บทที่ 11 ช่างเป็นคนที่วิเศษ
ซูจื่อชิงอาจรู้สึกว่าพื้นสกปรกมากเกินไปเล็กน้อย ยอมไม่นั่งลงและยืนอยู่ข้างๆ แทน เนื่องจากเด็กหญิงคนนี้เดินอยู่ท่ามกลางคณะนี้มาตลอดทางและได้รับการคุ้มครองจากทุกคนเป็นอย่างดี ทำให้เธอไม่เหนื่อยและไม่จำเป็นต้องพักแต่อย่างใด
เมื่อคนอื่นนั่งสมาธิและกระตุ้นการไหลเวียนชี่เธอจึงเริ่มรู้สึกเบื่อเล็กน้อย ดวงตาที่มีชีวิตชีวาของเธอมองไปรอบๆ กวาดสายตามองทิวทัศน์ในป่าทึบ
ทันใดนั้นใบไม้ด้านหน้าก็ส่งเสียงกรอบแกรบเบาๆ เหมือนมีอะไรเคลื่อนไหว เธอรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อยและมองอย่างใกล้ชิด
จากนั้น เสียงกรอบแกรบที่นุ่มนวลก็ตามมา ทันใดนั้น คางคกสีเขียวขนาดเท่าฝ่ามือและดูกระดํากระด่างก็กระโดดออกมาจากใต้ใบไม้ มันเบิกตากว้างที่ดูทั้งน่าเกลียดและดุร้าย
สิ่งมีชีวิตนี้ไม่ใช่ปีศาจ ดังนั้นสติสัมปชัญญะของฟางถิงจึงไม่พบมัน
"อ๊าา!"
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีอันตรายในทันที แต่รูปลักษณ์ที่น่ากลัวของสิ่งมีชีวิตนี้ทําให้เด็กหญิงคนนี้ไม่สบายใจมาก เธอเดินโซซัดโซเซถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยความกลัว
ในขั้นตอนการถอยหลังนี้ เธอบังเอิญออกจากขอบเขตที่แสงของโคมไฟที่ปกคลุมคณะของเธอ
มันเป็นแค่ก้าวเดียว
ในขณะที่ความสนใจของทุกคนกำลังหลงใหลในความมหัศจรรย์นี้ เถาวัลย์ที่อยู่ริมขอบของพื้นที่ก็ส่งเสียงฟู่และเผยให้เห็นปากขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเขี้ยว!
เสียงกรอบแกรบ!
ปีศาจดอกไม้กัดที่น่องของเด็กหญิงตัวเล็กๆ โดยไม่ทันตั้งตัว
"ศิษย์น้องจื่อชิง” ฟางถิงอุทานด้วยความตกใจ และดึงดาบยาวของเขาออกมาจากด้านหลังอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นการโจมตีที่รุนแรงเหมือนมังกรทองคําที่บินอยู่ในท้องฟ้า ลมดาบสายฟ้าพ่นออกมาบางๆ ก็กลืนกินร่างกายของปีศาจตัวนี้ไปทันที มันยังทิ้งร่องลึกยาวสิบกว่าหลาผ่านเถาวัลย์ไปบนต้นไม้ใหญ่และป่าทึบขนาดใหญ่
ชูเหลียงได้ยินหลินเป่ยพูดมานานแล้วว่าดาบบนหลังของฟางถิงมีชื่อว่าดาบเหลยซื่อ แกนทองคําที่เขาฝึกฝนคือแกนทองคําของสายฟ้าห้าสายและเขาเชี่ยวชาญในดาบสายฟ้า
การได้เห็นพลังอันยิ่งใหญ่ของดาบยักษ์นี้ มันทําให้เขารู้สึกเคารพยำเกรงได้จริงๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอานุภาพของการโจมตีครั้งนี้จะน่าทึ่ง แต่วิถีของมันก็ผ่านไปข้างๆ ซูจื่อชิงอย่างพอดิบพอดีและไม่ส่งอันตรายใดๆ ต่อเธอและเสื้อผ้าของเธอเลย ระดับการควบคุมที่แสดงออกมานั้นช่างน่าตกใจเสียจริงๆ
เห็นได้ชัดว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างผู้ปฏิบัติในขอบเขตของแกนทองและผู้ปฏิบัติตนระดับการตระหนักรู้ทางจิตวิญญาณ
ทว่า ไม่ว่าการโจมตีของฟางถิงจะยอดเยี่ยมเพียงใด มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าซูจื่อชิงถูกกัดไปแล้วได้ หญิงสาวนั่งโซซัดโซเซลงและใช้ทักษะของเธอเพื่อหยุดเลือดอย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ตื่นตระหนกและตะโกนว่า "มัน.. มันมีพิษ"
หลังจากการตรวจสอบอย่างละเอียด ขาของเธอเริ่มซีดบริเวณระหว่างหัวเข่าและข้อเท้าที่ถูกกัด มีเลือดสีดําซึมออกมา ผิวรอบแผลถูกปนเปื้อนด้วยปราณสีเข้ม
“ปีศาจดอกเถาเขียวในป่านี้ไม่มีพิษ แต่ตัวเมื่อครู่นี้… จะต้องเป็นรูปแบบกลายพันธุ์ของปีศาจดอกเถาเขียว ปีศาจดอกเถาสีม่วง” ฟางถิงอธิบาย
"มันไม่ดีแน่แล้ว" หลินเป่ยกล่าว "ยาล้างพิษที่เราเตรียมไว้มีเพื่อกำจัดกลิ่นเหม็นในป่า ยาล้างพิษของปีศาจดอกเถาสีม่วงหายากมากและเราไม่ได้เอายาแก้พิษสำหรับมันมาด้วย.. ตอนนี้มีแค่ทางออกเดียวเท่านั้น"
"อะไรนะ" ทุกคนจ้องมองเขาและถาม
หลินเป่ยมีสีหน้าเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ เขาทำท่าเหมือนจะเสียสละตัวเอง "ศิษย์น้องจื่อชิง ปิดผนึกเส้นเลือดของเจ้าเสีย ชะลอการแพร่กระจายของพิษ ข้าจะขับชี่และช่วยดูดพิษออก"
"ไร้สาระ" ฟางถิงขมวดคิ้วและสบถ "ระดับการบ่มเพาะของเจ้าใกล้เคียงกับจื่อชิงนั่นแหละ ถ้าเจ้าทำเช่นนั้นเจ้าก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับพิษไปแทน ระดับการบ่มเพาะของข้าสูงกว่า ข้าทําได้"
จนกระทั่งตอนนี้ ลู่เหรินที่เงียบขรึมมาตลอดก็พูดขึ้นว่า "พี่ฟาง ความรับผิดชอบของท่านสําคัญมาก ท่านมิสามารถนำตัวเองมาเสี่ยงเช่นนี้ได้ ข้าคิดว่าข้าควรทํา” เขาพูดอย่างกล้าหาญตรงข้ามกับริมฝีปากที่กำลังสั่นกลัว
"เอ๊ะ..." หญิงสาวหน้าซีดพลางจับขาที่บอบบางของเธอด้วยเสียงครวญคราง สถานการณ์ปัจจุบันเป็นสิ่งที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลย
ทั้งสามคนกําลังโต้เถียงกัน ชูเหลียงพูดแทรกขึ้นมาว่า "เอ่อ ทุกท่าน ข้า.."
หลินเป่ยเงยหน้าขึ้นมองเขา "มีอะไรหรือ เจ้าอยากจะดูดพิษเหมือนกันหรือ"
"มิใช่ขอรับ" ชูเหลียงส่ายหัว "ข้าอยากจะบอกว่าข้ามียาแก้พิษชนิดหนึ่งอยู่ ที่อาจจะใช้ต่อสู้กับพิษในร่างกายของศิษย์น้องซูได้"
"อะไรนะ" ดวงตาของซูจื่อชิงเปล่งประกายด้วยความหวัง ราวกับว่าได้คว้าเชื่อกแห่งชีวิตที่พร้อมดึงเธอขึ้นมาจากหลุม "ศิษย์พี่ชู ท่านมียาแก้พิษจริงๆ หรือ"
"ถูกต้อง แม้ว่าจะไม่ใช่ยาพิเศษของดอกเถาสีม่วงโดยตรง แต่ก็น่าจะได้ผลบางอย่าง" ชูเหลียงพูดพลางหยิบยาแก้พิษร้อยดอกออกมา
"นี่มิใช่ยาแก้พิษโดยเฉพาะ อาจมีความเสี่ยงได้" หลินเป่ยดูเหมือนจะไม่เต็มใจเล็กน้อยและเหลือบมองไปที่ซูจื่อชิง "ศิษย์น้องซู เอ่อจะว่าอย่างไรดี..."
"..ในสถานการณ์ปัจจุบันมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น คือใช้ปากดูดพิษออกหรืออยากใช้ยานี่"
"ข้าจะกินยา!"
ซูจื่อชิงกล่าวอย่างไม่ลังเล
ชูเหลียงส่งยาแก้พิษร้อยดอกให้เธอแล้วพูดว่า "ทานเพียงครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งประคบแผล"
"เจ้าค่ะ ท่านพี่ชู ขอบคุณเจ้าค่ะ" ความเคารพที่แฝงออกมากับน้ำเสียงของเธอมากเกินคำบรรยาย
ซูจื่อซิงปฏิบัติตามคําแนะนําของชูเหลียงและแบ่งยาแก้พิษร้อยดอกออกเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งทาบนแผลและอีกครึ่งหนึ่งเติมน้ําเพื่อรับประทาน จากนั้นเธอก็กระตุ้นการไหลเวียนชี่ของเธอและปรับการหายใจของเธอ
ภายในเวลาที่น้อยกว่าการใช้ในการชงชา ปราณสีดำรอบๆ แผลหายไปอย่างสมบูรณ์และบาดแผลที่มีขนาดใหญ่เท่ากับชามได้รับการรักษาอย่างเห็นได้ชัดในอัตราที่น่าตกใจ
พลังภายในของเธอได้รับการเติมเต็มเพิ่มเติมจากผลของยาแก้พิษร้อยดอกซึ่งนำไปสู่กระบวนการรักษาที่เร็วขึ้น
"ศิษย์พี่ชู ยาของท่าน ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ " ซูจื่อชิงตะโกนด้วยความประหลาดใจ
"ข้าดีใจที่มันได้ผล" ชูเลี่ยงพูดด้วยรอยยิ้ม
สําหรับผู้ฝึกตน ตราบใดที่ไม่มีพิษปีศาจ การบาดเจ็บของสัตว์ตัวเล็กแทบจะไม่มีผลใดๆ ต่อพวกเขาเลย หลังจากทายาทําแผลภายนอกแล้ว ซือจื่อชิงก็ลุกขึ้นทันที และท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยพลัง
บางทีนี่อาจเป็นเพียงจินตนาการของเธอ แต่เธอรู้สึกว่าหลังจากทายาที่ชูเหลียงจัดหาให้ ร่างกายของเธอก็เริ่มส่งกลิ่นหอม กลิ่นนี้ดูจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เริ่มจากกลิ่นหอมละมุนของดอกมะลิ กลายเป็นกลิ่นกุหลาบหวาน จนในที่สุดก็พัฒนามาเป็นกลิ่นแปลกและรุนแรงแบบที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน
อาจจะเป็นกลิ่นดอกไม้บางอย่าง
หลังจากฟื้นความสามารถในการเคลื่อนไหวแล้ว เธอก็เข้าใกล้ชูเหลียงอย่างสง่างามและถามเบา ๆ ว่า "ศิษย์พี่ชู ข้าสามารถขอบคุณท่านอย่างไรได้บ้าง"
"สบายใจเถอะ" ชูเหลียงพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เราแค่แลกเปลี่ยนกันเท่านั้น เจ้าให้ยารวบรวมพลังชี่แก่ข้า กลับกัน ข้าก็ให้ยาแก้พิษร้อยดอกแก่เจ้า นี่คือการแลกเปลี่ยนอย่างยุติธรรม"
"แต่..." หญิงสาวก้มหน้าพูดต่อ "ยารวมชี่แค่นั้นจะเทียบได้กับยาแก้พิษร้อยดอกของท่านได้อย่างไร"
ชูเหลียงโบกมือแล้วพูดว่า "พวกเราเป็นเพื่อนกัน ไม่จําเป็นต้องมาตอบแทนข้าอะไรถึงเพียงนั้นหรอก"
"พวกเราเป็นเพื่อนกันเหรอ..." ซูจื่อชิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้น รอยยิ้มที่สดใสก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ "เจ้าค่ะ"
ในขณะนี้ หลินเป่ยที่อยู่ข้างๆ ถามว่า "ว่าแต่สหายชู ตอนที่เราเชิญท่าน ท่านมิได้แลกเปลี่ยนที่หอแลกเปลี่ยนมิใช่หรือ ท่านพกยาแก้พิษนี้มาตลอดเวลาเลยหรือ"
"เเป็นเช่นนั้น" ชูเลี่ยงตอบอย่างเย็นชา
ในไม่ช้า ฟางถิงก็สั่งการให้เดินทางต่อ ชูเหลียงรับหน้าที่บุกทะลวงเช่นเดิม
แต่คราวนี้คนในกลุ่มนี้จ้องหลังเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยนมากขึ้น ในขณะนี้ เหล่าศิษย์ของยู่เจียนกลุ่มนี้ต่างก็รู้สึกได้ว่าศิษย์ของหยินเจี้ยนคนนี้สมควรได้รับคำว่าสหาย เมื่อมีปีศาจเขาจะฆ่าพวกมัน ถ้าเขามียา เขาจะให้พวกเขา
ชูเหลียงช่างเป็นคนที่วิเศษจริงๆ
..
หมายเหตุ : ตอนใหม่จะเปิดให้อ่านฟรีทุกวันศุกร์นะครับ (ทยอยปล่อยฟรีถึงตอนที่60)สามารถรออ่านฟรีได้เลยจ้า หรือไม่ก็สามารถอุดหนุนกันได้เลยน้าลงทุกวันอย่างน้อยวันละตอนทุก 3 ทุ่มจ้า