บทที่ 269: กะหล่ำปลีทำร้ายหมูน้อย.. (ตอนฟรี)
บทที่ 269: กะหล่ำปลีทำร้ายหมูน้อย..
“แม้ว่านางจะร่ำรวย แต่นิกายวิญญาณเร้นลับของเราก็ยังคงต้องรักษาหน้าไว้”
“สินสอดของนางจะต้องเป็นของคุณภาพสูง” ซูฟ่านลูบคางของเขาแล้วพูด
ท่าทางของเขาคล้ายกับพ่อที่เลี้ยงลูกหมูอย่างอุตสาหะและตอนนี้ก็กำลังจะแลกมันกับกะหล่ำปลี เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะนำเสนอลูกหมูในสภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยแสดงให้คนอื่นเห็นว่าลูกหมูของเขาสมควรได้รับกะหล่ำปลีที่ดีที่สุด
สำหรับปัญหาเกี่ยวกับอาจารย์ของซูหลานเทียน เขาก็ไม่ได้สนใจมันเลย
ไม่ว่าอารมณ์ของเขาจะรุนแรงแค่ไหน ความจริงก็คือว่ากะหล่ำปลีของเขาได้ทำลายลูกหมูของข้า และหากเขาคิดจะวางแผนลอบฆ่าลูกศิษย์ของข้า เราก็จะซ่อนตัวก่อน และจะกลับมาจัดการกับเจ้าเมื่อเราแข็งแกร่งขึ้น
ในขณะนี้ ลำแสงกระบี่พุ่งมาจากระยะไกล ร่างของหนิงเต๋าปรากฏตัวต่อหน้าซูฟ่าน
“พี่หนิงไม่ได้ประจำการอยู่ที่เมืองเซียนหลินเซินหรอ?” ซูฟ่านถาม
“ ไม่อีกแล้ว ต้องขอบคุณเจ้า ตอนนี้ข้าแค่ต้องจัดการเรื่องประจำวันในสภาผู้อาวุโสเท่านั้น
“ผู้อาวุโสสูงสุดซู เจ้าไม่ได้บอกว่าลูกศิษย์คนที่สี่ของเจ้าไปทำอะไรซูหลานเทียนเข้าหรอ?” หนิงเต๋ามองไปที่ซูฟ่านแล้วถาม
“คำถามของท่านน่าสนใจมาก เพียงแต่มันต้องกลับรูปประโยคสักหน่อย”
“ท้ายที่สุดแล้ว ลูกศิษย์ของข้าก็อยู่ที่ขอบเขตตัวอ่อนวิญญาณเท่านั้น เขาจะไปทำอะไรผู้ฝึกตนขอบเขตบูรณาการได้?” ซูฟ่านกล่าว
“ความบริสุทธิ์ของลูกศิษย์ข้าถูกพรากไปแล้ว” ซูฟ่านกล่าวเพิ่มเติมในภายหลัง
“เอ่อ ผู้หญิงจะบังคับผู้ชายให้ทำเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร?” หนิงเต๋าไม่สามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้สักระยะหนึ่ง
“ท่านไปมุดหัวหลบอยู่ที่ไหนมา?” ซูฟ่านเลิกคิ้วแล้วพูด
ซูฟ่านต้องยอมรับว่าในเรื่องของเนื้อหาที่เร้าใจนี้ โลกนี้ก็ก้าวหน้าไปมากกว่าโลกที่เขาเคยอยู่มาก
พวกเขายังใช้ประโยชน์จากศาสตร์ลวงตาเพื่อมอบประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับผู้ฝึกตนชายได้
ฉากเหล่านั้น... ซูฟ่านได้แต่เฝ้าดูพวกเขาและอุทานให้กับเทคนิคการเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา
“อะแฮ่ม กลับมาที่เรื่องเดิมกันก่อนเถอะ” หนิงเต๋ากล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ซูหลิงจุนอยู่ในโลกนี้มาเกือบหมื่นปีแล้ว หากข้อมูลของข้าถูกต้อง เขาก็จะขึ้นสู่โลกเซียนภายใน 200 ปี”
“ทำไมเราไม่รอสักหน่อยล่ะ” หนิงเต๋าแนะนำ
“นั่นไม่ถูกต้อง ผู้อาวุโสซูมีค่าที่สุดสำหรับซูหลิงจุนไม่ใช่หรอ? เขาจะเสียใจสักเพียงไรกันหากเขาขึ้นไปโดยไม่ได้เห็นคนที่เขารักที่สุดแต่งงาน?” ซูฟ่านกล่าวสิ่งนี้อย่างเฉยเมย แต่ดวงตาของเขาก็บ่งบอกถึงความตั้งใจของเขาอย่างชัดเจน
“ถ้าอบ่างนั้น ก่อนที่เจ้าจะไป มันก็ดีที่สุดถ้าเจ้าจะทิ้งพินัยกรรมสุดท้ายไว้ก่อน” หนิงเต๋าบอกเป็นนัย
“ความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงหรอ? ไม่มีวิธีที่อ่อนโยนกว่านี้แล้วหรอ?” ซูฟ่านถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ไม่ ทุกคนที่ไปสู่ขอในอดีตล้วนถูกซูหลิงจุนบดขยี้จนตายทั้งนั้น” หนิงเต๋าส่ายหัวแล้วกล่าว
“ตัดสินใจได้เด็ดขาดมาก เขาไม่กลัวว่าลูกสาวของเขาจะไม่มีวันแต่งงานหรอ?”
ในขณะนี้ ซูฟ่านก็ได้รับข้อความอีกฉบับจากหลี่ซิงชี
“ท่านอาจารย์ รอให้เทียนเอ๋อคุยกับอาจารย์ของนางก่อนแล้วค่อยไป!”
“เจ้าคิดว่าข้าจะประมาทขนาดนั้นหรอ?” ซูฟ่านกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
อย่างไรก็ตาม ซูฟ่านก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แม้ว่าปัญหาการสู่ขอจะจบลงแล้ว แต่มันก็ยังมีปัญหาเรื่องสินสอดซึ่งทำให้ซูฟ่านปวดหัว
“อ่า ปัญหาการแต่งงานของคนรวย” ซูฟ่านกล่าว
ในขณะนี้ ซูฟ่านมองไปที่พื้นที่ใต้ดินซึ่งเป็นที่เก็บยานอวกาศ
“บางทีเราควรพยายามเตรียมยานอวกาศไว้ล่วงหน้าดีไหมนะ มันจะได้ไม่เสียชื่อเสียงหากเราใช้มันเป็นสินสอด” ซูฟ่านลูบคางของเขาแล้วพูด
“พี่หนิงเต๋า ท่านคิดอย่างไรกับการใช้ยานอวกาศเป็นสินสอด? มันหรูหราพอไหม?” ซูฟ่านถาม
“แบบนั้นคงจะดีเลย”
“สินสอดนี้คงเกินพอที่จะแต่งงานกับผู้ฝึกตนขอบเขตมหายานได้ ผู้อาวุโสสูงสุดซู นิกายวิญญาณเร้นลับของเรามียานอวกาศด้วยหรอ?” หนิงเต๋าถามด้วยความประหลาดใจ
“เฮ่เฮ่ ท่านก็เดาดูสิ” ซูฟ่านยิ้มและกล่าว
หลังจากพูดคุยกันสักพัก หนิงเต๋าก็บอกลาซูฟ่านและกลับไปที่เมืองเซียน
ซูฟ่านกลับมาที่ลานบ้านของเขา แต่ก่อนที่เขาจะเข้าสู่สภาวะการทำสมาธิเพื่อฝึกตน ความผันผวนแปลกๆ ก็ได้แผ่ขยายไปทั่วนิกายวิญญาณเร้นลับทั้งหมด
“ข้าทำสำเร็จแล้ว!”
เสียงตะโกนอันตื่นเต้นของซาตี้ดังก้องไปทั่วนิกายวิญญาณเร้นลับ
ร่างของซูฟ่านปรากฏขึ้นบนยอดเขาสร้างสิ่งประดิษฐ์
“คารวะผู้อาวุโสสูงสุด” เหล่าศิษย์คำนับและกล่าวทำความเคารพ
“อืม ผู้อาวุโสซา ท่านมีความก้าวหน้าแล้วหรอ?” ซูฟ่านถาม เขาไม่ได้บุกเข้าไปในห้องของซาตี้อย่างเร่งรีบซึ่งถือเป็นความเคารพขั้นพื้นฐานสำหรับนักสร้างสิ่งประดิษฐ์
“ผู้อาวุโสซู โปรดเข้ามาเถอะ” เสียงของซาตี้ดังก้องมาจากในห้อง
ซูฟ่านเข้าไปในห้อง ซาตี้ไม่ได้ก้าวออกมาจากห้องมาหลายปีแล้ว ตัวเขาส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วร่างกายของเขา ยกเว้นก็แต่ดวงตาของเขาที่เปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น
ด้านหน้าของซาตี้มีบล็อกโลหะสีทองแดงโบราณสี่เหลี่ยมจัตุรัสสูงประมาณหนึ่งเมตรตั้งอยู่
“ผู้อาวุโสซา ท่านได้ค้นพบสูตรสำหรับโลหะผสมระดับสิ่งประดิษฐ์เต๋าแล้วหรอ?” ซูฟ่านกล่าวโดยมองไปที่บล็อกโลหะ
“ใช่แล้ว ต้องขอบคุณคำแนะนำของผู้อาวุโสซู ไม่งั้นข้าก็เกรงว่าข้าจะไม่สามารถเป็นปรมาจารย์นักสร้างสิ่งประดิษฐ์ได้ในชีวิตนี้” ผู้อาวุโสซาดูร่าเริง แต่ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
“ข้ายกสูตรให้ผูเถาแล้ว ท่านสามารถไปคุยกับผูเถาต่อได้เลย ข้าทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ข้าต้องนอนและฟื้นฟูจิตวิญญาณสักหน่อย” ซาตี้พูดด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า
“ไปเถอะ ข้าจะตรวจสอบมันต่อเอง” ซูฟ่านกล่าวอย่างกระตือรือร้นล
ร่างของซาตี้กลายเป็นลำแสงบินไปทางห้องด้านบน และทิ้งซูฟ่านไว้ตามลำพังในห้องสร้างสิ่งประดิษฐ์..