ตอนที่แล้วตอนที่ 1 เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นใคร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 เยี่ยหลีเอ๋อร์ในห้องลับ

ตอนที่ 2 สังหารตัวเอกคนแรก


ตอนที่ 2 สังหารตัวเอกคนแรก

เขายังไม่แน่ใจอยู่ดี

  

เพราะอาจมีวิทยายุทธหนึ่งหรือสองกระบวนท่าที่ออกท่าทางเริ่มต้นคล้ายไท่จี๋ก็ได้

“แต่น่าเสียดาย เพราะเจ้าสมควรถูกทรมานก่อนค่อยตาย”

“เฮ้!” ตอนนี้ขันทีเฒ่าที่อยู่ในหอไตรได้ยินเสียงดังจึงรีบออกมาตรวจสอบ

  

เมื่อเห็นคราบเลือดลากเป็นรอยยาวลงจากผนังและไม่เห็นสัญญาณการกระเพื่อมหน้าอกของขันทีหนุ่ม ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็ถูกความเย็นยะเยือกเกาะกุม

  

“นี่ นี่ นี่มัน...” เขาอยากจะกรีดร้องโดยสัญชาตญาณ ทว่าเสียงที่เพิ่งพุ่งมาถึงลำคอของเขาหยุดลงทันที

  

เพราะป้ายวิหคดำถูกยื่นมาต่อหน้าต่อตาขันทีเฒ่า

  

ขันทีเฒ่าจำสัญลักษณ์นี้ได้และความตื่นตระหนกกลับมาหาเขาอีกรอบ

“ข้าน้อยหลี่เต๋อไฉคารวะใต้เท้ารองผู้บัญชาการขอรับ”

  

เขาทำความเคารพด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ

“อืม” ซูอันเก็บป้ายวิหคดำแล้วชี้ไปที่ศพขันทีหนุ่มพลางเอ่ย “มันผู้นี้พูดจาดูหมิ่นพระเกียรติของฝ่าบาท ข้าจึงสังหารมันแล้ว เจ้าจัดการศพด้วย”

  

ซูอันมีตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการหน่วยวิหคดำ ซึ่งในจำนวนหน่วยวิหคดำทั้งมวลจะมีแปดองครักษ์วิหคดำระดับสูงคอยคุ้มครองใกล้ชิดจักรพรรดินี ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในแปดองครักษ์วิหคดำกลุ่มนั้นและเขายังเป็นองครักษ์ชายเพียงหนึ่งเดียวอีกด้วย

  

แน่นอนว่าพลังวิญญาณเขาอ่อนแอที่สุดในบรรดาองครักษ์ทั้งแปด แต่เขามีทักษะยอดเยี่ยมในด้านการพูดเอาใจเจ้านาย

  

จักรพรรดินีจึงประทานตำแหน่งนี้แก่เขาเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าและออกวังหลวง

  

เมื่ออธิบายให้ขันทีเฒ่าฟังแล้วเขาก็เดินจากไปทันที

  

แต่ทันใดนั้นร่างกายของเขาสั่นสะท้าน

  

[ติ๊ง! ตรวจพบว่าโฮสต์สังหารตัวเอกคนแรก แย่งชิงส่วนหนึ่งของผลเต๋าอายุยืน เปิดใช้งานระบบตัวร้าย]

  

เสียงจักรกลหญิงเสียงหนึ่งดังขึ้นในจิตใต้สำนึกของซูอัน

  

ระบบ!

โอ๊ะโอ เขามีระบบด้วย

  

ซูอันรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาทันที

ดวงตาของเขาเหลือบมองไปที่ร่างขันทีหนุ่มซึ่งแน่นิ่งไปแล้วโดยอัตโนมัติ

  

ไม่น่าแปลกใจที่ขันทีหนุ่มกล้าพูดจาดูหมิ่นจักรพรรดินี แท้จริงก็เป็นตัวเอกคนหนึ่ง

  

และ…ผลเต๋าอายุยืน

  

หมายความว่าตัวเอกขันทีคนนี้มีอายุยืนสินะ

  

และหมายความว่าโลกนี้มีตัวเอกมากกว่าหนึ่งคนหรือ? มันเป็นโลกที่มีตัวเอกแฝงอยู่ทุกมุมหรือไม่?

  

แล้วเขาบังเอิญสังหารตัวเอกพอดีสินะ?

  

มิหนำซ้ำยังเป็นตัวเอกอายุยืนด้วย?

  

ขอบเขตก่อกำเนิดคงอยู่ได้นานถึงสองร้อยปี!

  

ซูอันแทบไม่อยากจะเชื่อเลย

  

ฮิ~

  

เลือกฆ่าได้ดีจริง!

  

เขาไม่เพียงเปิดใช้งานระบบให้ตัวเองเท่านั้น แต่ยังได้รับของขวัญผลเต๋าอายุยืนอีกด้วย เจ้าขันทีหนุ่มคนนี้เป็นคนดีมาก!

  

แม้ว่าข้าไม่รู้จักชื่อของเจ้า แต่ข้าจะจดจำการมีส่วนร่วมของเจ้าในครั้งนี้แล้วกัน

  

ซูอันมองร่างของขันทีหนุ่มและแสดงความขอบคุณในใจ จากนั้นจึงหันหลังและเดินจากไป

  

ถ้าทุกเหตุการณ์ดำเนินไปตามเส้นเรื่องเดิม

  

ตัวเอกขันทีคนนี้ควรแฝงตัวอยู่ในหอไตรและค่อยๆ สะสมความแข็งแกร่งจากการหว่านล้อมบรรดานางสนมหรือเชื้อพระวงศ์อื่นๆ จากนั้นจึงก่อเหตุปลุกปั่นปัญหาในวังหลวง

  

ยิ่งไปกว่านั้นคือตัวเอกขันทีกล้าพูดจาดูหมิ่นจักรพรรดินีทั้งที่ยังไม่แข็งแกร่งพอด้วยซ้ำ หากปล่อยให้ถึงวันที่ขันทีหนุ่มแข็งแกร่งขึ้นจริงๆ เกรงว่าจะกลายเป็นหายนะ

  

น่าเสียดายที่ซูอันมาพบเข้าเสียก่อนจึงทำให้เขาถูกฝ่ามืดซัดจนเสียชีวิตก่อนจะได้รุ่งโรจน์

  

แน่นอนว่าตัวเอกที่ตายไปแล้วเป็นตัวเอกที่ดี

  

ขณะนี้มีแผงควบคุมโปร่งใสปรากฏขึ้นต่อหน้าของซูอัน

  

[ระบบตัวร้าย]

  

โฮสต์ : ซูอัน

  

พลังวิญญาณ : ขอบเขตก่อกำเนิดขั้นกลาง

  

วิทยายุทธเสินทง : เคล็ดวิชาชี่หลอมโจวเทียน, เคล็ดวิชากระบี่ต้าโจวเทียน, เคล็ดวิชามุทราเจินเสวียน

สูตรโกง : ผลเต๋าอายุยืน, อายุยืนยาวไม่จำกัด (ดรอปจากการสังหารตัวเอก)

  

ความพิเศษ : รัศมีตัวร้าย (ทำให้โฮสต์มีภูมิต้านทานต่อรัศมีของตัวเอก)

  

คะแนนตัวร้าย : 900

  

ระบบร้านค้า : ยังไม่เปิดใช้งาน (เปิดเมื่อคะแนนตัวร้ายถึง 1000)

  

เป็นอินเตอร์เฟซของระบบที่เรียบง่ายมาก

  

คะแนนตัวร้ายเก้าร้อยได้รับจากการสังหารตัวเอกขันทีเมื่อครู่นี้

  

ถึงอย่างไรก็เป็นตัวเอกคนหนึ่ง เหตุใดจึงมีค่าแค่เก้าร้อย?

  

ยังไม่พอให้เปิดระบบร้านค้าด้วยซ้ำ

  

[โฮสต์ คะแนนของตัวเอกก็เพิ่มขึ้นทีละขั้นเช่นกัน ตัวเอกที่โฮสต์สังหารเพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้นจึงถูกสังหารโดยง่าย โฮสต์จึงได้รับคะแนนตัวร้ายไม่มาก]

  

ระบบตอบกลับ

  

ปรากฏว่าเป็นเช่นนั้น ซูอันรู้สึกผิดหวังเมื่อได้ยินคำตอบ

  

แต่ถ้าให้โอกาสเขาอีกครั้ง เขายังเลือกที่จะสังหารขันทีหนุ่มตอนนี้อยู่ดี

  

เพราะถ้าพวกตัวเอกได้รับโอกาสจะสามารถก้าวหน้าได้รวดเร็วมาก และเขาไม่มีทุนให้เสีย

  

หลังจากสังหารตัวเอกไปคนหนึ่งแล้วซูอันจึงมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะตัวเอกไม่ได้เป็นอมตะเสมอไป และตราบใดที่เขาแข็งแกร่งพอ รัศมีตัวเอกก็ไร้ประโยชน์

  ……

ซูอันยืนรออยู่ด้านหน้าพระตำหนักไท่หยวน

  

รอเพียงไม่นานก็มีสตรีในอาภรณ์สีเขียวนางหนึ่งเดินออกมาแล้วพยักหน้าเบาๆ ให้ซูอันพลางเอ่ย

“เชิญตามข้ามา”

“ขอบคุณพี่ชิงหลิง” ซูอันกล่าวขอบคุณนางแล้วรีบติดตามไปทันที

  

พระตำหนักไท่หยวนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมจางๆ มีเตียงไม้ขนาดใหญ่ปูด้วยผ้าตั้งอยู่ในพระตำหนัก ปรากฏสตรีงดงามในชุดคลุมยาวลายวิหคดำนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียง เท้าของนางเปลือยเปล่าเหยียบบนพื้นปูด้วยผ้าทอราวกับหยกชั้นยอด

  

ข้างกายมีสตรีในอาภรณ์สีแดงท่าทางอ่อนโยนยืนอยู่ ชื่อของนางคือหงเสาและนางเป็นนางกำนัลคนสนิทของจักรพรรดินีเหมือนชิงหลิง

  

เรียกได้ว่าเป็นองครักษ์ซ้ายและขวาไม่ต่างจากสองขุนพลเฮิงฮา [1]

  

พระตำหนักไท่หยวนแห่งนี้เป็นสถานที่ส่วนตัวของจักรพรรดินีและเป็นสถานที่ฝึกตน ภายในพระตำหนักมีการแกะสลักกระบวนท่าต่างๆ ไว้จึงไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้ามา

  

ส่วนซูอัน...ถือเป็นคนโปรดอย่างแท้จริง

  

ราชวงศ์นี้มีความแตกต่างจากราชวงศ์ก่อน เพราะจักรพรรดินีไม่จำเป็นต้องตรวจฎีกา สิ่งที่ต้องทำคือออกว่าราชการใหญ่ประจำเดือนและประจำปีเท่านั้น ขอเพียงเข้าใจทิศทางทั่วไปก็พอ ส่วนงานบริหารส่วนใหญ่เป็นหน้าที่ของอัครมหาเสนาบดีร่วมหารือกับเหล่าขุนนาง จากนั้นคณะที่ปรึกษาของจักรพรรดินีมีหน้าที่ออกคำสั่งทางการเมือง

  

หากจักรพรรดินีประสงค์ฝึกตนก็สามารถงดออกว่าราชการได้ทุกเมื่อ

  

เพราะโลกนี้ความแข็งแกร่งสำคัญที่สุด

  

หากเป็นราชวงศ์ในชีวิตก่อนของเขากล้าทำเช่นนี้ โดยธรรมชาติแล้วพลังอำนาจจะถดถอย แต่มันเป็นเรื่องปกติในโลกแฟนตาซี

  

มีผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์คอยปราบปรามและมีองครักษ์วิหคดำคอยจับตามองพวกขุนนางหลายร้อยคน ซึ่งองครักษ์วิหคดำเป็นเครื่องย้ำเตือนเสมอว่าใครก็ตามที่กล้าใช้กลอุบายแม้เพียงเล็กน้อยต่อจักรพรรดินี จะต้องชดใช้ด้วยชีวิต

  

จงหยุดความคิดของเจ้าซะ

  

ซูอันแค่เหลือบมองสตรีนางนั้นแวบเดียวแล้วรีบก้มหน้าลง “กระหม่อมขอถวายพระพรฝ่าบาท”

  

สตรีบนเตียงมีท่วงท่าสูงส่งและแสดงออกอย่างเกียจคร้าน นัยน์ตาฉายแววขี้เล่นออกมา “เสี่ยวอันจื่อ ปกติเจ้ามักจะหลีกเลี่ยงเจิ้น แล้วเหตุใดวันนี้เจ้ามาหาเจิ้นเองเล่า”

  

มุมปากของซูอันกระตุก เพราะฉายาเสี่ยวอันจื่อฟังเหมือนขันทีและเขาทำได้แค่ประท้วงในใจเพราะไม่กล้าพูดออกไปด้วยกลัวจะถูกทุบตี

  

เขาถูกจักรพรรดินีทุบตีมาตั้งแต่เด็กและทุกครั้งที่เขาได้เข้าเฝ้าจักรพรรดินี เขามักจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหนูเจอแมว

“ปกติฝ่าบาทยุ่งอยู่กับราชกิจ กระหม่อมจึงไม่กล้ารบกวนพ่ะย่ะค่ะ” ซูอันแก้ตัว

“โอ้ จริงหรือ?” จักรพรรดินีนั่งเอามือข้างหนึ่งเท้าคางไว้พลางเอ่ยด้วยท่าทางเกียจคร้าน บ่งบอกว่าไม่เชื่อ

“บอกมาเถอะ วันนี้เจ้ามาหาเจิ้นด้วยเหตุใด?”

  

“ทูลฝ่าบาท เมื่อวานนี้กระหม่อมบุกยึดบ้านเยี่ยเต๋อเฉิงและตอนนี้บุตรสาวคนเดียวของเยี่ยเต๋อเฉิงอยู่ในจวนของกระหม่อม…” ซูอันทูลรายงานตามจริง

“ความผิดของตระกูลเยี่ยก็สมควรถูกยึดบ้านและฆ่าล้างตระกูลแล้ว” ดวงตาของจักรพรรดินีหรี่ลงเล็กน้อยขณะรอซูอันพูดต่อ

“แต่บุตรสาวตระกูลเยี่ยมีกายอินบริสุทธิ์ กระหม่อมจึงคิดว่า...” เมื่อพูดถึงประโยคนี้ซูอันก็หยุดพูด แต่ความหมายของคำต่อไปนั้นชัดเจนว่าเขาอยากเก็บนางไว้เป็นเตาหม้อ

“โอ้ ค้นพบกายอินบริสุทธิ์เลยหรือ ตระกูลเยี่ยช่างปกปิดได้ดีนัก!”

  

นิ้วเรียวงามเคาะบนโต๊ะ นัยน์ตาลึกล้ำดุจรัตติกาลยากแท้หยั่งถึง

  

แม้กำลังเอ่ยถึงตระกูลเยี่ย แต่สายตากลับพุ่งไปที่ซูอันตรงเบื้องหน้า

“เสี่ยวอันจื่อ เงยหน้าขึ้นสิ”

  

ซูอันเงยหน้าขึ้นตามคำสั่งและใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาไม่หลบเลี่ยงจักรพรรดินี กระนั้นระดับสายตาของเขาลดลงเล็กน้อยโดยไม่ได้มองไปที่จักรพรรดินีตรงๆ

  

“ขอบเขตก่อกำเนิดของเจ้าค่อนข้างอ่อนแอ...” จักรพรรดินีลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “เช่นนั้นยกบุตรสาวตระกูลเยี่ยเป็นรางวัลแก่เจ้าแล้วกัน”

เชิงอรรถ

[1] สองขุนพลเฮิงฮา (哼哈二将) คือ เทพารักษ์รักษาประตูวัดตามประวัติศาสตร์ของจีน

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด