ตอนที่แล้วบทที่ 527: มรดกทองคำ (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 529 : มรดกทองคำ (3)

บทที่ 528: มรดกทองคำ (2)


[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]

[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]

[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]

บทที่ 528: มรดกทองคำ (2)

“ฉันคิดว่านายคงรู้ว่ามีอะไรอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ที่ 1”

"รู้ครับ ผมได้ยินมาจากเซริส พูดตามตรง…มันไม่สำคัญอะไรเลย แต่เนื่องจากคุณยืนกรานอย่างหนัก จึงทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นผมจึงฉันถูกดึงเข้ามาร่วมด้วย”

มูเด็นหัวเราะ

“อย่าคาดหวังความช่วยเหลือจากผมนะ ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ผมเองก็ถูกปฏิบัติให้ทำบางอย่างที่เหมือนเป็นการเสียสละมากกว่าหนึ่งครั้ง เพียงเพราะคิดว่าผใไม่มีความสามารถอะไรเลย”

โดยพื้นฐานแล้วผู้ชายคนนี้มีใจเย็นมาก

ในระหว่างการต่อสู้ครั้งแรก เขาไม่ตื่นตระหนกแม้ในขณะที่สหายของเขากำลังจะตาย เและด้วยท่าทีของ มูเด็นทำให้เซริสไว้วางใจให้เขาทำหน้าที่สอดแนม เพราะไม่รู้ว่าอีกสามคนจะทำอะไรบ้าง

“คุณแค่ทำตามที่เซริสบอก เคลียร์ภารกิจและกลับสู่โลก เราจะดูแลอุปสรรคภายนอกเอง คุณก็สามารถสร้างสถิติใหม่พิชิตชั้นที่ 60 ในเวลาไม่ถึงครึ่งปี”

มูเด็นหัวเราะคิกคัก

“ขอบคุณพวกนาย”

"หลายๆอย่างมันมันเลวร้ายมาก"

พวกเขาซ่อนมันไว้โดยเจตนาหรือพวกเขาไม่รู้จริงๆ?

ฉันพูดต่อ

“ก่อนอื่นฉันอยากจะบอกว่าขอบคุณ”

“....”

“ถ้าไม่ใช่เพราะพวกนาย ฉันคงมีช่วงเวลาที่ยากลำบากกว่านี้มาก ขอบคุณที่ทำให้ฉันอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจ พวกนายช่วยฉันให้จัดการกับสิ่งที่น่ารำคาญได้อย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างง่ายดาย หากปราศจากความช่วยเหลือจากพวกนาย เมื่อย้อนกลับไปมอง ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าว่าการมีพื้นฐานที่มั่นคงเป็นสิ่งที่ดีขนาดนี้”

ฉันดึงไบฟรอตออกจากพื้นแล้วปล่อยให้มันห้อยลงมาที่เดิม

“แต่ฉันไม่ใช่นายท่านของพวกนายอีกต่อไปแล้ว”

การต้อนรับที่ไม่คาดคิดนั้น พวกเขาปฏิบัติต่อฉันด้วยความจริงใจสูงสุดและให้สิทธิประโยชน์พิเศษทุกประเภทแก่ฉัน แต่ฉันที่ปฏิบัติต่อพวกเขาเป็นแหล่งเพียงข้อมูลเท่านั้น คงเป็นเรื่องโกหกถ้าฉันจะบอกว่าตัวเองไม่หลงไปกับภาพลวงตานั้น

'มันยังไม่เพียงพอ'

ฉันรู้จักพวกเขาในฐานะตัวละครในเกม แต่ฉันไม่รู้จักพวกเขาในฐานะผู้คน

นั่นคือความแตกต่างระหว่างฉันกับลาสกันดา

'ฉันโดนเทลหลอกอีกแล้วเหรอ?'

ซึ่งหมายความว่าวีรบุรุษแห่งเนลม์ไฮมฟ์ไว้วางใจและติดตามฉันมาด้วยความภักดี

ฉันเองก็ไม่มีอะไรจะพูดเช่นกัน ฉันได้รับความช่วยเหลือแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ฉันไม่เคยตอบเเทนอะไรคืนเลย

ฉันได้รับความช่วยเหลือนับไม่ถ้วน

ผลก็คือถเ่าไม่ใช่เพราะการแทรกแซงของเนลม์ไฮมฟ์ ฉันคงได้รับความสูญเสียครั้งใหญ่ในการต่อสู้กับเหล่าแร้งเกอร์ แต่พวกเขากลับขอบางสิ่งจากฉันเพียงข้อเดียว

'เป็นการถูกต้องที่จะเชื่อฟัง’

“มูเด็น”

"ครับ?"

"กลับไปซะ"

มูเด็นมองมาที่ฉันราวกับว่าฉันกำลังตกตะลึง

“คุณเสียสติไปแล้วเหรอ?”

“จะบอกว่าไม่กลับงั้นเหรอ?”

"แน่นอน คุณกำลังคิดอะไรอยู่ตั้งแต่แรก….”

ฉันถือด้ามดาบของไบฟรอตไปในทิศทางตรงกันข้าม

พเป้าหมายคือหน้าอกซ้ายของฉัน

หลังจากปลดรอยประทับเลือดมังกรดำบริสุทธิ์ออกไป ก็แค่แทงมันด้วยพลังทั้งหมดที่มีก็พอ

“บ้าไปแล้ว!”

ทันใดนั้นมูเด็นก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ ฉันและคว้าดาบนั้นไป

หากช้าไปเพียงหนึ่งวินาทีต่อมา ฉันคงล้มลงโดยมีเลือดไหลออกจากหัวใจ

“นาย่ทาน บ้าไปแล้วเหรอ!”

ฟึ้บ!

ไบฟรอตลอยออกไปจากมือของฉัน

มูเด็นพูดผ่านฟันที่กัดแน่นของเขา

"นายท่านรู้อะไรไหม? หากนายท่านตายเนลม์ไฮมฟ์….”

“มันคบจะจบลงแล้ว”

แม้ว่าฉันซึ่งเป็นนายท่านจะไม่อยู่ เนลม์ไฮมฟ์ก็สามารถอยู่ต่อไปได้อย่างน้อย 10 ปี

ถ้าเราตีความสิ่งนี้กลับกัน นั่นหมายความว่าชีวิตของเนลม์ไฮมฟ์จะต้องจบลงสักวันหนึ่งโดยไม่มีฉัน

“ถ้าไม่อยากถูกมัดและโยนไปขังเดี่ยว อย่าทำอะไรแบบนี้อีก!”

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่สามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้ แล้วนายจะส่งฉันกลับไปที่โลกได้ยังไง?”

“คุณเสียสติไปแล้ว”

มูเด็นหยิบอาวุธของเขาออกมา

หอกสีเข้มที่มีร่องรอบการต่อสู้เต็มไปหมด

“มาตัดสินกันอย่างใจเย็น นี่ของคุณ”

“พอจะให้เข้ามาก็โดนลากเข้ามา และพอจะออกก็ต้องโดนไล่ออกไปด้วยเหรอ? แต่ยังไงฉันก็เลือกได้ ว่าฉันจะอยู่ที่นี่แล้วก่อปัญหา หรือจะกลับโลกไปนอนก็ได้ ฉันสามารถเลือกมันได้ตามต้องการ ถ้าไม่ได้ผล...งั้นก็ตายเสียดีกว่า”

ฉันหัวเราะเบาๆ

“ด้วยพลังของนาย นายจะสามารถหยุดฉันได้ค่ที่นี่ แต่นายจะไปได้ไกลแค่ไหน? นายที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเนลม์ไฮมฟ์จะสามารถติดตามฉันเข้าสู่ภารกิจได้ไหม? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันฆ่าตัวตายระหว่างภารกิจ?”

“...”

“แม้ว่านายจะไม่ทำอะไรเลย ฉันก็จะทำภารกิจของฉันไปจนจบ มันเป็นการตัดสินใจของฉัน อย่ามาพูดเรื่องอื่นเลยเพราะฉันมีสิทธิ์ตัดสินชะตากรรมของตัวเอง ฉันไม่ขอฝากชะตากรรมของฉันไว้กับใครทั้งนั้น”

"คุณ……."

“มันแตกต่างจากตอนที่ฉันเป็นนายท่านหรือเปล่า?”

ฉันก้าวไปข้างหน้า

หอกแทงเข้าที่หน้าอกของฉันเล็กน้อย

มันก็เหมือนกับที่ผู้ชายคนนี้พูด

ที่ผ่านมาฉันไม่เคยทำอะไรบ้าๆแบบนี้มาก่อน

ตอนนี้ที่ฉันทำมันเป็นการกระทำที่สละชีวิตครึ่งหนึ่งไป ความเสี่ยงในการเดิมพันครั้งนี้คือชีวิตของฉัน

“มันไม่ชัดเจนเหรอ? ฉันไม่ใช่นายท่านของพวกนายอีกต่อไป”

มูเด็นก้มหน้าและลดหอกของเขาลง

“กลับไปบอกเซริสซะ..หากเธอเข้าใจแล้วก็อย่ารบกวนและนายก็ออกไปจากที่นี่ซะ”

“ชีวิตของนายท่านไม่ใช่แค่ของเซริสเท่านั้น แต่นายท่านคือนายท่านของพวกเราทุกคน….”

“คคิดว่าฉันจะหลงทางง่ายขนาดนั้นเหรอ?”

ฉันใส่ไบฟรอสเข้าไปในฝัก

“……เซริสบอกว่าไม่เข้าใจ”

“บอกให้เธอกลับมาหลังจากที่ฉันปีนหอคอยจนเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นฉันจะรับฟังข้อร้องเรียนหรืออะไรก็ตาม ฉันจะไม่โต้แย้งใดๆและกลับไปยังโลกที่ฉันจากมา”

“นี่กำลังจะทำให้ผมเป็นบ้า”

มูเด็นจับหน้าผากของเขา

แล้วเขาก็ค่อยๆหายไปพร้อมกับภาพติดตาอันเลือนลาง

'นี้ฉันกำลังซื้อเวลากับสิ่งนี้หรือเปล่า?'

ฉันดีดนิ้วของฉัน

ผงดาวประกายวิบวับแพร่กระจาย และนางฟ้าที่คุ้นเคยก็ปรากฏตัวขึ้น

[คนๆนั้นไปแล้วเหรอคะ?]

ไอเซลล์มองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าหวาดกลัว

"เธอเองก็รู้เหรอ?"

[ก่อนอื่นเลย ดูเหมือนว่าไม่มีใครอยู่แล้ว….]

ดูเหมือนว่าเธอจะหวาดกลัวกับคลื่นพลังงานของมูเด็น

มันไม่ค่อยสมเหตุสมผล ไอเซลล์เองก็เก่งกว่าฮีโร่ธรรมดาๆ อย่างน่าขัน

ระดับของไอเซลล์น่าจะอยู่อยู่ในช่วง 200 กลางๆ

ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องพลังการต่อสู้หรือเปล่า แต่ความสามารถอื่น ๆ นั้นอยู่ไม่ได้ห่างกันมากนัก

และมูเด็นสามารถรบกวนเซิร์ฟเวอร์และข้อมูลของเกมได้โดยตรง นั้นจึงอาจจะเป็นเหตุผลที่ไอเซลล์กลัวเขา

"เปิดประตู"

[… …ฮะ? อ่าค่ะๆ]

ไอเซลล์พยักหน้า

จากนั้นเธอก็เริ่มรวบรวมพลังงานโดยการควงแขนของเธอ

[ฮ่าฮ่า! ประตูนางฟ้า!]

แฟลช!

พอร์ทัลก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าฉันทันที

ฉันเดินเข้าประตูไปโดยไม่ลังเล

มีแสงจางๆ กระจายออกไปรอบๆ

[คำเตือน!]

[คุณไม่ได้รับอนุญาต… … .]

ติ้ด!

เมื่อไอเซลล์วางมือบนโฮโลแกรม หน้าต่างคำเตือนก็หายไป

สิ่งที่ตามมาคือวิวห้องพักพักหนึ่ง มันเป็นห้องเล็กๆ ที่ถ้าจะเข้าไปต้องก้มตัวลงเท่านั้น มีเตียง โต๊ะ และเก้าอี้ที่จัดวางอย่างเรียบร้อย และมีลายเซ็นของฉันอยู่ในกรอบบนผนัง

[ห้อง75244687]

[ห้องของไอเซลล์]

นี่เป็นอีกมิติหนึ่งที่มีอยู่ด้านหลังห้องรอ

ไม่มีอยู่ที่นี่ มีเพียงไอเซลล์เท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้

[เรียบร้อยค่ะ]

ไอเซลล์เช็ดเหงื่อและโบกมือเล็กๆของเธอไปมา

ในที่สุดพอร์ทัลที่เบลอก็ปิดลง

“อันนั้นล่ะ?”

ไอเซลล์ชี้ไปที่โต๊ะ

เมื่อฉันเข้าไปใกล้และเปิดลิ้นชัก หนังสือที่มีปกหนังที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้น

'มันไม่ค่อยปกติเท่าไหร่'

ฉันเปิดหนังสือและพลิกดูมัน

หน้ากระดาษขาดหลายที่ประมาณครึ่งหนึ่ง

'มันค่อนข้างยากเหมือนกัน'

การฉีกมันออกครึ่งหนึ่งเพื่อให้ดูเหมือนเป็นหนังสือเล่มใหม่เป็นงานที่ค่อนข้างยุ่งยาก

แต่เพราะมันเป็นหนังสือเล่มหนามันจึงสามารถทำได้ ถ้ามันมีขนาดเท่ากับนิตยสารบางๆ มันคงจะถูกค้นพบทันที

พวกนั้นถูกหลอก

แต่นั้นคงเพราะ เซริสคงไม่เคยเห็นคัมภีร์ลับแห่งสวรรค์จริงๆ

มันคงเป็นไปไม่ได้เลยถ้ามันเป็นของปลอมทั้งหมด ครึ่งหนึ่งของมันเป็นของจริง

มันถูกสร้างขึ้นก่อนที่นักฆ่าจะเข้ามาโจมตีที่ห้องรอ

เพราะฉันคิดว่าสิ่งนี้อาจเกิดขึ้น

“เธอวิเคราะห์ข้อมูลเสร็จแล้วเหรอ?”

ฉันมองไปที่ไอเซลล์

ฉันทำคัมภีร์ลับแห่งสวรรค์ปลอมขึ้นมาโดยใช้ชิ้นส่วนที่ไม่มีประโยชน์ให้ได้มากที่สุด

[คือว่า……….]

"คือว่าอะไร?"

ไอเซลล์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเปิดปากพูดบางอย่างออกมา

[……พบรอยประทับของลาสกันดา]

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด