ตอนที่แล้วตอนที่ 40 กลับถึงโรงนา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 42 ยามุ่งอำพัน…

ตอนที่ 41 การแข่งขันของฝั่งใต้


ตอนที่ 41 การแข่งขันของฝั่งใต้

สิงจงในปัจจุบันแทบเผยเส้นเลือดขึ้นบนใบหน้า สายตาเริ่มแสดงความดุร้าย ปัจจุบันเขาไม่คิดยั้งมือแม้แต่น้อย แขนขวาทั้งข้างแข็งกลายเป็นหินพร้อมซัดหมัดเข้าใส่จี้เตี๋ยอย่างสุดแรง

ในการต่อสู้เมื่อครู่ แม้ว่าจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างชัดเจน แต่เขาไม่อาจยอมรับ กระทั่งคิดว่าตนเองยังสามารถช่วงชิงความเหนือกว่ากลับมาได้!

กระนั้นจี้เตี๋ยกลับตอบรับด้วยสายตาอันเรียบเฉย ประหนึ่งผู้ใหญ่รับชมเด็กกำลังเล่นสนุกขำขัน สิงจงยิ่งได้เห็นจึงยิ่งรู้สึกราวกับถูกเย้ยหยันจนต้องอับอาย

“รนหาที่!” สายตาของสิงจงเผยอาการโกรธแค้น และเขาเชื่อว่าหมัดนี้จะทำร้ายจี้เตี๋ยจนบาดเจ็บหนักได้

เพราะนับจากเหตุการณ์ครั้งก่อนจนถึงตอนนี้เพิ่งผ่านมาได้เพียงไม่กี่วัน ต่อให้จี้เตี๋ยแข็งแกร่งขึ้น แต่มันจะได้มากสักเพียงไหน?

วูบ! แต่สิ่งที่ตอบรับเขาคือนาคาอัคคีอันน่าสะพรึงตัวหนึ่ง จากจุดเล็กในสายตากลับขยายใหญ่ในชั่วครู่ สุดท้ายร่างหนึ่งที่ลุกโชนด้วยอัคคีกระเด็นออกไปภายนอกโรงนา กระทั่งกลิ้งคลุกฝุ่นไปมาถึงหลายตลบ

เงียบ… รอบด้านเกิดความเงียบสงัด ไม่ว่าศิษย์คนใด รวมถึงอู๋ฮั่นในเวลานี้ก็เงียบเป็นเป่าสาก สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือเหม่อมองจี้เตี๋ย

สิงจงเป็นศิษย์ที่มีชื่อเสียงในยอดเขาสรรพสัตว์ แต่แล้วตอนนี้กลับไม่อาจรับการโจมตีของจี้เตี๋ยได้อย่างนั้นหรือ?!

“ศิษย์พี่จี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว” อู๋ฮั่นพึมพำออกมา ไม่ช้าสายตาจึงเริ่มแสดงความนับถือ เพียงแต่เสียงนี้ที่คล้ายพูดกับตนเองกลับได้ยินกันทุกคน

แต่แล้วก็ตอนนี้เองเช่นกัน ที่เขานึกขึ้นมาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนของผู้อาวุโสเจิ้ง

หากว่าจี้เตี๋ยฆ่าอีกฝ่ายจนตายขึ้นมา เรื่องราวมันจะยิ่งบานปลาย!

แน่นอนว่าจี้เตี๋ยเองก็ทราบ ดังนั้นเมื่อครู่เขาจึงยั้งมือเอาไว้แล้ว และสิงจงที่แม้ร่างกระเด็นออกไปภายนอกก็ไม่ใช่ว่าจะถึงตาย แต่หากจะบอกว่าไม่บาดเจ็บเลยก็คงเป็นไปไม่ได้

เสียงโขลกไอรุนแรงดังออกมาจากกลุ่มฝุ่นที่ตลบ ร่างนั้นพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้นขณะจ้องมองจี้เตี๋ยด้วยความคับแค้น

“ชะตาเจ้าจบสิ้นแล้ว ตอนแรกก็สังหารศิษย์ร่วมสำนัก ตอนนี้ยังทำร้ายข้าจนได้รับบาดเจ็บ ผู้อาวุโสเจิ้งจะไม่มีทางปล่อยเจ้ารอดพ้น!”

“เหอะ…” จี้เตี๋ยมองสิงจงที่พยายามลุกขึ้นยืนด้วยสภาพเส้นผมยุ่งเหยิง สิ่งที่เขาตอบอีกฝ่ายคือเสียงแค่นดังขึ้นจมูก “เจ้าที่เอาแต่กล่าวหาว่าข้าสังหารศิษย์ร่วมสำนัก งั้นข้าขอถามว่ามีหลักฐานใดหรือไม่? หากมีหลักฐานว่าข้าสังหารมัน เช่นนั้นข้าจะยอมรับ!”

“แต่แล้วพวกเจ้าเอาแต่กล่าวอ้างว่าเพราะข้ามีเรื่องกับมัน พอมันหายตัวไปเลยหาว่าข้าเป็นฆาตกรอย่างนั้นหรือ? นี่ใช่การคิดลงโทษแต่ฝ่ายเดียวหรือไม่? หรือคิดว่าผู้อาวุโสจะทรงอำนาจล้นพ้นจนสามารถควบคุมชะตากรรมของศิษย์คนใดก็ได้ตามใจชอบกันแน่?!”

เสียงตั้งคำถามนี้ดังกึกก้องไปทั่วทั้งพื้นที่โรงนา ศิษย์ทุกคนในพื้นที่ล้วนได้ยินกันทั้งสิ้น!

พวกเขาเริ่มมองหน้ากันเองและมองไปมา ในเวลานี้กลับมีแต่ความตื่นเต้น ไม่ใช่ความเหยียดหยันอย่างที่เคยมีก่อนหน้านี้อีกต่อไป!

เพราะพวกเขาคือบรรดาผู้ถูกข่มเหงโดยผู้แข็งแกร่ง เพียงแค่เพราะอ่อนแอ สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้มีแค่ต้องอดทน!

คำพูดของจี้เตี๋ยมันทำให้พวกเขาประทับใจ รวมถึงกระตุ้นความรู้สึกคิดอยากต่อต้านในใจจนพลุ่งพล่าน!

“ใช่แล้ว! มีเหตุผลอะไรมากล่าวอ้างว่าศิษย์พี่จี้เป็นฆาตกรโดยไร้หลักฐาน!”

“เป็นผู้อาวุโสสำนักแล้วคิดว่าจะตัดสินชะตาศิษย์ในสำนักยังไงก็ได้งั้นหรือ!”

พบเห็นว่าตนเองไปกระตุ้นต่อมความโกรธของผู้คน สิงจงเริ่มเผยสีหน้าอัปลักษณ์ ภายหลังพบว่าไม่อาจตอบโต้อะไรได้ เขาจึงเร่งร้อนถอยกลับด้วยความอับอาย

และไม่ช้า เรื่องราวที่เกิดขึ้นในพื้นที่โรงนาจึงเริ่มแพร่กระจายไปทั่วยอดเขาสรรพสัตว์เร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง!

จี้เตี๋ยเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นอีกครั้ง เรื่องราวของเขายิ่งทำให้ศิษย์นับไม่ถ้วนเริ่มจิตใจสั่นคลอน

กระทั่งข้อเท็จจริงที่ว่าเขาแอบอ้างเป็นคู่หมั้นของเจียงโม่หลียังถูกกลบฝังจนมิด!

“เอาชนะสิงจงที่สำเร็จการกลั่นลมปราณขั้นที่ห้าได้ด้วยหนึ่งกระบวนท่า หากไม่ใช่ศิษย์พี่หญิงเจียงกับศิษย์พี่ฝูแล้วใครจะทำได้! หรือว่าเขาสำเร็จการกลั่นลมปราณขั้นที่หกแล้วกัน?”

“แล้วเขาสังหารเฮ่อซงจริงหรือไม่?” ยังมีคนครุ่นคิดถึงข้อเท็จจริง ที่ว่าจี้เตี๋ยตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมเฮ่อซงและผู้ดูแลหวัง

เพียงแต่พอคำถามนี้ถูกหยิบยกขึ้นมา ศิษย์คนที่อยู่ข้างเคียงจึงปฏิเสธแทนแทบจะในทันที

“ระวังปากด้วย! ข้าคิดว่าเขาตอบโต้ได้อย่างสมเหตุผลแล้ว เพราะมันไม่มีหลักฐานอะไรเลยแม้แต่น้อย! ไฉนเลยจึงไปถึงข้อสรุปว่าเขาเป็นฆาตกรโดยไร้ซึ่งหลักฐานได้กัน? แค่ลมปากผู้อาวุโสก็ตัดสินชะตาศิษย์ได้ตามใจชอบแล้วงั้นหรือ?!”

ปัจจุบันผู้คนจำนวนไม่น้อยเริ่มโกรธเกรี้ยวต่อพฤติกรรมใส่ร้ายของผู้อาวุโสโดยไร้หลักฐาน พวกเขาที่ถูกข่มเหงจึงเริ่มลุกฮือกันขึ้นมา

ที่ภายในถ้ำแห่งหนึ่ง เจิ้งอี้กำลังเผยสีหน้าดำมืด และแน่นอนว่าเขาต้องได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยอดเขาสรรพสัตว์แล้ว

“ผู้อาวุโสเจิ้ง ไอ้เด็กนั่นมันกล้าขัดขืนคำสั่งอย่างออกหน้า ทั้งยังทำร้ายข้าจนบาดเจ็บ พฤติกรรมของมันแสดงออกให้เห็นว่าไม่เคารพท่านแม้แต่น้อย พวกเราจะปล่อยมันไปเช่นนี้ไม่ได้นะขอรับ…” สิงจงที่ถูกจี้เตี๋ยเล่นงานจนได้รับบาดเจ็บเมื่อหลายวันก่อน จนปัจจุบันก็ยังไม่ฟื้นตัวหายดี ใบหน้าของเขาในเวลานี้แม้ซีดเซียวแต่ก็ยังแสดงออกถึงความเกลียดชังอย่างเด่นชัด

“เรื่องราวนี้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาแล้ว หากว่าพวกเราจับกุมมันโดยไม่มีหลักฐาน ก็มีแต่จะยิ่งกระตุ้นความโกรธของฝูงชนจนอาจเกินควบคุม!” เจิ้งอี้ฮึมฮัมตอบกลับ เพราะเขาเองก็เชื่อว่าจี้เตี๋ยสมควรเป็นฆาตกร เพียงแต่เรื่องราวมันลุกลามเกินกว่าจะควบคุมได้แล้ว และหากรับมือได้ไม่ดีมันอาจกลายเป็นวิกฤต

เพราะลำพังแค่ตอนนี้ศิษย์มากมายก็เริ่มแสดงความไม่พอใจกันออกมาแล้ว!

“ถ้าอย่างนั้นจะปล่อยมันไปหรือขอรับ!” สิงจงแสดงออกชัดว่าไม่ยินดีปล่อยให้เป็นแบบนั้น

เจิ้งอี้จ้องมองตอบ และเขาทราบดีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

“วางใจเถอะ ตอนนี้แค่รอไปก่อน! เหอะ! ข้าก็ไม่ได้อยากจะให้ปัญหานี้รบกวนไปถึงฝั่งเหนือ แต่ก็เหมือนจะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว!”

...

ฝนที่เย็นเยียบเพิ่งผ่านพ้น มันได้ชะล้างฝุ่นเหนือพื้นดิน จนกระทั่งขับเอากลิ่นดินฟุ้งตลบอบอวลขึ้นมาในอากาศ

นับตั้งแต่เหตุการณ์จี้เตี๋ยเล่นงานสิงจงชนะในหนึ่งกระบวนท่าแพร่กระจาย สิงจงก็ราวกับจะหายตัวไป จนสุดท้ายไม่มีใครกล้ามารบกวนเขา

อาจเป็นเพราะปัจจุบันทั่วทั้งยอดเขาสรรพสัตว์ได้ทราบเรื่องราวนี้กันแล้ว ทำให้มันเกิดเป็นความสงบชั่วคราว

เพียงแต่จี้เตี๋ยไม่ได้หย่อนความระมัดระวัง พร้อมกับรู้ตัวดีว่าเรื่องราวมันไปไกลเกินกว่าจะจบลงที่เท่านี้ได้

และเพียงช่วงเวลาสงบดำเนินได้ไม่กี่วัน งานแข่งขันของฝั่งใต้ที่จะจัดขึ้นทุกสามปีจึงมีประกาศรับลงทะเบียนเข้าร่วมเป็นระยะเวลาสามวัน มันถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งฝั่งใต้ร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง!

แม้กระทั่งเหล่าศิษย์ในพื้นที่โรงนา ก็ยังต้องพูดคุยกันถึงเรื่องการแข่งขันของฝั่งใต้

จี้เตี๋ยเองก็ได้ทราบเช่นกัน เพียงแต่ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ

เขาไม่ได้มีความมั่นใจว่าจะสามารถคว้าชัยชนะ อย่างไรแล้วการทดสอบที่จัดขึ้นก็มักจะต่างจากหลายปีก่อนจนไม่อาจเดาทาง และผู้ชนะไม่เพียงแค่จะได้เข้าไปยังฝั่งเหนือ เพื่อฝึกฝนพร้อมทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ แต่ยังจะได้รับยาบ่มเพาะต้นกำเนิด ด้วยเหตุนี้ศิษย์หลายต่อหลายคนจึงพูดถึง

และก็เป็นดังที่คาดเอาไว้ ศิษย์กลั่นลมปราณขั้นที่หกแทบทั้งหมดต่างพร้อมใจกันเข้าร่วม!

เพียงแต่เพราะตนเองเพิ่งสำเร็จการกลั่นลมปราณขั้นที่หก เวลาเพียงแค่สามวัน มันยากเกินกว่าที่เขาจะเสาะแสวงความคืบหน้าไปกว่านี้

ยามเผชิญหน้ากับศิษย์ผู้ดำดิ่งไปกับการกลั่นลมปราณขั้นที่หกมายาวนานหลายปี โอกาสที่เขาจะชนะคงบางประหนึ่งแผ่นกระดาษ ขณะที่โอกาสพ่ายแพ้อาจสูงดังยอดเขา

เพียงแต่เขาก็อยากได้ยาบ่มเพาะต้นกำเนิด เพราะตามบันทึกนักปรุงยา กล่าวว่าภายหลังทานเข้าไปแล้วจะสามารถทะลวงจากการกลั่นลมปราณขั้นที่หกจุดสูงสุด จนไปถึงการกลั่นลมปราณขั้นที่เจ็ดได้

“ชักสงสัยแล้วสิว่าเจียงโม่หลีเข้าร่วมหรือไม่…” ข่าวคราวที่เขากลับมาถึงพื้นที่โรงนา ตลอดช่วงสองวันที่ผ่านมานับว่ามีการพูดคุยถึงอย่างกว้างขวาง ทำให้จี้เตี๋ยมองว่าไม่ช้านางสมควรมาเอาเรื่อง

แต่ภายหลังส่ายศีรษะ จี้เตี๋ยเลือกเดินเข้าไปยังโรงนาโดยหยุดความกังวลที่ยังไม่เกิดขึ้น

ภายหลังผ่านมาราวครึ่งเดือน จี้เตี๋ยที่ได้เดินเข้าสู่โรงนาอีกครั้ง ในใจเวลานี้จึงเกิดความรู้สึกรำพึงรำพัน

เมื่อนึกย้อนไปจนถึงครั้งแรกที่ย่างก้าวเข้ามายังที่แห่งนี้ จนกระทั่งได้เห็นสัตว์อสูรซึ่งถูกขังเอาไว้ภายในคอก เขาจดจำได้ว่าตนเองแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินเลยด้วยซ้ำ

ภายหลังทบทวนถึงหน้าที่ให้อาหารเจ้างูดำ เขาต้องหวาดกลัวการทำความสะอาดคอกและอาบน้ำให้มันอยู่แทบทุกค่ำคืน

เพียงแต่ปัจจุบันที่เวลาผ่านพ้นมาหนึ่งเดือน เขาสามารถสลัดคราบตัวตนเดิมจากที่เคยเป็นจนแทบจะเป็นคนละคน…

มันมาถึงจุดที่เขาสามารถยืนรับชมพวกมันด้วยท่าทีเรียบเฉย

เพราะครั้งแรกที่มาที่นี่ เขาเป็นเพียงผู้ฝึกตนกลั่นลมปราณขั้นที่หนึ่ง แต่ปัจจุบันนี้คือขั้นที่หก!

ที่คอกหมายเลขสิบเอ็ด เจ้างูดำกำลังมองจี้เตี๋ยที่ไม่ได้ปรากฏตัวเสียนาน มันแลบลิ้นออกมาให้เห็น ขณะเดียวกันแผลที่หางก็ได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว

“ไม่เจอกันนาน” จี้เตี๋ยมองมันโดยไม่หลบตา กระทั่งยิ้มตอบและทำเช่นเดิม นั่นคือการเทตะกร้าผลไม้เข้าไป ภายหลังรับชมมันกินจนเรียบร้อย เขาจึงโยนผลยกวิญญาณให้มันเป็นของแถม

ถัดจากนั้นจึงรับชมมันกินจนหมด

ขณะเขากำลังจะออกไป ตอนนี้เองที่เสียงฮัมเพลงอันคุ้นเคยกลับดังขึ้นจากทางด้านหลัง

“หายตัวไปซ่อนเสียนาน ในที่สุดเจ้าก็เสนอหน้ากลับมา!”

3.8 6 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด