ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 173 ความจงรักภักดี
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 173 ความจงรักภักดี
อาณาเขตตระกูลหลัว
ในลานที่มีกลิ่นอายโบราณแห่งหนึ่ง
หลัวจิ่วเกอกำลังนั่งขัดสมาธิ
หลับตาแน่น
ตรงหน้าเขามีแก่นเทวะจอมเทพลอยอยู่
บนร่างกายมีกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของขอบเขตกึ่งเทพกำเนิดขึ้น
หากก้าวข้ามขอบเขตกึ่งเทพไปได้ ก็จะเป็นขอบเขตเทพชั้นต่ำ
แต่การจะทะลวงจากขอบเขตกึ่งเทพไปสู่ขอบเขตเทพชั้นต่ำนั้น จำเป็นต้องหล่อแก่นเทวะที่แท้จริงขึ้นมาในสมองแทนแก่นเทวะเทียมเสียก่อน
อีกทั้งยังต้องมีการหยั่งรู้ต่อฟ้าดินธรรมชาติ
รวมถึง......
การหยั่งรู้ในกฎที่จำเป็นสำหรับการเป็นเทพ
เช่นนี้ จึงจะสามารถทะลวงไปสู่ขอบเขตเทพชั้นต่ำได้
ทว่าตอนนี้ การหยั่งรู้ในกฎของหลัวจิ่วเกอไม่มีปัญหาใด ๆ
แต่สำหรับการหยั่งรู้ฟ้าดินธรรมชาติของเขานั้น
ดูเหมือนว่าจะยังห่างไกลไปสักหน่อย
การหล่อแก่นเทวะที่แท้จริงขึ้นมาคงยังไม่ใช่เวลา
ในลาน
หลัวจิ่วเกอค่อย ๆ ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง
หลังจากนั้น ก็ลืมตาขึ้น ดวงตาสีดำสนิท ลึกล้ำ ราวกับดวงดาวทั่วฟ้า หรือไม่ก็เหมือนหุบเหวไร้ก้นบึ้ง
ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองทะลุได้เลย
"นายท่าน นี่คือเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในทวีปซวนหยวนช่วงนี้"
มีพ่อบ้านคนแก่ที่มีร่างงุ้มเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหี่ยวย่น
หลัวฟู ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าหลัวจิ่วเกอ
"รับทราบ"
"เจ้าลงไปได้"
รับเอกสารบันทึกเรื่องราวใหญ่ ๆ ที่เกิดขึ้นในทวีปซวนหยวนช่วงนี้มา
หลัวจิ่วเกอก็เปิดอ่าน
หลังจากนั้นก็นั่งเงียบ ๆ ใต้ซุ้มหิน แล้วชงชากระจ่างเต๋าให้ตัวเองหนึ่งกา
ค่อย ๆ เปิดอ่านอย่างช้า ๆ
[เผ่ามนุษย์เงือก บุกโจมตีมณฑลซุยอวิ๋นอย่างเต็มรูปแบบด้วยกองทัพนับหมื่นล้านล้าน!]
[เหยาจือหัว จ้าวหอพันโอสถคนปัจจุบันเสียชีวิต หอพันโอสถอยู่ภายใต้การบริหารของถังยวี่ บรรพบุรุษแห่งตระกูลถัง!]
[ตระกูลจักรพรรดิโบราณซวนหยวนแห่งมณฑลจง ประจำการอยู่ในมณฑลซุยอวิ๋น!]
[แคว้นพุทธแห่งมณฑลหนานหัวสนับสนุนมณฑลซุยอวิ๋น!]
เห็นข้อมูลเหล่านี้แล้ว
สีหน้าของหลัวจิ่วเกอก็ไม่เปลี่ยนแปลง
การโจมตีของเผ่ามนุษย์เงือก เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องใส่ใจมากนัก ไม่ว่าอย่างไรตระกูลหลัวแห่งมณฑลตงหวงของเขาก็เพียงแค่จำเป็นต้องพัฒนาอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น
เหยาจือหัว จ้าวหอพันโอสถคนปัจจุบันเสียชีวิต
ถังยวี่ บรรพบุรุษของตระกูลถัง เป็นผู้ดูแลหอพันโอสถ
เรื่องนี้ทำให้หลัวจิ่วเกอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นเรื่องในมณฑลว่านกู่
เขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจมากนัก
ส่วนตระกูลจักรพรรดิโบราณซวนหยวนแห่งมณฑลจงประจำการอยู่ในมณฑลซุยอวิ๋น รวมถึงแคว้นพุทธแห่งมณฑลหนานหัวสนับสนุนมณฑลซุยอวิ๋นนั้น
เรื่องทั้งสองนี้กลับทำให้หลัวจิ่วเกอเกิดความสนใจขึ้นมาเล็กน้อย
"ตระกูลจักรพรรดิโบราณซวนหยวนแห่งมณฑลจงประจำการอยู่ในมณฑลซุยอวิ๋น?"
"ได้ยินว่าเมื่าหนึ่งแสนปีก่อน ตระกูลซวนหยวนยังเป็นผู้ปกครองแห่งทวีปซวนหยวน แต่เนื่องจากบรรพบุรุษของตระกูลซวนหยวนนั้นเสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุบางอย่าง"
"ทำให้ทวีปซวนหยวน ทั้ง 13 มณฑลตกอยู่ในความปั่นป่วน และพัฒนาเป็นสถานการณ์ในปัจจุบัน"
"แต่ตอนนี้ เมื่อเผ่ามนุษย์เงือกโจมตีมณฑลซุยอวิ๋น ตระกูลซวนหยวนประจำการอยู่ในมณฑลซุยอวิ๋น ตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่?"
"แล้วก็แคว้นพุทธในมณฑลหนานหัว.."
"ต้องการจะใช้โอกาสนี้ในการเผยแพร่ความศรัทธาหรือ?"
หลังจากเงียบไปครู่ใหญ่
หลัวจิ่วเกออดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วส่ายหน้า
เรื่องเหล่านี้ไม่มีความสำคัญแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตระกูลจักรพรรดิโบราณซวนหยวน หรือไม่ก็แคว้นพุทธแห่งมณฑลหนานหัวล้วนไม่สำคัญ
สำหรับตระกูลหลัวแห่งมณฑลตงหวงของเขาแล้ว
ทุกอย่างไม่มีความสำคัญอีกต่อไป
เพราะในโลกอันเย็นชาและโหดร้ายใบนี้ มีเพียงพลังที่เข้มแข็งสมบูรณ์เท่านั้นที่สำคัญที่สุด
หลังดื่มชากระจ่างเต๋าหมด และเข้าใจเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นช่วงนี้ในทวีปซวนหยวนแล้ว
หลัวจิ่วเกอก็เริ่มตั้งใจศึกษาปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่น 2
ใช่แล้ว เมื่อสักครู่นี้
หลัวจิ่วเกอตั้งชื่อปืนใหญ่นี้ว่า ปืนใหญ่ถล่มฟ้า
ปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่นก่อนที่ส่งให้หลัวเหรินไปคือรุ่น 1 ที่ยังไม่สมบูรณ์ พลังทำลายล้างยังไม่ถึงขีดสุด
ส่วนที่หลัวจิ่วเกอกำลังศึกษาอยู่นั่นคือปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่น 2
ถึงแม้การศึกษาวัตถุนี้จะทำให้ปวดหัวอยู่บ้าง
แต่หากสามารถปรับปรุงปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่น 1 ได้สำเร็จ และศึกษาออกแบบปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่น 2 แล้วล่ะก็
ไม่ว่าจะเป็นสำหรับตระกูลหลัว หรือแม้กระทั่งมณฑลตงหวงทั้งหมด
พลังที่เพิ่มขึ้นนั้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว
ทวีปซวนหยวน มณฑลไป่เหอ
อาณาเขตตระกูลตงฟาง ในห้องที่ดูเปล่าเปลี่ยวแห่งหนึ่ง
ตงฟางฉี จ้าวตระกูลตงฟางคนปัจจุบัน
กำลังนั่งนิ่งอยู่บนตำแหน่งจ้าวตระกูล
สีหน้าของเขาดูซับซ้อนอยู่บ้าง
ได้รับการช่วยเหลือจากตระกูลหลัวเจ้าเหนือหัวคนใหม่แห่งมณฑลตงหวง ตระกูลตงฟางของเขาถล่มกองทัพใหญ่ของตระกูลหนานกงได้สำเร็จ ทำให้ตระกูลหนานกงได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เรื่องนี้ ในฐานะจ้าวตระกูลตงฟางคนปัจจุบัน ตงฟางฉีรู้สึกพอใจมากทีเดียว
ผ่านทรัพยากรจำนวนมากของตระกูลหลัว
พลังของตระกูลตงฟางก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
ส่วนตัวเขาถูกปลูกฝังวิชาลับเอาไว้ เพื่อให้ตระกูลตงฟางทั้งหมดจงรักภักดีต่อตระกูลหลัว กลายเป็นตระกูลสาขาของตระกูลหลัว เรื่องนี้ก็ไม่มีปัญหาใด ๆ
แต่ช่วงนี้ หอพันโอสถซึ่งเป็น 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำของมณฑลว่านกู่
กลับมาติดต่อเขา บอกว่าจะร่วมมือกันจัดการกับตระกูลหลัว
เรื่องนี้เขาควรจะทำอย่างไรดี?
ตระกูลหลัวตอนนี้ถือเป็นตระกูลหลักของตระกูลตงฟางเขา แต่หอพันโอสถกลับพูดจะช่วยกันจัดการตระกูลหลัว?
พูดเล่นหรือ?
หลังยิ้มพลางส่ายหน้า จากนั้นตงฟางฉีก็หันความสนใจไปที่ตระกูลหนานกงศัตรูเก่า
ส่วนหอพันโอสถนั่น?
จะทำอะไรก็ทำไป อย่างไรก็ตามตระกูลตงฟางของเขาจะไม่ตอบรับแน่นอน
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตระกูลตงฟางกลายเป็นตระกูลสาขาของตระกูลหลัวแล้ว
เพียงแค่รู้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวและฐานรากอันลึกซึ้งของตระกูลหลัว ตงฟางฉีก็ไม่กล้าคิดจะขัดขืนตระกูลหลัวอีกแล้ว
มณฑลไป่เหอ
อาณาเขตตระกูลหนานกง
ในห้องที่ดูมืดทึมแห่งหนึ่ง
หนานกงอี้ จ้าวตระกูลหนานกงคนปัจจุบัน กำลังหน้าถมึงทึง
การร้องขอของหอพันโอสถ?
แน่นอน ตระกูลหนานกงก็ได้รับเช่นกัน
แต่ด้วยสถานะปัจจุบันของตระกูลหนานกง จะไปพูดถึงเรื่องผนึกกำลังกับหอพันโอสถเพื่อรับมือตระกูลหลัวได้อย่างไร
แม้แต่การป้องกันตระกูลตงฟาง ก็ยังลำบากพอดูอยู่แล้ว
กองทัพผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนนับสิบล้านนั้น เป็นฐานรากที่ตระกูลหนานกงสะสมมานับพันปี หรือกระทั่งหมื่นปี
ตอนนี้ ภายในชั่วข้ามคืนก็กลับไปสู่จุดเริ่มต้น
ความแค้นเคืองที่หนานกงอี้มีต่อตระกูลตงฟาง และจ้าวตระกูลตงฟางคนปัจจุบัน ก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ
"ตระกูลตงฟาง?"
"ตงฟางฉี จ้าวตระกูลตงฟางคนปัจจุบัน?"
"ช่างเก่งนัก เล่นเก่งจริง ๆ"
"แสร้งทำเป็นอ่อนแอ แล้วก็วางกับดักทำลายกำลังหลักของตระกูลหนานกงข้าในครั้งเดียว"
"ตระกูลตงฟาง ครั้งนี้ข้าหนานกงอี้จดจำไว้แล้ว"
"หากมีโอกาส ข้าหนานกงอี้จะต้องทำลายตระกูลตงฟางของเจ้าให้สิ้นซาก ให้คนในตระกูลตงฟางทุกคนได้ชดใช้ด้วยความทุกข์ทรมาน!"
ภายในห้อง
หนานกงอี้มีสีหน้าหมองคล้ำ
เขากัดฟันกรอดเกรี้ยวศัตรูเก่าอย่างตระกูลตงฟางอยู่พักใหญ่
แต่ไม่มีทางเลือก ความจริงก็คือกองกำลังหลักของตระกูลหนานกงถูกทำลายจนเกือบสิ้นซาก
ตอนนี้ต้องใช้เวลาสักพักในการพัฒนา
ส่วนตระกูลหลัวเจ้าเหนือหัวคนใหม่แห่งมณฑลตงหวง?
หนานกงอี้ได้แต่กลืนความแค้นลงท้องไปเท่านั้น ด้วยสถานการณ์ของตระกูลหนานกงในตอนนี้
หนานกงอี้ไม่กล้าไปยั่วยุตระกูลหลัวอย่างชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่กล้าปล่อยให้ตระกูลหลัวรู้ด้วยซ้ำ
ว่าศิษย์รุ่นหลานของเขาถูกตระกูลหลัวฆ่าตาย
เพราะเขากลัวว่าตระกูลหลัวจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างมาโจมตีตระกูลหนานกงของเขา
มณฑลว่านกู่
สำนักใหญ่ของหอพันโอสถ ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ขุมอำนาจชั้นนำ
ในตำหนักที่ดูมืดทึมแห่งหนึ่ง
ถังยวี่ บรรพบุรุษของตระกูลถังที่สวมเสื้อคลุมสีเขียวอ่อน สีหน้านิ่งเฉย ตาลืมครึ่งหนึ่ง
กำลังนั่งอยู่บนตำแหน่งจ้าวตระกูล
"บรรพบุรุษ"
"เนื่องจากเผ่ามนุษย์เงือกโจมตีมณฑลซุยอวิ๋น ทำให้ความวุ่นวายในทวีปซวนหยวนเริ่มก่อตัวขึ้น"
"ขุมอำนาจต่าง ๆ ต่างก็กังวลใจต่อความอยู่รอดของตน"
"การจัดตั้งพันธมิตรเพื่อโจมตีตระกูลหลัว..."
"ไม่มีใครเห็นด้วยเลย"
ผู้บำเพ็ญเพียรคนหนึ่งที่เป็นคนของตระกูลถังสวมเสื้อคลุมสีดำ ก้มศีรษะลงเล็กน้อย
รายงานข้อมูลนี้ต่อบรรพบุรุษของตนที่มีพลังระดับกึ่งเทพ
"ไม่มีใครเห็นด้วย?"
ได้ยินเช่นนั้น ถังยวี่ที่นั่งอยู่บนตำแหน่งจ้าวตระกูลด้วยสีหน้านิ่งสงบ
กลับปรากฏรอยยิ้มจางบนใบหน้าทันใด