ตอนที่แล้วระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 175 ตกอยู่ในอันตราย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 177 เซิงต้าน๋า

ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 176 ปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่น 2


ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 176 ปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่น 2

"ต่อไป ยังต้องค่อยวางแผนกันต่อไป!"

"อาหาร”

"นี่เป็นจุดสำคัญ ต้องควบคุมให้ดี"

"ค่ายกลหรือ”

"ดูเหมือน จะต้องวางค่ายกลเอาไว้บ้างแล้ว เสริมในเมืองยักษ์ใหญ่"

"แต่เป็นเรื่องดีที่บรรพบุรุษเพิ่งให้ปืนใหญ่ถล่มฟ้าหนึ่งแสนกระบอกกับข้ามาไม่นานมานี้"

"ถ้านำปืนใหญ่ถล่มฟ้าหนึ่งแสนกระบอกนี้ไปใช้ให้ดี"

"เผ่ามนุษย์เงือกหรือ"

"ถ้าหากเผ่ามนุษย์เงือกตั้งใจจะบุกโจมตีมณฑลตงหวงของข้าจริง ตระกูลหลัวของข้าจะต้องทำให้เผ่ามนุษย์เงือกรู้ซึ้งว่าความหวาดกลัวมันเป็นอย่างไร!"

แน่นอน คิดอย่างนั้นก็คิดไป

แต่ถ้าหากเผ่ามนุษย์เงือกเริ่มการบุกโจมตีจริง

ตระกูลหลัวอาจจะต้องพยายามอย่างหนักถึงจะสามารถต่อต้านการโจมตีของเผ่ามนุษย์เงือกได้

อาณาเขตตระกูลหลัว

ในลานที่ให้ความรู้สึกโบราณงดงามแห่งหนึ่ง

หลัวจิ่วเกอ กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในสถานที่โล่งแจ้ง

ตอนนี้ ตรงหน้าเขามีกระถางโอสถ 108 ใบ ลอยอยู่ในอากาศ และใต้กระถางโอสถแต่ละใบ ก็มีเปลวไฟอสูรกระดูกขาวอันประหลาดลุกโชนอยู่

[ปุ๊ด ปุ๊ด]

[ปุ๊ด ปุ๊ด]

เสียงวัสดุต่างถูกหลอมเหลว กระทั่งเสียงของเหลวเดือดพล่าน ดังขึ้นไม่ขาดสาย

"ปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่นสอง... สำเร็จ!"

เสียงพูดดังขึ้นแล้ว

ในลานเรือน ทันใดนั้นก็เต็มไปด้วยปราณเซียนอันมหาศาลแผ่ออกมา

ปราณเซียนที่มหาศาลนี้ควบคุมน้ำเหล็กร้อนระอุในกระถางโอสถ 108 ใบ หล่อหลอมอย่างต่อเนื่อง

เพียงแต่...

ดูเหมือนว่า เมื่อเวลาผ่านไป

เมื่อปืนใหญ่ถล่มฟ้าก่อรูปขึ้นมาแล้ว คิ้วของหลัวจิ่วเกอกลับขมวดเข้าหากันแน่น

การหลอมปืนใหญ่ถล่มฟ้ารอบนี้ ก็นับว่าสำเร็จแล้ว

แต่ว่า ในแง่ของอานุภาพในการทำลายล้าง และความสมบูรณ์แบบนั้น กลับไม่ได้ถึงระดับที่หลัวจิ่วเกอคาดหวังเอาไว้เลย แม้แต่ 5 ส่วนของความคาดหวังก็ยังไม่ถึง

แต่เมื่อหล่อหลอมเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ก็ไม่มีวิธีแก้ไขใดแล้ว

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น หลัวจิ่วเกอจึงลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า เขามองปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่นที่สองจำนวน 108 กระบอกตรงหน้าที่สูงใหญ่กว่ารุ่นแรกประมาณหนึ่งเมตร

สีสันเข้มขรึมลึกลับยิ่งกว่ารุ่นแรก

อานุภาพก็แข็งแกร่งกว่ารุ่นแรกราวห้าสิบเปอร์เซ็นต์

หลัวจิ่วเกอ ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจเล็กน้อย

"ดูท่า ยังต้องปรับปรุงอีก"

"ถึงแม้ยังไม่ถึงระดับที่คาดหวัง"

"แต่ก็น่าจะใช้ได้แล้ว"

"ปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่นที่สอง หล่อไว้ซักหนึ่งแสนกระบอกก่อน แล้วต่อจากนี้ก็เริ่มวิจัยพัฒนาปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่นที่สามเลยแล้วกัน!"

พูดจบแล้ว

หลัวจิ่วเกอก็โบกมือแล้วเก็บปืนใหญ่ถล่มฟ้าตรงหน้าทั้งหมดเข้าไปในแหวนเก็บของ

จากนั้น จึงนั่งลงที่ศาลาหินอย่างเงียบ

โบกมืออีกทีโต๊ะหินตรงหน้า ก็ปรากฏกาน้ำชากระจ่างเต๋าหนึ่งใบขึ้นมา

แล้วโบกมืออีกที

ภายในกาน้ำชากระจ่างเต๋า ก็มีน้ำเซียน กับใบชากระจ่างเต๋าสีเขียวเข้มสามถึงห้าใบลอยอยู่

จากนั้นก็ต้มด้วยไฟอ่อนไปเรื่อย

หรี่ตาลงเล็กน้อย

เพลิดเพลินไปกับสายลมเย็นที่พัดผ่านมาเป็นระลอก

อืม ความรู้สึกแบบนี้ ยังคงสบายยิ่งนัก

การบำเพ็ญเพียรนั้นสำคัญมาก

การหลอมปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่นที่สอง

การวิจัยปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่นที่สาม ก็สำคัญไม่แพ้กัน

แต่บางครั้ง ก็ยังต้องให้ความสำคัญกับการผสมผสานระหว่างการพักผ่อนและการทำงานด้วยเช่นกัน อีกอย่าง ถ้าเขาอยากจะก้าวข้ามจากขอบเขตกึ่งเทพไปสู่ขอบเขตเทพชั้นต่ำ

เขาก็จำเป็นต้องมีความเข้าใจต่อโลกนี้ในระดับหนึ่ง

ไม่อย่างนั้น เขาก็จะยากที่จะควบแน่นแก่นเทวะแท้ได้ และถ้าไม่สามารถควบแน่นแก่นเทวะที่แท้จริงได้

เขาก็จะไม่มีทางก้าวข้ามไปยังขอบเขตเทพชั้นต่ำได้เลย

ทวีปซวนหยวน มณฑลว่านกู่

สำนักงานใหญ่ของหอพันโอสถ

ในตำหนักที่ดูมืดทึมอยู่เล็กน้อยแห่งหนึ่ง

ชายชราร่างสูงในชุดคลุมสีเขียวอ่อน

ร่างกาย แผ่ออกมาด้วยกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของขอบเขตกึ่งเทพ

ในตอนนี้ กำลังหรี่ตาลงเล็กน้อย

ในดวงตา ประกายเย็นเยียบวาบขึ้นเป็นระยะ

"มณฑลซุยอวิ๋น... ล่มสลายไปแล้วหรือ”

ตอนที่รู้ข่าวนี้ ถังยวี่ บรรพบุรุษตระกูลถังผู้นี้ในใจก็ยังไม่กล้าเชื่อ

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ยังมีผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนจำนวนมากเข้าประจำการในมณฑลซุยอวิ๋นอีก

มีกำลังพลมหาศาลขนาดนี้ในมณฑลซุยอวิ๋น

ตามหลักแล้ว มณฑลซุยอวิ๋นจะต้องไม่มีความกังวลใดภายในหนึ่งเดือนได้ แต่ทำไมเมื่อวานมณฑลซุยอวิ๋นถึงได้ถูกยึดครองไปได้

นี่มันไม่สอดคล้องกับหลักการปกติเลยแม้แต่น้อย

ยิ่งไปกว่านั้น ถังยวี่รู้สึกว่าเรื่องนี้ช่างประหลาดเหลือเกิน

แต่ไม่มีทาง ความจริงก็คือความจริง

ความจริงก็คือ มณฑลซุยอวิ๋นถูกยึดครองไปแล้ว

เผ่ามนุษย์เงือก ยึดครองมณฑลซุยอวิ๋น หนึ่งในสิบสามมณฑลของทวีปซวนหยวนได้แล้ว

"ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ทวีปซวนหยวนก็กำลังจะเกิดความวุ่นวายแล้วสินะ"

"หอพันโอสถของข้า ก็ต้องเตรียมพร้อมให้ดีแล้ว"

"เผ่ามนุษย์เงือกหรือ”

"กองทัพหนึ่งหมื่นล้านหรือ”

"การมีอยู่ของสิ่งนี้ ช่างไม่ง่ายต่อการรับมือเลยจริง ๆ!"

หลังพึมพำเสียงเบาแล้ว

ถังยวี่ ผู้ปกครองคนเก่าของตระกูลถัง และเป็นผู้ที่ควบคุมหอพันโอสถอยู่

เรียกตัวจ้าวซวี่ ผู้บัญชาการใหญ่ของ [กองทัพตะวันคลั่ง] มา

เริ่มออกคำสั่งบางอย่าง

ส่วนสำนักเภสัช

ขุมอำนาจนี้ ต่อเหตุการณ์มณฑลซุยอวิ๋นถูกยึดครองนั้นก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อยเช่นกัน

แต่เมื่อความจริงได้ถูกกำหนดไปแล้ว ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว

ได้แต่ยอมรับความเป็นจริงนี้

เริ่มเตรียมพร้อม ว่าต่อไปจะรับมือกับการบุกโจมตีจากเผ่ามนุษย์เงือกอย่างไรดี

ทวีปซวนหยวน

พื้นที่ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด และมีความเจริญรุ่งเรืองที่สุดในมณฑลกลาง

อาณาเขตตระกูลจักรพรรดิโบราณซวนหยวน

ในลานเรือนที่มีกลิ่นอายแห่งโบราณลอยอ้อยอิ่งแห่งหนึ่ง

ซวนหยวนหมิง ผู้เป็นนายน้อยตระกูลซวนหยวนที่สวมชุดขาวเรียบง่าย ใบหน้าซีดขาวเล็กน้อย รูปร่างผอมบางเล็กน้อย

กำลังไพล่มือไว้ข้างหลัง สีหน้าสงบนิ่งอย่างยิ่ง

"นายท่าน"

"มณฑลซุยอวิ๋น ถูกยึดครองแล้ว"

"ขุมอำนาจนับไม่ถ้วนในทวีปซวนหยวนเริ่มวุ่นวายไม่เป็นระเบียบ"

"จ้าวตระกูลให้ข้ามาถามนายท่านว่า ต่อไปตระกูลซวนหยวนของเราควรจะทำอย่างไร หรือควรจะได้ประโยชน์อย่างมากที่สุดในช่วงยุคสมัยแห่งความโกลาหลครั้งนี้ได้อย่างไร"

ข้างหลังซวนหยวนหมิง

คนรับใช้ของตระกูลซวนหยวนที่สวมชุดคลุมสีเขียว ก้มหน้าลงเล็กน้อย สีหน้าดูนอบน้อมอย่างยิ่ง กำลังกล่าวถามเสียงเบา

"มณฑลซุยอวิ๋นถูกยึดครองไปแล้วหรือ”

"ต่อไป ในช่วงยุคสมัยแห่งความโกลาหลครั้งนี้ ตระกูลซวนหยวนของเราควรจะทำอย่างไรงั้นรึ”

ได้ยินถ้อยคำนี้แล้ว

ซวนหยวนหมิง ผู้ไพล่มือไว้ข้างหลัง สีหน้าสงบนิ่งยิ่ง

บนใบหน้าซีดขาวนั้น จึงเผยรอยยิ้มจางออกมาโดยไม่รู้ตัว พลางกล่าวตอบเสียงเบาว่า

"บอกท่านพ่อไป ไม่ต้องร้อนใจ"

"แผนการทั้งหมด ก่อรูปขึ้นในใจของข้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

"ต่อไป ตระกูลซวนหยวนเพียงแค่ทำตามแผนการของข้าไปทีละขั้นตอนก็พอ"

"ในตอนนั้น ตระกูลซวนหยวนของเรายิ่งย่อมสามารถอาศัยภัยพิบัตินี้ค่อยขยายใหญ่ขึ้น แม้กระทั่งสามารถกุมอำนาจปกครองทั่วทั้งทวีปซวนหยวนอีกครั้งได้แน่นอน"

พูดถึงตรงนี้ ในดวงตาของซวนหยวนหมิงก็ฉายแววสว่างวาบขึ้นมา

บนใบหน้า รอยยิ้มก็เจิดจ้ายิ่งขึ้นอีกหลายส่วน

สำหรับเขาผู้ที่ตั้งแต่เด็กก็แบกรับภารกิจการทำให้ตระกูลซวนหยวนเจริญรุ่งเรืองไว้บนบ่า

ตระกูลซวนหยวน ก็คือชีวิตของเขา

ถ้าหากก่อนตาย เขาสามารถเห็นตระกูลซวนหยวนค่อยก้าวขึ้นสู่บัลลังก์สูงสุดที่ไม่มีใครเทียบเท่าบนทวีปซวนหยวนได้อีกครั้ง

เช่นนั้นแล้ว ต่อให้เขาตายไป

ก็จะไม่มีความเสียใจใดหลงเหลืออยู่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด