ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 163 นี่หรือบรรพบุรุษตระกูลหลัว
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 163 นี่หรือบรรพบุรุษตระกูลหลัว
มณฑลซุยอวิ๋นหรือ?
เป็น 1 ใน 13 มณฑลของทวีปซวนหยวน ได้ชื่อว่าเป็นมณฑลที่ได้รับพรจากเทพแห่งท้องทะเล
นับได้ว่าเป็นมณฑลที่มีตำแหน่งทำเลที่ดีที่สุดในทวีปซวนหยวน
ด้านหลังติดกับทะเลอันกว้างใหญ่
ด้านข้างยังมีมณฑลโหย่วที่เรียกว่าสวรรค์ของสัตว์อสูร หากไม่ยั่วยุก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
รวมถึงมณฑลที่ถูกเรียกว่าเป็นมณฑลที่อ่อนแอที่สุด ล้าหลังที่สุด แห้งแล้งที่สุดในทวีปซวนหยวน
ตามหลักแล้ว หากมณฑลว่านกู่ไม่ไปรนหาที่ตาย
มณฑลนี้ก็ถือได้ว่าปลอดภัยที่สุด
แต่ว่า...
ท้องฟ้านั้นไม่แน่นอน
ชีวิตมีทั้งรุ่งเรืองและสิ้นหวัง
ใครจะคิดว่า มณฑลที่ได้ชื่อว่าได้รับพรจากเทพแห่งท้องทะเลนี้ เพราะสิ่งกีดขวางในท้องทะเลจึงสงบสุขมานาน กลับถูกทำลายในช่วงเวลาเพียงครึ่งเดือน
เมื่อครึ่งเดือนก่อน มณฑลซุยอวิ๋นยังคงสงบสุข แต่เพราะสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลลึก ซึ่งก็คือเผ่ามนุษย์เงือกที่ปรากฏตัวขึ้น
ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นในมณฑลว่านกู่ตั้งแต่นั้นมา
ในช่วงแรก การปรากฏตัวของเผ่ามนุษย์เงือกยังไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อมณฑลว่านกู่
มนุษย์เงือกหรือ?
เป็นเผ่าพันธุ์ในตำนาน
เผ่าสัตว์อสูรในท้องทะเล
ตามประวัติศาสตร์ ผู้คนรู้ว่าเผ่ามนุษย์เงือกมีสติปัญญาเท่ากับมนุษย์
กำเนิดมาพร้อมกับร่างกายที่แข็งแกร่ง และยิ่งไปกว่านั้น เผ่ามนุษย์เงือกไม่บำเพ็ญเพียรเต๋า แต่บำเพ็ญกายา
พวกเขาอยู่ในโลกใต้ทะเลมานาน แทบไม่เคยติดต่อกับมนุษย์บนผืนดิน
แม้ว่าจะปรากฏตัวขึ้นมาในโลกมนุษย์โดยอุบัติเหตุ แต่ก็มักจะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น ผู้คนในมณฑลว่านกู่ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยต่อการมีอยู่ของเผ่ามนุษย์เงือก
แต่เมื่อเวลาผ่านไป
จำนวนมากมายมหาศาลของเผ่ามนุษย์เงือกเริ่มขึ้นฝั่งเข้ามาในมณฑลว่านกู่
เผ่ามนุษย์เงือกก็ค่อย ๆ เผยคมเขี้ยวอันโหดร้าย
ผู้คนในมณฑลว่านกู่จึงถูกโจมตีอย่างหนัก
จนถึงขณะนี้ มณฑลว่านกู่สูญเสียดินแดนไป 1 ใน 3 แล้ว แถมยังมีแนวโน้มว่ามณฑลว่านกู่อาจจะถูกเผ่ามนุษย์เงือกยึดครองอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้น 3 ขุมอำนาจชั้นนำในมณฑลว่านกู่จึงส่งลูกหลานไปยัง 11 มณฑลอื่นในทวีปซวนหยวนเพื่อขอความช่วยเหลือ
มณฑลโหย่วนับเป็นมณฑลสัตว์อสูร
นี่จะไม่ถูกนับแน่นอน
ส่วนตระกูลคังหรือ?
เขารับผิดชอบมณฑลตงหวง มณฑลว่านกู่ และมณฑลไป่เหอที่อยู่ติดกับมณฑลโหย่ว
"ผู้อาวุโสที่สาม”
"ตระกูลหลัวนี้ สามารถช่วยตระกูลคังแห่งมณฑลว่านกู่ของพวกเราได้จริงหรือ?"
"เจ้าเหนือหัวคนใหม่ของมณฑลตงหวงนี่..."
"เขาจะมีความแข็งแกร่งเหมือนที่ได้ยินมาจริงหรือ???"
ด้านนอกอาณาเขตตระกูลหลัว
คังเฉิง บุตรชายคนเดียวของจ้าวตระกูลคังปัจจุบัน คังเลอซาน และผู้ที่จะเป็นจ้าวตระกูลคังคนต่อไป
ในขณะนี้ ยืนอยู่ด้านนอกอาณาเขตตระกูลหลัว
ใบหน้าแสดงความสงสัยเล็กน้อย รอความเห็นของตระกูลหลัว
มณฑลตงหวงหรือ?
ทุกคนรู้ดี นี่คือมณฑลที่แห้งแล้งที่สุด ล้าหลังที่สุด อ่อนแอที่สุดในทวีปซวนหยวน
ตระกูลหลัวหรือ?
พวกเขาถูกขนานนามว่าเป็นตระกูลที่โชคดีจึงได้ปรากฏตัวขึ้น
แม้แต่สิ่งที่นายน้อยตระกูลคังได้ยินได้เห็นมาตลอดทาง ล้วนเกินจินตนาการของเขา
แต่เขาก็ยังยากจะเชื่อ
มณฑลตงหวงอันแสนธรรมดานี้
ตระกูลหลัวอันแสนธรรมดานี้
จะมีความลึกลับ ความน่าสะพรึงกลัวเหมือนข่าวลือที่ได้ยินจริงหรือ?
"นายน้อย ระวังคำพูดไว้”
"มณฑลตงหวงหรือ?"
"ตระกูลหลัวหรือ?"
"ไม่ว่ามณฑลนี้จะแข็งแกร่งหรือไม่ นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องสนใจ"
"นายน้อย ท่านต้องจดจำไว้เสมอว่าพวกเรามาที่มณฑลตงหวง ตระกูลหลัวเพื่ออะไรกันแน่”
ด้านนอกอาณาเขตตระกูลหลัว
ชายชราสวมเสื้อคลุมสีเทา มีหนวดเคราคล้ายแพะ ปล่อยกลิ่นอายขอบเขตอมตะ 9 สวรรค์ออกมา
ในขณะนี้ เขาเอามือไพล่หลัง ใบหน้าสงบนิ่ง ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย
แม้ว่าขณะพูด ดวงตาจะผ่านประกายเหยียดหยามตระกูลหลัว แต่ในฐานะผู้นำระดับสูงของตระกูลคัง และเป็นคนที่มีความอดทนพอควร เขาจึงซ่อนประกายเหยียดหยามในดวงตาไว้อย่างรวดเร็ว
"ท่านทั้งสองตามข้ามา"
"นายท่านบอกว่าอยากพบพวกท่าน"
เสียงดังขึ้นอย่างเชื่องช้า
ตรงหน้าทั้งสองคน ปรากฏร่างชายชราสวมเสื้อคลุมสีเทา ร่างกายโค้งงอเล็กน้อย ปล่อยกลิ่นอายความตายออกมา ราวกับว่าเท้าข้างหนึ่งลงโลงศพไปแล้ว
นั่นคือพ่อบ้านหลัวฟูของตระกูลหลัว
เมื่อเห็นดังนี้ นายน้อยตระกูลคังก็คลี่ยิ้มและพูดเบา ๆ
ผู้อาวุโสที่สามของตระกูลคัง เมื่อได้ยิน พวกเขาก็พากันสบตา หลังจากนั้นก็เดินตามพ่อบ้านหลัวฟูเข้ามาในอาณาเขตตระกูลหลัวอย่างเชื่องช้า
ในอาณาเขตตระกูลหลัว
ปราณวิญญาณและปราณเซียนหนาแน่นมาก
กระทั่งเทียบกับที่อาณาเขตตระกูลคังของพวกเขา ความหนาแน่นของปราณวิญญาณและปราณเซียนก็ต่างกันนับสิบนับร้อยเท่า
ที่นี่ถือได้ว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับการฝึกฝนแล้ว
เพียงแต่ว่า...
รอบ ๆ อาณาเขตตระกูลหลัวกลับมี [วัชพืช] เต็มไปหมด
มันทำลายความรู้สึกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไปบ้าง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้อาวุโสที่สามของตระกูลคังคิ้วขมวดเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ปรับตัวได้
ส่วนคังเฉิง นายน้อยตระกูลคังที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี แทบไม่เคยฝ่าฟันลมฝนมาก่อน ดวงตาฉายประกายเหยียดหยามเล็กน้อย
"นี่คือตระกูลหลัวหรือ?"
"ไม่สิ จะให้พูดก็คือ นี่คือสถานที่ใดของตระกูลหลัว?"
"ตระกูลจากดินแดนอันป่าเถื่อน แม้แต่ [วัชพืช] ก็ไม่รู้จะทำความสะอาด"
"ชนเผ่าป่าเถื่อนก็คือชนเผ่าป่าเถื่อน!!!"
เขาหัวเราะเยาะเย้ยเบา ๆ
คังเฉิง นายน้อยตระกูลคังไพล่มือไปข้างหลัง ใบหน้าแสดงอาการอวดดี และหยิ่งยโส ท่าทางยิ่งสบายมากขึ้น
เขาคิดว่าเรื่องที่ไล่กองทัพหอพันโอสถออกไป นั่นก็คงจะเป็นเรื่องที่พวกเขาป่าวประกาศออกมาเองกระมัง???
ในขณะที่ความคิดของนายน้อยตระกูลคัง คังเฉิงเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ
กระทั่งยังตั้งข้อสงสัยว่าที่ตระกูลหลัวไล่กองทัพหอพันโอสถออกไปนั้นเป็นการโอ้อวดพลังของตัวเอง
ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงลานที่บรรพบุรุษตระกูลหลัว หลัวจิ่วเกออยู่
"ท่านทั้งสองเข้ามาเถอะ"
"นายท่านอยู่ในลานนี้”
พูดจบ ชายชราร่างโค้งงอ ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย พ่อบ้านหลัวฟูก็ค่อย ๆ หายตัวไปจากที่นี้
ส่วนทั้งสองจากตระกูลคัง เมื่อเห็นลานที่ดูทรุดโทรมนี้ ผู้อาวุโสที่สามปัจจุบันของตระกูลคังก็มีสีหน้าฉงนสนเท่ห์มากขึ้น
นายน้อยตระกูลคังเผยใบหน้าที่แสดงความเหยียดหยาม และอวดดี เขาทำตัวไร้ยางอายมากขึ้น
"นี่หรือ?”
"ในฐานะบรรพบุรุษตระกูลหลัว เขากลับอยู่ในกระท่อมเก่า ๆ เช่นนี้หรือ?"
"นี่ไม่เหมาะกับฐานะเกินไปหรือไม่???"
ตระกูลหลัวนี่ก็เป็นตระกูลในมณฑลตงหวงนี่นา
มณฑลตงหวงหรือ?
นี่เป็นมณฑลที่อ่อนแอที่สุด ล้าหลังที่สุด แห้งแล้งที่สุดในทวีปซวนหยวน
เช่นนี้แล้ว ที่บรรพบุรุษตระกูลหลัวอยู่ในลานเก่า ๆ เช่นนี้ก็ถือว่าปกติแล้ว
เขามีท่าทางอวดดี
คังเฉิง นายน้อยตระกูลคังเดินเข้ามาในลาน
ผู้อาวุโสที่สามของตระกูลคังชายตามองนายน้อยของตัวแวบหนึ่ง ก่อนจะคิ้วขมวดเล็กน้อย เขารู้สึกไม่ดีอย่างประหลาด
นายน้อยมีท่าทีเสียมารยาทเกินไปหรือไม่?
แต่พอคิดกลับกัน ตระกูลหลัวนี่ก็ถือเป็นขุมอำนาจที่ควบคุมมณฑลตงหวงทั้งมณฑล
ต่อให้นายน้อยบ้าคลั่งแค่ไหน ก็คงไม่กล้าทำตัวไม่เข้าหูต่อหน้าบรรพบุรุษตระกูลหลัวที่มีพลังลึกลับคนนี้
เขาส่ายหัวเบา ๆ