ตอนที่แล้วบทที่ 58 ข้อดีข้อเสียของวิชาบ่มเพาะกายเนื้อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 60หินจิตวิญญาณไม่เพียงพอ

บทที่ 59 ขยายขนาดการค้า


บทที่ 59 ขยายขนาดการค้า

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

  

ในพริบตา สามเดือนก็ผ่านไป

  

ภูเขาวานรปีศาจน้ำใต้ทะเล อยู่ห่างจากตระกูลเฉินบนเกาะซวงหูไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลหมื่นดวงดาวไปประมาณหนึ่งหมื่นลี้

  

มองไปรอบๆ จะเห็นเผ่าเงือกจำนวนมากกำลังขุดถ้ำอยู่ทั่วภูเขาแห่งนี้

  

ภูเขาวานรปีศาจน้ำ

  

ภายในถ้ำที่กว้างขวางที่สุด

  

เงือกชายร่างกำยำ ผิวสีทองแดง กำลังนั่งสมาธิอยู่ในถ้ำ ดูจากลมหายใจที่ไม่สม่ำเสมอของเขา เห็นได้ชัดว่าอาการบาดเจ็บของเขารุนแรงมาก

  

“ท่านพ่อ!”

  

ร่างเล็กๆ บุกเข้าไปในถ้ำอย่างกะทันหัน เงือกตัวน้อยถือสมุนไพรจิตวิญญาณที่เปล่งประกายอยู่ในมือ พลางกล่าวอย่างตื่นเต้น “ท่านดูสิ ข้าหาสมุนไพรจิตวิญญาณที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของท่านพ่อได้แล้ว”

  

เมื่อได้ยินเสียงเรียก

  

ผู้นำเผ่าเงือกค่อยๆ ลืมตาขึ้น มองสมุนไพรจิตวิญญาณในมือของบุตรสาว สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสาร “ลั่วเอ๋อร์ ช่วงนี้เจ้าลำบากมากจริงๆ”

  

ลั่วหลีได้ยินดังนั้น ก็ส่ายหน้า “ท่านพ่ออย่าพูดแบบนั้น ท่านต่อสู้กับผู้นำเผ่าวานรปีศาจน้ำจนบาดเจ็บสาหัส เพื่อให้ชนเผ่าของเรามีที่อยู่อาศัย เมื่อเทียบกับท่านแล้ว สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ข้าทำไม่นับเป็นอะไรเลย”

  

เมื่อได้ยินลั่วหลีพูดถึงการต่อสู้กับผู้นำเผ่าวานรปีศาจน้ำ แม้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะผ่านมานานเกือบครึ่งปีแล้ว แต่ผู้นำเผ่าเงือกก็ยังคงหวาดกลัวทุกครั้งที่นึกถึงมัน

  

ในตอนนั้น เกือบไปแล้ว เกือบไปแล้วจริงๆ!!

  

เขาเกือบจะตายไปพร้อมกับผู้นำเผ่าวานรปีศาจน้ำ

  

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ผู้นำเผ่าเงือกก็กล่าวด้วยความโล่งใจ “พูดตามตรง ที่ข้าสามารถเอาชนะไอ้เวรผู้นำเผ่าวานรปีศาจน้ำได้ ก็เพราะเจ้าและชนเผ่าเอาชนะฝูงวานรปีศาจน้ำได้ก่อน แล้วรีบมาช่วยข้า มิฉะนั้น ข้าคงต้องตายไปพร้อมกับมัน”

  

เมื่อได้ยินบิดาพูดเช่นนี้ ลั่วหลีกลับรู้สึกเขินอายเล็กน้อย

  

“ข้าก็ไม่คิดว่าความแข็งแกร่งของชนเผ่าที่ใช้อาวุธกับไม่ใช้อาวุธจะแตกต่างกันมากขนาดนี้”

  

ลั่วหลีนึกถึงฉากที่ชนเผ่าของเผ่าเงือกถืออาวุธวิเศษ ไล่ฆ่าฝูงวานรปีศาจน้ำอย่างดุเดือด ใบหน้าอันงดงามของนางก็แดงก่ำด้วยความตื่นเต้น “ท่านพ่อ การค้าขายกับตระกูลเฉินบนเกาะซวงหูครั้งนี้ เราต้องซื้ออาวุธวิเศษให้มากขึ้น”

  

“ข้าก็คิดแบบนั้น”

  

ผู้นำเผ่าเงือกยิ้ม แต่แล้วเขาก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย “แต่ข้าจำได้ว่าหินจิตวิญญาณที่ชนเผ่าพกติดตัวมานั้นเหลือน้อยแล้ว”

  

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ความตื่นเต้นของลั่วหลีก็หายไป

  

แต่ในพริบตานางก็นึกอะไรขึ้นได้ พลางกล่าวอย่างมีความสุข “ไม่เป็นไร ครั้งที่แล้วเฉินเต้าเสวียนจากตระกูลเฉินให้แผนผังแร่ธาตุและสมุนไพรล้ำค่าต่างๆ แก่ข้า เราสามารถใช้สิ่งเหล่านี้แลกเปลี่ยนอาวุธวิเศษกับพวกเขาได้”

  

ได้ยินดังนั้น สีหน้าของผู้นำเผ่าเงือกก็ดีขึ้นเล็กน้อย

  

เขาสั่ง “ลั่วเอ๋อร์ การค้าขายกับตระกูลเฉินครั้งนี้สำคัญมาก ห้ามเกิดข้อผิดพลาดใดๆ แม้ว่าพวกเราจะยึดภูเขาวานรปีศาจน้ำได้แล้ว แต่ฐานที่มั่นก็ยังไม่มั่นคง ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้อาการบาดเจ็บของข้าก็รุนแรงมาก ช่วยอะไรพวกเจ้าไม่ได้ หากต้องการปกป้องชนเผ่า เราต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งของชนเผ่า การซื้ออาวุธวิเศษให้กับชนเผ่าเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการเสริมสร้างความแข็งแกร่ง”

  

“ท่านพ่อ วางใจเถอะ ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย”

  

ลั่วหลียิ้มออกมา

…..

  

เกาะซวงหู

  

ถ้ำบนภูเขาทองแดง

  

เฉินเต้าเสวียนลืมตาขึ้นอีกครั้ง พลางกล่าวด้วยความดีใจ “ข้าทะลวงผ่าน… ขอบเขตหลอมรวมพลังปราณขั้นห้าแล้ว!”

  

เมื่อรู้สึกถึงปราณแก่นแท้ในตำนเถียนที่ขยายใหญ่ขึ้นสามส่วน เฉินเต้าเสวียนก็ตื่นเต้นมาก

  

หลังจากทะลวงขอบเขตหลอมรวมพลังปราณขั้นสี่ได้ไม่ถึงครึ่งปี เขาก็ทะลวงระดับไปถึงขอบเขตหลอมรวมพลังปราณขั้นห้า ความเร็วในการบำเพ็ญเพียรนี้ แม้จะเทียบกับศิษย์หลักของตระกูลใหญ่ มันก็ไม่ได้ช้าไปกว่ากันเลย

  

ทว่าเฉินเต้าเสวียนย่อมรู้ดี

  

ที่เขาบำเพ็ญเพียรได้เร็วขนาดนี้ นอกจากลูกแก้วจิตวิญญาณวารี และโอสถรวบรวมพลังปราณที่ช่วยในการบำเพ็ญเพียรแล้ว

  

ผลของการบ่มเพาะกายเนื้อของ “วิชางูเหลือมมังกรกลืนสวรรค์” ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน

  

เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้น ปริมาณพลังปราณที่เขากลั่นได้ในแต่ละวันก็เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งเร่งความเร็วในการบำเพ็ญเพียรของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

  

น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวคือ เนื้ออสรพิษลายโลหิตของเขากินหมดแล้ว หลังจากขาดแร่ธาตุสำหรับการฝึกฝนร่างกาย ความคืบหน้าในการฝึกฝน “วิชางูเหลือมมังกรกลืนสวรรค์” ก็ช้าจนน่าตกใจ

  

และเมื่อเร็วๆ นี้

  

เฉินเต้าเสวียนรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ดวงตาแห่งจิตวิญญาณในห้องบำเพ็ญเพียร เริ่มไม่สามารถรองรับการบำเพ็ญเพียรความเร็วสูงเช่นนี้ของเขาได้อีกต่อไป

  

ปัญหาพลังปราณไม่เพียงพอ ถูกหยิบยกขึ้นมาต่อหน้าเฉินเต้าเสวียนอีกครั้ง

  

ในช่วงสามเดือนนับตั้งแต่เขากลับมาที่เกาะซวงหู

  

เฉินเต้าเสวียนไม่ได้พักผ่อนเลยสักวัน เวลาที่วุ่นวายในแต่ละวันนั้นน่ากลัวกว่าการทำงานล่วงเวลาที่โรงงานในโลกเดิมเสียอีก

  

อย่างน้อยการทำงานล่วงเวลาในโลกเดิมก็ยังมีเวลานอน

  

ส่วนเฉินเต้าเสวียนในตอนนี้ นอกจากการบำเพ็ญเพียรตามปกติแล้ว เขาก็ยุ่งอยู่ตลอดเวลา

  

ในระหว่างวัน เขาเร่งผลิตกระบี่บินเงาแดงที่โรงงานกระบี่บินหงอิน ทำงานประมาณห้าชั่วยาม

  

ในตอนเย็น

  

หลังจากตรวจสอบงานของเฉินจือและคนอื่นๆ แล้ว เขาก็กลับมาที่ถ้ำเพื่อสอนการบำเพ็ญเพียรให้กับต้นกล้าเซียนแปดคนของตระกูลเฉิน ซึ่งใช้เวลาสองถึงสามชั่วยาม

  

บวกกับการบำเพ็ญเพียรสี่ชั่วยามทุกวัน

  

ตารางเวลาในแต่ละวันแน่นเอียด ไม่มีเวลาว่างเลย!

  

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นตระกูลค่อยๆ เติบโตอย่างแข็งแกร่งขึ้นในมือของเขา ความรู้สึกพึงพอใจนี้ คนนอกยากที่จะเข้าใจ

  

นอกจากผลผลิตกระบี่บินที่มั่นคงของโรงงานกระบี่บินหงอินแล้ว สิ่งที่ทำให้เฉินเต้าเสวียนตื่นเต้นที่สุดในช่วงเวลานี้คือ เฉินเต้าฉูเป็นต้นกล้าเซียนรากจิตวิญญาณขั้นสูง

  

แบบนี้นับว่า

  

แม้ว่าตระกูลเฉินจะมีผู้บำเพ็ญเพียรเพียงสิบเอ็ดคน แต่มีต้นกล้าเซียนรากจิตวิญญาณขั้นสูงถึงสามคน

  

ต้องบอกว่า โชคดีมากจริงๆ!

  

โดยปกติแล้ว การที่จะมีต้นกล้าเซียนรากวิญญาณขั้นสูงสามคน ต้องมีผู้บำเพ็ญเพียรที่มีรากจิตวิญญาณอย่างน้อยหลายสิบคน…

  

หลังจากบำเพ็ญเพียรมาทั้งคืน

  

เฉินเต้าเสวียนลุกขึ้น เดินออกจากถ้ำ

  

เมื่อออกจากถ้ำ

  

เขาเห็นต้นกล้าเซียนแปดคนของตระกูลเฉินกำลังฝึกฝนกระบี่อยู่บนลานเล็กๆ นอกถ้ำ เฉินเต้าเสวียนก็ไม่ได้รบกวนพวกเขา แต่บินตรงไปยังเกาะหงซาน

  

ใช่แล้ว

  

วันนี้เขาโดดงาน ไม่ได้ไปโรงงานกระบี่บินหงอิน

  

เพราะเมื่อวานนี้เขาได้ติดต่อกับลั่วหลีของเผ่าเงือกแล้ว วันนี้เป็นวันที่เขานัดค้าขายกับเผ่าเงือกเป็นครั้งที่สอง

  

เมื่อเทียบกับการค้าขายอย่างเร่งรีบในครั้งแรก ขนาดของการค้าขายในครั้งนี้ใหญ่กว่ามากอย่างเห็นได้ชัด

  

ไม่เพียงเท่านั้น

  

เฉินเต้าเสวียนมอบแผนผังแร่ธาตุ สมุนไพรล้ำค่าต่างๆ ให้กับเผ่าเงือกในครั้งที่แล้ว เชื่อว่าครั้งนี้จะมีการเก็บเกี่ยวที่ไม่คาดคิด

  

อย่างน้อยที่สุด เขาต้องการซื้อลูกแก้วจิตวิญญาณวารีจากเผ่าเงือก

  

หลังจากบำเพ็ญเพียรด้วยลูกแก้วจิตวิญญาณวารีมาเป็นเวลานาน เขารู้สึกว่าตัวเองขาดมันไม่ได้แล้ว

  

ท้ายที่สุด หลังจากได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของการบำเพ็ญเพียรความเร็วสูงแล้ว ใครจะอยากกลับไปสู่สถานะการบำเพ็ญเพียรแบบช้าๆ ในอดีต?

  

เฉินเต้าเสวียนคาดว่า

  

หากลูกแก้วจิตวิญญาณวารี โอสถ และทรัพยากรบ่มเพาะอื่นๆ ของเขายังคงเพียงพอ เขามั่นใจว่าจะไปถึงระดับขอบเขตหลอมรวมพลังปราณขั้นเก้าก่อนอายุยี่สิบปี

  

แม้ว่าจะยังคงห่างไกลจากโจวมู่ไป๋ที่สร้างรากฐานได้สำเร็จเมื่ออายุยี่สิบเอ็ดปี

  

แต่ความเร็วในการบำเพ็ญเพียรนี้ หากนำไปเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ฝึกตนอิสระและศิษย์ของตระกูลขนาดเล็ก คงจะทำให้คนอื่นตกตะลึง

….

  

เกาะหงซาน

  

เมื่อเทียบกับภูมิประเทศที่ซับซ้อนของเกาะซวงหู อย่างเช่น ที่ราบ ทะเลสาบ ภูเขา รูปแบบของเกาะหงซานนั้นชัดเจนกว่ามาก

  

มีเพียงที่ราบกว้างใหญ่และทะเลสาบน้ำจืดจำนวนมาก ดูเหมือนว่าทั้งเกาะจะไม่มีทิวทัศน์อะไรมากมาย นอกจากป่าสนแดงอันกว้างใหญ่

  

หากเกาะแบบนี้อยู่บนโลก แน่นอนว่าต้องเป็นเกาะมหาสมบัติ

  

ทรัพยากรที่ดินบนเกาะอุดมสมบูรณ์ ทรัพยากรป่าไม้อุดมสมบูรณ์ และมีทรัพยากรน้ำจืดมากมาย เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของมนุษย์

  

แต่ในโลกนี้ เพียงแค่ไม่มีเส้นพลังปราณ ก็หมายความว่ามันจะกลายเป็นเกาะร้างที่ไม่มีคนอาศัยอยู่

  

เฉินเต้าเสวียนมาถึงเกาะแห่งนี้อีกครั้ง

  

เมื่อมองไปรอบๆ

  

เขาก็บินไปทางเหนือของเกาะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด