ตอนที่แล้วระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 172 ไม่เกี่ยวข้อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 174 ยิ่งวุ่นวายยิ่งดี

ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 173 ความจงรักภักดี


ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 173 ความจงรักภักดี

อาณาเขตตระกูลหลัว

ในลานที่มีกลิ่นอายโบราณแห่งหนึ่ง

หลัวจิ่วเกอกำลังนั่งขัดสมาธิ

หลับตาแน่น

ตรงหน้าเขามีแก่นเทวะจอมเทพลอยอยู่

บนร่างกายมีกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของขอบเขตกึ่งเทพกำเนิดขึ้น

หากก้าวข้ามขอบเขตกึ่งเทพไปได้ ก็จะเป็นขอบเขตเทพชั้นต่ำ

แต่การจะทะลวงจากขอบเขตกึ่งเทพไปสู่ขอบเขตเทพชั้นต่ำนั้น จำเป็นต้องหล่อแก่นเทวะที่แท้จริงขึ้นมาในสมองแทนแก่นเทวะเทียมเสียก่อน

อีกทั้งยังต้องมีการหยั่งรู้ต่อฟ้าดินธรรมชาติ

รวมถึง......

การหยั่งรู้ในกฎที่จำเป็นสำหรับการเป็นเทพ

เช่นนี้ จึงจะสามารถทะลวงไปสู่ขอบเขตเทพชั้นต่ำได้

ทว่าตอนนี้ การหยั่งรู้ในกฎของหลัวจิ่วเกอไม่มีปัญหาใด ๆ

แต่สำหรับการหยั่งรู้ฟ้าดินธรรมชาติของเขานั้น

ดูเหมือนว่าจะยังห่างไกลไปสักหน่อย

การหล่อแก่นเทวะที่แท้จริงขึ้นมาคงยังไม่ใช่เวลา

ในลาน

หลัวจิ่วเกอค่อย ๆ ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง

หลังจากนั้น ก็ลืมตาขึ้น ดวงตาสีดำสนิท ลึกล้ำ ราวกับดวงดาวทั่วฟ้า หรือไม่ก็เหมือนหุบเหวไร้ก้นบึ้ง

ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองทะลุได้เลย

"นายท่าน นี่คือเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในทวีปซวนหยวนช่วงนี้"

มีพ่อบ้านคนแก่ที่มีร่างงุ้มเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหี่ยวย่น

หลัวฟู ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าหลัวจิ่วเกอ

"รับทราบ"

"เจ้าลงไปได้"

รับเอกสารบันทึกเรื่องราวใหญ่ ๆ ที่เกิดขึ้นในทวีปซวนหยวนช่วงนี้มา

หลัวจิ่วเกอก็เปิดอ่าน

หลังจากนั้นก็นั่งเงียบ ๆ ใต้ซุ้มหิน แล้วชงชากระจ่างเต๋าให้ตัวเองหนึ่งกา

ค่อย ๆ เปิดอ่านอย่างช้า ๆ

[เผ่ามนุษย์เงือก บุกโจมตีมณฑลซุยอวิ๋นอย่างเต็มรูปแบบด้วยกองทัพนับหมื่นล้านล้าน!]

[เหยาจือหัว จ้าวหอพันโอสถคนปัจจุบันเสียชีวิต หอพันโอสถอยู่ภายใต้การบริหารของถังยวี่ บรรพบุรุษแห่งตระกูลถัง!]

[ตระกูลจักรพรรดิโบราณซวนหยวนแห่งมณฑลจง ประจำการอยู่ในมณฑลซุยอวิ๋น!]

[แคว้นพุทธแห่งมณฑลหนานหัวสนับสนุนมณฑลซุยอวิ๋น!]

เห็นข้อมูลเหล่านี้แล้ว

สีหน้าของหลัวจิ่วเกอก็ไม่เปลี่ยนแปลง

การโจมตีของเผ่ามนุษย์เงือก เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องใส่ใจมากนัก ไม่ว่าอย่างไรตระกูลหลัวแห่งมณฑลตงหวงของเขาก็เพียงแค่จำเป็นต้องพัฒนาอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น

เหยาจือหัว จ้าวหอพันโอสถคนปัจจุบันเสียชีวิต

ถังยวี่ บรรพบุรุษของตระกูลถัง เป็นผู้ดูแลหอพันโอสถ

เรื่องนี้ทำให้หลัวจิ่วเกอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นเรื่องในมณฑลว่านกู่

เขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจมากนัก

ส่วนตระกูลจักรพรรดิโบราณซวนหยวนแห่งมณฑลจงประจำการอยู่ในมณฑลซุยอวิ๋น รวมถึงแคว้นพุทธแห่งมณฑลหนานหัวสนับสนุนมณฑลซุยอวิ๋นนั้น

เรื่องทั้งสองนี้กลับทำให้หลัวจิ่วเกอเกิดความสนใจขึ้นมาเล็กน้อย

"ตระกูลจักรพรรดิโบราณซวนหยวนแห่งมณฑลจงประจำการอยู่ในมณฑลซุยอวิ๋น?"

"ได้ยินว่าเมื่าหนึ่งแสนปีก่อน ตระกูลซวนหยวนยังเป็นผู้ปกครองแห่งทวีปซวนหยวน แต่เนื่องจากบรรพบุรุษของตระกูลซวนหยวนนั้นเสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุบางอย่าง"

"ทำให้ทวีปซวนหยวน ทั้ง 13 มณฑลตกอยู่ในความปั่นป่วน และพัฒนาเป็นสถานการณ์ในปัจจุบัน"

"แต่ตอนนี้ เมื่อเผ่ามนุษย์เงือกโจมตีมณฑลซุยอวิ๋น ตระกูลซวนหยวนประจำการอยู่ในมณฑลซุยอวิ๋น ตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่?"

"แล้วก็แคว้นพุทธในมณฑลหนานหัว.."

"ต้องการจะใช้โอกาสนี้ในการเผยแพร่ความศรัทธาหรือ?"

หลังจากเงียบไปครู่ใหญ่

หลัวจิ่วเกออดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วส่ายหน้า

เรื่องเหล่านี้ไม่มีความสำคัญแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตระกูลจักรพรรดิโบราณซวนหยวน หรือไม่ก็แคว้นพุทธแห่งมณฑลหนานหัวล้วนไม่สำคัญ

สำหรับตระกูลหลัวแห่งมณฑลตงหวงของเขาแล้ว

ทุกอย่างไม่มีความสำคัญอีกต่อไป

เพราะในโลกอันเย็นชาและโหดร้ายใบนี้ มีเพียงพลังที่เข้มแข็งสมบูรณ์เท่านั้นที่สำคัญที่สุด

หลังดื่มชากระจ่างเต๋าหมด และเข้าใจเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นช่วงนี้ในทวีปซวนหยวนแล้ว

หลัวจิ่วเกอก็เริ่มตั้งใจศึกษาปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่น 2

ใช่แล้ว เมื่อสักครู่นี้

หลัวจิ่วเกอตั้งชื่อปืนใหญ่นี้ว่า ปืนใหญ่ถล่มฟ้า

ปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่นก่อนที่ส่งให้หลัวเหรินไปคือรุ่น 1 ที่ยังไม่สมบูรณ์ พลังทำลายล้างยังไม่ถึงขีดสุด

ส่วนที่หลัวจิ่วเกอกำลังศึกษาอยู่นั่นคือปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่น 2

ถึงแม้การศึกษาวัตถุนี้จะทำให้ปวดหัวอยู่บ้าง

แต่หากสามารถปรับปรุงปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่น 1 ได้สำเร็จ และศึกษาออกแบบปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่น 2 แล้วล่ะก็

ไม่ว่าจะเป็นสำหรับตระกูลหลัว หรือแม้กระทั่งมณฑลตงหวงทั้งหมด

พลังที่เพิ่มขึ้นนั้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว

ทวีปซวนหยวน มณฑลไป่เหอ

อาณาเขตตระกูลตงฟาง ในห้องที่ดูเปล่าเปลี่ยวแห่งหนึ่ง

ตงฟางฉี จ้าวตระกูลตงฟางคนปัจจุบัน

กำลังนั่งนิ่งอยู่บนตำแหน่งจ้าวตระกูล

สีหน้าของเขาดูซับซ้อนอยู่บ้าง

ได้รับการช่วยเหลือจากตระกูลหลัวเจ้าเหนือหัวคนใหม่แห่งมณฑลตงหวง ตระกูลตงฟางของเขาถล่มกองทัพใหญ่ของตระกูลหนานกงได้สำเร็จ ทำให้ตระกูลหนานกงได้รับความเสียหายอย่างหนัก

เรื่องนี้ ในฐานะจ้าวตระกูลตงฟางคนปัจจุบัน ตงฟางฉีรู้สึกพอใจมากทีเดียว

ผ่านทรัพยากรจำนวนมากของตระกูลหลัว

พลังของตระกูลตงฟางก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

ส่วนตัวเขาถูกปลูกฝังวิชาลับเอาไว้ เพื่อให้ตระกูลตงฟางทั้งหมดจงรักภักดีต่อตระกูลหลัว กลายเป็นตระกูลสาขาของตระกูลหลัว เรื่องนี้ก็ไม่มีปัญหาใด ๆ

แต่ช่วงนี้ หอพันโอสถซึ่งเป็น 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำของมณฑลว่านกู่

กลับมาติดต่อเขา บอกว่าจะร่วมมือกันจัดการกับตระกูลหลัว

เรื่องนี้เขาควรจะทำอย่างไรดี?

ตระกูลหลัวตอนนี้ถือเป็นตระกูลหลักของตระกูลตงฟางเขา แต่หอพันโอสถกลับพูดจะช่วยกันจัดการตระกูลหลัว?

พูดเล่นหรือ?

หลังยิ้มพลางส่ายหน้า จากนั้นตงฟางฉีก็หันความสนใจไปที่ตระกูลหนานกงศัตรูเก่า

ส่วนหอพันโอสถนั่น?

จะทำอะไรก็ทำไป อย่างไรก็ตามตระกูลตงฟางของเขาจะไม่ตอบรับแน่นอน

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตระกูลตงฟางกลายเป็นตระกูลสาขาของตระกูลหลัวแล้ว

เพียงแค่รู้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวและฐานรากอันลึกซึ้งของตระกูลหลัว ตงฟางฉีก็ไม่กล้าคิดจะขัดขืนตระกูลหลัวอีกแล้ว

มณฑลไป่เหอ

อาณาเขตตระกูลหนานกง

ในห้องที่ดูมืดทึมแห่งหนึ่ง

หนานกงอี้ จ้าวตระกูลหนานกงคนปัจจุบัน กำลังหน้าถมึงทึง

การร้องขอของหอพันโอสถ?

แน่นอน ตระกูลหนานกงก็ได้รับเช่นกัน

แต่ด้วยสถานะปัจจุบันของตระกูลหนานกง จะไปพูดถึงเรื่องผนึกกำลังกับหอพันโอสถเพื่อรับมือตระกูลหลัวได้อย่างไร

แม้แต่การป้องกันตระกูลตงฟาง ก็ยังลำบากพอดูอยู่แล้ว

กองทัพผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนนับสิบล้านนั้น เป็นฐานรากที่ตระกูลหนานกงสะสมมานับพันปี หรือกระทั่งหมื่นปี

ตอนนี้ ภายในชั่วข้ามคืนก็กลับไปสู่จุดเริ่มต้น

ความแค้นเคืองที่หนานกงอี้มีต่อตระกูลตงฟาง และจ้าวตระกูลตงฟางคนปัจจุบัน ก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ

"ตระกูลตงฟาง?"

"ตงฟางฉี จ้าวตระกูลตงฟางคนปัจจุบัน?"

"ช่างเก่งนัก เล่นเก่งจริง ๆ"

"แสร้งทำเป็นอ่อนแอ แล้วก็วางกับดักทำลายกำลังหลักของตระกูลหนานกงข้าในครั้งเดียว"

"ตระกูลตงฟาง ครั้งนี้ข้าหนานกงอี้จดจำไว้แล้ว"

"หากมีโอกาส ข้าหนานกงอี้จะต้องทำลายตระกูลตงฟางของเจ้าให้สิ้นซาก ให้คนในตระกูลตงฟางทุกคนได้ชดใช้ด้วยความทุกข์ทรมาน!"

ภายในห้อง

หนานกงอี้มีสีหน้าหมองคล้ำ

เขากัดฟันกรอดเกรี้ยวศัตรูเก่าอย่างตระกูลตงฟางอยู่พักใหญ่

แต่ไม่มีทางเลือก ความจริงก็คือกองกำลังหลักของตระกูลหนานกงถูกทำลายจนเกือบสิ้นซาก

ตอนนี้ต้องใช้เวลาสักพักในการพัฒนา

ส่วนตระกูลหลัวเจ้าเหนือหัวคนใหม่แห่งมณฑลตงหวง?

หนานกงอี้ได้แต่กลืนความแค้นลงท้องไปเท่านั้น ด้วยสถานการณ์ของตระกูลหนานกงในตอนนี้

หนานกงอี้ไม่กล้าไปยั่วยุตระกูลหลัวอย่างชัดเจน

ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่กล้าปล่อยให้ตระกูลหลัวรู้ด้วยซ้ำ

ว่าศิษย์รุ่นหลานของเขาถูกตระกูลหลัวฆ่าตาย

เพราะเขากลัวว่าตระกูลหลัวจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างมาโจมตีตระกูลหนานกงของเขา

มณฑลว่านกู่

สำนักใหญ่ของหอพันโอสถ ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ขุมอำนาจชั้นนำ

ในตำหนักที่ดูมืดทึมแห่งหนึ่ง

ถังยวี่ บรรพบุรุษของตระกูลถังที่สวมเสื้อคลุมสีเขียวอ่อน สีหน้านิ่งเฉย ตาลืมครึ่งหนึ่ง

กำลังนั่งอยู่บนตำแหน่งจ้าวตระกูล

"บรรพบุรุษ"

"เนื่องจากเผ่ามนุษย์เงือกโจมตีมณฑลซุยอวิ๋น ทำให้ความวุ่นวายในทวีปซวนหยวนเริ่มก่อตัวขึ้น"

"ขุมอำนาจต่าง ๆ ต่างก็กังวลใจต่อความอยู่รอดของตน"

"การจัดตั้งพันธมิตรเพื่อโจมตีตระกูลหลัว..."

"ไม่มีใครเห็นด้วยเลย"

ผู้บำเพ็ญเพียรคนหนึ่งที่เป็นคนของตระกูลถังสวมเสื้อคลุมสีดำ ก้มศีรษะลงเล็กน้อย

รายงานข้อมูลนี้ต่อบรรพบุรุษของตนที่มีพลังระดับกึ่งเทพ

"ไม่มีใครเห็นด้วย?"

ได้ยินเช่นนั้น ถังยวี่ที่นั่งอยู่บนตำแหน่งจ้าวตระกูลด้วยสีหน้านิ่งสงบ

กลับปรากฏรอยยิ้มจางบนใบหน้าทันใด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด