ตอนที่แล้วระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 168 ความจงรักภัคดี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 170 การบุกโจมตีของมนุษย์เงือก

ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 169 ปืนใหญ่


ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 169 ปืนใหญ่

หลังจากที่พวกขุมอำนาจใต้การปกครองของหอพันโอสถถูกกำจัดไปเป็นจำนวนมากนั้น

ขุมอำนาจอื่น ๆ ที่เหลือก็เริ่มสงบนิ่งขึ้น

ลุกขึ้นต่อต้าน?

คิดจะหนีพ้นการควบคุมของหอพันโอสถหรือ?

หยุดคิดไปเถอะ ไม่เห็นหรือว่าพวกตัวตนคิดที่จะนำต่อต้านนั้นถูกหอพันโอสถกำจัดจนหมดไปแล้ว?

หากลองมาก่อกวนในช่วงเวลาสำคัญแช่นนี้

พวกเขายังจะกล้าอีกหรือ?

หากพวกเขากล้า ก็ยืนยันได้เลยว่าเพื่อให้สามารถรักษาอำนาจการควบคุมที่สมบูรณ์เเบบของตนไว้ได้ หอพันโอสถจะไม่ปล่อยให้รอดเเน่นอน

ทวีปซวนหยวน มณฑลตงหวง

ในอาณาเขตของตระกูลหลัว

ภายในห้องหนึ่งที่ดูโล่งกว้าง

หลัวเหริน จ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบัน นั่งอยู่ที่ตำแหน่งจ้าวตระกูล สีหน้านิ่งเฉย กำลังจัดการกับเรื่องต่าง ๆ

ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับพลังของตระกูลหลัวอย่างเงียบ ๆ รวมถึงจะยกระดับรากฐานของตระกูลหลัว เเละความเป็นไปได้ของการบุกโจมตีของเผ่ามนุษย์เงือกนั้นจะกลายมาเป็นภัยคุกคามต่อมณฑลตงหวง ตระกูลหลัว

ทุกอย่างเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาที่หลัวเหรินต้องคิดพิจารณา

เเต่เเล้ว ในขณะที่หลัวเหรินกำลังมุ่งมั่นจัดการกับเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้อยู่นั้น

พ่อบ้านหลัวฟูผู้สวมชุดคลุมสีเทา มีรูปร่างค่อนข้างโค้งงอเล็กน้อย พร้อมกับรอยยิ้มอารีบนใบหน้า ก็ปรากฏขึ้นในห้องนี้ในทันใด เเล้วกล่าวด้วยเสียงเบา ๆ ว่า

"ท่านจ้าวตระกูล”

"นายท่านต้องการให้ท่านไปพบสักครู่"

ได้ยินเสียงพูดนี้ หลัวเหริน ผู้ที่กำลังจัดการกับเรื่องต่าง ๆ อยู่จึงเงยหน้าขึ้นมา

เป็นพ่อบ้านหลัวฟูหรือ?

บรรพบุรุษเรียกข้าไปพบหรือ?

เพื่ออะไรกัน?

คำถามมากมายผุดขึ้นในใจของหลัวเหริน เเต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

เพียงเเต่ลุกขึ้นยืนทันที ยืดเอวสักครู่ จากนั้นก็เดินไปยังเรือนที่หลัวจิ่วเกออยู่

เขานึกไม่ออกว่าเหตุใดบรรพบุรุษถึงเรียกตน เเต่ไปถึงเเล้วก็คงจะรู้เอง

ด้วยความคิดเช่นนี้ หลัวเหรินจึงมาถึงลานเรือนหนึ่งในอาณาเขตตระกูลหลัว ที่ดูเรียบง่ายเเต่กลับให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติเเก่เขาเป็นอย่างมาก

"ทุกครั้งที่มาที่นี่ ข้าก็จะรู้สึกสดใสสบายใจได้เสมอ”

"เหมือนกับว่าความกังวลทั้งหมดได้หายไป"

เขาหัวเราะเเล้วส่ายหน้า

หลัวเหรินค่อย ๆ ก้าวเท้าเข้าไปในลานเเห่งนี้

พอเขาเพิ่งจะก้าวเข้าไปในลาน ก็มีปราณวิญญาณเเละปราณเซียนหนาเเน่นหลั่งไหลเข้ามา

นอกจากปราณวิญญาณเเละปราณเซียนเเล้ว ยังมีกลิ่นหอมของชาลอยเข้ามาในใจของเขาด้วย

"บรรพบุรุษ"

"ท่านเรียกข้ามามีอะไรให้ข้ารับใช้หรือ ขอรับ?"

เมื่อเดินมาถึงด้านหลังของหลัวจิ่วเกอ หลัวเหรินสูดหายใจลึก ๆ เเล้วถามเสียงเบา

"มีอะไรให้เจ้าไปทำหรือ?"

เมื่อได้ยินดังนั้น หลัวจิ่วเกอก็ยิ้มบางเเล้วส่ายหน้า

"ครั้งนี้ไม่มีอะไรให้เจ้าต้องไปทำ"

"เเต่ว่า..."

ว่าเเล้ว หลัวจิ่วเกอก็ยิ้มอย่างลึกลับ จากนั้นก็ชี้ไปที่ซุ้มหินข้าง ๆ เเล้วหยิบถ้วยชาไม้ออกมาจากเเหวนเก็บของ รินชากระจ่างเต๋าใส่เต็มถ้วยวางไว้ข้างหน้าหลัวเหริน

เขากล่าวเสียงเบาว่า

"เจ้าหนู นั่งตรงนี้ก่อนเถอะ”

"เรามาคุยกัน"

เสียงหลัวจิ่วเกอเงียบลง เเล้วเขาก็หรี่ตาลง ยกถ้วยชากระจ่างเต๋าขึ้นมาจิบ

ส่วนหลัวเหริน จ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบันที่ยืนอยู่ ได้เเต่ยิ้มเเห้ง ๆ

ใครจะคิดล่ะว่าบรรพบุรุษหลัวจิ่วเกอ ผู้ปกครองตระกูลหลัว ผู้มีพลังลึกลับ จะมีนิสัยอ่อนโยน... เพียงนี้

เขานั่งลง ยื่นมือออกไปหยิบถ้วยชา

เป่าเบา ๆ สักครู่ เเล้วหลัวเหรินก็จิบชาเข้าไปเล็กน้อย

อืม จะว่าอย่างไรดี?

รสชาติมันเเปลกเป็นพิเศษ บรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก

เเต่ว่าการได้ดื่มชากระจ่างเต๋านี้ มันช่วยให้จิตใจของคนปล่อยว่างได้จริง ๆ

ทำให้คนรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก

เช่นนี้ ทั้งสองก็นั่งอยู่ใต้ซุ้มหินเเห่งนี้ พลางจิบชาเเละพูดคุยกันไปเรื่อย ๆ

เวลาผ่านไป

ประมาณครึ่งชั่วโมง หลัวจิ่วเกอก็ถึงได้พูดถึงเรื่องสำคัญ

"เจ้าหนู”

"ตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าไปดูของบางอย่าง"

ว่าเเล้ว หลัวจิ่วเกอก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น เดินไปยังพื้นที่โล่งเเจ้งเเห่งหนึ่งในลาน

เมื่อหลัวเหริน จ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบันได้ยินดังนั้น ก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน เเม้จะรู้สึกงุนงงสงสัย เเต่เขาก็ไม่ได้ถามออกไป

อย่างไรเดี๋ยวเขาก็ได้รู้เอง ตอนนี้จะรีบร้อนไปเพื่อเหตุใด?

ด้วยความสงสัยใคร่รู้ในใจ

ทั้งสองมาถึงพื้นที่โล่งเเจ้งเเห่งหนึ่งในลาน

ประมาณครู่หนึ่ง หลัวจิ่วเกอโบกมือ

เเสงสว่างวูบวาบ ปรากฏปืนใหญ่ขนาดราว ๆ 2 เมตรอยู่ตรงหน้า ซึ่งหล่อขึ้นจากวัสดุล้ำค่า เเละมีสลักค่ายกลพิเศษเพิ่มพลังเอาไว้ถึง 10 กระบอก ปรากฏขึ้นในสายตาของหลัวเหริน

"เป็นอย่างไรบ้าง?"

หลัวจิ่วเกอถามพลางคลี่ยิ้ม

"ปืนใหญ่หรือ?"

เมื่อเห็นปืนใหญ่ 10 กระบอกขนาดราว ๆ 2 เมตรที่ปรากฏต่อสายตา หลัวเหรินก็ชะงักไปชั่วขณะ

ในความทรงจำของเขานั้น ปืนใหญ่เป็นสิ่งที่มนุษย์ในโลกปุถุชนใช้ต่อสู้

เเล้วของเช่นนี้จะใช้ได้ผลจริง ๆ หรือ ในโลกของผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียน?

ด้วยความสงสัย หลัวเหรินจึงหรี่ตามองปืนใหญ่สูงประมาณ 2 เมตรทั้ง 10 กระบอกนั้น

ประมาณ 3 นาทีให้หลัง

เหงื่อเม็ดใหญ่ก็ผุดขึ้นเต็มหน้าผากของหลัวเหริน

ของเช่นนี้...

ไม่ธรรมดาเลย!

เเม้ว่าหลัวเหรินจะมีฐานพลังยุทธ์ไม่สูงมาก ในตอนนี้เขาเพิ่งจะอยู่ขอบเขตพิสูจน์เต๋า 9 สวรรค์เท่านั้น

แต่ถึงอย่างนั้น จากปืนใหญ่ 10 กระบอก เขาก็ได้สัมผัสถึงกลิ่นอายแห่งความตายได้

หลีกเลี่ยงไม่ได้

หนีไม่พ้น

เพียงแค่ผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนส่งพลังเซียนเข้าไปในปืนใหญ่ หลัวเหรินก็รู้สึกคลุมเครือแล้วว่า แม้กระทั่งผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนระดับสูง ก็คงยากที่จะหนีพ้นจากการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวของปืนใหญ่พวกนี้ไปได้

"บรรพบุรุษ”

"พลังทำลายล้างของปืนใหญ่พวกนี้ เป็นอย่างไรบ้าง?"

เขากลืนน้ำลายครู่ใหญ่

หลัวเหรินแอบเหลือบมองหลัวจิ่วเกอผู้มีรอยยิ้มบาง ๆ ข้างตน แล้วถามเสียงเบา

"พลังทำลายล้างหรือ?"

"ปืนใหญ่ 10 กระบอกตรงหน้าเจ้าที่ข้าลงมือขัดเกลาขึ้นมาเอง หากจะว่าไปก็คงไม่มีปัญหาที่จะสังหารผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตอมตะได้กระมัง?"

"แต่หากเป็นขอบเขตอมตะระดับสมบูรณ์ล่ะก็..."

"คงจะลำบากไปไม่น้อยหากจะกำจัดพวกนั้น"

"หากโดนปืนใหญ่ยิงเข้าใส่ก็น่าจะทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย"

"หากโดนปืนใหญ่ 10 กระบอกยิงพร้อมกัน”

"ต่อให้เป็นขอบเขตอมตะระดับสมบูรณ์ก็คงต้องล้มตายได้"

เสียงของหลัวจิ่วเกอดังก้องในลานเรือนแห่งนี้

ข้าง ๆ หลัวจิ่วเกอ หลัวเหริน จ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบัน ตอนนี้ ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะด้านชาไปเล็กน้อย

"บรรพบุรุษ”

"ปืนใหญ่ 10 กระบอกนี้มีพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวเพียงนี้”

"การผลิตมันคงจะยากลำบากมากเลยใช่หรือไม่ขอรับ?"

เมื่อสูดหายใจเข้าลึก ๆ ปรับอารมณ์ของตนให้ดีขึ้น หลัวเหรินจึงถามอีกครั้ง

"ใช่แล้ว การผลิตปืนใหญ่พวกนี้ก็ลำบากพอสมควร”

"ดังนั้น..."

"ช่วงนี้ ข้าเลยทำได้ประมาณแค่ 100,000 กระบอก"

พูดถึงตรงนี้

หลัวจิ่วเกอก็ถอนหายใจ ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ

ส่วนหลัวเหรินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง

"แค่ 100,000 กระบอกหรือ?"

"การผลิตมันลำบากเพียงนั้นเชียวหรือ?"

พูดตามตรง หากใครกล้ามาพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าเขา ผู้เป็นจ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบัน หลัวเหรินต้องตบปากอีกฝ่ายไปแล้วแน่ ๆ

คิดจะมาอวดเก่งหรือระไร?

แต่ตอนนี้ เมื่อประโยคนี้หลุดออกมาจากปากของบรรพบุรุษตระกูลของเขาเอง ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่ทำใจยอมรับได้ยากนัก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด