ตอนที่แล้วตอนที่ 324
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 326

ตอนที่ 325


ตอนที่ 325

เต๋าซุนขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วมองดูฉากนี้

 พลังระดับ 8 แผ่ออกมาจากมัมมี่

“เกิดอะไรขึ้น” เต๋าซุน มองไปยังสามคนที่อยู่ข้างๆเขาแล้วถาม

“พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน” หนึ่งในสามศิษย์ชุดคลุมสีเหลืองอธิบาย

“เรามากันเป็นกลุ่ม และเราก็ได้พบกับพวกมัมมี่ทันทีที่เดินเข้าไปในทะเลทราย

 กระทั่งตอนนี้ มีพวกเราเพียงสามคนเท่านั้นที่รอดชีวิต ”

“มีมัมมี่จำนวนมากในทะเลทรายนี้ ดูเหมือนว่าพวกมันจะลาดตระเวนไปทั่วทะเลทรายเลย” ศิษย์อีกคนที่อยู่ข้างๆพูด

“เราไม่สามารถออกไปจากหลุมนี่ได้เลย เราติดอยู่ที่นี่อย่างสมบูรณ์”

 เต๋าซุนขมวดคิ้วและคิด

สามคนนี้อาจเป็นศิษย์ของกองกำลังระดับหนึ่ง

 เหตุผลที่อีกฝ่ายรู้จักตัวเขาเป็นเพราะความขัดแย้งก่อนหน้านี้กับนิกายหยุนหวง

แต่สิ่งที่ทำให้เขาลำบากใจก็คือมีมัมมี่เหล่านี้มากเกินไป

หากพวกมันมีระดับการบ่มเพาะถึงระดับ 8 เช่นนี้ ตัวเขาเองก็ทำได้เพียงพึ่งพาโกลาหลกับไป่เหมินเท่านั้น

ระดับพลังยุทธ์ในปัจจุบันของเขาสู้กับตัวตนระดับ 8 ได้เท่านั้น แต่หากอีกฝ่ายมีมากเกินไป เขาย่อมไม่อาจรับมือได้อย่างแน่นอน

เต๋าซุน เงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่าทะเลทรายนั้นกว้างใหญ่และว่างเปล่า

 แทบจะไม่มีที่ซ่อนเลย ดังนั้นหินก้อนใหญ่นี้จึงนับว่าดีที่สุด

ถ้าไปไกลกว่านี้ เขาอาจได้พบกับมัมมี่และอาจไม่มีที่ซ่อนก็เป็นได้

“บุตรแห่งสวรรค์เต๋า ท่านช่วยหาวิธีติดต่อกับนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์  และขอให้พวกเขามาช่วยพวกเราได้หรือไม่” ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเขาถามอย่างคาดหวัง

“คงเป็นไปไม่ได้  นอกจากนี้ผู้คนที่มาจากนิกายข้าครั้งนี้เองก็มีเพียงยอดฝีมือระดับ 7 เท่านั้น ดังนั้นย่อมไม่มีประโยชน์อะไรแม้พวกเขาจะมาช่วยก็ตาม ” เต๋าซุนส่ายหัวและพูด

 “ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็คงจบสิ้นแล้ว” ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆก็พูดอย่างหดหู่

“เป็นธรรมดาของหนึ่งในสิบสถานที่ต้องห้าม  นี่พวกเจ้าไม่ได้เตรียมใจมากันก่อนเลยรึไง” เต๋าซุนกล่าวพร้อมกับมองดูคนไม่กี่คน

“ไม่มีของฟรีบนโลกนี้

เอาเถอะ พวกเจ้าก็ซ่อนตัวไป ส่วนข้าจะไปต่อ ”

เต๋าซุนยืนขึ้นและเดินไปข้างหน้าทีละก้าว

มัมมี่ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าตอนนี้หายไปไหนแล้ว

“เขาบ้าไปแล้วเหรอ?” ชายหนุ่มพูดด้วยความประหลาดใจขณะมองดูร่างที่จากไปของ เต๋าซุน

 “ถ้าเขาเจอมัมมี่ เขาต้องตายแน่”

-

 เดินอยู่ในทะเลทราย ฝนตกปรอยๆลงมาจากท้องฟ้า

เต๋าซุนหายใจเข้าลึก ๆ และอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าของเขา

บรรยากาศที่นี่ตึงเครียดอยู่เสมอ

 หลังจากเดินไปได้สักพัก หมอกหนาก็เริ่มปรากฏตรงหน้า

  เขามองเห็นทางข้างหน้าไม่ชัดเพราะหมอกที่ปกคลุมไปทั่ว

เต๋าซุนได้ยินเสียงคำรามอันน่าสลดใจจากหมอกเล็กน้อย

 ทันใดนั้น ร่างหลายร่างก็ค่อย ๆ เดินออกมาจากหมอก

จริงๆ แล้วพวกมันคือมัมมี่ทั้งสามตัว

 มัมมี่ระดับ 8 สามตัว

รูปร่างหน้าตาของพวกมันเหมือนกันจนไม่สามารถแยกแยะได้   ผิวหนังกับกล้ามเนื้อบนพื้นผิวของมันก็ถูกห่อรวมเข้าด้วยกัน

 มันดูแข็งแกร่งและมีรอยแตกมากมายบนผิวหนัง

พวกมันอ้าปากและคำรามใส่เต๋าซุน

 น้ำลายเหนียวในปากของพวกมันหนาราวกับมีสารบางอย่างเคลือบอยู่ที่ฟัน

 เมื่อมัมมี่ทั้งสามพุ่งเข้าหาเต๋าซุน

พวกมันก็รวดเร็วเป็นอย่างมากและกรงเล็บก็เฉียบคมเช่นกัน

เต๋าซุนไม่กล้าที่จะประมาทและเรียกโกลาหลออกมาโดยตรง

 ร่างใหญ่ของโกลาหลตกลงมากลางอากาศ

 มันตบลงด้วยกรงเล็บข้างเดียว ทำให้มัมมี่ทั้งสามตัวปลิวออกไป

 แต่มัมมี่เหล่านี้มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง และพวกมันก็ดูเหมือนไม่เป็นอะไรเลย

หลังจากที่พวกมันลุกขึ้น พวกมันก็คำรามด้วยความโกรธ แล้วหมายจะสังหาร เต๋าซุน อีกครั้ง

 “สู้ไปก็ไร้ความหมาย” เต๋าซุนกระโดดขึ้นไปบนหัวของโกลาหล และพูดเบา ๆ

 “ไปจุดศูนย์กลางให้เร็วที่สุดเถอะ ไม่จำเป็นต้องสนใจมัมมี่เหล่านี้ ”

โกลาหลคำรามเสียงดัง ปีกสีแดงเลือดสองคู่ที่บางพอๆกับปีกจั๊กจั่นก็กางออกข้างหลังราวกับจะปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์

แม้ว่าจะมีพลังผนึกท้องฟ้าของที่นี่ไว้ และทำให้ไม่สามารถบินได้จริงๆ

 แต่ความเร็วของโกลาหลนั้นก็สูงเป็นอย่างยิ่งด้วยความช่วยเหลือจากปีกของมัน ทำให้มัมมี่เหล่านั้นถูกทิ้งไว้ข้างหลังไกลออกไป

 เข้าสู่สายหมอก

เต๋าซุนก็ได้ยินเสียงคำรามทุกครั้งที่เขาพุ่งผ่านได้สักพัก

 หมอกปกคลุมทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา แต่แม้ว่าเต๋าซุนจะมองเห็นได้ไม่ชัดเจน เขาก็ยังรู้สึกได้

จำนวนมัมมี่ที่อยู่รอบๆดูเหมือนจะมีค่อนข้างมากเลยทีเดียว

ด้วยมัมมี่ระดับ 8 ที่มีอยู่มากมาย  หากพวกมันบุกเข้ามา พวกเขาจะต้องถูกแยกเป็นชิ้นๆอยู่ที่นี่แน่นอน

  โกลาหลยังคงดำเนินต่อไป

เต๋าซุนไม่สนใจ และการฆ่ามัมมี่เหล่านี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร

 ในขณะที่หมอกที่อยู่รอบๆเบาบางลงเรื่อยๆ พวกเขาก็สัมผัสได้ว่าตัวเองนั้นอยู่ส่วนปลายของหมอกแล้ว

ในขณะนี้  เขาก็เห็นแสงออโรร่าสีดำลอยอยู่เหนือหัว

 แสงออโรร่านี้ก็กระทบเข้ากับแผ่นหลังของโกลาหล

 เมื่อเสียง "บูม" ดังขึ้น พลังจิตวิญญาณแปลก ๆ ก็เริ่มผันผวน

 หลุมเลือดปรากฏขึ้นด้านหลังของโกลาหล และร่างใหญ่ของมันก็ล้มลง

เต๋าซุนเงยหน้าขึ้นมองและเห็นมัมมี่อีกสามตัวกำลังเฝ้าทางออกของหมอกไว้

มัมมี่ทั้งสามแตกต่างจากมัมมี่ตัวอื่นๆที่ผ่านมา  ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยอากาศสีดำ

 ที่ตำแหน่งดวงตาของพวกมัน มีหมอกสีดำสองกลุ่มลอยออกมา

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ กลิ่นอายของพวกมันที่ผันผวนออกมานั้นอยู่ระดับอมตะ

“เป็นไปได้ยังไง?” เต๋าซุน หรี่ตาเล็กน้อย

 มีสิ่งมีชีวิตที่เข้าสู่เส้นทางอมตะอยู่ที่นี่ด้วยรึ …. นี่อยู่เหนือเกินความคาดหมายอย่างแท้จริง

 เหล่าผู้ท้าชิงจักรพรรดิที่สู้กันเพื่อชิงโชคชะตาในคราวนั้นต่างก็อยู่จุดสูงสุดของระดับ 8 ด้วยกันทั้งสิ้น

 พวกเขาเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งเต๋าหรือเส้นทางอมตะก็จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะทะลวงผ่านจุดนั้นไปได้

และยิ่งหลังจากความตายจนกลายเป็นมัมมี่ มันก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้อีกที่พวกเขาจะก้าวเข้าสู่เส้นทางอมตะ….

แม้ว่าเส้นทางอมตะจะไม่ได้ดีเท่าเส้นทางแห่งเต๋า แต่ความยากลำบากในการก้าวเข้าสู่เส้นทางนี้ก็ไม่ใช่ง่ายเลย

 ผู้คนมากมายต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ยังติดอยู่ที่จุดสูงสุดของระดับ 8 ด้วยซ้ำ พวกเขาต่างก็สิ้นหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะก้าวเข้าสู่เส้นทางอมตะ

-

“ช่างเถอะ เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับพวกมัน” เต๋าซุน กระซิบ

 เขาอัญเชิญไป่เหมินออกมาโดยตรง

 พลังปีศาจอันยิ่งใหญ่ก็พลุ่งพล่านไปทั่ว

ไป่เหมินมองดูมัมมี่ทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้วพูดช้าๆ: "นายท่านของข้า ข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่ชั่วร้ายจากพวกมัน"

 “ก็พอเดาได้” เต๋าซุนหรี่ตาลงเล็กน้อย

 “ดูเหมือนว่าอากาศทมิฬจากนรกจะตื่นขึ้นมาแล้วสินะ”

ไป่เหมินไม่ได้พูดอะไรมากและโบกมือ

พลังปีศาจอันกว้างใหญ่ควบแน่นอยู่กลางอากาศ และใบหน้าที่ดุร้ายหลายหน้าที่ปรากฏขึ้นจากพลังปีศาจที่ควบแน่น จากนั้นพวกมันก็พุ่งไปกลืนกินมัมมี่ทั้งสามตน

ขณะที่ใบหน้าดุร้ายกลืนกินมัมมี่เหล่านั้น

 พวกมันก็ต่อต้านอย่างสิ้นหวัง

 พลังปีศาจและออร่าชั่วร้ายที่ขัดแย้งก็พัวพันเข้าด้วยกัน

ไป่เหมินขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า "นี่มันอะไรกัน? มันสามารถระงับพลังปีศาจของข้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆเช่นนี้เชียวรึ

 โชคดีที่พวกมันนั้นยังอ่อนแอเกินไป ข้าไม่อยากจะคิดเลยว่าพวกมันจะน่ากลัวแค่ไหนหากอยู่ระดับเดียวกับข้า ”

ขณะที่ไป่เหมินโบกมือใหญ่ของเขาอีกครั้ง จู่ๆ ลูกบอลไฟปีศาจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่กำลังกลืนกินมัมมี่

ไฟปีศาจเผาผลาญทุกสิ่งจนหมดจด  และมัมมี่ก็กลายเป็นเถ้าถ่านจนไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้า

-

“เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่อากาศทมิฬจากนรกที่สามารถกลายพันธุ์สิ่งมีชีวิตได้จะไม่ธรรมดา” เต๋าซุน กล่าวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ

 “พวกเราอาจต้องพบเจอปัญหามากกว่านี้อีกก็เป็นได้ ข้าคาดว่าการต่อสู้ที่เกิดขึ้นคงจะลำบากไม่น้อยเลย”

 หลังจากสังหารมัมมี่ทั้งสามตัว เต๋าซุนก็ส่งโกลาหล กลับไปและปล่อยให้มันพักฟื้นที่โลกแก่นชีวิตของเขา

 เพราะต้นไม้แห่งชีวิต อาการบาดเจ็บของมันจึงเกือบจะฟื้นตัวได้ในทันที

ไม่แปลกที่ต้นไม้แห่งชีวิตจะทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง

 มันกระทั่งสามารถสร้างระบบพืชพรรณได้ ดังนั้นการช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของสิ่งมีชีวิตก็ย่อมไม่ใช่ปัญหาอะไร

 แต่มันก็ไม่อาจฝืนกฏแห่งสวรรค์เปลี่ยนแปลงให้คนกลายเป็นอมตะได้  และไม่สามารถชุบชีวิตสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด