ตอนที่ 11 ไม่เหมือนที่คุยกันไว้
ตอนที่ 11 ไม่เหมือนที่คุยกันไว้
“เฮ้ ใต้เท้าหลี่เองหรือ ไม่ได้พบกันนานเลยนะ!” หนุ่มเจ้าสำราญคนนั้นเดินเข้ามาด้วยท่าทางหยิ่งผยอง
“จี้ซื่อหลิน?” หลี่เต๋อเฉวียนขมวดคิ้วสงสัย เหตุใดคนไม่เอาถ่านคนนี้จึงมาอยู่ที่นี่ได้
จี้ซื่อหลินเป็นบุตรชายคนรองของหัวหน้าตระกูลจี้แห่งเมืองหลวง เขายังเป็นหนุ่มเจ้าสำราญชื่อดังแห่งเมืองหลวงอีกด้วย
รังแกผู้ชายและข่มเหงผู้หญิงล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขา มีครั้งหนึ่งที่เขาพาคนบุกเข้าไปในบ้านพ่อค้าผู้มั่งคั่งแล้วข่มเหงอนุของพ่อค้ารายนั้นจนนางเสียชีวิต
ทว่าตระกูลจี้เป็นตระกูลเก่าแก่และในตระกูลมีผู้ฝึกตนระดับหยางบริสุทธิ์มากกว่าหนึ่งคน เมื่อมีตระกูลจี้คอยหนุนหลังอยู่จึงไม่มีใครกล้าบาดหมางกับคนผู้นี้
เหตุใดวันนี้จี้ซื่อหลินจึงบุกมาหาเขา?
เมื่อมองสองแก้มที่แดงปลั่งของจี้ซื่อหลิน อาจเป็นไปได้ว่ากำลังเมา
“เป็นข้าเอง ใต้เท้าหลี่ บังเอิญว่าข้าชอบผู้หญิงเหล่านี้จึงอยากจะแลกห้องกับท่าน” จี้ซื่อหลินเดินโซเซมาข้างหน้าและนั่งลงแบบไร้มารยาทและกลิ่นสุราคละคลุ้ง
เขาโบกมือไปทางกลุ่มแม่นางที่ขับร้องและบรรเลงดนตรีเมื่อครู่
“อย่าหยุดเล่น จงบรรเลงและร้องรำต่อไป”
“แต่...” แม่นางทั้งหลายมองหน้ากันไปมาและหันไปมองหลี่เต๋อเฉวียนพร้อมกัน
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่หยาบคายของจี้ซื่อหลินจึงทำให้ใบหน้าของหลี่เต๋อเฉวียนมืดลงทันที
ไอ้สารเลวคนนี้เมาแล้วมาหาเรื่องเขาก่อน หากเขายอมแพ้จะให้เอาหน้าไปไว้ที่ใด หลี่เต๋อเฉวียนจะต้องอับอายขายหน้าสิ้นดี
ขุนนางผู้ทรงเกียรติแห่งราชสำนักถูกบังคับให้จนตรอกโดยหนุ่มเจ้าสำราญคนหนึ่ง
“จี้ซื่อหลิน เจ้าฝันไปหรือเปล่า ที่นี่ไม่ใช่ตระกูลจี้ของเจ้า!” หลี่เต๋อเฉวียนตวาดด้วยน้ำเสียงที่แฝงพลังวิญญาณคมกริบ
“พูดเช่นนี้หมายความว่าท่านไม่ยอมสินะ” จี้ซื่อหลินยกมือตบโต๊ะแล้วยืนขึ้น
หากมองผิวเผินแล้วเขาเหมือนจะเมามาก แต่สิ่งที่ไม่มีใครสังเกตเห็นคือนัยน์ตาของเขามีสีที่ชัดเจนแฝงอยู่
“ถ้าเจ้ายังทำตัววุ่นวายก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือน!” หลี่เต๋อเฉวียนโกรธมาก
หลังจากสะสางปัญหาที่จวนเสร็จ เขาอุตส่าห์มาผ่อนคลายที่หอเซียวเซียง แต่ใครจะรู้ว่ามีคนมาก่อกวนเช่นนี้
“จะลงมือหรือ?” จี้ซื่อหลินชะงักไปอึดใจหนึ่งแล้วถามด้วยเสียงดังลั่น “ช่างอวดดีนัก! เจ้าเป็นใครแล้วข้าเป็นใคร? ที่ข้าเรียกใต้เท้าหลี่คือการให้เกียรติ แต่ถ้าดูถูกเจ้า ข้าจะเรียกว่าไอ้แก่”
จี้ซื่อหลินดูเมาจนขาดสติ เขาพูดโดยไม่คิดและทำให้หลี่เต๋อเฉวียนโกรธจนตัวสั่น
“เป็นเด็กไร้มารยาทอะไรเช่นนี้ วันนี้ข้าจะสอนบทเรียนแทนพ่อของเจ้า” เขาพูดจบแล้วยกมือฟาดใส่จี้ซื่อหลินทันที
จี้ซื่อหลินเป็นเพียงหนุ่มเจ้าสำราญที่อาศัยยาอายุวัฒนะเพื่อเข้าถึงขอบเขตก่อกำเนิด ในขณะที่หลี่เต๋อเฉวียนอยู่ในระดับมิ่งตานจึงไม่อาจเปรียบเทียบความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองคนได้เลย
แต่หลี่เต๋อเฉวียนก็รู้หนักเบาเช่นกัน
แค่สอนบทเรียนแก่คนขี้เมาเบาๆ แต่ถ้าทุบตีอีกฝ่ายจนตาย เขาจะไม่สามารถรับมือความโกรธของตระกูลจี้ได้
ฝ่ามือที่ควบคุมพลังไว้นี้กระทบเข้ากับร่างของจี้ซื่อหลิน ทำให้จี้ซื่อหลินเซถอยหลังแล้วล้มลงกับพื้น
เมื่อหลี่เต๋อเฉวียนคิดจะพูดอบรมเขาอีกครั้ง ทันใดนั้นการแสดงออกของจี้ซื่อหลินก็เปลี่ยนไป
เขาเห็นจี้ซื่อหลินกระตุกไปทั้งกาย เลือดออกทวารทั้งเจ็ดและดวงตาเบิกกว้าง
ดูเหมือนว่าจี้ซื่อหลินกำลังจะตาย
ตอนนี้หลี่เต๋อเฉวียนไม่สนใจความขัดแย้งเมื่อครู่แล้วรีบใช้พลังวิญญาณเพื่อช่วยเหลือจี้ซื่อหลินและยังใช้วิทยายุทธเสินทงรักษาบาดแผลด้วย
แต่อาการของจี้ซื่อหลินไม่ดีขึ้นเลย
กลายเป็นตาเหลือกและขาดใจตายทันที
สิ่งสุดท้ายที่จี้ซื่อหลินคิดก่อนตายคือ ‘นี่ไม่เหมือนที่คุยกันไว้!’
เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว
ใบหน้าของหลี่เต๋อเฉวียนซีดลง และเขาไม่รู้เลยว่าตัวเองตกหลุมพราง
เพราะใครจะกล้าใช้ชีวิตของทายาทสายตรงแห่งตระกูลจี้มาล่อลวงให้หลี่เต๋อเฉวียนตกหลุมพราง
ต้องทราบก่อนว่าแม้จี้ซื่อหลินจะไม่เอาไหน แต่เขายังเป็นบุตรชายของผู้ยิ่งใหญ่ระดับหยางบริสุทธิ์ด้วย!
……
หลี่เต๋อเฉวียนถูกทหารของราชสำนักพาตัวไปและเขาไม่ได้ขัดขืนเลย
เพราะตระกูลหลี่อยู่ในเมืองหลวง แม้ว่าเขาจะหนีไปได้ ทว่าครอบครัวไม่สามารถหลบหนีและผลที่ตามมาจะยิ่งร้ายแรง
สำหรับศพของจี้ซื่อหลินได้ถูกตระกูลจี้รับกลับไปแล้ว
ซูอันได้รับข่าว เขาจึงบรรจงกอดเยี่ยหลีเอ๋อร์แล้วให้รางวัลนางอีกหนึ่งรอบ
จี้ซื่อหลินคือตัวหมากที่เขาจัดวางไว้เอง
สำหรับข้อแลกเปลี่ยนคือคำสัญญาปากเปล่าของเขาว่าจะช่วยให้จี้ซื่อหลินเอาชนะพี่ชายคนโตเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าตระกูลจี้
ตามเส้นเรื่องเดิม จี้ซื่อหลินจะแปรพักตร์และได้เข้าร่วมกับเยี่ยเสวียนจนกลายเป็นน้องชายของเยี่ยเสวียน และด้วยความช่วยเหลือของเยี่ยเสวียนทำให้เขาได้รับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลจี้
ส่วนหลี่เต๋อเฉวียนเป็นมือขวาของเยี่ยเสวียน
แต่ภายใต้แผนการของซูอัน บัดนี้ทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มขัดแย้งกันเอง
ตามที่คุยกันไว้ จี้ซื่อหลินคิดว่าตัวเองแค่ก่อกวนหลี่เต๋อเฉวียนและปล่อยให้หลี่เต๋อเฉวียนแบกรับความอับอายจากการอิจฉาคนอื่นในหอนางโลม
ด้วยสถานะบุตรชายคนรองตระกูลจี้และฉายาหนุ่มเจ้าสำราญของเขา สิ่งที่หลี่เต๋อเฉวียนทำได้มากที่สุดคือสั่งสอนบทเรียน แต่ไม่มีเรื่องราวใหญ่โตเกิดขึ้น
ใครจะคิดว่าจี้ซื่อหลินเสียชีวิตลงทั้งแบบนี้
“พิษจากระบบช่างมีประสิทธิภาพดีจริงๆ”
เพื่อให้จี้ซื่อหลินตายแบบธรรมชาติที่สุด ซูอันจึงใช้เงินจำนวนมากและใช้คะแนนตัวร้าย 200 คะแนนเพื่อซื้อยาพิษที่เรียกว่า ‘แผ่นแปะอวิ่นเซียน’ จากร้านค้าในระบบ ซึ่งมีผลกับผู้ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าระดับจื่อฝู่
มันสามารถรวมเข้ากับร่างกายมนุษย์โดยที่มนุษย์ผู้นั้นไม่รู้ตัว จากนั้นระเบิดในเวลาที่เหมาะสม
หลังจากเสียชีวิต พิษในร่างกายจะสลายไปเองและเห็นได้เพียงสภาพศพไม่น่ามองเท่านั้น แต่จะไม่พบร่องรอยของสารพิษอยู่เลย
เว้นแต่จะมีผู้ฝึกตนระดับหยางบริสุทธิ์มาตรวจสอบสาเหตุการตายของจี้ซื่อหลิน นั่นอาจมีโอกาสค้นพบเบาะแสเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นคือก่อนที่จะบรรลุระดับจื่อฝู่ สามจิตเจ็ดวิญญาณอยู่กระจัดกระจายกัน หลังจากตายแล้วจะไม่มีสถานการณ์พิเศษ และวิญญาณสลายไปตามธรรมชาติ ยิ่งเมื่อรวมกับผลของแผ่นแปะอวิ่นเซียน มันจะทำลายวิญญาณสิ้น แม้แต่วิญญาณก็ไม่สามารถอัญเชิญมาถามได้
หลี่เต๋อเฉวียนจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องรับผิด
……
ในคุกหลวง หลี่เต๋อเฉวียนไม่กลัวจนเกินเหตุ
จี้ซื่อหลินตายแล้ว เขารู้ดีว่าไม่ได้สังหารอีกฝ่ายด้วย
ตอนนี้สถานการณ์เหมือนโคลนสีเหลืองหล่นจากเป้ากางเกง แม้ไม่ใช่อึแต่มันคืออึ
เขาหวังเพียงว่าท่านอาจารย์จะช่วยเหลือได้
อาจารย์ของเขาคือเสิ่นฉางเฟิงหัวหน้าตระกูลเสิ่นและเป็นนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่
และตระกูลเสิ่นก็เป็นครอบครัวที่ไม่ด้อยไปกว่าตระกูลจี้
ซึ่งหลี่เต๋อเฉวียนถือได้ว่าเป็นคนของตระกูลเสิ่น และตระกูลเสิ่นไม่สามารถทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง
ความมั่นใจคือตระกูลจี้ไม่มีแผนจะต่อสู้กับตระกูลเสิ่นจนตาย
แต่นอกคุกหลวงกำลังมีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วเมือง
หอนางโลมเป็นสถานที่กระจายข่าวชั้นยอด นอกจากนี้บุคคลที่เสียชีวิตคือจี้ซื่อหลินหนุ่มเจ้าสำราญผู้โด่งดังแห่งเมืองหลวง เรื่องนี้จึงไม่อาจเก็บเงียบได้
ข่าวลือกระจายไปว่าเสนาบดีกรมพิธีการผู้สูงส่งออกเที่ยวหอนางโลมและสร้างความขัดแย้งกับเด็กเพื่อแย่งสาวงาม ข่าวลือเกี่ยวกับความบิดเบี้ยวทางศีลธรรมเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การปล่อยข่าวออกมาแทรกแซงทันทีของตระกูลเสิ่นยังพอระงับความร้อนแรงได้บ้าง
ข่าวนั้นคือแม่นางผู้มีชื่อเสียงด้านความบริสุทธิ์ของหอหมิงเยวี่ย แม่นางที่ประกาศกร้าวว่าจะขายฝีมือไม่ขายเรือนร่าง อยู่ๆ ก็มีความสัมพันธ์กับผู้ชายหลายสิบคน ซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้โง่เขลาได้ในทันที
เพราะแม้จะเป็นโลกแห่งการฝึกตนที่ไม่ธรรมดา แต่สุดท้ายคนโง่เขลาเหล่านั้นก็มักจะถูกสั่นคลอนโดยข่าวลือได้เสมอ
แต่ถ้าเมื่อใดพวกเขาสูญเสียความมั่นใจในตัวขุนนางแห่งต้าซาง ย่อมจะเปิดโอกาสให้ผู้ประสงค์ร้ายหลอกใช้ได้ง่าย
……
“เหล่าปา เป็นอย่างไรบ้าง ตรวจพบความผิดปกติในตัวหลินเอ๋อร์หรือไม่?”
จี้อู๋ฉางหัวหน้าตระกูลจี้ถามด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
ชายที่ถูกเรียกว่าเหล่าปาส่ายหน้าพลางถอนหายใจตอบว่า “เรียนท่านเจ้าบ้าน หลังจากตรวจสอบทุกวิถีทางกลับไม่พบความผิดปกติเลยขอรับ”