ตอนที่ 315
ตอนที่ 315
“ท่านผู้นำนิกายเซียว” มีคนตะโกนจากด้านล่าง
ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่าผู้นำนิกายเซียวยืนอยู่ตรงหน้าทุกคน ณ จุดหนึ่ง
เขาโบกมือขวา และพลังจิตวิญญาณในท้องฟ้าก็ควบแน่นขึ้นก่อตัวเป็นโล่สีน้ำเงินห่อหุ้มทุกคนไว้
จากนั้นการโจมตีของเต๋าซุนก็ใกล้เข้ามา และ เสียงระเบิด "บูม" ก็ดังขึ้นอีกครั้งในความว่างเปล่า
สวรรค์และโลกทั้งหมดก็ราวกับจะจมลึกลงไปในความว่างเปล่า
เต๋าซุนมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสนใจด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก
การโจมตีสิ้นสุดลงแล้ว และโล่ที่อยู่รอบๆผู้นิกายเซียวก็แตกออกเป็นชิ้นๆ
ทุกคนไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย แต่พวกเขาทั้งหมดก็คุกเข่าอยู่ในอากาศและหายใจถี่ออกมาเท่านั้น
“เอาล่ะ การประลองนี้จบแล้ว” ผู้นำนิกายเซียวพูดอย่างสงบด้วยท่าทางไม่แยแส
เขาก้มหัวลงและมองมือขวาของเขาที่รู้สึกด้านชาเล็กน้อย
แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นบาดเจ็บ แต่การโจมตีของนักรบที่อยู่ระดับ 6 นั้นสามารถทำให้นักรบระดับ 8 รู้สึกเหน็บชาได้ยังไงกัน
ยิ่งไปกว่านั้น เขานั้นยังตระหนักได้อีกด้วยว่า เต๋าซุนยังไม่ได้ใช้ร่างนักรบลำดับที่หนึ่งด้วยซ้ำ
เรื่องแบบนี้แปลกประหลาดเกินไป !!
“ข้านี่แหละคือคนที่เป็นจักรพรรดิแห่งยุคนี้” เขาพึมพำด้วยเสียงต่ำ
“ท่านทำเช่นนี้หมายความเช่นไร” เต๋าซุน พูดพร้อมกับส่ายหัว
“ผู้นำนิกายเซียว การแทรกแซงการประลองระหว่างศิษย์นั้นถือว่าเป็นการละเมิดกฏของนิกายไม่ใช่รึ”
“แต่กฎของนิกายนั้นก็ไม่อนุญาตให้เกิดการสังหารขึ้นระหว่างการประลอง ” ผู้นิกายเซียวกล่าวอย่างใจเย็น
“มันย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วที่การต่อสู้จะเกิดการพลั้งพลาดฆ่ากันตายบ้าง” เต๋าซุน ยิ้มและตอบ
“ยังไงเสียพวกเขาก็เป็นฝ่ายที่ท้าทายข้า ดังนั้นพวกเขาสมควรต้องชดใช้ ”
“เจ้าหมายความว่าไง?” ผู้นำนิกายเซียวถามพร้อมขมวดคิ้ว
“เอาเช่นนี้ ข้าจะไม่ขออะไรมากเกินไป เพียงแค่ให้พวกเขารับหมัดข้าคนละหมัดก็พอ ” เต๋าซุนตอบ
“นั่นคือราคาที่พวกเขาต้องจ่าย”
“การแข่งขันนี้จบลงแล้ว ไม่จำเป็นต้องต่อสู้กันอีกต่อไป” ผู้นำนิกายเซียวตอบ
"เจ้าคือผู้ชนะแล้ว"
“นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับชัยชนะหรือความพ่ายแพ้” เต๋าซุนกล่าวพร้อมส่ายหัว
“ข้าเพียงแค่ต้องการเรียกร้องสิทธิ์ที่ข้าควรได้รับในฐานะบุตรแห่งสวรรค์เท่านั้น
ข้าต้องกำหราบพวกเขาให้รู้ซึ้งว่าใครกันแน่ที่ควรอยู่สูงกว่า "
ผู้นำนิกายเซียวเงียบไปครู่หนึ่ง เขานั้นไม่สามารถปฏิเสธกฏที่มีไว้เพื่อรักษาเกียรติของบุตรแห่งสวรรค์ได้
ก่อนที่บุตรแห่งสวรรค์จะเติบโตเต็มที่ ไม่ว่าศิษย์คนไหนก็ไม่อาจแตะต้องหรือดูถูกได้
เดิมทีไม่มีใครสนใจเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เมื่อเต๋าซุนหยิบยกมันขึ้นมา มันก็ทำให้เขาตัดสินใจได้ยากลำบากอย่างแท้จริง
เขามองไปที่ เต๋าเสี่ยวโม่ ด้านล่างโดยหวังว่าอีกฝ่ายจะช่วยเหลือเขา
แต่ เต๋าเสี่ยวโม่ นั้นกับก้มหน้าลงและเมินเฉย
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของบุตรแห่งสวรรค์ และในฐานะพ่อแล้ว ก็เป็นธรรมดาที่เขาจะเข้าข้างลูกชายของตัวเอง
-
“แค่สั่งสอนบทเรียนเท่านั้นพอ เข้าใจหรือไม่” ในที่สุดผู้นำนิกายเซียวก็ถอนหายใจและยอมถอยหนึ่งก้าว
เต๋าซุน ยิ้มและเดินไปหาศิษย์สายตรงเหล่านั้นทีละก้าว
ทุกคนไม่กลัวและเงยหน้าขึ้นมอง เต๋าซุน
“พวกเจ้าถือว่าโชคดีไปที่ตอนนี้เราอยู่ในนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์” เต๋าซุน ยิ้ม
เขาเหยียบเซียงเฉียนเหิงติดกับพื้น
จากนั้นก็ไม่สุภาพกับคนอื่นเช่นนั้น และไล่เหยียบหน้าทีละคน
จนะกระทั่งเหลืองเพียงเจียงซีเอ๋อเท่านั้น เขาก็เดินมาหยุดตรงหน้านาง
เขาคว้าคอของอีกฝ่ายและยกขึ้นโดยตรง
“จริงๆแล้วข้านั้นก็ถือว่าใจดีมากไม่น้อย ไม่งั้นเจ้ากับอาจารย์ของเจ้าคงได้ไปอยู่ในนรกตั้งนานแล้ว”
เต๋าซุนพูดและจับอีกฝ่ายฟาดลงกับพื้นเวทีโดยตรง
ร่างของเจียงซีเอ๋อก็กระแทกเข้ากับเวทีประลอง และเวทีครึ่งหนึ่งก็พังลงทันที
เสื้อผ้าที่ขาวราวกับหิมะของนางเต็มไปด้วยเลือด และร่างของนางก็จมอยู่บนกองเลือดของตนเอง
เต๋าซุนเงยหน้าขึ้นและมองไปยังศิษย์ทั้งหมดของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์
ศิษย์เหล่านี้ก็หวาดกลัวเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นและมองตรงเข้าไปในดวงตาของเขา
“บุตรแห่งสวรรค์จงเจริญ!”
โดยไม่รู้ว่าใครตะโกน แต่เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ท้องฟ้าก็เริ่มเต็มไปเสียงเชียร์อย่างเร่าร้อน
ชื่อของเต๋าซุนถือได้ว่าโด่งดังไปทั่วทั้งนิกาย
แม้แต่ในหมู่ศิษย์สายตรง เมื่อชื่อของเขาถูกเอ่ยถึง ทุกคนก็ล้วนแต่ต้องเงียบ
เขาสามารถเอาชนะลูกศิษย์สายตรงเกือบทั้งหมดพร้อมกันได้ด้วยตัวคนเดียว !!
หากไม่ใช่เพราะผู้นำนิกายหยุดยั้งไว้ในวันนี้ล่ะก็ เกรงว่าคงยากที่พวกเขาจะรอดชีวิตไปได้
-
พิธีการประลองก็สิ้นสุดลง และหลายๆ คนต่างก็รู้สึกหนักใจ
นี่คือโอกาสที่จะสร้างชื่อให้กับตัวเองแท้ๆ
แต่หลังจากทุกอย่างจบลง พวกเขาก็พบว่ามีเพียงชื่อของเต๋าซุนเท่านั้นที่ฝังลึกอยู่ในหัวพวกเขา
ส่วนพวกเขานั้นหาได้มีอะไรเลยไม่
ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดในการประลองนั้นเป็นเพียงเส้นทางที่ปูไว้ให้เต๋าซุนในศึกสุดท้ายเท่านั้น
และสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือการประลองรอบสุดท้ายนั้นกลับเป็นการต่อสู้เพียงฝ่ายเดียว
ฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่มีโอกาสตอบโต้แม้แต่น้อย
“บุตรแห่งสวรรค์ของเราแข็งแกร่งเพียงนี้แล้วรึ ?” หลายคนก็ถามกับตัวเอง
-
หลังจากสิ้นสุดกระประลอง เต๋าซุนก็กลับมาที่ยอดเขาเดียวดาย
พรุ่งนี้เขาจะออกจากนิกาย และออกเดินทางไปตามลำพัง
ก่อนออกเดินทาง เขาได้เด็ดใบไม้แห่งชีวิตจากต้นไม้แห่งชีวิต
และมอบบางส่วนให้กับ พ่อแม่ ปางซู เสี่ยวกุ้ยจื่อ และเหยาเซิงหนาน
เต๋าเสี่ยวโม่เองก็ยอมรับมันด้วยรอยยิ้ม และไม่ได้ถามอะไร
ทุกคนล้วนมีความลับของตัวเอง
เขานั้นภูมิใจเป็นอย่างมากกับความสำเร็จในปัจจุบันของลูกชายตัวเอง
มีเพียงแม่ของเขาเท่านั้นที่บ่นเล็กน้อย และบอกให้เขาระวังตอนที่ออกไปข้างนอก
จะมีพิธียิ่งใหญ่จัดขึ้นที่บ้านของปู่ของเขายังทวีปเหนือในอีกหนึ่งปีต่อมา
เช้าวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าสีเทาก็เริ่มมืดลง
เต๋าซุนออกจากนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์โดยขี่เสือฟ้ามืด
ท้องฟ้าสดใสและมีฝนตกปรอยๆอยู่ข้างนอก
เต๋าซุนเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่มีฝนตกปรอยๆ
-
ขณะที่เขาเดินไปตลอดทาง ท้องฟ้าก็สว่างขึ้นเรื่อยๆ
แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่มีเมฆมาก จึงทำให้รู้สึกหดหู่ใจอยู่เสมอ
เสือฟ้ามืดเดินช้าๆ บนถนนที่เต็มไปด้วยโคลน ไม่นานเขาก็เดินผ่านศาลา
และเต๋าซุนก็ได้ยินเสียงเปียโนอันไพเราะ
เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นชายชรากับหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ในศาลาข้างๆ
หญิงสาวเล่นเปียโนด้วยมือเปล่า เสียงเปียโนไพเราะราวกับสายน้ำไหลใต้สะพานเล็กๆ และทำนองก็ช่างเสนาะหู
ชายชราถือไม้เท้ายาวอยู่ในมือและเช็ดไม้ในมืออย่างระมัดระวัง
เมื่อเห็นการมาถึงของเต๋าซุน ชายชราก็เงยหน้าขึ้นและหรี่ตาลง แต่ก็ไม่พูดอะไร
“น่าสนใจ” เต๋าซุนยิ้มด้วยความสนใจ
เสือฟ้ามืดยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
ทันใดนั้นสายลมที่พัดแรงเป็นอย่างมากก็ดังเข้าหูของเขา
เขาเห็นใบมีดลมหลายใบปลิวมาจากด้านข้าง
ใบมีดลมเหล่านี้ช่างเฉียบคมและรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง
เสือฟ้ามืดคำรามและยกกรงเล็บของมันเพื่อตะปบใบมีดลม
แต่มันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อย แม้ว่าใบมีดลมจะปลิวออกไปแล้วก็ตาม
แต่บาดแผลก็ถูกทิ้งไว้บนเล็บของมัน
เต๋าซุน หันหน้าไปทางทางศาลาและพูดอย่างเย็นชา"พวกเจ้ากำลังรอข้าอยู่สินะ?"
“นายน้อย เจ้าเป็นคุณชายสูงศักดิ์ที่ช่างขี้ลืมนัก” ชายชราพูดด้วยรอยยิ้ม
“นายน้อยลืมทุกสิ่งที่ทำไว้ในภูมิเชิงหัวแล้วหรือ ?”
"เจ้าคือพวกไหน?" เต๋าซุน ขมวดคิ้วเล็กน้อยและรอคำพูดต่อไปของชายชรา
“ข้ามาจากดินแดนพรหม” ชายชรากล่าวตอบ
“เป็นพวกนักบวชนี่เอง” เต๋าซุนโต้ตอบทันที
แม้ว่านักบวชจะเป็นผู้ถือศีลของอาณาจักรพุทธ
แต่ก่อนที่เขาจะเข้าสู่อาณาจักรพุทธ เขาก็เคยเป็นลูกศิษย์ของดินแดนพรหม
ดินแดนพรมไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่เพราะได้รับการสนับสนุนจากอาณาจักรพุทธ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาจึงแข็งแกร่งขึ้นและกลายเป็นผู้นำในหมู่กองกำลังชั้นหนึ่ง
“เจ้ามาที่นี่เพื่อแก้แค้นให้เขารึ ?” เต๋าซุนถามด้วยรอยยิ้ม
“แต่ข้าก็ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นถึงบุตรแห่งสวรรค์ของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์” ชายชราพูดเบา ๆ และหรี่ตาลงเล็กน้อย