ตอนที่แล้วตอนที่ 314
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 316

ตอนที่ 315


ตอนที่ 315

“ท่านผู้นำนิกายเซียว” มีคนตะโกนจากด้านล่าง

 ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่าผู้นำนิกายเซียวยืนอยู่ตรงหน้าทุกคน ณ จุดหนึ่ง

เขาโบกมือขวา และพลังจิตวิญญาณในท้องฟ้าก็ควบแน่นขึ้นก่อตัวเป็นโล่สีน้ำเงินห่อหุ้มทุกคนไว้

จากนั้นการโจมตีของเต๋าซุนก็ใกล้เข้ามา และ เสียงระเบิด "บูม" ก็ดังขึ้นอีกครั้งในความว่างเปล่า

สวรรค์และโลกทั้งหมดก็ราวกับจะจมลึกลงไปในความว่างเปล่า

เต๋าซุนมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสนใจด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก

 การโจมตีสิ้นสุดลงแล้ว และโล่ที่อยู่รอบๆผู้นิกายเซียวก็แตกออกเป็นชิ้นๆ

  ทุกคนไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย แต่พวกเขาทั้งหมดก็คุกเข่าอยู่ในอากาศและหายใจถี่ออกมาเท่านั้น

“เอาล่ะ การประลองนี้จบแล้ว” ผู้นำนิกายเซียวพูดอย่างสงบด้วยท่าทางไม่แยแส

 เขาก้มหัวลงและมองมือขวาของเขาที่รู้สึกด้านชาเล็กน้อย

แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นบาดเจ็บ แต่การโจมตีของนักรบที่อยู่ระดับ 6 นั้นสามารถทำให้นักรบระดับ 8 รู้สึกเหน็บชาได้ยังไงกัน

ยิ่งไปกว่านั้น เขานั้นยังตระหนักได้อีกด้วยว่า เต๋าซุนยังไม่ได้ใช้ร่างนักรบลำดับที่หนึ่งด้วยซ้ำ

เรื่องแบบนี้แปลกประหลาดเกินไป !!

 “ข้านี่แหละคือคนที่เป็นจักรพรรดิแห่งยุคนี้” เขาพึมพำด้วยเสียงต่ำ

 “ท่านทำเช่นนี้หมายความเช่นไร” เต๋าซุน พูดพร้อมกับส่ายหัว

“ผู้นำนิกายเซียว การแทรกแซงการประลองระหว่างศิษย์นั้นถือว่าเป็นการละเมิดกฏของนิกายไม่ใช่รึ”

“แต่กฎของนิกายนั้นก็ไม่อนุญาตให้เกิดการสังหารขึ้นระหว่างการประลอง ” ผู้นิกายเซียวกล่าวอย่างใจเย็น

“มันย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วที่การต่อสู้จะเกิดการพลั้งพลาดฆ่ากันตายบ้าง” เต๋าซุน ยิ้มและตอบ

 “ยังไงเสียพวกเขาก็เป็นฝ่ายที่ท้าทายข้า ดังนั้นพวกเขาสมควรต้องชดใช้ ”

“เจ้าหมายความว่าไง?” ผู้นำนิกายเซียวถามพร้อมขมวดคิ้ว

“เอาเช่นนี้ ข้าจะไม่ขออะไรมากเกินไป เพียงแค่ให้พวกเขารับหมัดข้าคนละหมัดก็พอ  ” เต๋าซุนตอบ

 “นั่นคือราคาที่พวกเขาต้องจ่าย”

“การแข่งขันนี้จบลงแล้ว ไม่จำเป็นต้องต่อสู้กันอีกต่อไป” ผู้นำนิกายเซียวตอบ

"เจ้าคือผู้ชนะแล้ว"

“นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับชัยชนะหรือความพ่ายแพ้” เต๋าซุนกล่าวพร้อมส่ายหัว

 “ข้าเพียงแค่ต้องการเรียกร้องสิทธิ์ที่ข้าควรได้รับในฐานะบุตรแห่งสวรรค์เท่านั้น

 ข้าต้องกำหราบพวกเขาให้รู้ซึ้งว่าใครกันแน่ที่ควรอยู่สูงกว่า  "

ผู้นำนิกายเซียวเงียบไปครู่หนึ่ง เขานั้นไม่สามารถปฏิเสธกฏที่มีไว้เพื่อรักษาเกียรติของบุตรแห่งสวรรค์ได้

 ก่อนที่บุตรแห่งสวรรค์จะเติบโตเต็มที่ ไม่ว่าศิษย์คนไหนก็ไม่อาจแตะต้องหรือดูถูกได้

เดิมทีไม่มีใครสนใจเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เมื่อเต๋าซุนหยิบยกมันขึ้นมา  มันก็ทำให้เขาตัดสินใจได้ยากลำบากอย่างแท้จริง

 เขามองไปที่ เต๋าเสี่ยวโม่ ด้านล่างโดยหวังว่าอีกฝ่ายจะช่วยเหลือเขา

 แต่ เต๋าเสี่ยวโม่ นั้นกับก้มหน้าลงและเมินเฉย

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของบุตรแห่งสวรรค์ และในฐานะพ่อแล้ว ก็เป็นธรรมดาที่เขาจะเข้าข้างลูกชายของตัวเอง

-

“แค่สั่งสอนบทเรียนเท่านั้นพอ เข้าใจหรือไม่” ในที่สุดผู้นำนิกายเซียวก็ถอนหายใจและยอมถอยหนึ่งก้าว

เต๋าซุน ยิ้มและเดินไปหาศิษย์สายตรงเหล่านั้นทีละก้าว

 ทุกคนไม่กลัวและเงยหน้าขึ้นมอง เต๋าซุน

“พวกเจ้าถือว่าโชคดีไปที่ตอนนี้เราอยู่ในนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์” เต๋าซุน ยิ้ม

 เขาเหยียบเซียงเฉียนเหิงติดกับพื้น

 จากนั้นก็ไม่สุภาพกับคนอื่นเช่นนั้น และไล่เหยียบหน้าทีละคน

 จนะกระทั่งเหลืองเพียงเจียงซีเอ๋อเท่านั้น เขาก็เดินมาหยุดตรงหน้านาง

 เขาคว้าคอของอีกฝ่ายและยกขึ้นโดยตรง

“จริงๆแล้วข้านั้นก็ถือว่าใจดีมากไม่น้อย  ไม่งั้นเจ้ากับอาจารย์ของเจ้าคงได้ไปอยู่ในนรกตั้งนานแล้ว”

เต๋าซุนพูดและจับอีกฝ่ายฟาดลงกับพื้นเวทีโดยตรง

ร่างของเจียงซีเอ๋อก็กระแทกเข้ากับเวทีประลอง   และเวทีครึ่งหนึ่งก็พังลงทันที

เสื้อผ้าที่ขาวราวกับหิมะของนางเต็มไปด้วยเลือด และร่างของนางก็จมอยู่บนกองเลือดของตนเอง

เต๋าซุนเงยหน้าขึ้นและมองไปยังศิษย์ทั้งหมดของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์

ศิษย์เหล่านี้ก็หวาดกลัวเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นและมองตรงเข้าไปในดวงตาของเขา

 “บุตรแห่งสวรรค์จงเจริญ!”

โดยไม่รู้ว่าใครตะโกน แต่เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ท้องฟ้าก็เริ่มเต็มไปเสียงเชียร์อย่างเร่าร้อน

ชื่อของเต๋าซุนถือได้ว่าโด่งดังไปทั่วทั้งนิกาย

แม้แต่ในหมู่ศิษย์สายตรง  เมื่อชื่อของเขาถูกเอ่ยถึง ทุกคนก็ล้วนแต่ต้องเงียบ

 เขาสามารถเอาชนะลูกศิษย์สายตรงเกือบทั้งหมดพร้อมกันได้ด้วยตัวคนเดียว !!

หากไม่ใช่เพราะผู้นำนิกายหยุดยั้งไว้ในวันนี้ล่ะก็ เกรงว่าคงยากที่พวกเขาจะรอดชีวิตไปได้

-

 พิธีการประลองก็สิ้นสุดลง  และหลายๆ คนต่างก็รู้สึกหนักใจ

 นี่คือโอกาสที่จะสร้างชื่อให้กับตัวเองแท้ๆ

 แต่หลังจากทุกอย่างจบลง พวกเขาก็พบว่ามีเพียงชื่อของเต๋าซุนเท่านั้นที่ฝังลึกอยู่ในหัวพวกเขา

 ส่วนพวกเขานั้นหาได้มีอะไรเลยไม่

ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดในการประลองนั้นเป็นเพียงเส้นทางที่ปูไว้ให้เต๋าซุนในศึกสุดท้ายเท่านั้น

และสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือการประลองรอบสุดท้ายนั้นกลับเป็นการต่อสู้เพียงฝ่ายเดียว

 ฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่มีโอกาสตอบโต้แม้แต่น้อย

 “บุตรแห่งสวรรค์ของเราแข็งแกร่งเพียงนี้แล้วรึ  ?” หลายคนก็ถามกับตัวเอง

-

 หลังจากสิ้นสุดกระประลอง เต๋าซุนก็กลับมาที่ยอดเขาเดียวดาย

 พรุ่งนี้เขาจะออกจากนิกาย  และออกเดินทางไปตามลำพัง

 ก่อนออกเดินทาง เขาได้เด็ดใบไม้แห่งชีวิตจากต้นไม้แห่งชีวิต

และมอบบางส่วนให้กับ พ่อแม่  ปางซู เสี่ยวกุ้ยจื่อ และเหยาเซิงหนาน

เต๋าเสี่ยวโม่เองก็ยอมรับมันด้วยรอยยิ้ม และไม่ได้ถามอะไร

 ทุกคนล้วนมีความลับของตัวเอง

 เขานั้นภูมิใจเป็นอย่างมากกับความสำเร็จในปัจจุบันของลูกชายตัวเอง

มีเพียงแม่ของเขาเท่านั้นที่บ่นเล็กน้อย และบอกให้เขาระวังตอนที่ออกไปข้างนอก

 จะมีพิธียิ่งใหญ่จัดขึ้นที่บ้านของปู่ของเขายังทวีปเหนือในอีกหนึ่งปีต่อมา

 เช้าวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าสีเทาก็เริ่มมืดลง

 เต๋าซุนออกจากนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์โดยขี่เสือฟ้ามืด

ท้องฟ้าสดใสและมีฝนตกปรอยๆอยู่ข้างนอก

เต๋าซุนเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่มีฝนตกปรอยๆ

-

 ขณะที่เขาเดินไปตลอดทาง ท้องฟ้าก็สว่างขึ้นเรื่อยๆ

 แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่มีเมฆมาก จึงทำให้รู้สึกหดหู่ใจอยู่เสมอ

เสือฟ้ามืดเดินช้าๆ บนถนนที่เต็มไปด้วยโคลน ไม่นานเขาก็เดินผ่านศาลา

และเต๋าซุนก็ได้ยินเสียงเปียโนอันไพเราะ

เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นชายชรากับหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ในศาลาข้างๆ

หญิงสาวเล่นเปียโนด้วยมือเปล่า เสียงเปียโนไพเราะราวกับสายน้ำไหลใต้สะพานเล็กๆ และทำนองก็ช่างเสนาะหู

ชายชราถือไม้เท้ายาวอยู่ในมือและเช็ดไม้ในมืออย่างระมัดระวัง

เมื่อเห็นการมาถึงของเต๋าซุน ชายชราก็เงยหน้าขึ้นและหรี่ตาลง แต่ก็ไม่พูดอะไร

 “น่าสนใจ” เต๋าซุนยิ้มด้วยความสนใจ

 เสือฟ้ามืดยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

ทันใดนั้นสายลมที่พัดแรงเป็นอย่างมากก็ดังเข้าหูของเขา

เขาเห็นใบมีดลมหลายใบปลิวมาจากด้านข้าง

 ใบมีดลมเหล่านี้ช่างเฉียบคมและรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง

เสือฟ้ามืดคำรามและยกกรงเล็บของมันเพื่อตะปบใบมีดลม

แต่มันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อย แม้ว่าใบมีดลมจะปลิวออกไปแล้วก็ตาม

แต่บาดแผลก็ถูกทิ้งไว้บนเล็บของมัน

เต๋าซุน หันหน้าไปทางทางศาลาและพูดอย่างเย็นชา"พวกเจ้ากำลังรอข้าอยู่สินะ?"

“นายน้อย เจ้าเป็นคุณชายสูงศักดิ์ที่ช่างขี้ลืมนัก” ชายชราพูดด้วยรอยยิ้ม

“นายน้อยลืมทุกสิ่งที่ทำไว้ในภูมิเชิงหัวแล้วหรือ ?”

  "เจ้าคือพวกไหน?" เต๋าซุน ขมวดคิ้วเล็กน้อยและรอคำพูดต่อไปของชายชรา

“ข้ามาจากดินแดนพรหม” ชายชรากล่าวตอบ

  “เป็นพวกนักบวชนี่เอง” เต๋าซุนโต้ตอบทันที

แม้ว่านักบวชจะเป็นผู้ถือศีลของอาณาจักรพุทธ

 แต่ก่อนที่เขาจะเข้าสู่อาณาจักรพุทธ เขาก็เคยเป็นลูกศิษย์ของดินแดนพรหม

ดินแดนพรมไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่เพราะได้รับการสนับสนุนจากอาณาจักรพุทธ

 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาจึงแข็งแกร่งขึ้นและกลายเป็นผู้นำในหมู่กองกำลังชั้นหนึ่ง

 “เจ้ามาที่นี่เพื่อแก้แค้นให้เขารึ ?” เต๋าซุนถามด้วยรอยยิ้ม

“แต่ข้าก็ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นถึงบุตรแห่งสวรรค์ของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์” ชายชราพูดเบา ๆ และหรี่ตาลงเล็กน้อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด