ตอนที่แล้วบทที่ 24 ไม่คาดคิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26 ล้อมสังหารหลงเฉิน

บทที่ 25 ฉินเหล่าลงมือ


บทที่ 25 ฉินเหล่าลงมือ

เช้าตรู่ของวันนี้ มู่หรงหลินได้ใช้ 5 คะแนนวายร้ายซื้อยันต์จากระบบร้านค้า ยันต์จิตวิญญาณระดับสวรรค์ขั้นสูง ‘ผลิกผันชีวิตและความตาย’

ผู้ที่ถูกยันต์นี้เล่นงานจะรู้สึกผิดต่อเหตุการณ์สะเทือนอารมณ์ ซึ่งมากพอที่จะทำให้พวกเขาฆ่าตัวตายได้โดยไม่ลังเล ก่อนหน้ามู่หรงหลินมั่นใจว่าจูจู๋ชูผูกพันธ์กับนิกายร้อยบุปผาและรู้ว่าความพ่ายแพ้ของนางจะต้องเกี่ยวข้องกับนิกาย และเมื่อรู้ผลการต่อสู้อยู่แล้ว มู่หรงหลินจึงได้ซื้อยันต์จากระบบร้านค้าและใช้มันกับนางไปเมื่อเช้า

แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าจูจู๋ชูจะฆ่าตัวตายเร็วถึงเพียงนี้ และหลังจากนางตาย ร่องรอยของยันต์ทั้งหมดก็จะหายไปจากโลกนี้ด้วย

ในฐานะคู่หมั้นของตัวเอกที่เพิ่งถอนหมั้นได้ไม่นาน การตายของนางจึงส่งผลต่อรัศมีตัวเอกอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้มู่หรงหลินได้รับ 50 คะแนนวายร้ายมาอย่างง่ายดาย

มู่หรงหลินมองดูสนามประลองและเห็นผู้อาวุโสใหญ่ของนิกายร้อยบุปผา เหวี่ยงฝ่ามือไปที่แผ่นหลังของหลงเฉิน แต่ในขณะนั้นมันก็มีร่างหนึ่งโผล่มาคั่นกลางระหว่างพวกเขาทั้งสอง

เป็นฉินเหล่า

ฝ่ามือของฉินเหล่าเหวี่ยงสกัดกั้นการโจมตีของผู้อาวุโสใหญ่และคว้าจับเสื้อของหลงเฉินดึงเขาถอยออกไป

ทว่าผู้อาวุโสใหญ่ของนิกายร้อยบุปผาจะปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้เช่นนั้นหรือ? นางตะโกนลั่นทันที “ผู้อาวุโสหยุดพวกมัน! อย่าปล่อยให้หนีไปได้!”

ผู้อาวุโสขอบเขตสำแดงสองคนที่ยืนเฝ้าทางเข้าลงมืออย่างรวดเร็ว พวกเขาโคจรเคล็ดวิชาและทักษะจิตวิญญาณของนิกายร้อยบุปผา โจมตีฉินเหล่าพร้อมกัน

ฉินเหล่าโบกมือและส่งทั้งสองปลิวลอยออกไปจนพวกเขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก

ในเวลาเดียวกัน ผู้อาวุโสใหญ่ได้ปลดปล่อยอวตารสำแดงของตัวเองออกมา

เป็นต้นเถาวัลย์ที่สูงเกือบเท่าตึกห้าชั้น นางเหวี่ยงรากเถาวัลย์หลายร้อยเส้นโจมตีฉินเหล่าและหลงเฉิน

ฉินเหล่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปลดปล่อยอวตารสำแดงเพื่อต่อสู้กับผู้อาวุโสใหญ่ และครุ่นคิดกับตัวเองในใจ หลงเฉินครั้งนี้ข้าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อช่วยเจ้า

แม้ว่าเดิมทีฉินเหล่าจะอยู่ขอบเขตสวรรค์ ทว่าเขาได้ติดอยู่ในค่ายกลมานานกว่าห้าสิบปี มันจึงทำให้ความแข็งแกร่งของเขาถดถอยลงจนมาอยู่ขอบเขตสำแดง

อวตารสำแดงของฉินเหล่าคือ ‘วัชระหกศาสตรา’ ที่มีความสูงเทียบเท่ากัน เขาเผชิญหน้ากับอวตารสำแดงของผู้อาวุโสใหญ่ที่แผ่รากเถาวัลย์นับร้อยเลื้อยพันแขนทั้งหก มันเป็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและยากจะมองได้ทัน ทำให้ผู้คนโดยรอบเริ่มถอยหนีจากความรุนแรงของการต่อสู้

ใครมันจะกล้าเข้าไปขวางการต่อสู้ระหว่างสองยอดฝีมือขอบเขตสำแดง?

มู่หรงหลินเหลือบมองทั้งสองที่เข้าห้ำหั่นกันขณะยิ้มเยาะเย็นชาอยู่ภายในใจ เขาโบกมือเป็นสัญญาณให้สอง ‘พฤษาเหล็กผลิดอก’ และ ‘ยอดแปดราชันดาบ’ คอยติดตามการต่อสู้

ฉินเหล่าและผู้อาวุโสใหญ่ของนิกายร้อยบุปผาดูราวกับเข้าตาจน ทั้งคู่เป็นผู้อาวุโสที่สังขารร่างกายชราภาพและความแข็งแกร่งทัดเทียมกัน จึงเป็นเรื่องยากที่ระหว่างทั้งสองจะหาผู้ชนะได้อย่างรวดเร็ว

ฉินเหล่ายิ้มอย่างขมขื่นอยู่ภายในใจขณะเห็นความเกลียดชังของผู้อาวุโสใหญ่ที่มีต่อเขาและหลงเฉิน

“เจ้าเป็นใคร! เหตุใดถึงปกป้องเจ้าเด็กนั้น!” ผู้อาวุโสใหญ่คำรามด้วยโทสะและสับสน

“ข้าแค่ตอบแทนที่เขาช่วยชีวิตข้า..” ฉินเหล่ากล่าวเสียงเบา ใบหน้าของเขาสงบนิ่ง แต่ภายในใจเขาเป็นกังวลมาก

ถึงแม้ว่าครั้งหนึ่งเขาจะเคยเป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตสวรรค์ แต่ตอนนี้เขาอยู่เพียงขอบเขตสำแดงเท่านั้น ฉินเหล่าแทบจะไม่สามารถรับมือกับผู้อาวุโสใหญ่ของนิกายร้อยบุปผาได้และทำได้เพียงรักษาระยะห่างขณะพยายามหาโอกาสหลบหนี อีกอย่าง หากผู้นำนิกายร้อยบุปผาปรากฏตัว ฉินเหล่าก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเขากับหลงเฉินจะหลบหนีไปได้หรือไม่

ทันใดนั้นใบหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ก็ซีดลงขณะมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของนาง ลมปราณของนางได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำหน้าฉินเหล่าไปอย่างช้าๆ และมีหยดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากของนาง ไหลลงมาทำให้ชุดของนางเปียกโชก

ฉินเหล่าหน้าเปลี่ยนสี “เผาผลาญพลังชีวิต? เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ?”

เขาตั้งท่าอย่างรวดเร็วและเริ่มโคจรพลังวิญญาณพร้อมกับใช้ทักษะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดที่ตัวเขามี

เถาวัลย์นับร้อยบินขึ้นฟ้าและพัวพันกัน กลายเป็นรูปกรวยขนาดยักษ์ที่ปลายแหลมของกลวยคมกริบสะท้อนแสงเย็น หันชี้ไปทางหลงเฉินในมือของฉินเหล่า

อีกด้าน มือทั้งหกของวัชระหกศาสตราได้ส่องแสงสีทองสว่าง ก่อตัวเป็นระฆังทองคำที่หมุนอยู่บนมือทั้งหกของมัน ฉินเหล่ากัดฟันแน่นด้วยแสงอันแน่วแน่แวบผ่านในดวงตา!

“สามใบหลิวโบยบิน!”

“ปราณวัชระหกศาสตรา!”

ทักษะอันทรงพลังของสองยอดฝีมือเข้าปะทะกัน ทำให้เกิดคลื่นกระแทกรุนแรงพัดสิ่งโดยรอบปลิวว่อน กระทั่งต้นไม้ก็ยังถูกถอนราก โชคดีที่ทั้งสองได้ออกมาต่อสู้ข้างนอกนิกายแล้ว มันจึงไม่มีผู้ใดโดนลูกหลง

ฉินเหล่ารับการโจมตีของผู้อาวุโสใหญ่เอาไว้ได้ ทว่าเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บกลับมาด้วยเช่นกัน เขาอาเจียนเลือดออกมาเต็มปากก่อนจะมองดูอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดีนัก

ผู้อาวุโสใหญ่จ้องมองฉินเหล่าและหลงเฉินด้วยผมเผ้ารุงรัง ก่อนจะกล่าวน้ำเสียงน่าสะพรึง “พวกเจ้าจะไม่มีใครหนีไปไหนได้!”

บางทีเมื่อสัมผัสถึงภัยอันตรายที่ใกล้เข้ามา สายเลือดมังกรเถ้าย้อนกลับภายในร่างของหลงเฉินก็ได้ตื่นขึ้น เลือดมังกรอันเดือดพล่านได้ไหลเวียนไปทั่วร่าง ทำให้หลงเฉินรู้สึกราวกับว่าทุกเส้นลมปราณภายในร่างของเขาเต็มไปด้วยพลังอันไร้ขีดจำกัด จากนั้นลำคอของหลงเฉินก็บางสิ่งกำลังควบแน่นขึ้นมา

ร่างกายมนุษย์มีเส้นลมปราณ 360 เส้น รวมถึงเส้นลมปราณซ่อนเร้น 9 เส้นอันเป็นเอกลักษณ์ของสายเลือดมังกรเถ้าย้อนกลับ เส้นลมปราณทั้ง 369 เส้นของหลงเฉินได้ถูกเสริมแกร่งอย่างต่อเนื่องด้วยเลือดมังกร

ลำคอของหลงเฉินค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงและเริ่มเรืองแสงออกมา แสงนั้นส่องสว่างมากขึ้นเรื่อยๆจนแสบตา และทำให้เขาต้องอ้าปากค้างเพราะพลังอันแกร่งกล้าในลำคอ

ฉินเหล่าก้มมองด้วยความประหลาดใจ ทว่าเขาก็รู้ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลามาไถ่ถาม เขารีบเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อสกัดกั้นการโจมตีของผู้อาวุโสใหญ่ ป้องกันไม่ให้นางเข้ามาขัดหลงเฉิน

ผู้อาวุโสใหญ่ของนิกายร้อยบุปผามองไปที่หลงเฉินด้วยความตกตะลึงขุ่นเคืองและโจมตีอย่างบ้าคลั่ง พยายามทำลายการป้องกันของฉินเหล่า เพื่อไปจับตัวหลงเฉินและให้เขาชดใช้กับชีวิตที่เพิ่งสูญเสียไป

“หลงเฉิน! ตายซะ!” ผู้อาวุโสใหญ่กรีดร้องด้วยความโศกเศร้าและโทสะ นางรวบรวมพลังทั้งหมดกระโจนเข้าหาหลงเฉินที่ยังอยู่ในมือของฉินเหล่า

ขณะเดียวกัน ลำแสงสว่างจ้าก็พุ่งออกมาจากปากของหลงเฉิน พลังงานที่สะสมอยู่ในลำคอของเขาได้ก่อตัวเป็นลำแสงพุ่งโจมตีผู้อาวุโสใหญ่ที่กระโจนเข้ามา

ลมหายใจมังกรเถ้าย้อนกลับ!

ใบหน้าของหลงเฉินเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำพร้อมกับเส้นเลือดปูดขึ้นมา ทำให้ใบหน้าของเขาในยามนี้ดูน่ากลัวยิ่ง หลังจากปล่อยลมหายใจมังกรออกไปประมาณสิบวินาที หลงเฉินก็ไม่สามารถทนได้อีก ลำแสงได้หายเข้าไปในปากของเขา ขณะมีควันดำลอยออกมาพร้อมกับเลือดเต็มปาก “ไปกันเถอะ!”

ผู้อาวุโสใหญ่พยายามสกัดกั้นการโจมตีของหลงเฉินอย่างเต็มที่ ทว่าลมหายใจมังกรที่มาจากสายเลือดของตัวเอกมันจะอ่อนแอไปได้เยี่ยงไร?

อวตารสำแดงของนางสลายหายไปทันทีและอาเจียนเป็นเลือดออกมาด้วยสีหน้าซีดเผือด จากนั้นลำแสงก็พุ่งตรงทะลุผ่านหน้าอกของนาง ระเบิดเสียงดังลั่นไปทั่วอยู่บนภูเขาด้านหลัง

ผู้คนของนิกายร้อยบุปผาที่วิ่งตามมาเงยหน้าขึ้นอย่างตกตะลึง

“ผะ ผู้อาวุโสใหญ่… ตายแล้ว?”

“เขาสังหารผู้อาวุโสใหญ่!”

“เร็วเข้า! รีบค้นหาร่างของผู้อาวุโสใหญ่ ไม่สิ! รีบไปรายงานท่านบรรพชน!”

ศิษย์ของนิกายร้อยบุปผากรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง พวกนางไม่มีความกล้าพอจะไล่ตามพวกหลงเฉินไปอีก

ร่างของผู้อาวุโสใหญ่ได้ระเบิดอยู่กลางอากาศ เลือดและเนื้อของนางกระจัดกระจายไปทั่ว พร้อมกับศีรษะที่กระเด็นขึ้นฟ้าอย่างสง่างามก่อนจะตกลงสู่พื้น

อีกด้านหนึ่ง ฉินเหล่าใช้โอกาสนี้หลบหนีไปพร้อมกับหลงเฉินด้วยสีหน้าประหลาดใจ…

หลังจากหนีไปจนถึงลำธารเล็กๆ ฉินเหล่าก็วางหลงเฉินลงบนพื้นและเริ่มรักษาอาการบาดเจ็บของเขา “ข้าจะรักษาอาการบาดเจ็บเจ้าก่อน เจ้าสร้างเรื่องวุ่นวายมากในครั้งนี้ ผู้นำนิกายของพวกเขาคงจะไล่ล่าพวกเราอย่างแน่นอน เจ้าคิดว่าพวกเราควรจะหนีไปที่ไหน?”

ปากของหลงเฉินยังเต็มไปด้วยเลือด เขายิ้มตอบอย่างขมขื่น “จะไปที่ไหนได้? ตระกูลหลงของข้าล่มสลายไปแล้ว...”

“ตั้งสติหน่อย! แม้จูจู๋ชูจะตายไปแล้ว แต่คนร้ายที่สังหารทั้งตระกูลเจ้ายังอยู่ เจ้าจะปล่อยให้พวกมันลอยนวลไปงั้นหรือ?

หลงเฉินสูดหายใจเข้าลึก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและโทสะอีกครั้ง “ไม่แน่นอน! ข้าลืมไปเลยว่าพวกมันยังอยู่! เช่นนั้นพวกเราจะไปที่เมืองเป้ยถ่าน!”

ทว่าทันใดนั้นก็มีเสียงที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ยดังมาจากรอบข้างพวกเขา

“จะกลับไปได้อย่างไร? ในเมื่อพวกเจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด