ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 159 วันชี้เป็นชี้ตายศึกตระกูลตงฟาง
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 159 วันชี้เป็นชี้ตายศึกตระกูลตงฟาง
เวลาผ่านไป
หลัวจิ่วเกอบำเพ็ญเพียรไม่หยุดหย่อน
ไม่ว่าจะปรุงโอสถหรือหลอมอาวุธนั้น ต้องใช้ปรมาจารย์เป็นผู้ทำ ต้องใช้สมาธิในการพลิกสูตรตำรับโอสถกลับไปกลับมา ยังต้องมีการทดลองนับครั้งไม่ถ้วนอีกด้วย
แต่เพียงเช่นนี้เท่านั้น ถึงจะมีโอกาสเล็กน้อยที่จะวิจัยความลับของโอสถออกมาได้
หากบอกว่ามันยากหรือไม่?
มันยากอย่างแน่นอน
แต่หากทำเพื่ออนาคตของสำนักเภสัชแล้วละก็
เฟิงหลี่ในฐานะจ้าวสำนักเภสัชคนปัจจุบัน ก็พอจะทนความยากลำบากเหล่านี้ได้
อย่างไรก็ตาม สำนักเภสัชนี่ก็เป็นที่ที่เขามองดูมันเติบโตขึ้นทีละก้าว
ให้เขาถอดใจจากสำนักเภสัชเลยตอนนี้เลยงั้นหรือ?
มันเป็นสิ่งที่เขาทำไม่ได้เลย
ทวีปซวนหยวน มณฑลไป่เหอ
ตระกูลตงฟาง
ตระกูลหนานกง
รอยต่อระหว่างขุมอำนาจชั้นนำสองขุมของมณฑลไป่เหอนี้
ณ ขณะนี้ โลหิตสีแดงสดได้ย้อมผืนดินที่นี่ให้กลายเป็นสีโลหิตแล้ว
แม่น้ำโลหิตไหลเพี่ยงพร่างอยู่บนพื้นซากศพ กองเป็นภูเขาสูงลิบลิ่ว
แม้กระทั่ง เมื่อเวลาผ่านไป
ความเข้มข้นของกลิ่นโลหิต ยังดึงดูดสัตว์อสูรกินเนื้อจำนวนมากที่บินวนอยู่บนท้องฟ้า
โดยรอให้มนุษย์แยกย้ายกันไป
จึงจะลงมาบนพื้น กัดกินซากศพที่ค่อย ๆ เน่าเปื่อยเหล่านั้น
และเมื่อมนุษย์ปรากฏตัวขึ้น
พวกสัตว์อสูรก็จะกลับขึ้นไปบนอากาศอีกครั้ง
รอโอกาสที่จะลิ้มรสมื้ออาหารแสนอร่อยครั้งต่อไป
"สังหาร!"
"สังหารมันเดี๋ยวนี้!"
เสียงคำรามเกรี้ยวกราด ดังขึ้นอีกครั้ง
และเมื่อเสียงคำรามเหล่านี้ดังขึ้น ผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนแห่งตระกูลหนานกงนับไม่ถ้วนต่างถาโถมเข้าใส่ที่ตั้งของตระกูลตงฟาง
ส่วนผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนของตระกูลตงฟางที่รักษาพรมแดน
ณ ขณะนี้ เมื่อเห็นศัตรูที่เดินหน้าเข้ามาอย่างไม่จำกัด ไม่มีที่สิ้นสุด ใบหน้าของพวกเขาต่างปรากฏความโศกเศร้า
"หืม?"
"มันมาอีกแล้วหรือ?"
"พวกเราจะหมดกำลังแล้ว"
"ทรัพยากร..."
"ก็หมดไปตั้งแต่ 2 วันก่อนแล้ว"
"ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตระกูลตงฟางของเรา ที่เป็นหนึ่งในขุมอำนาจสูงสุดของมณฑลไป่เหอ จะสูญสลายจากการรุกรานของตระกูลหนานกงศัตรูเก่าของเราในโลกใบนี้เยี่ยงนี้"
บางครั้ง
ผู้สืบทอดตระกูลตงฟางนั้นมีใบหน้าปรากฏความเศร้าโศก
ในใจต่างมีความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นมา
ตระกูลตงฟาง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาเป็นขุมอำนาจชั้นนำที่หยั่งรากอยู่ในมณฑลไป่เหอมาแล้วถึงแสนปี
แต่ปัจจุบัน ตระกูลตงฟาง กลับถูกคู่อริตระกูลหนานกง ทำให้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ไม่ว่าใครเป็นใคร
ในใจ ต่างก็รู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก
เวลาผ่านไป
กลางคืน
พระจันทร์โค้งเสี้ยวลอยอยู่กลางท้องฟ้า
ด้วยสาเหตุของกาลเวลา
ตระกูลหนานกงจึงหยุดการรุกรานลงชั่วคราว
ส่วนตระกูลตงฟาง?
เมื่อเห็นกองทัพผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนจำนวนมหาศาลของตระกูลหนานกงถอยกลับไป ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่ผู้อาวุโสของตระกูลตงฟาง
พวกเขากลับไม่ได้ผ่อนคลายความระมัดระวังเลยแม้แต่น้อยจากการหยุดรุกรานของตระกูลหนานกง
กลับกัน พวกเขาต่างก็รู้สึกวิตกกังวลอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป
ณ ตระกูลตงฟาง
ฐานชายแดน
ณ กระโจมที่จุดเทียนไขเล็ก ๆ
ขณะนี้ ผู้อาวุโสเกือบทั้งหมดของตระกูลตงฟาง ต่างมีปราณชั่วร้ายติดตัวทั้งหมด นั่งอยู่ภายในกระโจมแห่งนี้
ภายในกระโจม ไม่มีใครพูดอะไร
บรรยากาศดูเงียบงัน
"ทุกท่าน"
"สองวันก่อน ทรัพยากรของตระกูลตงฟางของเราหมดลงแล้ว"
"ช่วงนี้ การรุกรานของตระกูลหนานกงยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ"
"ส่วนจ้าวตระกูลก็ยังไม่รู้ว่าจะกลับมาได้เมื่อไร"
"พวกเราตระกูลตงฟาง..."
"อาจจะทนไม่ไหวแล้ว!"
ภายในกระโจม หลังจากที่ทุกคนเงียบไปนาน
ผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลตงฟางคนปัจจุบันที่สวมคลุมเทาและเต็มไปด้วยปราณชั่วร้ายเนื่องจากการสังหารมากมายนั้น
เอ่ยกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความทุกข์โศก เสียงที่แหบแห้งในขณะนี้
และเมื่อผู้อาวุโสใหญ่กล่าวคำพูดเหล่านี้จบ
บรรยากาศ ก็ยิ่งกดดันมากขึ้นไปอีก
แม้ว่าในฐานะผู้อาวุโสของตระกูลตงฟาง พวกเขาต่างก็รู้ดี
หากจ้าวตระกูลกลับมาไม่ทันเวลา
หากจ้าวตระกูลไม่สามารถได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลหลัว
ตระกูลตงฟางก็ต้องสูญสลายไปจากโลกใบนี้แน่นอนภายใต้การรุกรานอย่างบ้าคลั่งของตระกูลหนานกง
แต่ไม่มีใครอยากจะยอมรับเรื่องนี้
แต่ตอนนี้ ประเด็นนี้ถูกผู้อาวุโสใหญ่ยกขึ้นมาพูดแล้ว
นี่ทำให้ความหวังสุดท้ายที่ผู้อาวุโสทั้งหมดของตระกูลตงฟางมีหายไปอย่างสิ้นเชิง
จากนั้น ท้องฟ้าค่อย ๆ สว่างขึ้นทีละน้อย
ตอนนี้ อากาศยังค่อนข้างหนาว
ณ สนามรบ
ข้างซากศพที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นมีสัตว์อสูรรูปร่างแตกต่างกันไปตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่อยู่ตรงนั้น
กำลังกัดกินมื้ออาหารแสนอร่อยที่อยู่ตรงหน้าพวกมัน
มลฑลไป่เหอ
ฐานทัพตระกูลหนานกง
ภายในกระโจมที่มียามคุ้มกันแน่นหนาแห่งหนึ่ง
ผู้อาวุโสทั้งหมดของตระกูลหนานกงต่างมาชุมนุมกันที่นี่ ทุกคนต่างมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าด้วยความยินดี
ดูเหมือนว่ากำลังพูดคุยปรึกษากันอะไรบางอย่าง
"ทุกท่าน"
"ตระกูลตงฟางใช้ทรัพยากรหมดไปแล้ว"
"กองทัพตระกูลตงฟาง ภายใต้การรุกรานของตระกูลหนานกงของเราในช่วงหลายวันมานี้ ก็สูญเสียอย่างมหันต์แล้ว"
"ดังนั้น ข้าจึงตัดสินใจ..."
"วันนี้ ตระกูลตงฟางจะต้องพ่ายแพ้"
"และดินแดนที่ครอบครองโดยตระกูลตงฟาง จะถูกผนวกรวมเข้ากับตระกูลหนานกงของเราอย่างสมบูรณ์"
เสียงไพเราะดังขึ้น
หนานกงอี้ จ้าวตระกูลหนานกงคนปัจจุบัน ที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงสุด
ขณะนี้กำลังแสดงสีหน้ามีความมุ่งมั่น
กล่าวถ้อยคำเหล่านี้
และเมื่อจ้าวตระกูลหนานกงอี้กล่าวจบ
ผู้อาวุโสของตระกูลหนานกง ก็ต่างพากันสนับสนุนความเห็นของจ้าวตระกูลอย่างเป็นเอกฉันท์
ดังนั้น หลังจากที่ผู้อาวุโสของตระกูลหนานกงพากันแสดงจุดยืนจบแล้ว การรุกรานครั้งใหม่ของตระกูลหนานกงก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ ในทันที
ในพริบตา
เวลาผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง
ตอนนี้ท้องฟ้ายิ่งสว่างไสวมากขึ้น ผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนของตระกูลตงฟางจำนวนมาก
ต่างลืมตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงฉานขึ้นมาจากการนอนหลับ
สะบัดความอ่อนล้าออกไปแล้วจับจ้องไปที่กองทัพตระกูลหนานกงด้วยความระมัดระวังอย่างสุดขีด
"พวกท่านว่า..."
"ตระกูลตงฟางของเรายังพอมีความหวังอยู่บ้างหรือไม่?"