ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1103 ต่อสู้กับเผ่าปีศาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1105 สร้างความวุ่นวาย

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1104 กองทัพปีศาจ (อ่านฟรี)


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1104 กองทัพปีศาจ (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT  

‘คนขี่ลา!?’

ดวงตาของราชาปีศาจสงครามส่องประกายเย็นชา เขาดึงกระบี่ขนาดใหญ่ออกมาจากด้านข้างอานม้า ม้าศึกที่ถูกเรียกว่าลายิ่งโกรธมากกว่าเขา เส้นเลือดปูดโป่งขึ้นบนร่างกายของมันและมีไอน้ำร้อนพุ่งออกมาจากรูจมูกของมัน มันกระโจนไปมาอย่างกระสับกระส่ายและคำรามว่า “ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!”

ราชาปีศาจสงครามเหวี่ยงกระบี่ไปข้างหน้าและชี้ไปที่หลี่ฉิงซาน “อย่าคิดหนี!”

“อย่ากังวล ข้าไม่ได้ขี่ลา ดังนั้นข้าคงไม่สามารถวิ่งหนีได้อย่างรวดเร็วแม้ข้าจะต้องการก็ตาม!”

หลี่ฉิงซานหัวเราะเสียงดังและกำหมัดแน่นด้วยร่างปีศาจสงคราม

ด้วยดาบในมือและปีกบนแผ่นหลัง เขากลายเป็นลำแสงสีแดงพุ่งเข้าหาราชาปีศาจสงครามและกองทัพปีศาจเพียงลำพัง

“เข้ามา!”

“ฆ่า!”

ราชาปีศาจสงครามคำรามและกลายเป็นหนึ่งเดียวกับม้าศึกก่อนจะพุ่งเข้าหาหลี่ฉิงซานด้วยภาพพร่ามัว

“สู้!”

กองทัพปีศาจตะโกนพร้อมกัน มันเหมือนคลื่นยักษ์ที่พุ่งเข้าสู่ก้อนเมฆ

“บึม!”

ดาบและกระบี่ปะทะกันสร้างคลื่นกระแทกระเบิดออกไป

ดวงตาทั้งสองสบกัน พวกมันอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่นิ้ว คู่หนึ่งสีแดงสด อีกคู่สีแดงเลือด ประกายไฟบินออกไป ทั้งสองรู้สึกประหลาดใจกับความแข็งแกร่งของกันและกันซึ่งนำไปสู่เจตนาสังหารที่ยิ่งรุนแรงมากขึ้น

หลี่ฉิงซานรู้สึกปวดไหล่เมื่อถูกม้าศึกกัด ในชั่วขณะนั้นมันดูไม่เหมือนม้าอีกต่อไปแต่เป็นอสรพิษที่พุ่งออกมาจากรู ปากของมันเต็มไปด้วยฟันยาวที่แหลมคม

เมื่อได้รับความเข้าใจอย่างถ่องแท้หลังจากเปลี่ยนร่างเป็นปีศาจวัว เขาสามารถใช้ความสามารถโดยกำเนิดต่างๆของปีศาจวัวได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ผิวหนังบนไหล่ของเขากลายเป็นผิวหนังปีศาจวัวสีดำทันทีเพื่อป้องกันฟันอันแหลมคม เขายิ้ม “ก้นของเจ้าดูค่อนข้างน่าประทับใจ แต่ดาบของข้าดีกว่าเล็กน้อย!”

ดาบตัดเข้าไปในกระบี่อย่างช้าๆ เงาร่างของจิตวิญญาณดาบจุดจบบุปผาคลั่งซ้อนทับกับร่างของหลี่ฉิงซานโดยจับด้ามดาบไว้อย่างแน่นหนา ในการปะทะที่รุนแรงเช่นนี้ อาวุธมีความสำคัญมากที่สุด เห็นได้ชัดว่าดาบจุดจบบุปผาคลั่งเหนือกว่า

ราชาปีศาจสงครามปล่อยเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง ด้วยการบิดกระบี่ เขาฟาดมันไปที่หัวของหลี่ฉิงซานด้วยพลังอำนาจที่เพียงพอจะผ่าแยกภูเขา

หลี่ฉิงซานไม่กล้าปฏิบัติต่อราชาปีศาจสงครามเหมือนราชาปีศาจทั่วไป เขาบิดดาบเพื่อสกัดกั้นกระบี่ “เจ้าไม่สามารถฟันข้าได้!”

“ปัง ปัง ปัง ปัง”

ราวกับเสียงฟ้าร้อง ดาบและกระบี่ปะทะกันหลายร้อยครั้งในชั่วพริบตา คลื่นอากาศระเบิดออกไปและกลายเป็นพายุหมุน

ในตาพายุ ริ้วแสงสีแดงสดของหลี่ฉิงซานเต้นรำอยู่ในอากาศขณะที่เขาใช้ทั้งจุดจบความคลั่งและรูปปั้นปีศาจสงครามในเวลาเดียวกัน เขาสามารถสร้างสมดุลที่ละเอียดอ่อนระหว่างความแข็งแกร่งและทักษะ เขาเผชิญหน้ากับทุกการโจมตีของราชาปีศาจสงครามอย่างดุดันและสงบโดยเพลิดเพลินไปกับการต่อสู้

ท่ามกลางผู้คนทั้งหมดที่นี่ คนที่ได้รับความได้เปรียบทางจากถ้ำปีศาจมากที่สุดคือหลี่ฉิงซานอย่างไม่ต้องสงสัย

หม้อของมณฑลชิงโจวเหมือนภูเขาที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าและปลดปล่อยภาพลวงตาของมณฑลชิงโจวออกมา ถ้ำปีศาจเหมือนปากสีดำขนาดใหญ่ที่พ่นปราณปีศาจออกมาอย่างต่อเนื่องและพยายามกลืนกินโลกใบนี้

นี่คือสถานที่ที่โลกสองใบมาบรรจบกัน ขณะที่หลี่ฉิงซานเป็นบุตรของโลกมนุษย์และราชาของเผ่าปีศาจ ดังนั้นไม่เพียงเขาจะไม่ถูกสะกดข่มโดยกฎใดๆ เขายังได้รับการสนับสนุนจากโลกทั้งสองใบอีกด้วย

“ข้าจะบดขยี้ของปลอมเช่นเจ้าในไม่ช้า แม้เจ้าจะพยายามหลบหนีตอนนี้ มันก็สายไปแล้ว!”

ราชาปีศาจสงครามคำรามอย่างเย็นชา ความสามารถในการพูดคุยระหว่างการต่อสู้อันดุเดือดแสดงให้เห็นว่าเขายังไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมด กองทัพปีศาจเคลื่อนที่มาข้างหน้า ทหารปีศาจนับล้านพุ่งเป้าไปที่หม้อของมณฑลชิงโจว

หลี่ฉิงซานเป็นเพียงอุปสรรคหนึ่งของพวกมัน

ด้วยการก้าวไปข้างหน้าของกองทัพ ปราณปีศาจของราชาปีศาจสงครามก็ทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ พลังที่อยู่เบื้องหลังกระบี่ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้จะมีความแข็งแกร่งของปีศาจวัว แต่หลี่ฉิงซานก็เริ่มรู้สึกเหมือนตนเองไม่สามารถรั้งศัตรูไว้ได้อีกต่อไป

ในเวลาเดียวกันด้วยประสิทธิภาพของรูปปั้นปราบปีศาจในการต่อสู้กับเผ่าปีศาจ พระอาจารย์ไร้กังวลกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดท่ามกลางราชานักบวชทั้งสี่ พวกเขารวบรวมพลังของค่ายกลราชันผู้พิทักษ์และมอบให้เขาทั้งหมด มันควบรวมร่างอวตารราชันผู้พิทักษ์ปราบปีศาจที่เกรี้ยวกราดขึ้นมา มือข้าหนึ่งของมันสะบัดโซ่สีดำไปรอบๆขณะที่อีกข้างใช้หอคอยปราบปีศาจฟาดฟันเหมือนอาวุธ

อย่างไรก็ตามพวกเขายังถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องภายใต้การรุมล้อมของราชาปีศาจเกือบสามสิบตน และนั่นคือสถานการณ์ที่ราชาปีศาจต้องเฝ้าระวังการโจมตีของราชามังกรแห่งทะเลหมึกอยู่ตลอดเวลาซึ่งทำให้พวกมันไม่สามารถใช้กำลังได้อย่างเต็มที่ พวกเขาเหมือนวัวที่ติดอยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่าและสามารถตกตายได้ตลอดเวลา

และเมื่อกองทัพปีศาจบุกเข้ามา สิ่งที่พวกเขาทำได้คือถอยออกไปทีละก้าว หากพวกเขาถูกกองทัพปีศาจกลืนกิน มันอาจใช้เวลาเพียงชั่วครู่ก่อนที่พวกเขาจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ

นาวาเหินราชามังกรแดงยิงลำแสงออกไปอย่างต่อเนื่อง ลำแสงสีแดงหลายร้อยสายโจมตีกองทัพปีศาจอย่างบ้าคลั่ง ในฐานะอาวุธสงคราม มันเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างมาก เว้นเพียงนี่ไม่ใช่ความขัดแย้งภายในของเก้ามณฑล เมื่อใดก็ตามที่ลำแสงแต่ละสายพุ่งผ่านปราณปีศาจ มันจะอ่อนกำลังลงหรือหายไปในที่สุด สิ่งนี้จำกัดพลังของมันเป็นอย่างมาก จำนวนปีศาจที่ถูกสังหารน้อยมากเมื่อเทียบกับขนาดของกองทัพทั้งหมด

ราชาหุ่นเชิดที่ออกมาจากนาวาเหินราชามังกรแดงถูกราชาปีศาจรื้อถอนไปนานแล้ว หนึ่งในนั้นกระทั่งถูกควบคุมโดยราชาปีศาจด้วยวิธีการบางอย่าง

ราชาอาณาจักรชูอยู่ในอารมณ์ตึงเครียด เขาเหนื่อยล้ามากจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้และมันก็เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะหยุดกองทัพปีศาจ แม้เขาจะอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด มันก็เป็นไปไม่ได้ที่หม้อของมณฑลชิงโจวจะสามารถปราบปรามกองทัพที่ใหญ่โตเช่นนี้

เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปทางลูกสาวของเขา เสื้อคลุมนักบวชสีขาวอมฟ้าของนางปลิวขึ้นสู่อากาศ แต่นางไม่ได้ทำสิ่งใดเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา นางถือระฆังที่ละเอียดอ่อนไว้ในมือและดูเหมือนกำลังสวดมนต์

ราชานักบวชทั้งสี่ต่อสู้พร้อมล่าถอย

“ศัตรูของพระพุทธเจ้าเชื่อถือไม่ได้จริงๆ นางกำลังหลบเลี่ยงการต่อสู้!”

“เราไม่ควรคิดที่จะพึ่งพาศัตรูของพระพุทธเจ้าตั้งแต่แรก!”

“มีสมาธิ! อย่างพูด!” พระผู้กล้ากล่าว

ตัวตนของเสี่ยวอันในฐานะศัตรูของพระพุทธเจ้าไม่สามารถโต้แย้งได้ แต่คำพูดเหล่านั้นก็ยังทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ เขายังคงเชื่อในตัวนางด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาเชื่อว่านางจะมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้ แม้กระทั่งเป็นผู้กำหนดผลลัพธ์ทั้งหมด

เผ่าปีศาจมีความคิดที่บิดเบี้ยวแต่ส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิ์ถูกเรียกว่าศัตรูของพระพุทธเจ้า ผู้คนที่มีไหวพริบจะเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าเป็นตัวตนที่ไม่สามารถต่อต้านได้ ดังนั้นศัตรูของพระพุทธเจ้าก็ต้องไม่ธรรมดาเช่นกัน

แม้แต่ตอนนี้พระผู้กล้าก็ยังรู้สึกเจ็บปวด ‘จิตมั่น เมื่อเจ้าบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งพุทธะ เจ้ามีศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดอย่างเห็นได้ชัด แล้วเหตุใดเจ้าต้องเลือกที่จะเป็นศัตรูของพระพุทธเจ้า?’

ทันใดนั้นเงาขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นเหนือราชานักบวชทั้งสี่

พลังของราชาปีศาจสงครามปะทุขึ้นสู่จุดสูงสุด มันสร้างรูปปั้นปีศาจสงครามสูงมากกว่าสามพันเมตรขึ้นด้านหลัง

วิธีการรวบรวมพลังจากคนจำนวนมากไม่ใช่เรื่องแปลก หลี่ฉิงซานเคยเห็นศิษย์สำนักการทหารใช้มันมาแล้ว เช่นเดียวกับผีดิบจากพิภพวิญญาณ อย่างไรก็ตามเมื่อราชาปีศาจสงครามใช้มัน มันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง มันมากพอที่จะทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า

“โลกนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของพิภพปีศาจ นั่นคือเรื่องที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง แม้แต่เจ้าก็ยังดิ้นรนอย่างไร้ความหมาย” ราชาปีศาจสงครามและรูปปั้นปีศาจสงครามกล่าวพร้อมกันโดยสร้างเสียงซ้อนทับกันที่ดังสะท้อนไปทั่ว

ในตอนท้ายราชาปีศาจสงครามฟาดกระบี่ของมันและรูปปั้นปีศาจสงครามที่อยู่ด้านหลังมันก็เหวี่ยงกระบี่ปีศาจขนาดมหึมาลงมาเช่นกัน ปราณกระบี่ระเบิดออกไปหลายสิบกิโลเมตร มันฟันนาวาเหินราชามังกรแดงขาดครึ่งลำ

ทุกคนเฝ้ามองอย่างช่วยไม่ได้เมื่ออาวุธสงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกใบนี้ตกลงจากท้องฟ้า

สิ่งนั้นเพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวัง

แต่ในจังหวะนี้เสียงระฆังพลันดังขึ้น!