ตอนที่แล้วระบบตกตะลึงไร้เทียมทาน ตอนที่ 22 ทะลวงขอบเขตวิญญาณประจักษ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบตกตะลึงไร้เทียมทาน ตอนที่ 24 บำเพ็ญเพียรใต้แสงจันทร์

ระบบตกตะลึงไร้เทียมทาน ตอนที่ 23 สมควรแต่ไม่คู่ควร


ระบบตกตะลึงไร้เทียมทาน ตอนที่ 23 สมควรแต่ไม่คู่ควร

เวลาผ่านไปไม่กี่วัน

ภาพลักษณ์ของหนิงเทียนในนิกายมารสวรรค์เปลี่ยนจากศิษย์ขยะไร้ค่ากลายเป็นผู้ก่อตั้งที่ลึกลับในชั่วข้ามคืน

โดยเฉพาะเหตุการณ์เมื่อไม่กี่วันก่อน ที่ศาลาคัมภีร์ เขาใช้ทัณฑ์สายฟ้าเปิดชีพจรวิญญาณถึง 199 เส้น ข่าวลือนี้แพร่กระจายไปทั่วนิกายมารสวรรค์

ศิษย์หลายคนกลายเป็นผู้ติดตามพันธุ์แท้ของหนิงเทียน

ถึงขั้นมีคำขวัญแพร่หลายในนิกายมารสวรรค์ว่า หากมีผู้ก่อตั้ง เรื่องเหลือเชื่อก็แค่เรื่องธรรมดา

...

เหตุการณ์ดุเดือดของนิกายมารสวรรค์ รวมถึงความน่าสะพรึงกลัวของทัณฑ์สายฟ้าในวันนั้น ยังคงตราตรึงใจของผู้คนในดินแดนเทียนหลิง

สำนักหลายแห่งที่ไม่อยากเป็นศัตรูกับนิกายมารสวรรค์ต่างวางแผนจะส่งอัจฉริยะของสำนักไปแลกเปลี่ยนเต๋ากับนิกายมารสวรรค์

ไม่ว่าจะเป็นแลกเปลี่ยนวิชาการหรือวรยุทธ์ ล้วนเป็นวิธีผูกมิตรในหมู่ผู้บำเพ็ญเพียร

ณ สำนักมารเงา

ในดินแดนเทียนหลิง มีทั้งวิถีธรรมและมาร หากให้นิกายมารสวรรค์เป็นผู้นำวิถีมาร สำนักมารเงาก็นับเป็นรองเพียงนิกายมารสวรรค์

ณ สำนักมารเงา

พวกเขาแตกต่างจากนิกายมารสวรรค์ สำนักมารเงาตั้งอยู่ในป่าทมิฬ ที่ซึ่งไม่มีแสงอาทิตย์ส่องผ่าน ลึกลับ และน่าขนลุก สมกับชื่อ "สำนักมารเงา"

สายลมเย็นยะเยือกพัดผ่าน

โถงหลักของสำนักมารเงา

ชายชราจมูกเหยี่ยวยืนกอดอกอยู่ สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา เบื้องหลังเขามีชายหนุ่มคนหนึ่ง ใบหน้าขาวซีด หากมองจากไกล ๆ เขานั้นมีความงดงามปานอิสตรี

หากไม่เห็นกล่องเสียง อาจเข้าใจผิดว่าเขาเป็นหญิงสาว

"จ้าวสำนัก ศิษย์มาแล้วขอรับ"

ชายหนุ่มผิวอ่อนโยนมองชายชราจมูกเหยี่ยวและพูดอย่างเชื่องช้า

"อืม มาแล้วก็ดี"

ชายชราจมูกเหยี่ยวพยักหน้า เขามองชายหนุ่มผิวอ่อนโยนแล้วพูดว่า "ซานซือ นี่เจ้า... เจ้าทะลวงระดับแล้วหรือ?"

"ขอรับจ้าวสำนัก"

หยินซานซือพยักหน้า และยิ้มมุมปากเล็กน้อย "ตอนนี้ ข้าอยู่ขอบเขตวิญญาณประจักษ์ระดับสมบูรณ์แล้ว และใกล้จะทะลวงขอบเขตราชันปฐพีแล้ว"

"ใกล้ทะลวงขอบเขตราชันปฐพีอย่างนั้นหรือ?"

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ชายชราจมูกเหยี่ยวก็ยิ้มอย่างพอใจ ฐานพลังยุทธ์ขอบเขตราชันปฐพีเทียบเท่าผู้อาวุโสทั่วไปของสำนักต่าง ๆ ในดินแดนเทียนหลิงแล้ว

หยินซานซืออายุเพียง 20 ปีเท่านั้น ฐานพลังยุทธ์กลับเทียบเท่าผู้อาวุโสวัย 50 กว่าแล้ว

หากขัดเกลาศักยภาพเช่นนี้อีกสักเล็กน้อย ในอนาคต สำนักมารเงาก็จะมีผู้สืบทอดตำแหน่งจ้าวสำนักแล้ว

"ซานซือ"

ชายชราจมูกเหยี่ยวมองหยินซานซืออย่างละเอียด "เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ยินข่าวลือของนิกายมารสวรรค์หรือไม่?"

"ศิษย์คับคล้ายคับคลาอยู่บ้าง"

หยินซานซือพยักหน้า "ในวันนั้นที่ทัณฑ์สายฟ้าเกิดขึ้น มีเมฆมืดมนบดบังแสงอาทิตย์ ศิษย์เผอิญเห็นเข้า"

ชายชราจมูกเหยี่ยวถอนหายใจ "ตอนนี้นิกายมารสวรรค์แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งมีจักรพรรดินีปกป้อง สำนักมารเงาของเราคงยากจะยืนหยัดต่อไปได้แล้ว"

"..."

เมื่อได้ยินดังนี้ หยินซานซือก็เงียบลง

"ซานซือ เจ้าว่านิกายมารสวรรค์คู่ควรเป็นผู้นำวิถีมารหรือไม่?" ชายชราจมูกเหยี่ยวมีประกายแวบผ่านในดวงตา ขณะมองหยินซานซือและเอ่ยถาม

"เรื่องนี้... ศิษย์โง่เขลาไม่กล้ายุ่งกับความขัดแย้งระหว่างสำนัก"

หลังครุ่นคิดสักพัก หยินซานซือก็ค่อย ๆ ส่ายหัว

"ฮ่าฮ่า!"

เมื่อได้ยินคำพูดของหยินซานซือ ชายชราจมูกเหยี่ยวก็ยิ่งชื่นชมเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความชื่นชม

หยินซานซือรู้ว่าเรื่องเช่นนี้ ศิษย์ตัวน้อยอย่างเขาไม่มีสิทธิ์พูด จึงเลือกใช้ถ้อยคำอ่อนหวานตอบกลับอย่างระมัดระวัง

ไม่เสียชื่อเลย!

นี่คือศิษย์ที่เขาให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก!

"ไม่ต้องกังวล!"

ชายชราจมูกเหยี่ยวตบไหล่หยินซานซือและหัวเราะร่า "นี่คือสำนักมารเงา ไม่ว่าเจ้าจะพูดอย่างไร ก็ไม่ต้องกังวล! พูดออกมาตรง ๆ ก็พอ"

หยินซานซือพยักหน้าและใคร่ครวญสักครู่

"ศิษย์คิดว่านิกายมารสวรรค์สมควรเป็นผู้นำวิถีมาร แต่ก็ไม่คู่ควรเป็นผู้นำวิถีมาร"

"สมควรเป็น..."

"แต่ก็ไม่คู่ควรหรือ?"

ชายชราจมูกเหยี่ยวกล่าวทวน พลางมองหยินซานซือด้วยความสงสัย "นี่ไม่ขัดแย้งกันเองหรือ?"

"ไม่ขอรับ"

หยินซานซือส่ายหัวและกล่าวอย่างไม่เร่งรีบ "ศิษย์ขออธิบายให้จ้าวสำนักได้ฟัง"

"ศิษย์คิดว่านิกายมารสวรรค์มีพลังมหาศาล พวกพ้องมากมาย ผู้อาวุโสนับไม่ถ้วน ยิ่งมีจักรพรรดินีคุ้มครอง หากมองจากพลังนี้ พวกเขาก็สมควรเป็นผู้นำวิถีมารแล้วจริง ๆ"

"ในวิถีมาร ไม่มีสำนักใดแข็งแกร่งเท่านิกายมารสวรรค์อีกแล้ว"

"แต่ว่า"

"นี่คือปัญหา"

"แม้นิกายมารสวรรค์จะอยู่ในวิถีมาร ฝึกวิชามาร แต่การกระทำและแนวทางกลับไม่ใช่วิถีมาร"

"วิถีมารนั้นโหดเหี้ยมและอำมหิต แต่นิกายมารสวรรค์กลับไม่เป็นเช่นนั้น"

"พวกเขาเพียงแค่ฝึกวิชามารอย่างเงียบ ๆ 'มาร' เช่นนั้นไม่คู่ควรจะเป็นผู้นำวิถีมารในดินแดนเทียนหลิง!"

"นั่นคือความเห็นของศิษย์"

หยินซานซือกล่าวอย่างอ่อนน้อม

นิกายมารต้องแสดงออกถึงความเป็นมาร ฆ่าฟัน โหดเหี้ยม!

นี่คือแนวทางของวิถีมารในดินแดนเทียนหลิง แต่หลังจากจักรพรรดินีขึ้นสู่ตำแหน่ง นิกายมารสวรรค์ก็ไม่ฆ่าฟัน ไม่โหดเหี้ยม แต่กลับแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น!

เรื่องนี้ทำให้สำนักในวิถีมารหลายแห่งไม่พอใจ

แต่เพราะเกรงกลัวพลังของนิกายมารสวรรค์ จึงได้แต่โกรธแค้นในใจ

ในวิถีมาร มีใครบ้างไม่เคยมือเปื้อนเลือด?

ถึงแม้หยินซานซือจะดูอ่อนแอ แต่ความจริงแล้ว เขาก็เคยมือเปื้อนเลือดของผู้บริสุทธิ์จากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง

"..."

หลังจากหยินซานซือพูดจบ ชายชราจมูกเหยี่ยวก็ชะงัก ดวงตามีประกายวูบวาบ

จากนั้นก็หัวเราะลั่น!

"ความคิดเห็นนี้ดีเสียจริง!"

คำพูดของหยินซานซือกล่าวได้ตรงใจชายชราจมูกเหยี่ยวยิ่งนัก!

"ตอนนี้นิกายมารสวรรค์ครองเมือง ถึงจะเป็นวิถีมาร แต่ไม่ทำเรื่องที่มารควรทำ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป วิถีมารในดินแดนเทียนหลิงก็คงเหลือแต่ชื่อเท่านั้น"

"หึ!"

"เป็นแค่หญิงสาวที่ได้เป็นจ้าวนิกายมารสวรรค์กลับคิดจะเป็นผู้นำวิถีมาร ทำให้วิถีมารเสื่อมทราม!"

ชายชราจมูกเหยี่ยวแสดงความเย็นชาอย่างโหดร้ายในดวงตาเหมือนไม่พอใจยิ่งนัก

เขาก็เป็นผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตจักรพรรดิ แต่พลังยุทธ์เพียงแค่ขอบเขตจักรพรรดิเทพระดับ 7 เท่านั้น ส่วนหลัวหวู่ชิงคือขอบเขตจักรพรรดิเทพระดับสมบูรณ์!

เขาถูกหญิงสาวคนหนึ่งกดหัวไว้ เรื่องนี้ทำให้เขาไม่พอใจยิ่งนัก!

"จ้าวสำนัก หมายความว่า..."

หยินซานซือตื่นตระหนกเล็กน้อย

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เหตุใดจึงรู้สึกว่าจ้าวสำนักมีท่าทีจะทำเรื่องใหญ่เข้าให้แล้ว?

"เจ้ารอดูการแสดงดี ๆ ได้เลย!"

ชายชราจมูกเหยี่ยวยิ้มมุมปาก

"มารเฒ่าในวิถีมารหลายคนก็ไม่พอใจจักรพรรดินีนี้ ได้ยินว่าพรุ่งนี้หลายสำนักจะส่งยอดฝีมือไปที่นิกายมารสวรรค์ หากพรุ่งนี้วิถีมารส่งคนบีบบังคับ ศักดิ์ศรีจักรพรรดินีจะพินาศย่อยยับ เจ้าว่าตำแหน่งผู้นำวิถีมารจะยังเป็นของนิกายมารสวรรค์หรือไม่?"

หยินซานซือสะดุ้งในใจ!

ไม่คิดเลยว่าสำนักต่าง ๆ ในวิถีมารคิดจะบีบบังคับนิกายมารสวรรค์!

ยิ่งไปกว่านั้นยังส่งยอดฝีมือไปแลกเปลี่ยนเต๋าที่นิกายมารสวรรค์อีก!

เมื่อถึงตอนนั้น หากสำเร็จ ศักดิ์ศรีของจักรพรรดินีคงแตกสลายในชั่วขณะ!

เวลานั้น พวกเขา ในฐานะสำนักใหญ่ลำดับสองของวิถีมาร ย่อมสามารถเป็นผู้นำวิถีมารอย่างถูกต้อง!

"เช่นนั้น จ้าวสำนัก ท่านเรียกศิษย์มาหมายความว่าอย่างไร?" หยินซานซือหรี่ตามองชายชราจมูกเหยี่ยวด้วยความสงสัย

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด