พากันมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้า

ในขณะเดียวกัน ในใจของพวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ

หากบอกว่าไม่ตื่นเต้น.. นั่นคงกลายเป็นเรื่องโกหกแล้ว

ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขานั้นแตกต่างจาก ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา

พวกเขาเป็นเพียงเด็กที่มาจากครอบครัวธรรมดาๆ เป็นปกติที่จะซื้อเสื้อผ้าในราคาไม่หลายสิบ ก็หลายร้อยหยวนเท่านั้น

เสื้อผ้าราคาหลักหมื่น พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ

ในวันนี้พูดแล้วจะไม่ให้พวกเขาตื่นเต้นได้อย่างไรที่มีโอกาสได้เข้าไปในศูนย์การค้าระดับไฮเอนด์ และซื้อเสื้อผ้าที่แพงที่สุดได้?

ระหว่างพูดคุย ทุกคนได้ก้าวออกจากโรงแรม

ซูเหวิน ขับรถ Lamborghini พา เซี่ย ซินเหยา ไปที่ศูนย์การค้า ซื่อจิน ก่อน

ส่วนเพื่อนๆ นั่งรถแท็กซี่ตามมาติดๆ

ไม่นาน ทุกคนก็มาถึงประตูทางเข้าศูนย์การค้า ซื่อจิน

ถนนวงแหวนรอบแรก, ศูนย์การค้า ซื่อจิน..

ศูนย์การค้า ซื่อจิน ถือได้ว่าเป็นอาคารที่โดดเด่นมากในย่านนี้

ผู้คนสัญจรไปมา บรรยากาศดูเป็นไปอย่างคึกคักทีเดียว

เพียงแต่ว่าวันนี้ดูเหมือนจะคึกคักมากเป็นพิเศษ ขนาดประตูทางเข้ายังมีผู้คนมากมายเบียดเสียดกันอยู่ไม่น้อย

ไม่ต้องพูดถึงว่าที่นี่เต็มไปด้วยฝูงชน แต่ก็พูดได้ว่าคนเยอะมากทีเดียว

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีคนมามุงกันเยอะขนาดนี้?”

“ใช่ ..หรือว่าวันนี้ ซื่อจิน จัดงานลดราคา?”

หลังจากทุกคนลงจากรถ แล้วเห็นฉากตรงหน้าก็ต่างพูดด้วยความสงสัย

“ไม่ต้องสนใจหรอก เข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ!”

ซูเหวิน กล่าวไปอย่างไม่สนใจ

พูดพลางเขากุมมือ เซี่ย ซินเหยา และดึงกลุ่มเพื่อนเบียดเสียดเข้าไปจากทางเข้าประตูที่มีผู้พลุกพล่านน้อยกว่าในอีกทางด้านหนึ่ง

หลังจากเข้าไปข้างในแล้ว ฟังการสนทนาของคนรอบข้าง ซูเหวิน ถึงได้รู้เรื่อง..

ที่แท้เป็นดาราคนหนึ่งมาช็อปปิ้งที่ศูนย์การค้า ซื่อจิน แห่งนี้ นี่จึงดึงดูดผู้คนจํานวนมากให้เข้ามาชม

ซูเหวิน ไม่รู้จักดาราคนนี้ เขาจึงถามด้วยความอยากรู้ว่า : “คนนี้เป็นใคร? เธอเป็นดาราเหรอ ทำไมดูเหมือนฉันไม่เคยเห็นมาก่อน?”

“ไม่ต้องพูดถึงเลย.. ฉันก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน”

“อ้าวว ที่แท้พวกนายก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน ฉันนึกว่ามีเพียงฉันคนที่ไม่เคยเห็น..”

จูเหยี่ยน, เฉินหมิง ก็อดคล้อยตามไม่ได้

“เธอคือ หลิน อวี้ถิง นะ อะไรกันนี่คุณไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ? เธอเล่นเป็นนางรองในเรื่อง ‘บันทึกของนางสนม’!”

“ช่วงนี้ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างดัง แต่ยังไม่นับว่าเป็นดาราแถวหน้า แค่ดาราแถวสองได้อยู่มั้ง!”

ทันใดนั้น จี้หยวี่ และเซี่ย ซินเหยา อธิบาย

ทุกคนที่ได้ยินต่างพยักหน้า และก็ถือว่ารู้จักดาราคนนี้พอสมควรแล้ว

แต่พวกเขาไม่ได้แสดงความสนใจดาราคนนี้มากนัก

ดังนั้นแค่มองแป๊บเดียวพวกเขาก็จากไป และหันไปขึ้นลิฟต์ไปยังร้านขายเสื้อผ้าที่อยู่ชั้นบน

ไม่นานก็ขึ้นมาถึงชั้นขายเสื้อผ้า

ต้องบอกว่าเสื้อผ้าของร้านในศูนย์การค้า ซื่อจิน นี้มีราคาแพงมากจริงๆ

หลังจาก ซูเหวิน พาเพื่อนๆ เข้าไปในร้านใหญ่แห่งหนึ่ง ทุกคนก็ตกตะลึงกับเสื้อผ้าที่ละลานตาเรียงรายกันอยู่ด้านใน

ขณะเดียวกันพวกเขายังตกใจกับราคาเสื้อผ้าแต่ละชิ้น

“โห อะไร.. นี่ 35,000 หยวน ชุดเดรสชุดเดียวจริงๆ ใช่ไหม? ให้ตาย.. มันทำมาจากทองหรือเปล่าเนี่ย?”

“แล้วดูเสื้อชีฟองตัวยาวนี่สิ ราคาจริงอยู่ที่ 47,000 หยวน”

“เสื้อโค้ทตัวนี้ โห ราคามันมากกว่า 70,000 หยวนอีก.. โอ้พระเจ้า!”

ทุกคนดูตกตะลึงไม่น้อย..

แม้ว่าพวกเขาจะเตรียมใจไว้พร้อมแล้วที่จะเข้ามาเลือกเสื้อผ้าในที่นี่ ..ก็ตาม

และซูเหวิน ยังบอกอีกว่าไม่จำเป็นต้องเกรงใจเขา อยากได้กี่ชิ้นก็เลือกเลย

แต่หลังจากเข้ามาแล้วได้เห็นราคาเสื้อผ้าจริงๆ ทุกคนก็รู้สึกเกรงใจขึ้นมา…

แน่นอนว่าพนักงานขายหลายคนที่อยู่ข้างๆ ย่อมเห็นท่าทางที่ลังเลของพวกเขาเช่นกัน

ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม

ในมุมมองของพวกเขา วัยรุ่นกลุ่มนี้ดูไม่เหมือนคนรวยตั้งแต่แรกเห็นแล้ว ยังต้องการจะแสร้งทำเป็นคนรวยเพื่ออวดอีก.. ช่างน่าขันพอจริงๆ

ซูเหวิน ไม่รู้ความคิดของพนักงานขายเหล่านี้

เมื่อเขาเห็นเพื่อนๆ ดูมีท่าทางลังเล เขาเลยยิ้มแล้วพูดว่า : “ไม่ต้องเกรงใจ เลือกได้เลย!”

“ในเมื่อเข้ามาแล้วก็อย่าลังเล ถ้าเข้ามาแล้วไม่ซื้ออะไรกลับออกไปก็ดูเสียเวลาเปล่า”

เพื่อนๆ ของเขาหันมามองหน้าเขา ก่อนจะหันมองหน้ากันเอง

เมื่อเห็น ซูเหวิน พูดแบบนี้แล้ว พวกเขาก็เลิกเกรงใจ และเริ่มเลือกเสื้อผ้าที่ตัวเองชอบ

ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา ก็เช่นกัน พวกเขาเลือกหยิบเสื้อผ้าที่พวกเขาชอบขึ้นมา

เพียงแต่ในช่วงเวลาที่พวกเขาเลือกไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นอยู่นั้น

ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากนอกร้าน

ทันทีหลังจากนั้น ก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยเข้ามาในร้านแห่งนี้ล้อมรอบด้วยบอดี้การ์ดหลายคน..

ใบหน้าที่คุ้นเคยนี้ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน นอกจากดาราคนดังอย่าง หลิน อวี้ถิง ที่พวกเขาเพิ่งเห็นที่ชั้นล่างเมื่อกี้

ทันใดนั้น ซูเหวิน และเพื่อนๆ ของเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจเล็กน้อย

แต่ทุกคนไม่สนใจดาราคนนี้ ดังนั้นจึงไม่สนใจใดๆ มากนัก เดินหน้าเลือกเสื้อผ้าของตัวเองต่อไป

อย่างไรก็ตาม พอเห็นพวกเขาไม่สนใจ ดาราหญิงคนนี้พลันขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากก้าวเข้ามาภายในร้าน

จากนั้นเธอก็พูดอะไรบางอย่างกับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ เธอ

บอดี้การ์ดพยักหน้า และเดินตรงมาที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ทันที และพูดอะไรบางอย่างกับพนักงานที่นั่น

ต่อจากนั้นพนักงานคนนั้นก็พูดอะไรบางอย่างกับพนักงานขายหลายคน

พนักงานขายหลายคนพยักหน้าทันที

จากนั้นก็เห็นพวกเธอเดินเข้ามาหา ซูเหวิน และคนอื่นๆ แล้วพูดว่า : “คุณสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี ขอถามพวกคุณว่าเลือกเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วหรือยัง หากเลือกเสร็จแล้วก็รีบชําระเงินได้เลยคะ ร้านค้าของเรากําลังจะเคลียร์พื้นที่แล้ว”

“เคลียร์พื้นที่ คุณหมายความว่าไง?”

ซูเหวิน และคนอื่นๆ ดูสับสนแล้ว

“เอ่อ...คุณเคยเห็น คุณหลิน คนนั้นไหม?”

“เธอเป็นดารา วันนี้มาที่ร้านของเราเพื่อเลือกซื้อเสื้อผ้า แต่ในฐานะดาราแล้วเธอกลัวได้รับผลกระทบ เลยหวังว่าทางร้านของเราจะเคลียร์พื้นที่ให้ได้…”

พนักงานขายชี้ไปทางดาราหญิงคนนั้น และอธิบายทันที

“ดาราก็คือลูกค้า เราเองก็เป็นลูกค้าเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ยังไง หรือแค่เพราะเธอเป็นดารา พวกคุณทุกคนจึงต้องปฏิบัติต่อเธอเป็นพิเศษ?”

ซูเหวิน กล่าวอย่างไร้คำพูด

“ใช่ พวกเราเพิ่งเข้าร้านมาเองนะ จะมาเร่งเราได้ยังไง?”

“แม้ว่าเธอต้องการอยากเคลียร์พื้นที่จริงๆ แต่ก็ต้องดูที่คนมาก่อนหลังด้วยไหม?”

เพื่อนๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพยักหน้าเห็นด้วย

“เฮอเฮอ คุณสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี นี่เป็นคำสั่งจากผู้จัดการร้านของเรา และเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาจะออกไป พนักงานขายหากดูผิวเผินถือว่าสุภาพ แต่ภายในใจนั้นกลับเริ่มรู้สึกรำคาญแล้ว

ลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่งเห็นราคาเสื้อผ้าก็ตกใจแล้ว มองปุ๊บก็รู้ชัดว่าแสร้งตีหน้าตัวเองให้ดูบวมอวบอ้วน แต่แล้วสุดท้ายเป็นไงก็ไม่มีเงิน

ลูกค้าประเภทนี้พวกเธอไม่ชอบอยู่ก่อนแล้ว

ในตอนนี้เมื่อเห็นว่าพวกเขายังหน้าด้านไม่ยอมไป สีหน้าพวกเธอก็อดไม่ได้ที่จะดูไม่ดีเล็กน้อย

ในจังหวะนั้นผู้จัดการร้านผู้หญิงก็เดินเข้ามาดู และพูดคุยกับ ซูเหวิน และคนอื่นๆ

“ทุกท่าน ทางเราต้องขออภัยด้วยจริงๆ คะ กรุณาออกไปทันที วันนี้เรามีลูกค้ารายใหญ่ ขอให้เข้าใจเราด้วย”

เมื่อเทียบกับพนักงานขายหลายคน ผู้จัดการร้านดูมีความตรงไปตรงมามากกว่ามาก

เธอยังเห็นว่าคนหนุ่มสาวเหล่านี้น่าจะอยู่ในช่วงวัยเรียนมหาลัย

และเธอคาดว่าพวกเขาเป็นนักศึกษามหาลัยที่ไม่มีเงินมากนัก

ไม่งั้นก็คงไม่มีท่าทางดูเหมือนคนไม่เคยเห็นโลกมาก่อน

สำหรับกลุ่มคนที่ไม่มีเงิน เธอย่อมไม่ต้องเกรงใจอะไรให้มากนัก

“แล้วถ้าเราไม่ออกไปล่ะ?”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีแบบนี้ สีหน้าของ ซูเหวิน พลันเคร่งขรึมแฝงความเยือกเย็นไม่น้อย

“ถ้าพวกคุณไม่ออกไป เราจะโทรแจ้งตำรวจแล้วนะ”

ผู้จัดการร้านก็โกรธไม่แพ้กัน

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นลูกค้าที่ไม่รู้จักวางตัว และตระหนักรู้ในตนเองขนาดนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด