บทที่ 5 นายหญิงหมิง
"เหมียว~"
วิญญาณแมวประหลาดดูเหมือนจะมองหาบางสิ่งบางอย่าง มันเดินไปรอบ ๆ ด้วยดวงตาที่วิกลไร้ชีวิตชีวาและน่ากลัว พอมันกระโดดเบาๆ ก็จะเกิดลมหนาวพัดตรงมาที่ของคฤหาสน์หมิงทันที
เห็นได้ชัดว่าชูเหลียงจะไม่ยอมให้มันทำอะไรต่อไป หากมันยังอยู่ในโลกนี้ด้วยพลังความแค้นที่รุนแรงเช่นนี้จะทําร้ายผู้คนอย่างไม่ต้องสงสัย
"ทักษะจัดการกระบี่ เปิดใช้งาน"
ชูเหลียงชี้กระบี่ขึ้นไปที่ท้องฟ้า กระบี่บินกลายเป็นแสงและยิงออกไปอย่างรวดเร็ว
"เหมียว"
ทันทีที่ลำแสงถูกยิงออกมา ปีศาจแมวก็ส่งเสียงร้อง สายตาน่าขนลุก ของมันจ้องมองที่ชูเหลียงและกลายเป็นเงาสีดําอย่างรวดเร็วเพื่อหลบกระบี่บิน จากนั้นมันก็หันหลังและกระโจนเข้าหาชูเหลียง
เพื่อแก้แค้นต่อการโจมตีของชูเหลียง แมวจิ๋วโจมตีอย่างรวดเร็วและรุนแรง มันก้าวร้าวและไร้ความปรานี
ชูเหลียงหลบทัน รอดหวุดหวิด แต่รอยฉีกขาดก็ปรากฏบนเสื้อของเขา
ร่างกายของปีศาจแมวตกลงบนพื้นและทิ้งรอยเลือดสองรอยเมื่อขูดที่พื้น
อย่างไรก็ตาม แสงกระบี่ได้ไล่ตามทันแล้ว
ฟุ้บ!
แสงกระบี่พุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ร่างกายปีศาจแมวนั้นบิดเป็นมุมแปลก ๆ และหลบหนีการโจมตีร้ายแรงนี้ได้อย่างหวุดหวิด
“แง้วว!!”
มันหลบได้ แต่การหลบของมันไม่ประสบความสําเร็จอย่างสมบูรณ์
แสงกระบี่ทิ้งบาดแผลลึกไว้ในวิญญาณแมว
ทันใดนั้นเลือดสีดําก็พุ่งออกมาจากบาดแผลซึ่งทําให้ความกระหายเลือดรอบวิญญาณแมวรุนแรงขึ้น
นี่มันแย่มาก
ชูเลี่ยงขมวดคิ้ว
วิญญาณแมวตัวนี้เป็นการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งมีลักษณะของวิญญาณเด็ก ความเสียหายใดๆ ที่มันได้รับสามารถเปลี่ยนเป็นพลังโจมตีทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นและสามารถสร้างความเสียหายได้มากขึ้น ถ้ามันไม่ได้ถูกสังหารในการโจมตีเพียงครั้งเดียวก็จะเป็นเรื่องยากที่ต้องรับมือกับมันในขณะที่มันแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น
และสิ่งที่เขาคิดก็ปรากฏขึ้นทันทีในรูปแบบของการเพิ่มความเร็วของแมวร้ายตัวนี้
ฟุ้บ!
ราวกับแสงสีดำที่มองไม่เห็น มันโผล่ขึ้นมาอีกครั้งที่ด้านหลังชูเหลียงในพริบตาทิ้งไว้เพียงภาพติดตาของร่างมันที่รวดเร็วปานสายฟ้า
ชูเหลียงตอบสนองอย่างรวดเร็วและเรียกกระบี่บินกลับมาในมือของเขา แต่เขาไม่มีทางรับมือกับการโจมตีจากด้านหลังของเขาได้
ผมของเขาตั้งตรง แม้ว่าเขาจะเงียบ แต่เขาก็รู้ว่ากรงเล็บของวิญญาณแมวกําลังจะมาถึงตัวเขา
ในช่วงเวลาที่สําคัญ มือขวาของชูเหลียงก็ผ่อนคลายอย่างกะทันหัน เขาตะโกนว่า "มัด!"
แสงสีแดงส่องออกมาจากแขนเสื้อของเขาเหมือนงูวิญญาณและยึดวิญญาณแมวที่กำลังจะโจมตีที่หลังของชูเหลียงทันที
มันเป็นวิธีการมัดแบบกระดองเต่า!
ปีศาจแมวถูกพันธนาการไว้แล้ว
"แมว แง้ว~~!" วิญญาณแมวส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด แต่ร่างกายของมันก็ตกลงบนพื้นอย่างควบคุมไม่ได้
วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการจัดการกับศัตรูที่มีความคล่องตัวสูงคืออะไรน่ะหรือ คือการจำกัดการเคลื่อนไหวนั่นเอง!
และชูเหลียงบังเอิญได้รับเชือกปีศาจมาเมื่อวันก่อนอย่างพอดิบพอดี
แม้ว่าเขาจะมีสิ่งประดิษฐ์วิเศษ แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะยิงมันเข้าเป้าได้ นี่คือเหตุผลที่เขาต้องเสี่ยงเพื่อให้แมวปีศาจนั้นเข้าใกล้จนได้ระยะที่เหมาะสม
ถ้าเขาโยนเชือกปีศาจช้ากว่านี้ ผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้จะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง หรือหากเขาไม่มีความอดทนเพียงพอ หรือไม่เข้าใกล้พอ แมวตัวนี้ก็จะหลบเชือกปีศาจของเขาได้
ถึงกระนั้นเขาก็ปราบมันได้แล้ว ด้วยการพลิกร่างกายแบบสบายๆ ของเขาและการโบกมือและกระบี่ขึ้นลงเพียงไม่กี่ครั้ง
และจากนั้น การฟันเพียงครั้งเดียว ปีศาจก็ถูกกำจัด
วิญญาณนั้นไม่มีรูปร่าง และเมื่อปีศาจตัวนี้ถูกฆ่า ก็ไม่มีอะไรเหลือ นอกจากเงาสีทอง มันส่องแสงเมื่อเข้ามาที่ร่างของชูเหลียง
เมื่อฝุ่นที่ตลบอบอวลจางหาย สถานการณ์ก็ได้คลี่คลายลงแล้ว
แม้นี้จะเป็นการต่อสู้ที่สั้นแต่มันอันตรายอย่างมาก เมื่อเทียบกับปีศาจแมงมุมที่เขาพบเมื่อวันก่อน วิญญาณของแมวที่ผสมผสานด้วยสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวกว่า
เขาหายใจเข้าออกลึกๆ ก่อนที่จะได้แจ้งให้ตระกูลหมิงทราบ เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้ารีบมาจากทิศทางหนึ่ง ภายใต้การนําของเจ้าเมืองหมิง กลุ่มข้ารับใช้ของคฤหาสน์หมิงต่างก็รีบวิ่งออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"อา วีรบุรุษหนุ่มชู ท่านเก่งเหลือเกิน"
"ข้าไม่สงสัยเลยว่าท่านจะต้องทำได้อย่างแน่นอน"
"ฝีมือของท่านช่างสุดยอดจริงๆ ไม่กี่อึดใจก็จัดการปีศาจตัวนั้นได้แล้ว"
"..."
อากาศอบอวลไปด้วยคําพูดที่สวยงามของทุกคน
ชูเหลียงมองคนกลุ่มนี้กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจและประหลาดใจที่จู่ ๆ พวกเขาก็ปรากฏอีกครั้งอย่างรวดเร็ว คนในเมืองเป็นแบบนี้เองสินะ..
...
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากพักผ่อนมาทั้งคืน ชูเหลียงตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น เมื่อเขาอาบน้ำเสร็จ สาวใช้คนหนึ่งแจ้งเขาว่าท่านหมิงได้เตรียมงานเลี้ยงฉลองเพื่อเป็นเกียรติแก่วีรบุรุษหนุ่มชู
"ข้าจะรีบไป" ชูเหลียงตอบอย่างอ่อนโยน
หลังจากนั้นเขาเดินเล่นสบาย ๆ ในสวนหลังบ้านและระเบียงก่อนที่จะหยุดที่ประตูที่ดูสวยงาม ตรงนั้นเป็นห้องนอนของท่านหมิงและนายหญิงหมิง
ก็อกก็อก! ชูเหลียงไเคาะประตู
"ผู้ใดหรือ" เสียงอ่อนโยนดังมาจากด้านใน
"ข้าชื่อชูเหลียง ข้าได้ยินมาว่าท่านหญิงไม่ค่อยสบาย ข้าจึงมาทักทายด้วยตนเอง" เขาตอบ
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเสียงของเธอก็ดังขึ้นจากข้างใน "ท่านเองหรือ ท่านวีรบุรุษหนุ่มแห่งฉูซาน ข้าซาบซึ้งใจต่อสิ่งที่ท่านทำเพื่อพวกเราเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ข้าไม่อยู่ในสถานะที่จะรับแขกได้ โปรดกลับไปก่อนเถิด"
ตรงกันข้ามกับความอบอุ่นของคุณท่านหมิง เสียงของนายหญิงหมิงนั้นค่อนข้างเย็นชา
"ท่านหญิงขอรับ ข้ามีทักษะอันยอดเยี่ยมที่ได้เรียนรู้มาจากฉูซาน ซึ่งน่าจะช่วยรักษาอาการป่วยของท่านได้ และข้ารอจนท่านพร้อมได้"
..หลังจากหยุดการสนทนาไปชั่วคราว.. เสียงฝีเท้าดังขึ้น ตามด้วยเสียงเอี๊ยดอ๊าดของประตูเมื่อมันถูกเปิดออก
นายหญิงหมิง ได้เดินออกมา ใบหน้าของเธออิดโรย เธอไม่ได้แต่งหน้าและสวมเสื้อคลุมที่เรียบง่ายสำหรับใส่ในบ้าน ถึงกระนั้นผิวของเธอก็ยังคงขาวผ่องและใบหน้าของเธอยังคงประณีตและสวยงาม
การปรากฏตัวของเธอน่าทึ่งมาก
เธอพาชูเหลียงมาที่ที่นั่งหน้าฉากกั้นห้องพับ ในห้องมืดสลัว เธอจุดเทียนสีแดงเข้มและเทชาสองถ้วย "ข้าตกใจจริงๆ เมื่อทราบว่าท่านจัดการสิ่งนั้นไปได้ และในพรุ่งนี้ข้าคงจะฟื้นตัวเต็มที่แล้ว ท่านมิจำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด"
"ดีเลยทีเดียว" ชูเหลียงพยักหน้า "แต่... ข้าอยากคุยเรื่องวิญญาณแมวเมื่อคืน"
"โอ้ เช่นนั้นหรือ" นายหญิงหมิงถามด้วยใบหน้าบึ้งตึงว่า "ท่านชู ท่านอยากคุยเรื่องอะไรหรือ"
"นี่เป็นเพียงการคาดเดา" ชูเหลียงอธิบายอย่างช้า ๆ "การปรากฏตัวของวิญญาณแมวเมื่อคืนที่ผ่านมาค่อนข้างแปลก มันเป็นการรวมตัวของวิญญาณแห่งความแค้น วิญญาณปีศาจ และจิตวิญญาณของทารก ตัวตนของมันกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของข้า และข้าสงสัยว่าสิ่งนั้นถูกดึงดูดมายังที่พักของท่าน... "
"สิ่งชั่วร้ายมักจะจ้องทําร้ายผู้อื่น มันมีเหตุผลอะไรด้วยหรือ" นายหญิงหมิงตอบ
"มีสิขอรับ ถ้าเป็นวิญญาณอาฆาต มันจะไปหาคนที่พรากชีวิตพวกมันไป ถ้าเป็นวิญญาณเด็ก มันจะไปหาแม่ของมันก่อน..." ชูเหลียงกล่าว "อย่างไรก็ตาม วิญญาณแมวตัวนี้ได้แฝงตัวอยู่ในคฤหาสน์นี้เป็นเวลาสามวันติดต่อกัน แต่ก็มิได้ทำร้ายใคร ราวกับว่ามันมองหาอะไรบางอย่าง..."
"มองหาสิ่งใด" นายหญิงหมิงเอ่ยถาม ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเป็นปรปักษ์
"นายท่านหมิงกล่าวว่า บรรพบุรุษของท่านทําความดีมาหลายชั่วอายุคน บ้านของท่านจะไม่ทรมานและฆ่าสัตว์เด็ดขาด และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง จะมีวิญญาณบริสุทธิ์ใดอีกเล่าที่จะมองหาแม่ของตัวเองในที่แห่งนี้ นั่นคือวิญญาณดวงที่กำลังมองหาแม่ของมันคือวิญญาณของปีศาจ อืม.. หรืออาจบอกได้ว่าแม่ของมันก็เป็นปีศาจด้วยหรือเปล่านะ"
"ตั้งแต่วิญญาณแมวตัวนั้นปรากฏตัว ท่านหญิงดูเหมือนจะเป็นคนเดียวในคฤหาสน์หมิงที่ไม่กล้าปรากฏตัวออกมา" ชูเหลียงกล่าวและมองไปที่นายหญิงหมิงอย่างอ่อนโยน
นายหญิงหมิงเยาะเย้ย “ท่านชู ท่านกำลังบอกว่าข้าเป็นปีศาจงั้นหรือ
ชูเหลียงตอบ “เราจะรู้คำตอบทันทีที่ได้ทดสอบ”
"ท่านมีกระจกส่องมารหรือไม่" นายหญิงหมิงเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
เพื่อที่จะแยกแยะรูปร่างที่แท้จริงของปีศาจ ปีศาจเองมักจะต้องใช้ทักษะคืนร่างโดยสมัครใจเพื่อปลดปล่อยปราณแห่งมารของพวกมัน หรือผู้ฝึกตนจำเป็นจะต้องใช้คาถาศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ระดับการฝึกฝนของชูเหลียงไม่เพียงพอที่จะเรียนรู้คาถาแบบนั้น
แต่นอกจากนั้นแล้วยังมีทางอื่นอีกซึ่งก็คือสิ่งประดิษฐ์วิเศษ และสิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดคือกระจกวิเศษหรือกระจกส่องมารนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม กระจกวิเศษนั้นหายากมาก มีข่าวลือว่าหนึ่งในผู้ที่ครอบครองมันคือผู้ที่อยู่ในวังของจักรวรรดิและอีกคนหนึ่งเป็นชาวพุทธในอารามเมฆา นิกายฉูซานเองก็มีเช่นกัน แต่พวกเขาจะยอมให้ศิษย์ระดับล่างนำกระจกล้ำค่านั้นลงจากเขาหรือ ดังนั้นคำถามนี้จึงเป็นคำกล่าวที่เลื่อนลอยที่ไม่จำเป็นต้องรอคำตอบแต่อย่างใด
"ข้าไม่มีหรอก" ชูเหลียงส่ายหัวตอบ "แต่นี่ก็ใกล้เพียงพอแล้ว"