บทที่ 50 ด่านเจิ้นหนาน
บทที่ 50 ด่านเจิ้นหนาน
เมื่อการประมูลสิ้นสุดลง เฉินเต้าเสวียนและเฉินเซียนเหอก็ออกจากโรงประมูล
ระหว่างทาง เฉินเซียนเหออารมณ์ไม่ดี เขาไม่พูดอะไรสักคำ
เฉินเต้าเสวียนไม่รู้ว่าจะปลอบใจอย่างไร จึงได้แต่เงียบๆ อยู่ข้างๆ เขา
จนกระทั่งรถม้าสัตว์อสูรเหยียบเมฆามาถึงหน้าร้านกระบี่บินหงอิน
เฉินเต้าเสวียนจึงเตือนเบาๆ “ท่านอาสิบสาม พวกเรามาถึงแล้ว”
“อ้อ มาถึงแล้วหรือ?”
แค่ไปโรงประมูล เฉินเซียนเหอก็ดูชราลงไปมาก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เฉินเซียนเหอใช้เวลาสามวันกว่าจะฟื้นตัว
“เต้าเสวียน ข้าทำให้เจ้าเป็นห่วงแล้ว”
ในร้าน เฉินเซียนเหอยิ้มให้เฉินเต้าเสวียนอย่างฝืนๆ
เมื่อเห็นเฉินเซียนเหอพูดกับเขาเป็นครั้งแรกในรอบสามวัน เฉินเต้าเสวียนก็วางสิ่งที่อยู่ในมือลงทันที ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ท่านอาสิบสาม ตราบใดที่ท่านไม่เป็นไรก็พอแล้ว!”
ได้ยินดังนั้น เฉินเซียนเหอก็พยักหน้า
ขณะที่เขากำลังช่วยเฉินเต้าเสวียนจัดการเรื่องต่างๆ ในร้าน เฉินเต้าเสวียนก็พูดอย่างเงียบๆ “ท่านอาสิบสาม ทำไมตระกูลเฉินของเรามีความแค้นกับตระกูลเย่แห่งแคว้นชางโจว?”
ตามหลักเหตุผลแล้ว ตระกูลเย่เป็นตระกูลผู้ฝึกตนอันดับหนึ่งในแคว้นชางโจว บรรพบุรุษของตระกูลเย่ เย่อู๋เต้า เขาเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นทองคำที่มีชื่อเสียง
ตระกูลผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ แม้แต่ตระกูลโจวก็ไม่กล้าไปยั่วยุ จะมีความแค้นกับตระกูลเฉินบนเกาะซวงหูตัวเล็กๆ ได้อย่างไร?
ได้ยินดังนั้น อารมณ์ของเฉินเซียนเหอก็เริ่มตื่นเต้นอีกครั้ง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆ สงบสติอารมณ์ พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าน่าจะเคยได้ยินเรื่องสงครามด่านเจิ้นหนานระหว่างทะเลแห่งดวงดาวกับอาณาจักรฉู่หยุนเมื่อห้าสิบปีก่อนใช่ไหม?”
ในฐานะผู้ฝึกตนของแคว้นชางโจว เฉินเต้าเสวียนจะไม่เคยได้ยินเรื่องสงครามด่านเจิ้นหนานที่มีชื่อเสียงได้อย่างไร
แต่ตอนนี้ ฟังจากน้ำเสียงของเฉินเซียนเหอ ดูเหมือนว่าสงครามครั้งนั้นจะมีเบื้องหลัง
ด่านเจิ้นหนาน เป็นหนึ่งในเมืองเซียนทั้งเจ็ดแห่งที่นิกายกระบี่เฉียนหยวนสร้างขึ้นในอาณาจักรฉู่หยุน ทำหน้าที่เป็นปราการสำคัญในการป้องกันแนวรบด้านใต้ของอาณาจักรฉู่หยุน
แต่เมื่อห้าสิบปีก่อน เมืองเซียนที่มีชื่อเสียงแห่งนี้กลับสูญเสียไป เนื่องจากความพ่ายแพ้ในสงคราม
ต้องบอกว่า นี่เป็นการโจมตีครั้งใหญ่สำหรับนิกายกระบี่เฉียนหยวน และผู้ฝึกตนทะเลหมื่นดวงดาวที่รุกคืบอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาสี่ร้อยปี
ด้วยเหตุนี้ ผู้ฝึกตนของแคว้นชางโจวซึ่งเป็นกำลังหลักในการป้องกัน จึงมักถูกผู้ฝึกตนจากเมืองอื่นๆ นินทาเมื่อเดินทางไปทั่วทะเลหมื่นดวงดาว
หลังจากเฉินเต้าเสวียนเล่าเรื่องราวของสงครามด่านเจิ้นหนานที่เขารู้ เฉินเซียนเหอก็หัวเราะเยาะ
“เหลวไหล!”
เฉินเซียนเหอเยาะเย้ย “สิ่งที่เจ้ารู้ เป็นเพียงสิ่งที่นิกายกระบี่เฉียนหยวนเผยแพร่ออกไป สงครามด่านเจิ้นหนานที่แท้จริง ไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าพูด เพราะว่า...”
เฉินเซียนเหอหยุดครู่หนึ่ง “เพราะห้าสิบปีก่อน ข้าเป็นทหารที่ประจำการอยู่ที่ด่านเจิ้นหนาน!”
พูดจบ ความเจ็บปวดก็ฉายแววในดวงตาของเฉินเซียนเหอ
“ในตอนนั้น กองทัพผู้ฝึกตนที่ก่อตั้งโดยนิกายกเสวียนหยาง ชื่อว่าพันธมิตรเสวียนชิงเต๋า โจมตีด่านเจิ้นหนานแบบสายฟ้าแลบ
อีกฝ่ายส่งผู้ฝึกตนทุกระดับเกือบล้านคน นำโดยจินตันเจิ้นเหรินห้าคน โจมตีเมืองเซียนเจิ้นหนาน!
(จินตันเจิ้นเหริน เซียนแก่นทองคำหรืออรหันต์แก่นทองคำ)
ในเวลานั้น ฝ่ายเรามีจินตันเจิ้นเหรินเพียงคนเดียวที่ประจำการอยู่ในเมืองเซียนเจิ้นหนาน นั่นคือ… เย่อู๋เต้า บรรพบุรุษของตระกูลเย่!”
เมื่อพูดถึงชื่อเย่อู๋เต้า อารมณ์ของเฉินเซียนเหอก็เริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง
ครู่หนึ่ง เขาก็พูดต่อ “แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีจินตันเจิ้นเหรินห้าคน และกองทัพผู้ฝึกตนหลายล้านคน แต่เมืองเซียนเจิ้นหนานของเราก็มีกองทัพผู้ฝึกตนมากกว่าล้านคน บวกกับค่ายกลป้องกันเมือง แม้ว่าจะไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ แต่ก็สามารถยืนหยัดจนกว่ากองกำลังเสริมจะมาถึงได้ มันย่อมไม่มีปัญหา!”
พูดถึงตรงนี้ เสียงของเฉินเซียนเหอก็เจ็บปวดอีกครั้ง “แต่เย่อู๋เต้าดันขี้ขลาด! มันกลับหวาดกลัวกลิ่นอายของจินตันเจิ้นเหรินห้าคนของศัตรู ละทิ้งเมืองแล้วหนีไป!!!”
“เจ้ารู้ไหม? เขาหลบหนีไปต่อหน้าต่อตาผู้คน ใช้ไม้ตายในการหลบหนี ละทิ้งเมืองเซียนเจิ้นหนาน!”
ได้ยินดังนั้น หมัดของเฉินเต้าเสวียนก็กำแน่นโดยไม่รู้ตัว
“น่าสงสารผู้ฝึกตนหลายล้านคนที่ด่านเจิ้นหนาน สุดท้ายก็ต้านทานการโจมตีอย่างรุนแรงของจินตันเจิ้นเหรินห้าคนของศัตรูไม่ได้ ในที่สุดด่านเจิ้นหนานก็แตก ผู้ฝึกตนของแคว้นชางโจวถูกสังหารและถูกจับเป็นเชลยมากกว่าล้านคน! ผู้ฝึกตนรุ่นเซียนสิบสามคนของตระกูลเฉินของเรา มีเพียงข้าคนเดียวที่รอดชีวิต ส่วนคนอื่นๆ แม้แต่กระดูกก็หาไม่เจอ ได้แต่สร้างสุสานเสื้อผ้าไว้ที่ศาลบรรพบุรุษของตระกูล!”
พูดจบ น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาแดงก่ำของเฉินเซียนเหอ
เมื่อได้ยินเรื่องราวลับๆ นี้เป็นครั้งแรก เฉินเต้าเสวียนก็พูดอย่างไม่พอใจ “เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นิกายกระบี่เฉียนหยวนไม่จัดการเหรอ?”
“จัดการ?”
เฉินเซียนเหอส่ายหน้า “เจ้ารู้ไหมว่า ทำไมด่านเจิ้นหนานที่เป็นด่านสำคัญเช่นนี้ ถึงมีจินตันเจิ้นเหรินเพียงคนเดียวอย่างเย่อู๋เต้าประจำการอยู่?”
ได้ยินดังนั้น เฉินเต้าเสวียนก็นึกอะไรขึ้นได้
ด่านเจิ้นหนานเคยเป็นด่านที่มีสงครามน้อยที่สุด ระหว่างนิกายกระบี่เฉียนหยวนกับอาณาจักรฉู่หยุน
พูดอีกอย่างก็คือ การประจำการอยู่ที่เมืองเซียนแห่งนี้ ไม่เพียงแต่ไม่มีความเสี่ยงมากนัก แต่ยังสามารถได้รับผลงานมากมาย
ตำแหน่งดีๆ แบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เย่อู๋เต้าจะได้มาโดยไม่มีคนหนุนหลัง
เพื่อที่จะยึดผลงานทั้งหมดไว้เป็นของตัวเอง เย่อู๋เต้าถึงกับเลือกที่จะประจำการอยู่ที่ด่านเจิ้นหนานเพียงลำพัง
แต่ใครจะไปคิดว่า พันธมิตรเสวียนชิงเต๋าจะเลือกโจมตีด่านเจิ้นหนานแบบสายฟ้าแลบ?
แน่นอน…
เฉินเซียนเหออธิบายด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “บิดาของเย่อู๋เต้าคือผู้อาวุโสอันดับสามของนิกายกระบี่เฉียนหยวน หยวนอิงเจิ้นจวินผู้มีชื่อเสียง!”
(เจิ้นจวิน 真君 คำเรียกขานทางลัทธิเต๋าของจีน ยกย่องเป็นเทพหรือเทวดา)
ได้ยินดังนั้น เฉินเต้าเสวียนก็เข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของการล่มสลายของด่านเจิ้นหนานแล้ว
เฉินเต้าเสวียนอ้าปากค้าง ถอนหายใจ “ถึงอย่างนั้น นิกายกระบี่เฉียนหยวนไม่ฆ่าเย่อู๋เต้า ไม่กลัวว่าผู้ฝึกตนในสนามรบอาณาจักรฉู่หยุนจะหมดกำลังใจงั้นเหรอ?”
“กำลังใจ?”
เฉินเซียนเหอส่ายหน้า “ทำไมเจ้าถึงถามคำถามที่ไร้เดียงสาเช่นนี้ เจ้าคิดว่านิกายกระบี่เฉียนหยวนควบคุมผู้ฝึกตนทะเลหมื่นดวงดาวด้วยกำลังใจหรือไง?”
ได้ยินดังนั้น เฉินเต้าเสวียนก็เข้าใจ
จริงอยู่ สิ่งที่นิกายกระบี่เฉียนหยวนใช้ควบคุมผู้ฝึกตนทะเลหมื่นดวงดาวไม่ใช่กำลังใจ แต่เป็นผลประโยชน์ต่างหาก
ผู้ฝึกตนอิสระต้องการได้รับทรัพยากรบ่มเพาะ ต้องการยกระดับไปขอบเขตสร้างรากฐาน หรือแม้แต่ขอบเขตที่สูงกว่า การไปยังสนามรบอาณาจักรฉู่หยุนเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ต่อหน้าผลประโยชน์ จินตันเจิ้นเหรินที่หลบหนีคนหนึ่ง จะนับเป็นอะไรได้?
ส่วนความยุติธรรม คุณธรรม และความคับแค้นใจของผู้ฝึกตนแคว้นชางโจวที่เสียชีวิต ใครจะไปสนใจ?
สิ่งที่โลกเดิมทำไม่ได้ ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรที่โหดร้ายนี้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เฉินเต้าเสวียนก็เงียบไป
เขามองไปที่เฉินเซียนเหอที่ดูทรุดโทรม สาบานกับตัวเองในใจว่า หากเขาบำเพ็ญเพียรสำเร็จในอนาคต เขาจะต้องทวงความยุติธรรมให้กับผู้ฝึกตนรุ่นเซียนสิบสองคนของตระกูลเฉิน และท่านอาสิบสามที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากความแค้นมานานปี!
“หลังจากเรื่องนี้ นิกายกระบี่เฉียนหยวนประกาศว่าสงครามด่านเจิ้นหนานพ่ายแพ้ แต่ผู้ฝึกตนของแคว้นชางโจวทุกคนรู้ดีว่า นี่ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ในสงคราม แต่เป็นเพราะเย่อู๋เต้าขี้ขลาดและหลบหนี!”
เฉินเซียนเหอส่ายหน้า “ช่างเถอะ วันนี้เจ้าได้ยินเรื่องนี้ ก็ถือว่าเป็นความฝัน อย่าเก็บไปใส่ใจ ตระกูลเย่เป็นสิ่งที่พวกเราไม่สามารถยั่วยุได้!”
พูดจบ เฉินเซียนเหอก็หัวเราะเยาะตัวเอง “บางทีตระกูลเย่อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า พวกเขามีศัตรูอย่างพวกเราอยู่บนเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งในเขตเมืองกวงอัน”
ได้ยินดังนั้น เฉินเต้าเสวียนก็รู้สึกเศร้าใจ
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต คงไม่พ้นการที่เจ้ามองคนอื่นเป็นศัตรูตัวฉกาจ แต่ในสายตาของศัตรู เจ้าเป็นเพียงแค่มดแมลงตัวเล็กๆ