ตอนที่แล้วบทที่ 52 จวนเซียนเสินเจวี๋ย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 54 กลับบ้านพร้อมของเต็มมือ

บทที่ 53 เหยื่อล่อ


บทที่ 53 เหยื่อล่อ

ตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระ เมืองกวงอัน

  

โรงเตี๊ยมตระกูลอู๋

  

ชายวัยกลางคนแซ่ซุนเดินออกจากร้านกระบี่บินหงอิน เลี้ยวไปเลี้ยวมาหลายรอบ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามมา จึงหยุดอยู่หน้าโรงเตี๊ยมตระกูลอู๋

  

เขาเดินไปที่ห้องพักห้องหนึ่งอย่างคุ้นเคย จากนั้นเคาะประตู

  

“กลับมาแล้ว?”

  

ประตูเปิดออก ผู้ฝึกตนวัยกลางคนตัวสูง รูปร่างผอม ผิวซีด อยู่ขอบเขตหลอมรวมพลังปราณขั้นเห้า นั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะหยกอุ่นๆ ในห้อง

  

ผู้ฝึกตนวัยกลางคนหน้าซีดลืมตาขึ้น มองไปที่ชายวัยกลางคนแซ่ซุนหน้าตาหยาบกร้าน

  

“ข้ากลับมาแล้ว”

  

ชายแซ่ซุนโค้งคำนับ ตอบกลับ จากนั้นก็พูดต่อ “พี่ใหญ่ เรื่องที่ท่านสั่ง ข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว ส่งเหยื่อล่อไปแล้ว รอปลาติดเบ็ด”

  

พูดจบ ชายแซ่ซุนก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้

  

หลังจากเล่าจบ เขาก็อดบ่นไม่ได้ “ไอ้เด็กตระกูลเฉินนี่ขี้เหนียวจริงๆ แผนที่ขุมทรัพย์นั่น ข้าอุตส่าห์ทำขึ้นมาอย่างยากลำบาก เขาให้ข้าแค่สิบหินจิตวิญญาณเอง”

  

พูดจบ ชายแซ่ซุนก็หยิบหินจิตวิญญาณออกมา

  

ผู้ฝึกตนวัยกลางคนหน้าซีดมองดู พลางยิ้ม “ไม่เป็นไร ส่งเหยื่อล่อไปแล้ว รอปลาติดเบ็ดก็พอ”

  

ได้ยินดังนั้น ชายแซ่ซุนก็ทำท่าทางลังเล

  

เห็นน้องชายมีท่าทีสงสัย ผู้ฝึกตนวัยกลางคนหน้าซีดจึงมองเขา “เราเป็นพี่น้องกัน มีอะไรก็พูดมาตรงๆ”

  

ได้ยินดังนั้น ชายแซ่ซุนจึงโค้งคำนับ “พี่ใหญ่ ข้าไม่เข้าใจ ในเมื่อพวกเราต้องการปล้นไอ้เด็กตระกูลเฉิน ทำไมไม่ปล้นกลางทาง หรือขายแผนที่ขุมทรัพย์ที่สมบูรณ์ให้เขาไปเลย?”

  

“เจ้าเนี้ยนะ? นี่ช่างบุ่มบ่ามจริงๆ ไม่อย่างนั้น พวกเราจะต้องหนีจากแคว้นชางโจวมาที่เมืองกวงอันแห่งนี้ทำไม?”

  

ผู้ฝึกตนวัยกลางคนหน้าซีดส่ายหน้า “เรือรบหลิงซวีของตระกูลโจวในเมืองกวงอันลาดตระเวนเส้นทางเดินเรือที่ปลอดภัยในทะเล เพื่อรับรองความปลอดภัยของเรือสินค้า แม้ว่าพวกเราจะสามารถปล้นกลางทางได้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้ พวกเราต้องการเงิน ไม่ใช่เอาชีวิตไปเสี่ยง”

  

เขาหยุดครู่หนึ่ง แล้วอธิบายต่อ “ส่วนที่เจ้าถามว่า ทำไมไม่ขายแผนที่ขุมทรัพย์ที่สมบูรณ์ให้เขาไปโดยตรง...”

  

พูดถึงตรงนี้ ผู้ฝึกตนวัยกลางคนหน้าซีดก็หัวเราะ “เจ้ารู้ไหม? คนเกือบทุกคนในโลกคิดว่าตัวเองฉลาด เจ้ารู้ไหมว่าจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของคนฉลาดคืออะไร?”

  

ชายแซ่ซุนส่ายหน้าอย่างงุนงง “ไม่รู้”

  

“จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของคนฉลาดคือ เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นและสิ่งที่ตัวเองคิดเท่านั้น สำหรับเรื่องแบบของล้ำค่าหล่นใส่ตัก คนฉลาดมักจะระแวดระวังโดยธรรมชาติ และสิ่งที่ข้าจะทำต่อไปคือ กำจัดความระแวดระวังของอีกฝ่าย”

  

ผู้ฝึกตนวัยกลางคนหน้าซีดกล่าวอย่างชัดเจน

  

“พี่ใหญ่ ข้าไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ ท่านว่าอย่างไร ข้าก็ทำอย่างนั้น ฮิฮิ!”

  

ชายแซ่ซุนทำท่าทางซื่อๆ

  

เห็นดังนั้น ผู้ฝึกตนหน้าซีดก็ส่ายหน้า พลางยิ้มออกมาเล็กน้อย

  

...

  

เมืองกวงอัน ตลาดค้าทาส

  

เฉินเต้าเสวียนพาคนในตระกูลเดินเล่นในตลาดค้าทาสขนาดใหญ่นี้ ข้างๆ เขามีพ่อค้าทาสขอบเขตหลอมรวมพลังปราณขั้นเจ็ดคนหนึ่งติดตามมาด้วย

  

“เถ้าแก่ ทาสสตรีจากอาณาจักรฉู่หยุนที่นี่ พวกนางจะเกลียดชังเจ้านาย หลังจากซื้อกลับไปหรือไม่?”

  

นี่คือสิ่งที่เฉินเต้าเสวียนกังวลมากที่สุด เขาต้องการให้สตรีจากอาณาจักรฉู่หยุนสืบเชื้อสายให้ตระกูลเฉิน ไม่ใช่พาคนที่จะมาเป็นศัตรูกลับไป

  

มิฉะนั้น ภายใต้อิทธิพลของมารดาที่เกลียดชังตระกูลเฉิน ลูกหลานของตระกูลเฉินที่เติบโตขึ้นมา พวกเขาก็จะเกลียดชังตระกูลเช่นกัน นี่ไม่ใช่การพัฒนาตระกูล แต่เป็นการฝังรากเหง้าของหายนะให้กับตระกูล

  

ได้ยินดังนั้น เถ้าแก่ของร้านค้าทาสก็ส่ายหน้า พลางยิ้ม “สหายเต๋าเฉิน วางใจได้ หากร้านค้าของเราไม่สามารถจัดการเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ได้ พวกเราก็ไม่ต้องทำธุรกิจนี้แล้ว! คงถูกตระกูลเซียนต่างๆ ในทะเลหมื่นดวงดาวรื้อร้านทิ้งไปนานแล้ว!”

  

เขาหยุดครู่หนึ่ง “สำหรับทาสสตรีทุกคนที่ขายในร้าน เราจะให้ผู้ฝึกตนร่ายวิชาใส่พวกนางโดยเฉพาะ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกนางลืมความแค้นที่มีต่อทะเลหมื่นดวงดาว แน่นอนว่า หากท่านทารุณพวกนางหลังจากซื้อกลับไป ร้านค้าทาสของเราก็ไม่รับประกันว่าพวกนางจะเกลียดชังพวกท่านหรือไม่?”

  

เมื่อได้ยินคำอธิบายนี้ เฉินเต้าเสวียนก็โล่งใจ

  

อย่างที่เขาคิด ปัญหาที่เขาคิดได้ ตระกูลเซียนต่างๆ ในทะเลหมื่นดวงดาวคงคิดได้เช่นกัน ในเมื่อพวกเขากล้าซื้อทาสสตรีจากอาณาจักรฉู่หยุนกลับไปสืบเชื้อสาย แสดงว่าการซื้อทาสสตรีจากอาณาจักรฉู่หยุนจะไม่มีปัญหาใดๆ

  

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เฉินเต้าเสวียนก็ยิ้มแห้งๆ “ทาสของร้านท่านดีก็จริง แต่ราคาแพงไปหน่อยนะ”

  

“สหายเต๋าเฉินล้อข้าเล่นแล้ว”

  

เถ้าแก่ของร้านค้าทาสยิ้ม “ตอนนี้ทาสชุดใหม่จากสนามรบอาณาจักรฉู่หยุนยังไม่ถูกส่งมา ดังนั้นราคาทาสจึงสูงขึ้นเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น ทาสสตรีที่ท่านต้องการ ล้วนเป็นทาสระดับสูงสุดที่นี่ เป็นทาสสตรีอายุต่ำกว่ายี่สิบปี รูปร่างหน้าตาดี หนึ่งหินจิตวิญญาณต่อหนึ่งคน ไม่แพงเลยจริงๆ”

  

พูดจบ เถ้าแก่ก็โฆษณาต่อ “เราก็มีทาสสตรีราคาถูกเช่นกัน แต่ล้วนเป็นหญิงชราที่แก่และไม่สวย แถมยังมีบุตรยาก ซื้อกลับบ้านก็ใช้เป็นหญิงรับใช้ได้เท่านั้น ราคาถูกกว่าร้อยเท่า”

  

เห็นเถ้าแก่ยังคงพยายามขายทาสชายหนุ่มที่แข็งแรง ซึ่งสามารถช่วยเจ้านายทำไร่ไถนาได้ เฉินเต้าเสวียนก็ส่ายหน้า “ตระกูลเฉินของเราต้องการแค่ทาสสตรี!”

  

“ได้!”

  

เถ้าแก่ทำหน้าเสียใจ จากนั้นก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ทาสสตรีจากอาณาจักรฉู่หยุน 10,000 คนที่ท่านต้องการ เราจะขนส่งไปยังเรือบรรทุกทาสของท่านให้ครบภายในสามวัน ร้านของเรารับประกันว่า ทาสสตรีทุกคนที่ท่านซื้อนั้นสะอาดและแข็งแรง ร้านของเรามีชื่อเสียง ขอท่านโปรดไว้วางใจ”

  

เฉินเต้าเสวียนวางใจในเรื่องนี้ หากทาสสตรีที่ซื้อมามีปัญหา ร้านค้าทาสแห่งนี้คงถูกรื้อไปนานแล้ว คงไม่สามารถดำเนินธุรกิจในเมืองกวงอันได้นานขนาดนี้หรอก ใช่ไหม?

  

หลังจากตกลงเรื่องการซื้อทาสสตรีจากอาณาจักรฉู่หยุน และจ่ายเงินมัดจำให้กับร้านค้าทาสแล้ว ต่อไปก็แค่รอให้ร้านค้าทาสขนส่งทาสสตรีไปยังเรือบรรทุกทาส

  

แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้ มีคนในตระกูลเฉินคอยดูแลอยู่ ส่วนเรื่องของร้านกระบี่บินหงอิน ก็มีท่านอาสิบสาม เฉินเซียนเหอ คอยดูแล…

  

ในช่วงสองสามวันนี้ ผู้นำตระกูลรุ่นเยาว์อย่าง… เฉินเต้าเสวียน  เขาลับว่างงานอย่างแท้จริง

  

เมื่อคนเราว่าง ก็ต้องอยากจะหาอะไรทำ

  

บางทีอาจเป็นเพราะนึกถึงลูกแก้วจิตวิญญาณวารี ละอักขระวายุฟ้าร้องที่ซื้อจากตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระครั้งที่แล้ว บางทีอาจเป็นเพราะคำพูดของชายแซ่ซุนที่ขายแผนที่ขุมทรัพย์จวนเซียนเสินเจวี๋ยเมื่อวานนี้

  

เมื่อมองไปที่ตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระที่คึกคัก เฉินเต้าเสวียนก็รู้สึกคาดหวังเล็กน้อย

  

เขาเดินอยู่ในตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระที่พลุกพล่าน

  

เฉินเต้าเสวียนเดินเล่นหน้าแผงลอยต่างๆ

  

ต้องบอกเลยว่า ครั้งที่แล้วที่เขาซื้อลูกแก้วจิตวิญญาณวารี และอักขระวายุฟ้าร้องได้ ถือว่าโชคดีมาก

  

จริงๆ แล้ว ของที่ขายหน้าแผงลอยของผู้ฝึกตนอิสระในตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระ ล้วนเป็นของไร้ค่า

  

ไม่ใช่อาวุธวิเศษที่ชำรุด ก็เป็นยันต์ที่เสียหาย เฉินเต้าเสวียนยังเห็นบางคนขายโอสถที่หลอมกลั่นล้มเหลว คนที่กล้าซื้อนี่… ไม่กลัวว่าจะกินแล้วตายใช่ไหม?

  

หลังจากเห็นสมบัติในโรงประมูลตระกูลโจวในย่านการค้าใจกลางเมืองแล้ว ของไร้ค่าที่นี่ก็ไม่เข้าตาเฉินเต้าเสวียน

  

“หืม?”

  

จนกระทั่งเขาเดินไปถึงแผงลอยของผู้ฝึกตนขอบเขตหลอมรวมพลังปราณขั้นเก้า เขาจึงหยุดดู

  

เขามองดูของเบ็ดเตล็ดมากมายบนแผงลอยอย่างใจเย็น จากนั้นค่อยๆ ย่อตัวลง “สหายเต๋า ไอ้นี่ขายยังไง?”

4 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด