ตอนที่ 42 ยกระดับ
ตอนที่ 42 ยกระดับ
การฝึกฝนโหดๆ ของดิโอดำเนินต่อไป...
เขาฝึกการทรงตัวแบบกลับหัวโดยใช้นิ้วเดียว แล้วต้องคอยรักษาจังหวะการหายใจให้ดี ไม่เช่นนั้น เขาจะตกลงมาถูกหนามแหลมคมด้านล่างเสียบเข้าให้
ต่อมาเขายังต้องฝึกการหายใจลึก โดยหายใจเข้าสิบครั้งในหนึ่งนาที แล้วตามด้วยการหายใจออกอีกสิบครั้งในเวลาเท่าๆ กัน และต้องฝึกอย่างต่อเนื่องแบบนี้จนกว่าจะหายใจเข้าออกได้ครั้งละหนึ่งวินาที!
เขาต้องวิ่งมาราธอนควบคู่ไปกับการฝึก จนกว่าจะหมดแรงไปเอง
แถมยังต้องดำน้ำลึกโดยไม่มีอุปกรณ์ใดๆ
ลืมตาขึ้นอีกที เขาก็กลับมาอยู่บนเตียงในร้านอาหารของเขาที่ไชน่าทาวน์ นิวยอร์กซิตี้เสียแล้ว
การฝึกฝนนรกตลอดเดือนที่ผ่านมาหลอมรวมจิตวิญญาณนักสู้ของเขา นอกจากระดับพลังฮามอนที่พุ่งสูงขึ้นแล้ว เขายังเชี่ยวชาญในการใช้ทักษะความเหนียวหนึบและการสะท้อนของพลังฮามอนอีกด้วย!
นอกจากนี้ เขายังสามารถสร้างทักษะการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้ด้วย
ตอนนี้ พลังฮามอนของดิโอพุ่งทะลุ 40,900 หน่วยแล้ว!
เขาได้รับ 10,000 หน่วยเป็นรางวัลจากการพิชิตเสานรก และอีก 6,000 หน่วย จากการฝึกหนักตลอดช่วงเวลาที่ใส่หน้ากาก และถึงแม้จะไม่ฝึกเพิ่มเติม พลังฮามอนของเขาก็จะเพิ่มขึ้นวันละสองร้อยหน่วย นับเป็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่งเลยทีเดียว
เมื่อได้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง หลังจากถอดหน้ากากออกแล้ว ดิโอรู้สึกเหมือนปลาได้น้ำเลย!
ดูเหมือนว่าทักษะการหายใจด้วยฮามอนได้กลายเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว เขาไม่ต้องตั้งใจควบคุมเลย นับเป็นข้อได้เปรียบครั้งใหญ่!
ตอนนี้เขาถึงเข้าใจแล้วว่าทำไมในคำอธิบายบัตรคำแนะนำของลิซ่าลิซ่าถึงบอกว่า "ผลลัพธ์ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด" และทำไมผลที่ได้ถึงขึ้นอยู่กับความขยันหมั่นเพียร เพราะหากเขาเกียจคร้านตลอดสามสิบวันนั้น คงไม่ได้พัฒนาเลยแม้แต่น้อย แต่ดิโอไม่ได้ปล่อยโอกาสให้สูญเปล่าอย่างแน่นอน
"ไอเทมดีๆ แบบนี้ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อแฮะ"
ดิโอเล่นกับบัตรคำแนะนำของลิซ่าลิซ่าสักพัก ก่อนจะเก็บมันกลับเข้าช่องเก็บของ ถึงแม้จะได้เรียนรู้มากมายจากการฝึกสุดโหดตลอดหนึ่งเดือน แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายด้วย เขาควรพักผ่อนสักหน่อยก่อนใช้บัตรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด นอกจากนี้ บัตรคำแนะนำของลิซ่าลิซ่าก็ยังใช้ได้อีกสองครั้ง เขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไร
ดิโอคว้าโทรศัพท์มือถือมาเช็คเวลา การฝึกทั้งหมดกินเวลาแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง นั่นหมายความว่าหนึ่งวันในโลกแฟนตาซีเท่ากับหนึ่งนาทีในโลกแห่งความจริง!
ตอนนี้ดิโอไม่แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เข้าไปฝึกฝนในโลกแฟนตาซีนั้นเป็นเพียงจิตวิญญาณหรือรวมถึงร่างกายด้วย
"สงสัยต้องหาเวลามาติดกล้องวงจรปิดตอนฝึกแล้วล่ะ" ดิโอเอามือลูบคางครุ่นคิด
"ช่างมันก่อนดีกว่า อยากนอนจะแย่แล้ว!"
ดิโอร่างล้าโยนเสื้อผ้าทิ้ง แล้วกระโดดขึ้นเตียงหลับทันที
ในเวลาเดียวกัน การสอบสวนของเหล่าเจ้าหน้าที่ชีลด์ต่อวิลล์และพวกก็กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย หลังจากการสืบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วน เหล่าเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันได้ว่าคำให้การของคนกลุ่มนี้เป็นความจริง
พอแน่ใจว่าคนพวกนี้ไม่รู้อะไรจริงๆ เจ้าหน้าที่ชีลด์ก็เตรียมปล่อยตัวแต่ต้องทำตามขั้นตอนและระเบียบการต่างๆ อย่างน้อยก็ต้องปิดบังไม่ให้คนพวกนี้รู้ว่าฐานทัพของชีลด์อยู่ตรงไหน หรือป้องกันไม่ให้ใช้ FBI เพื่อประโยชน์ส่วนตัว
เสียงเคาะประตูดังขึ้น...
"เข้ามา"
"ท่านผอ.ครับ นี่คือรายงานคดีสัตว์ประหลาดล่องหนที่โผล่ในโรงงานร้างที่นิวยอร์ก เรายืนยันคำให้การของพยานเรียบร้อยแล้ว ไม่น่าจะมีบุคคลพิเศษอะไรในกลุ่มนั้นครับ คาดว่าพรุ่งนี้เราจะปล่อยตัวพวกเขาทั้งหมด" โคลสันรายงานต่อนิค ฟิวรี่
"อ้อมค้อมไปทำไม เข้าเรื่องเลยสิ" นิค ฟิวรี่พูดพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้
"ข้อสรุปและข้อมูลทั้งหมดผมได้รวบรวมไว้ในรายงานฉบับนี้แล้วครับ..."
"อือ ฉันเข้าใจแล้ว จะอ่านเมื่อมีเวลา ตอนนี้บอกฉันก่อนว่านายคิดยังไงบ้าง"
โคลสันเริ่มอธิบาย "ผมคาดว่านี่น่าจะเป็นฝีมือของมนุษย์กลายพันธุ์ที่มีพลังล่องหนและมีพละกำลังมหาศาล เป็นไปได้ว่ามาล้างแค้น เราไม่รู้ว่าแก๊งในเฮลส์คิทเช่นเคยก่อเรื่องไว้มากแค่ไหน แต่อีกความเป็นไปได้ก็คือมีคนใช้เทคโนโลยีสุดล้ำทำให้ตัวเองหายตัวได้เหมือนกัน สรุปคือเรายังไม่มีเบาะแสเพิ่มเติมเลยครับ"
"แล้วได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณนั้นหรือยัง?"
"ทีมเราตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว กล้องทั้งหมด 12 ตัว เสียไปครึ่งหนึ่ง ถ่ายภาพออกมาไม่ได้ ส่วนอีกหกตัวที่ยังอยู่ดีก็ห่างไกลจากจุดเกิดเหตุ ผมดูเวลาในฟุตเทจแล้วก็สอบถามผู้คนที่อยู่ในคลิปดูแล้ว แต่ยังไม่ได้ผลอะไรเลย ช่วงนี้เรากำลังขาดคน ผมเองก็ไม่ได้หยุดพักมาเป็นเวลานานแล้ว ท่านผอ.จะอนุมัติใบลาพักร้อนที่ผมยื่นไว้เมื่อสองอาทิตย์ก่อนได้รึยังครับ?"
นิค ฟิวรี่จ้องโคลสันอย่างหน้าตาเฉย ในเรื่องงาน เขายอมรับและพอใจในตัวผู้ช่วยคนนี้อย่างมาก เขาสามารถวางใจมอบหมายหลายเรื่องสำคัญให้ดูแล นี่แหละเหตุผลที่เขาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเรื่องที่โคลสันอยากลาพักร้อน
"งั้นเหรอ? ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันอนุมัติไปแล้ว เหลือแค่รอดำเนินการ"
"ประโยคนี้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมก็ได้ยินไปแล้วนะครับ หาข้ออ้างใหม่หน่อยจะดีกว่า!"
"งั้นเอาเป็นว่า... คอมพิวเตอร์ของนายมันเสีย เลยไม่ได้รับอีเมลอนุมัติจากฉันแล้วกัน แบบนี้โอเคมั้ย?"
โคลสันถึงกับไปไม่เป็น เพราะถ้าฟิวรี่อ้างว่าเขาอนุมัติใบลาไปแล้ว ก็เท่ากับว่าเขาเองหละเลยไม่ได้ตรวจสอบอีเมลให้ดี
พอคิดว่าเถียงไปก็ไม่ได้หยุดพักผ่อน แถมตอนนี้ก็อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ โคลสันก็ได้แต่จำยอม
นิค ฟิวรี่เห็นท่าทีหมดหวังของโคลสัน และตั้งใจแต่แรกแล้วว่าเขาไม่อยากจะคุยเรื่องใบลา จึงรีบเปลี่ยนประเด็นทันที "แล้วเรื่องคนที่นายสนใจล่ะ มีความคืบหน้ามั้ย?"
"เจ้าหน้าที่ของเรายังคงตามหาอยู่ กลุ่มที่ลักพาตัวโทนี่ สตาร์คมีวิธีการที่รัดกุมมาก ไม่ทิ้งร่องรอยเลย เป็นไปได้ที่พวกเขาจะฆ่าโทนี่ทิ้งแล้ว ส่วนตัวผมสงสัยว่าการถูกลักพาตัวอาจเป็นปัญหาส่วนตัวของโทนี่ และหากเป็นเช่นนั้น โอกาสที่เราจะช่วยเขาสำเร็จก็แทบจะเป็นศูนย์"
"ถึงยังไงก็ตาม พ่อของโทนี่คือหนึ่งในผู้ก่อตั้งชีลด์ถึงโอกาสจะริบหรี่ เราก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ!"