ตอนที่ 2 สังหารตัวเอกคนแรก
ตอนที่ 2 สังหารตัวเอกคนแรก
เขายังไม่แน่ใจอยู่ดี
เพราะอาจมีวิทยายุทธหนึ่งหรือสองกระบวนท่าที่ออกท่าทางเริ่มต้นคล้ายไท่จี๋ก็ได้
“แต่น่าเสียดาย เพราะเจ้าสมควรถูกทรมานก่อนค่อยตาย”
“เฮ้!” ตอนนี้ขันทีเฒ่าที่อยู่ในหอไตรได้ยินเสียงดังจึงรีบออกมาตรวจสอบ
เมื่อเห็นคราบเลือดลากเป็นรอยยาวลงจากผนังและไม่เห็นสัญญาณการกระเพื่อมหน้าอกของขันทีหนุ่ม ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็ถูกความเย็นยะเยือกเกาะกุม
“นี่ นี่ นี่มัน...” เขาอยากจะกรีดร้องโดยสัญชาตญาณ ทว่าเสียงที่เพิ่งพุ่งมาถึงลำคอของเขาหยุดลงทันที
เพราะป้ายวิหคดำถูกยื่นมาต่อหน้าต่อตาขันทีเฒ่า
ขันทีเฒ่าจำสัญลักษณ์นี้ได้และความตื่นตระหนกกลับมาหาเขาอีกรอบ
“ข้าน้อยหลี่เต๋อไฉคารวะใต้เท้ารองผู้บัญชาการขอรับ”
เขาทำความเคารพด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ
“อืม” ซูอันเก็บป้ายวิหคดำแล้วชี้ไปที่ศพขันทีหนุ่มพลางเอ่ย “มันผู้นี้พูดจาดูหมิ่นพระเกียรติของฝ่าบาท ข้าจึงสังหารมันแล้ว เจ้าจัดการศพด้วย”
ซูอันมีตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการหน่วยวิหคดำ ซึ่งในจำนวนหน่วยวิหคดำทั้งมวลจะมีแปดองครักษ์วิหคดำระดับสูงคอยคุ้มครองใกล้ชิดจักรพรรดินี ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในแปดองครักษ์วิหคดำกลุ่มนั้นและเขายังเป็นองครักษ์ชายเพียงหนึ่งเดียวอีกด้วย
แน่นอนว่าพลังวิญญาณเขาอ่อนแอที่สุดในบรรดาองครักษ์ทั้งแปด แต่เขามีทักษะยอดเยี่ยมในด้านการพูดเอาใจเจ้านาย
จักรพรรดินีจึงประทานตำแหน่งนี้แก่เขาเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าและออกวังหลวง
เมื่ออธิบายให้ขันทีเฒ่าฟังแล้วเขาก็เดินจากไปทันที
แต่ทันใดนั้นร่างกายของเขาสั่นสะท้าน
[ติ๊ง! ตรวจพบว่าโฮสต์สังหารตัวเอกคนแรก แย่งชิงส่วนหนึ่งของผลเต๋าอายุยืน เปิดใช้งานระบบตัวร้าย]
เสียงจักรกลหญิงเสียงหนึ่งดังขึ้นในจิตใต้สำนึกของซูอัน
ระบบ!
โอ๊ะโอ เขามีระบบด้วย
ซูอันรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาทันที
ดวงตาของเขาเหลือบมองไปที่ร่างขันทีหนุ่มซึ่งแน่นิ่งไปแล้วโดยอัตโนมัติ
ไม่น่าแปลกใจที่ขันทีหนุ่มกล้าพูดจาดูหมิ่นจักรพรรดินี แท้จริงก็เป็นตัวเอกคนหนึ่ง
และ…ผลเต๋าอายุยืน
หมายความว่าตัวเอกขันทีคนนี้มีอายุยืนสินะ
และหมายความว่าโลกนี้มีตัวเอกมากกว่าหนึ่งคนหรือ? มันเป็นโลกที่มีตัวเอกแฝงอยู่ทุกมุมหรือไม่?
แล้วเขาบังเอิญสังหารตัวเอกพอดีสินะ?
มิหนำซ้ำยังเป็นตัวเอกอายุยืนด้วย?
ขอบเขตก่อกำเนิดคงอยู่ได้นานถึงสองร้อยปี!
ซูอันแทบไม่อยากจะเชื่อเลย
ฮิ~
เลือกฆ่าได้ดีจริง!
เขาไม่เพียงเปิดใช้งานระบบให้ตัวเองเท่านั้น แต่ยังได้รับของขวัญผลเต๋าอายุยืนอีกด้วย เจ้าขันทีหนุ่มคนนี้เป็นคนดีมาก!
แม้ว่าข้าไม่รู้จักชื่อของเจ้า แต่ข้าจะจดจำการมีส่วนร่วมของเจ้าในครั้งนี้แล้วกัน
ซูอันมองร่างของขันทีหนุ่มและแสดงความขอบคุณในใจ จากนั้นจึงหันหลังและเดินจากไป
ถ้าทุกเหตุการณ์ดำเนินไปตามเส้นเรื่องเดิม
ตัวเอกขันทีคนนี้ควรแฝงตัวอยู่ในหอไตรและค่อยๆ สะสมความแข็งแกร่งจากการหว่านล้อมบรรดานางสนมหรือเชื้อพระวงศ์อื่นๆ จากนั้นจึงก่อเหตุปลุกปั่นปัญหาในวังหลวง
ยิ่งไปกว่านั้นคือตัวเอกขันทีกล้าพูดจาดูหมิ่นจักรพรรดินีทั้งที่ยังไม่แข็งแกร่งพอด้วยซ้ำ หากปล่อยให้ถึงวันที่ขันทีหนุ่มแข็งแกร่งขึ้นจริงๆ เกรงว่าจะกลายเป็นหายนะ
น่าเสียดายที่ซูอันมาพบเข้าเสียก่อนจึงทำให้เขาถูกฝ่ามืดซัดจนเสียชีวิตก่อนจะได้รุ่งโรจน์
แน่นอนว่าตัวเอกที่ตายไปแล้วเป็นตัวเอกที่ดี
ขณะนี้มีแผงควบคุมโปร่งใสปรากฏขึ้นต่อหน้าของซูอัน
[ระบบตัวร้าย]
โฮสต์ : ซูอัน
พลังวิญญาณ : ขอบเขตก่อกำเนิดขั้นกลาง
วิทยายุทธเสินทง : เคล็ดวิชาชี่หลอมโจวเทียน, เคล็ดวิชากระบี่ต้าโจวเทียน, เคล็ดวิชามุทราเจินเสวียน
สูตรโกง : ผลเต๋าอายุยืน, อายุยืนยาวไม่จำกัด (ดรอปจากการสังหารตัวเอก)
ความพิเศษ : รัศมีตัวร้าย (ทำให้โฮสต์มีภูมิต้านทานต่อรัศมีของตัวเอก)
คะแนนตัวร้าย : 900
ระบบร้านค้า : ยังไม่เปิดใช้งาน (เปิดเมื่อคะแนนตัวร้ายถึง 1000)
เป็นอินเตอร์เฟซของระบบที่เรียบง่ายมาก
คะแนนตัวร้ายเก้าร้อยได้รับจากการสังหารตัวเอกขันทีเมื่อครู่นี้
ถึงอย่างไรก็เป็นตัวเอกคนหนึ่ง เหตุใดจึงมีค่าแค่เก้าร้อย?
ยังไม่พอให้เปิดระบบร้านค้าด้วยซ้ำ
[โฮสต์ คะแนนของตัวเอกก็เพิ่มขึ้นทีละขั้นเช่นกัน ตัวเอกที่โฮสต์สังหารเพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้นจึงถูกสังหารโดยง่าย โฮสต์จึงได้รับคะแนนตัวร้ายไม่มาก]
ระบบตอบกลับ
ปรากฏว่าเป็นเช่นนั้น ซูอันรู้สึกผิดหวังเมื่อได้ยินคำตอบ
แต่ถ้าให้โอกาสเขาอีกครั้ง เขายังเลือกที่จะสังหารขันทีหนุ่มตอนนี้อยู่ดี
เพราะถ้าพวกตัวเอกได้รับโอกาสจะสามารถก้าวหน้าได้รวดเร็วมาก และเขาไม่มีทุนให้เสีย
หลังจากสังหารตัวเอกไปคนหนึ่งแล้วซูอันจึงมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะตัวเอกไม่ได้เป็นอมตะเสมอไป และตราบใดที่เขาแข็งแกร่งพอ รัศมีตัวเอกก็ไร้ประโยชน์
……
ซูอันยืนรออยู่ด้านหน้าพระตำหนักไท่หยวน
รอเพียงไม่นานก็มีสตรีในอาภรณ์สีเขียวนางหนึ่งเดินออกมาแล้วพยักหน้าเบาๆ ให้ซูอันพลางเอ่ย
“เชิญตามข้ามา”
“ขอบคุณพี่ชิงหลิง” ซูอันกล่าวขอบคุณนางแล้วรีบติดตามไปทันที
พระตำหนักไท่หยวนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมจางๆ มีเตียงไม้ขนาดใหญ่ปูด้วยผ้าตั้งอยู่ในพระตำหนัก ปรากฏสตรีงดงามในชุดคลุมยาวลายวิหคดำนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียง เท้าของนางเปลือยเปล่าเหยียบบนพื้นปูด้วยผ้าทอราวกับหยกชั้นยอด
ข้างกายมีสตรีในอาภรณ์สีแดงท่าทางอ่อนโยนยืนอยู่ ชื่อของนางคือหงเสาและนางเป็นนางกำนัลคนสนิทของจักรพรรดินีเหมือนชิงหลิง
เรียกได้ว่าเป็นองครักษ์ซ้ายและขวาไม่ต่างจากสองขุนพลเฮิงฮา [1]
พระตำหนักไท่หยวนแห่งนี้เป็นสถานที่ส่วนตัวของจักรพรรดินีและเป็นสถานที่ฝึกตน ภายในพระตำหนักมีการแกะสลักกระบวนท่าต่างๆ ไว้จึงไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้ามา
ส่วนซูอัน...ถือเป็นคนโปรดอย่างแท้จริง
ราชวงศ์นี้มีความแตกต่างจากราชวงศ์ก่อน เพราะจักรพรรดินีไม่จำเป็นต้องตรวจฎีกา สิ่งที่ต้องทำคือออกว่าราชการใหญ่ประจำเดือนและประจำปีเท่านั้น ขอเพียงเข้าใจทิศทางทั่วไปก็พอ ส่วนงานบริหารส่วนใหญ่เป็นหน้าที่ของอัครมหาเสนาบดีร่วมหารือกับเหล่าขุนนาง จากนั้นคณะที่ปรึกษาของจักรพรรดินีมีหน้าที่ออกคำสั่งทางการเมือง
หากจักรพรรดินีประสงค์ฝึกตนก็สามารถงดออกว่าราชการได้ทุกเมื่อ
เพราะโลกนี้ความแข็งแกร่งสำคัญที่สุด
หากเป็นราชวงศ์ในชีวิตก่อนของเขากล้าทำเช่นนี้ โดยธรรมชาติแล้วพลังอำนาจจะถดถอย แต่มันเป็นเรื่องปกติในโลกแฟนตาซี
มีผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์คอยปราบปรามและมีองครักษ์วิหคดำคอยจับตามองพวกขุนนางหลายร้อยคน ซึ่งองครักษ์วิหคดำเป็นเครื่องย้ำเตือนเสมอว่าใครก็ตามที่กล้าใช้กลอุบายแม้เพียงเล็กน้อยต่อจักรพรรดินี จะต้องชดใช้ด้วยชีวิต
จงหยุดความคิดของเจ้าซะ
ซูอันแค่เหลือบมองสตรีนางนั้นแวบเดียวแล้วรีบก้มหน้าลง “กระหม่อมขอถวายพระพรฝ่าบาท”
สตรีบนเตียงมีท่วงท่าสูงส่งและแสดงออกอย่างเกียจคร้าน นัยน์ตาฉายแววขี้เล่นออกมา “เสี่ยวอันจื่อ ปกติเจ้ามักจะหลีกเลี่ยงเจิ้น แล้วเหตุใดวันนี้เจ้ามาหาเจิ้นเองเล่า”
มุมปากของซูอันกระตุก เพราะฉายาเสี่ยวอันจื่อฟังเหมือนขันทีและเขาทำได้แค่ประท้วงในใจเพราะไม่กล้าพูดออกไปด้วยกลัวจะถูกทุบตี
เขาถูกจักรพรรดินีทุบตีมาตั้งแต่เด็กและทุกครั้งที่เขาได้เข้าเฝ้าจักรพรรดินี เขามักจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหนูเจอแมว
“ปกติฝ่าบาทยุ่งอยู่กับราชกิจ กระหม่อมจึงไม่กล้ารบกวนพ่ะย่ะค่ะ” ซูอันแก้ตัว
“โอ้ จริงหรือ?” จักรพรรดินีนั่งเอามือข้างหนึ่งเท้าคางไว้พลางเอ่ยด้วยท่าทางเกียจคร้าน บ่งบอกว่าไม่เชื่อ
“บอกมาเถอะ วันนี้เจ้ามาหาเจิ้นด้วยเหตุใด?”
“ทูลฝ่าบาท เมื่อวานนี้กระหม่อมบุกยึดบ้านเยี่ยเต๋อเฉิงและตอนนี้บุตรสาวคนเดียวของเยี่ยเต๋อเฉิงอยู่ในจวนของกระหม่อม…” ซูอันทูลรายงานตามจริง
“ความผิดของตระกูลเยี่ยก็สมควรถูกยึดบ้านและฆ่าล้างตระกูลแล้ว” ดวงตาของจักรพรรดินีหรี่ลงเล็กน้อยขณะรอซูอันพูดต่อ
“แต่บุตรสาวตระกูลเยี่ยมีกายอินบริสุทธิ์ กระหม่อมจึงคิดว่า...” เมื่อพูดถึงประโยคนี้ซูอันก็หยุดพูด แต่ความหมายของคำต่อไปนั้นชัดเจนว่าเขาอยากเก็บนางไว้เป็นเตาหม้อ
“โอ้ ค้นพบกายอินบริสุทธิ์เลยหรือ ตระกูลเยี่ยช่างปกปิดได้ดีนัก!”
นิ้วเรียวงามเคาะบนโต๊ะ นัยน์ตาลึกล้ำดุจรัตติกาลยากแท้หยั่งถึง
แม้กำลังเอ่ยถึงตระกูลเยี่ย แต่สายตากลับพุ่งไปที่ซูอันตรงเบื้องหน้า
“เสี่ยวอันจื่อ เงยหน้าขึ้นสิ”
ซูอันเงยหน้าขึ้นตามคำสั่งและใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาไม่หลบเลี่ยงจักรพรรดินี กระนั้นระดับสายตาของเขาลดลงเล็กน้อยโดยไม่ได้มองไปที่จักรพรรดินีตรงๆ
“ขอบเขตก่อกำเนิดของเจ้าค่อนข้างอ่อนแอ...” จักรพรรดินีลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “เช่นนั้นยกบุตรสาวตระกูลเยี่ยเป็นรางวัลแก่เจ้าแล้วกัน”
เชิงอรรถ
[1] สองขุนพลเฮิงฮา (哼哈二将) คือ เทพารักษ์รักษาประตูวัดตามประวัติศาสตร์ของจีน