บทที่ 48 วิชาบ่มเพาะกายเนื้อ… งูหลามมังกรกลืนสวรรค์
บทที่ 48 วิชาบ่มเพาะกายเนื้อ… งูหลามมังกรกลืนสวรรค์
โรงประมูลตระกูลโจว
ภายในห้องส่วนตัวของโรงประมูลหมายเลข 6
หลังจากมองหญิงรับใช้ที่นำชาจิตวิญญาณและผลไม้จิตวิญญาณมาเสิร์ฟออกไป เฉินเต้าเสวียนมองดูห้องประมูลที่กว้างขวาง พลางถอนหายใจ “ตระกูลโจวนี่ช่างยิ่งใหญ่ ห้องประมูลขนาดใหญ่เช่นนี้ เป็นเพียงสาขาหนึ่งของโรงประมูลตระกูลโจว”
“ถูกต้อง”
เฉินเซียนเหอพยักหน้า “ห้องส่วนตัวทุกห้องที่นี่ปูด้วยหินหมึกดำ ซึ่งสามารถป้องกันการตรวจสอบของจิตสำนึกได้มากที่สุด เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า”
ได้ยินดังนั้น
เฉินเต้าเสวียนใช้จิตสำนึกกวาดไปรอบๆ มันก็เป็นอย่างที่เฉินเซียนเหอพูด จิตสำนึกของเขาถูกพลังที่มองไม่เห็นปิดกั้นเมื่อกวาดไปถึงห้องส่วนตัวของคนอื่น
หลังจากสังเกตการณ์อยู่พักหนึ่ง เฉินเต้าเสวียนและเฉินเซียนเหอก็รอการประมูลเริ่มต้นอย่างเงียบๆ
หนึ่งก้านธูปต่อมา
เมื่อลูกค้าที่มาร่วมงานประมูลมาถึงกันเกือบหมด การประมูลก็เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
บนเวทีประมูลกลางห้องโถง มีชายชราผมขาวใบหน้าเด็กยืนอยู่
ชายชราเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตสร้างรากฐานของตระกูลโจว ดูเหมือนว่าเขาจะคุ้นเคยกับการเป็นพิธีกรในการประมูลแบบนี้มาก
หลังจากกล่าวเปิดงานสั้นๆ เขาก็ประกาศว่าการประมูลเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
สมบัติชิ้นแรกที่นำมาประมูลคือโอสถจิตวิญญาณระดับสอง โอสถหุยหยวน หลังจากรับประทานแล้ว สามารถช่วยให้ผู้ฝึกตนขอบเขตสร้างรากฐานฟื้นฟูปราณแก่นแท้ได้สามส่วน แต่สามารถรับประทานได้เพียงหนึ่งเม็ดภายในหนึ่งเดือนเท่านั้น
มิฉะนั้น หากรับประทานติดต่อกันในระยะเวลาสั้นๆ พิษยาจะสร้างความเสียหายต่อร่างกายของผู้ฝึกตน ซึ่งยากที่จะรักษา
ชายชราแนะนำว่า “ทุกท่านคงรู้จักคุณสมบัติของโอสถหุยหยวนดี ข้าจะไม่พูดมาก หนึ่งขวดมีโอสถหุยหยวนสิบเม็ด ราคาเริ่มต้นที่ 2,000 หินจิตวิญญาณ ราคาเสนอแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่า 100 หินจิตวิญญาณ”
ทันทีที่พูดจบ
มีเสียงเสนอราคาจากห้องส่วนตัว
“2,100 หินจิตวิญญาณ!”
“2,300 หินจิตวิญญาณ!”
“...”
ราคาของโอสถหุยหยวนหนึ่งขวดถูกปั่นขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็ขายได้ในราคา 2,500 หินจิตวิญญาณ
เฉินเต้าเสวียนฟังราคาสุดท้ายของยาเม็ดวิญญาณอย่างเงียบๆ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ราคาตลาดของโอสถหุยหยวนอยู่ที่ประมาณ 200 หินจิตวิญญาณต่อหนึ่งเม็ด หลังจากการประมูล ราคาเพิ่มขึ้นถึงสองส่วนครึ่ง ตระกูลโจวนี่ช่างรู้จักทำมาหากินจริงๆ”
เฉินเซียนเหอส่ายหน้า “เมื่อเทียบกับตลาดอาวุธวิเศษ โอสถจิตวิญญาณนั้นขาดตลาดมากกว่า การซื้อในราคาที่สูงกว่าปกติเป็นเรื่องทั่วไป การขึ้นราคาสองส่วนครึ่งไม่ถิอว่าขาดทุนมาก”
ต่อมา สมบัติชิ้นแล้วชิ้นเล่าถูกขายโดยโรงประมูล
ไม่มีการประมูลด้วยเจตนาร้ายเกิดขึ้น
จริงๆ แล้ว เมื่อคิดดูดีๆ มันก็เป็นเรื่องปกติ
โรงประมูลตระกูลโจวจัดการประมูลเดือนละครั้ง สมบัติที่นำมาประมูล จริงๆ แล้วก็ได้ป่าวประกาศไปแล้วในช่วงเวลาหนึ่งเดือนนี้
คนที่มาร่วมงานประมูลต่างก็มีเป้าหมายที่ชัดเจน และมีราคาในใจสำหรับเป้าหมายที่ต้องการประมูลอยู่แล้ว
เว้นแต่จะมีคนต้องการสมบัติชิ้นเดียวกัน
มิฉะนั้น แม้แต่การเสนอราคาก็แทบจะไม่เกิดขึ้น โดยทั่วไปแล้ว จะได้มาในราคาที่สูงกว่าราคาเริ่มต้นไม่เกินสองหรือสามส่วนเท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้ว หินจิตวิญญาณของใครก็ไม่ได้ปลิวมาตามลม การเสนอราคาแบบไม่คิดนั้น จะเกิดขึ้นก็แต่ในนิยายเท่านั้น
“ทุกคนคงรู้ดีว่าเส้นพลังปราณนั้นหายาก แต่ผู้ฝึกตนต้องใช้พลังปราณในการบำเพ็ญเพียร สิ่งที่นำมาประมูลต่อไปคือค่ายกลรวบรวมปราณระดับหนึ่ง และวัสดุในการสร้างค่ายกล ซึ่งสามารถช่วยในการสร้างเส้นพลังปราณ ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 หินจิตวิญญาณ ราคาเสนอแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่า 100 หินจิตวิญญาณ”
เมื่อเป้าหมายปรากฏขึ้น เฉินเต้าเสวียนและเฉินเซียนเหอในห้องส่วนตัวก็รู้สึกตื่นเต้น
“1,100 หินจิตวิญญาณ!”
เฉินเต้าเสวียนเสนอราคา
“1,200 หินจิตวิญญาณ”
มีเสียงเสนอราคาจากห้องส่วนตัวอีกห้องหนึ่ง
“1,200 หินจิตวิญญาณครั้งที่หนึ่ง...”
“1,500 หินจิตวิญญาณ!”
เฉินเต้าเสวียนขึ้นราคาเป็น 1,500 หินจิตวิญญาณทันที สูงกว่าราคาเริ่มต้นถึงห้าส่วน
การเสนอราคาครั้งนี้ ทำให้เกิดการพูดคุยกันในห้องส่วนตัวต่างๆ
“1,500 หินจิตวิญญาณ แค่ซื้อค่ายกลรวบรวมปราณ?”
ผู้ฝึกตนขอบเขตสร้างรากฐานในห้องส่วนตัวข้างๆ เฉินเต้าเสวียนส่ายหน้า “เงินเหลือใช้สินะ?”
แน่นอน
การขึ้นราคาอย่างรวดเร็วของเฉินเต้าเสวียน ทำให้คู่แข่งที่กล้าเสนอราคาแข่งกับเขายอมแพ้โดยตรง ค่ายกลรวบรวมปราณระดับหนึ่ง จึงตกเป็นของเขา
หลังจากซื้อค่ายกลรวบนวมปราณ เฉินเต้าเสวียนและเฉินเซียนเหอก็ผ่อนคลาย
สำหรับพวกเขา เป้าหมายสำเร็จแล้ว ที่เหลือก็แค่ดูการประมูล
ในไม่ช้า
การประมูลก็ดำเนินมาถึงครึ่งทาง
ในตอนนี้เอง ชายชราไอเบาๆ แนะนำอย่างขัดเขิน “สมบัติชิ้นต่อไปที่นำมาประมูลคือวิชาบำเพ็ญเพียรจากยุคโบราณ...”
ชายชราหยุดครู่หนึ่ง
วิชาบำเพ็ญเพียรจากยุคโบราณ? เฉินเต้าเสวียนรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที
“วิชาบำเพ็ญเพียรรนี้มีชื่อว่า ‘วิชางูหลามมังกรกลืนสวรรค์’ เป็นวิชาบ่มเพาะกายเนื้อขั้นสุดยอดจากยุคโบราณ เมื่อฝึกฝนวิชาบำเพ็ญเพียรนี้จนถึงระดับหนึ่ง ผู้ฝึกตนสามารถต้านทานอาวุธวิเศษได้ด้วยร่างกาย อานุภาพไร้ขอบเขต!”
หลังจากอวดวิชาบำเพ็ญเพียรนี้เสร็จ ชายชราก็เคาะค้อนประมูล “ราคาเริ่มต้นของ ‘วิชางูหลามมังกรกลืนสวรรค์’ คือ 1,000 หินจิตวิญญาณ ราคาเสนอแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่า 100 หินจิตวิญญาณ”
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้
การประมูลกลับเงียบผิดปกติ
ไม่มีใครเสนอราคา ต่างก็มองไปที่ผู้ฝึกตนขอบเขตสร้างรากฐานของตระกูลโจวคนนี้ด้วยความสนใจ
ชายชรารออยู่พักหนึ่ง เห็นว่าไม่มีใครเสนอราคา จึงได้แต่พูดอย่างเขินอาย “ในเมื่อทุกท่านไม่สนใจวิชาบำเพ็ญเพียรนี้ งั้นก็...”
“1,000 หินจิตวิญญาณ!”
“ดี มีแขกผู้มีเกียรติผู้มีเกียรติเสนอราคา 1,000 หินจิตวิญญาณ มีใครเสนอราคาสูงกว่านี้ไหม?”
เขามองไปรอบๆ เห็นว่าไม่มีใครตอบ ชายชราก็กล่าวอย่างเด็ดขาด “ยินดีกับแขกผู้มีเกียรติในห้องส่วนตัวหมายเลข 7 ที่ได้รับวิชาบำเพ็ญเพียรจากยุคโบราณ… วิชางูหลามมังกรกลืนสวรรค์!”
“ปัง!”
ค้อนประมูลตกลง การค้าขายเสร็จสมบูรณ์
ภายในห้องส่วนตัวหมายเลข 7
เฉินเซียนเหอมองเฉินเต้าเสวียนอย่างจนใจ “เจ้าซื้อสิ่งนี้ไปทำไม?”
“ทำไม? วิชาบ่มเพาะกายเนื้อนี้ ฝึกฝนยากมากงั้นเหรอ?”
เฉินเต้าเสวียนถามอย่างสงสัย
“การฝึกฝนไม่ยาก”
เฉินเซียนเหอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เจ้ารู้ไหมว่าทำไมวิชาบ่มเพาะกายเนื้อที่เคยรุ่งเรือง ถึงค่อยๆ ถูกผู้ฝึกตนของเราละทิ้ง?”
“ทำไม?”
เฉินเต้าเสวียนก็อยากรู้เช่นกัน
ตามหลักเหตุผลแล้ว วิชาบ่มเพาะกายเนื้อขั้นสุดยอดเช่นนี้ ไม่น่าจะถูกเมินเฉย แต่ความจริงกลับเป็นว่า ทุกคนไม่สนใจวิชาบ่มเพาะกายเนื้อนี้เลย?
เห็นได้ชัดว่าไม่สมเหตุสมผล…
“เพราะการฝึกฝนวิชาบ่มเพาะกายเนื้อนั้น มันสิ้นเปลืองทรัพยากรมากเกินไป!”
เฉินเซียนเหอส่ายหน้า “มีคนเคยคำนวณอย่างละเอียด ผู้ฝึกตนที่ฝึกฝนวิชาบ่มเพาะกายเนื้อ จะใช้ทรัพยากรมากกว่าผู้ฝึกตนในระดับเดียวกันอย่างน้อยสิบเท่า ทรัพยากรมากมายขนาดนั้น เพียงพอที่จะซื้ออาวุธวิเศษป้องกันระดับสูงสุดได้สิบชิ้น ทำไมต้องเสียเวลาและความพยายามไปฝึกฝนวิชาบ่มเพาะกายเนื้อล่ะ?”
“เข้าใจแล้ว”
ได้ยินดังนั้น เฉินเต้าเสวียนก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะเขารู้ว่า ตระกูลเฉินอาจจะขาดทุกอย่างในอนาคต แต่สิ่งเดียวที่อาจจะไม่ขาดคือทรัพยากรบ่มเพาะ
ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขาว่า เมื่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นจริง ทรัพยากรจะหลั่งไหลเข้ามาในตระกูลเฉินของพวกเขาราวกับสายน้ำ
ในเวลานั้น สิ่งที่ตระกูลเฉินขาดแคลนจะไม่ใช่ทรัพยากร แต่เป็นวิธีการเปลี่ยนทรัพยากรให้เป็นกำลัง
การใช้ 1,000 หินจิตวิญญาณเพื่อซื้อวิชาบ่มเพาะกายเนื้อขั้นสุดยอด ที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับคนในตระกูลในอนาคต เฉินเต้าเสวียนรู้สึกว่าไม่ขาดทุน
หลังจากซื้อของสองชิ้น
เฉินเต้าเสวียนก็รู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้คุ้มค่าแล้ว เขาไม่คิดจะเสนอราคาซื้ออะไรอีก รอแค่การประมูลสิ้นสุดลง
ครึ่งชั่วยามต่อมา
การประมูลก็มาถึงช่วงสุดท้าย
ในฐานะสมบัติชิ้นสุดท้าย ตระกูลโจวก็หยิบสมบัติล้ำค่าของตระกูลออกมา นั่นคือ… ลูกแก้วจิตวิญญาณวารี
และไม่ใช่ลูกแก้วจิตวิญญาณวารีระดับหนึ่งธรรมดา แต่เป็นลูกแก้วจิตวิญญาณวารีระดับสอง
“สินค้าชิ้นสุดท้ายที่นำมาประมูลคือสมบัติล้ำค่าของตระกูลโจวของเรา - ลูกแก้วจิตวิญญาณวารีระดับสอง ไม่จำเป็นต้องอธิบายสรรพคุณของลูกแก้วจิตวิญญาณวารีระดับสองให้มากความ ขอบอกเพียงว่า มันสามารถใช้ร่วมกับโอสถจิตวิญญาณ เพื่อช่วยผู้ฝึกตนในการบำเพ็ญเพียร!”
แน่นอน คำพูดของชายชราตระกูลโจว ทำให้บรรยากาศในงานคึกคักขึ้นทันที
แม้แต่เฉินเต้าเสวียนก็ยังรู้สึกโลภ เมื่อเห็นลูกแก้วจิตวิญญาณวารีระดับสอง เขารู้ดีว่าสิ่งนี้มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน
การที่เขาสามารถบำเพ็ญเพียรจากขอบเขตหลอมรวมพลังปราณขั้นสาม มาถึงขอบเขตหลอมรวมพลังปราณขั้นสี่ได้อย่างรวดเร็ว ลูกแก้วจิตวิญญาณวารีมีส่วนอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ลูกแก้วจิตวิญญาณวารีสิบเม็ดที่ตระกูลโจวนำมาประมูล ยังเป็นลูกแก้วจิตวิญญาณวารีระดับสอง ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าลูกแก้วจิตวิญญาณวารีระดับหนึ่ง!
“ลูกแก้วจิตวิญญาณวารีระดับสอง ทั้งหมดสิบเม็ด ราคาเริ่มต้นที่ 10,000 หินจิตวิญญาณ ราคาเสนอแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่า 1,000 หินจิตวิญญาณ เชิญทุกท่านเสนอราคา”
ชายชราตระกูลโจวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ที่โรงประมูลตระกูลโจวได้รับความนิยมเช่นนี้ ย่อมเกี่ยวข้องกับการที่พวกเขามักจะนำลูกแก้วจิตวิญญาณวารีมาประมูลเป็นสินค้าชิ้นสุดท้ายเสมอ
เป็นที่ทราบกันดีว่า
ในทะเลหมื่นดวงดาว มีเพียงตระกูลโจวแห่งเมืองกวงอันเท่านั้น ที่มีลูกแก้วจิตวิญญาณวารีขาย
ตระกูลอื่นๆ ก็อยากเรียนรู้วิธีจับเงือกแบบตระกูลโจว แต่ไม่มีวิธีการจับที่เป็นเอกลักษณ์แบบตระกูลโจวเลย