บทที่ 10 ยาแก้พิษร้อยดอก
เจ้าว่าอย่างไรนะ
ทุกคนต่างตกใจกับคำพูดของชูเหลียง
ในป่าที่ปีศาจออกเพ่นพ่านอาละวาดเช่นนี้ พวกเขาไม่สามารถเติมเต็มแก่นแท้ของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย และไม่รู้ว่าอันตรายใดๆ จะเกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งหมายความว่าหากพวกเขาตกอยู่ในอันตราย ยิ่งพวกเขาเก็บพลังงานไว้ได้มากเท่าไหร่ โอกาสในการหลบหนีก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ซึ่งพวกเขาทั้งหมดตระหนักได้อย่างดี จึงเป็นไปไม่ได้ที่ใครๆ ก็อยากจะหมดกำลังที่มีอยู่ ดังนั้นเพื่อเปิดทางแล้วฟางถิงจึงเสนอให้มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันทั้ง 3 คน เพื่อกระจายภาระอย่างเป็นธรรม
ดังนั้นเมื่อชูเหลียงบอกว่ามีข้อเสนอ พวกเขาคิดว่าชูเหลียงจะเสนอบางอย่างเช่นการให้ถอนเขาออกจากส่วนหนึ่งของการสับเปลี่ยน หรืออาจต้องการลากฟางถิงและซูจื่อชิงเข้ามาร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ชายหนุ่มที่ยิ้มอย่างอบอุ่นต่อหน้าพวกเขาได้เสนอมาว่าเขาต้องการรับหน้าที่นี้ด้วยตัวเอง
การที่เขาเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณนั้นหมายความว่าเต็มใจที่จะแบกรับภาระที่ยิ่งใหญ่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด
"สหายชู นี่ไม่ใช่เวลาล้อเล่นนะ" หลินเป่ยเป็นคนแรกที่เอ่ยปาก "เส้นทางนี้อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะผ่านไปได้ หากท่านหมดกําลังไปเสียก่อน ถ้าเกิดเหตุเกินคาดคิดขึ้นมาจะทำอย่างไรเล่า เราสับเปลี่ยนกันตามคำพี่ฟางถิงเถิด"
ชูเลี่ยงยิ้ม “มิเป็นไร ข้ามั่นใจว่าทําได้ หากกําลังข้าใกล้หมด ข้าก็เพียงขอพักแล้วให้คนอื่นมารับหน้าที่แทน ระดับการบ่มเพาะของข้ามิได้สูงเท่าใดนัก นี่เป็นเพียงไม่กี่อย่างที่ข้าช่วยได้ก็ไม่มากก็น้อย ก็ให้ข้าได้ทําหน้าที่นี้เถิด”
คำกล่าวของเขาช่างน่าคล้อยตามและการแสดงออกมาอย่างจริงใจ นี่ทําให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นประทับใจอย่างมาก
"ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าก็ฝากด้วย ตอนนี้ก็สายแล้ว เราต้องเข้าไปในภูเขาให้เร็วที่สุด" ฟางถิงหันไปพูด เขาหยุดสักครู่แล้วกล่าวเพิ่มอีกว่า "เพียงแค่จำไว้ว่าเมื่อพลังพื้นฐานของเจ้าลดลงต่ำกว่าครึ่งหนึ่งให้สลับกับใครสักคนทันที ถ้าเจ้ารอจนกว่าพลังชี่หมดลง ตอนนั้นก็คงจะสายเกินไป"
"ขอรับ ข้าเข้าใจแล้ว" ชูเหลียงพยักหน้า
ซูจื่อชิงมองเขาแวบหนึ่งแล้วเบะปาก
นกยักษ์สีขาวตัวนี้ไม่ใช่พี่ชายของเธอ แต่เป็นของอาจารย์หวังซวนหลิง หวังซวนหลิงรักและเอ็นดูเธอมาก ดังนั้นเธอจึงมีความผูกพันราวพ่อลูกกับเขา ซึ่งหมายความว่าความประทับใจของเธอที่มีต่อยอดเขาหยินเจี้ยนนั้นแย่มาก เพราะเจ้าแห่งยอดเขาแห่งนั้นรอยกับอาจารย์หวังซวนหลิงของเธอ
ตั้งแต่ซูจื่อชิงพบว่าชูเหลียงเป็นลูกศิษย์ของตี้หนิวเฟิ่งเจ้าแห่งยอดเขาหยินเจี้ยน เธอก็แอบถือชูเหลียงเป็นศัตรู เธอค่อนข้างไม่พอใจที่ต้องปล่อยให้เขาขี่สัตว์วิญญาณของเธอดังนั้นเธอจึงจงใจนั่งด้านหน้าและแยกตัวจากเขา
อย่างไรก็ตาม เธอก็เริ่มรู้สึกใจอ่อน เธอตระหนักดีว่าสาเหตุที่ชูเหลียงยอมแบกรับภาระมากเพียงนี้เพราะต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าการแยกตัวออกจากเขาก่อนหน้านี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี
นอกจากนี้ พี่ชูเหลียงคนนี้ เงียบขรึม.. และหล่อเหลาพอสมควร แถมเขายังมีรอยยิ้มที่น่าหลงใหล... เธอเห็นทันทีว่าเขาเป็นคนดี
ซูจื่อชิงวิ่งออกมาไม่กี่ก้าวและอยู่ต่อหน้าชูเหลียง เธอหยุดอยู่ตรงหน้าเขาและหยิบขวดใบหนึ่งออกมา
“ศิษย์พี่ชู ในขวดนี้มียาพลังชี่อยู่สามเม็ด เก็บไว้ใช้เมื่อต้องการ” ซูจื่อชิงกล่าว
“ยานี้สามารถทำให้พลังชี่พื้นฐานฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นมันจึงมีประโยชน์มาก อย่างไรก็ตาม วัตถุประสงค์หลักของพวกมันคือเป็นตัวเร่งการฝึกฝนบ่มเพาะ ปกติจะใช้ก่อนที่ปฏิบัติตน โปรดเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น”
"ศิษย์น้องซู สิ่งนี้..."
ชูเหลียงกําลังจะปฏิเสธอย่างสุภาพ แต่เมื่อเห็นเธอมองเขาด้วยดวงตาคู่แวววาว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ถ้าเขาไม่รับยานี้ เธอก็ดูราวกับว่าเตรียมตัวจะร้องไห้ให้ได้
เขาสับสนมากและลงเอยด้วยการรับยาไว้แต่โดยดี
"ขอบคุณมาก" ชูเหลียงกล่าว
"ฮ่าฮ่า มิได้สำคัญแต่อย่างใด ข้ายังมีอีกเยอะเลย" ซูจื่อชิงพูดด้วยรอยยิ้ม
ชูเหลียงเปลี่ยนกําไลกระบี่บินของเขาให้เป็นรูปกระบี่และถือไว้ในมือ เขาไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องความรู้สึกของเหล่าศิษย์จากยอดเขายู่เจียนแล้ว
เขาอาสาบุกทะลวงด้วยเหตุผลง่ายๆ คนที่รับหน้าที่นี่ก็จะต้องได้สู้และปราบปีศาจนั่นเอง
...
สึบสับ!
บนเทือกเขาที่กว้างใหญ่และเขียวชอุ่ม ป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นไม้โบราณสูงใหญ่ เถาวัลย์ขดอยู่บนยอดไม้เติมช่องว่างปกคลุมท้องฟ้าและปกคลุมโลก - มันแผ่กว้างมากเสียจนแม้แต่แสงแดดก็ไม่อาจสามารถผ่านมาได้
ฟางถิงถือเครื่องมือวิเศษที่เหมือนตะเกียงอยู่ในมือ มันเปล่งแสงอ่อนๆ ปกคลุมทั้งคณะและส่องสว่างทั้งเส้นทางของพวกเขา
ชูเหลียงเดินนําหน้าแถว สติสัมปชัญญะของเขาขยาย เขาเดินด้วยความระมัดระวังทุกขั้นตอน
เมื่อสติของเขารู้สึกถึงพลังปีศาจได้ ก็มีเสียงแปลกๆ มาจากด้านหน้า
ท่ามกลางเถาวัลย์จำนวนมากพันรอบตัวต้นไม้โบราณที่กว้างใหญ่ มีเถาวัลย์ลายจุดสีเขียวขนาดใหญ่ ปลายยอดของมันมีดอกขนาดเท่ากำปั้น มันถูกย้อมเป็นสีแดงที่มีเสน่ห์
ปีศาจดอกไม้..
ขณะที่เถาวัลย์ที่เคยสงบนิ่งพุ่งจู่ๆ ก็พุ่งเข้าหาพวกเขา ดอกไม้สีแดงของมันก็เปิดออกมาและ เผยให้เห็นปากอันหิวกระหายและเต็มไปด้วยคมเขี้ยว
สิ่งที่ซ่อนอยู่หลังกลีบดอกไม้ที่สวยงามเหล่านั้นจริงๆ แล้วเป็นปากกินคน
"โปรดระวัง" ชูเหลียงเตือนคนอื่น
ในขณะเดียวกันเขาก็เดินไปข้างหน้าและยืนอย่างมั่นคง เขาแทงกระบี่ของเขาไปที่ใจกลางดอกไม้อย่างแน่วแน่ไม่ไหวติง
ฉึก!
ทันทีที่กระบี่ยาวทิ่มแทงไปถึงหัวใจที่อ่อนนุ่มของมัน ชูเหลียงก็ชักกระบี่ของเขาออกมาพร้อมกับหยดน้ำภายในร่างมันที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์
มีรูขนาดใหญ่ถูกทิ้งไว้บนดอกไม้ กลีบดอกสีแดงบอบบางของมันเหี่ยวเฉาลงและไม่สวยสดงดงามอีกต่อไป..
..ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ชูเหลียงปราบปีศาจดอกไม้ไปทั้งหมดสี่ตัว อย่างที่พวกเขาคาดไว้ ภูเขาป้อมปราการทางใต้เต็มไปด้วยปีศาจ แม้แต่ในป่าห่างไกลที่ชายขอบของดินแดนนี้ อันตรายก็แฝงตัวอยู่ในทุกซอกทุกมุม กิ่งก้านสาขาที่ชูเหลียงได้จัดการนั้นไม่สามารถแยกออกจากเถาวัลย์และดอกไม้ทั่วไปได้เลย หากพวกเขาไม่ใช่ผู้ปฏิบัติตนที่ปลุกประสาทสัมผัสผ่านการตระหนักรู้ทางจิตวิญญาณ พวกเขาคงจะถูกกลืนกินอย่างแน่แท้
“ข้าว่าเราพักกันเสียหน่อยเถิด” ฟางถิงพูดจากด้านหลัง
ชูเหลียงเป็นคนเดียวที่จัดการเส้นทางข้างหน้าและทำให้สมาชิกคนอื่นๆ สามารถรักษาชี่พื้นฐานของพวกเขาและรักษาร่างกายของพวกเขาให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดได้ก็จริง แต่พวกเขาที่อยู่ข้างหลังก็กระตุ้นประสาทสัมผัสของพวกเขาและตื่นตัวต่อสภาพแวดล้อมอยู่ตลอด การปล่อยประสาทสัมผัสเป็นเวลานานเช่นนี้จะทําให้จิตใจเหนื่อยล้าได้
"ผ่อนคลายและพักเถิด ตอนนี้ข้าจะเฝ้าให้เอง" ฟางถิงบอกคนอื่นๆ
เมื่อทุกคนนั่งลง ฟางถิงก็ทำหน้าที่ของตัวเอง เขาเฝ้ากลุ่มของเขาอย่างมีสติและดูแลสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างใกล้ชิด
หลินเป่ยเดินไปแถวหน้าและถามว่า “สหายชู เจ้ายังสบายดีหรือไม่”
"สภาพของข้ายังสมบูรณ์พร้อม" ชูเหลียงพยักหน้า
เขาพูดความจริง เนื่องจากเขายังมียาพลังชี่ของซูจื่อชิง พลังพื้นฐานของเขาก็ยังคงเหลืออยู่ ตนไม่มีเจตนาที่จะหวงยานี้ไว้เขาพร้อมใช้มันทุกเมื่อ ท้ายที่สุดแล้ว เขาแค่ต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตะเกียง เขาก็จะสามารถได้รับยาลักษณะนี้มาได้อย่างง่ายดาย
ตราบใดที่ชูเหลียงสามารถได้รับรางวัลจากเจดีย์ขาวต่อไปได้ การต่อสู้กับปีศาจก็จะทํากําไรได้เสมอสําหรับเขา
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาหลับตาครุ่นคิดและเดินเข้าไปในเจดีย์สีขาวด้วยจิตสำนึก
กรงเหล็กสี่กรงในเจดีย์ขาวถูกครอบครอง แต่ละกรงมีดอกสีทองอยู่ภายใน ชูเหลียงเดินเข้าหาหนึ่งในห้องขังและกดไปที่คําว่า "ชำระล้าง"
ครืนน..
มีแสงสีแดงส่องผ่าน ชูเหลียงเอื้อมมือไปจับลูกกลมแสงที่ลอยออกมาจากห้องขัง บนฝ่ามือของเขามีบางอย่างที่ห่อด้วยกระดาษน้ํามัน เหมือนผงยา
จากนั้นมีข้อความปรากฏ
[ยาแก้พิษร้อยดอก: เป็นยาแก้พิษที่ทำจากแก่นสำคัญของดอกไม้ร้อยดอก สามารถใช้ได้ทั้งการรับประทานและใช้ภายนอก มันมีความสามารถในการต่อต้านสารพิษร้อยชนิด ใครก็ตามที่ใช้ผงนี้จะมีกลิ่นหอมของดอกไม้คล้ายดอกมะลิและดอกกุหลาบ กลิ่นหอมของมันเข้มข้นและติดทนนาน]
..
หมายเหตุ : ตอนใหม่จะค่อยๆ เปิดให้อ่านฟรีทุกวันศุกร์นะครับ (จะทยอยปล่อยฟรีแค่ถึงตอนที่ 60 )สามารถรออ่านฟรีได้เลยจ้า หรือไม่ก็สามารถอุดหนุนกันได้เลยน้าลงทุกวันอย่างน้อยวันละตอนทุก 3 ทุ่มจ้า