ตอนที่แล้วบทที่ 127
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 129 การเผชิญหน้ากับไดโลโฟซอรัส

บทที่ 128 ยานอวกาศอยู่ที่ไหน?


[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]

[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]

[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]

บทที่ 128 ยานอวกาศอยู่ที่ไหน?

"ช่วยด้วย!"

ด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์ได้ยินเสียงดังที่น่ากลัวที่มาจากข้างหลังเธออย่างชัดเจน แต่เธอไม่กล้าหันหลังกลับ เธอกรีดร้องและวิ่งไปที่รถฮัมวี่ของซุนเฉิงทันที

"เร็วเข้า เร็วเข้า"

ซุนเฉิงหมุนกระจกรถลงและตะโกนใส่เธอ จากนั้นเขาก็หยิบปืนเอ็ม 16 ออกมา คลำหาอยู่ครู่หนึ่งและเล็งปลายกระบอกปืนไปทางด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์ เขายิงหลายนัดติดต่อกันอย่างรวดเร็ว

"ปัง ปัง..."

ความตั้งใจของเขาดี เขาพยายามใช้เสียงปืนเพื่อยับยั้งเวโลซิแรปเตอร์ที่พุ่งเข้าหาด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์ ทว่าทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น ความเร็วของด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์ก็ลดลง

"แย่แล้ว!"

ซุนเฉิงรู้ว่าแผนของเขาใช้ไม่ได้ผล พฤติกรรมของเวโลซิแรปเตอร์นั้นทั้งมั่นคงและน่าสะพรึงกลัวยิ่ง มันคงรู้ว่ากระสุนเอ็ม 16 ทำให้เกิดการบาดแผลเพียงเล็กน้อยจากการต่อสู้ครั้งก่อน ทำให้แทนที่มันจะหลบหรือหลีกกระสุน มันยังคงพุ่งมาด้วยความเร็วสูงโดยไม่ลังเล

ในอัตรานี้ เวโลซิแรปเตอร์คงจะตามด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์ได้ทันก่อนที่เธอจะไปถึงรถฮัมวี่อย่างแน่นอน

เมื่อรู้เช่นนั้น ซุนเฉิงรีบวางอาวุธของเขาและสตาร์ทรถขับไปหาเธอ

"กร๊าซ...!"

สัตว์โดยสัญชาตญาญแล้วย่อมสามารถวิเคราะห์ความแตกต่างของขนาดระหว่างตัวมันเองกับสิ่งมีชีวิตอื่นที่พวกมันพบได้ดี แม้แต่สัตว์ตัวเล็กอย่างกระต่างหรือหนู ก็จำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของพวกมันเองเมื่อต้องเผชิญกับสัตว์อื่น แน่นอนว่าเวโลซิแรปเตอร์ก็มีสัญชาตญาณเช่นเดียวกัน

ทันทีที่ฮัมวี่เคลื่อนไหว เวโลซิแรปเตอร์ก็ประหลาดใจอย่างมาก ฝีเท้าของมันช้าลงและซุนเฉิงก็รู้ได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งมีชีวิตตนนี้กำลังจ้องมองไปยังรถด้วยความระมัดระวังชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นเอง เมื่อมันเพิ่งตระหนักได้ว่าซุนเฉิงนั่งอยู่บนที่นั่งคนขับ มันก็เงยหน้าขึ้นคำราม กัดฟันแน่นและเร่งความเร็วเข้าหาพวกเขา

ซุนเฉิงไม่ได้คาดคิดเลยว่าสิ่งมีชีวิตตนนี้จะฉลาดขนาดนั้น หัวใจของเขาคล้ายจมดิ่งลงไปในหุบเหวลึก เขารีบเร่งความเร็วอย่างรวดเร็ว นำรถไปจอดข้างด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์ "เร็วเข้า.. ขึ้นรถมาเร็วครับ..."

ด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์รีบกระโจนเข้าไปรถด้วยความตกใจและปิดประตูรถ เธอล้มตัวลงบนเบาะที่นั่งข้างคนขับ เธอเสียขวัญเป็นอย่างมาก หน้าอกของเธอเต้นอย่างรวดเร็ว

"บูม!"

รถกระแทกอย่างกะทันหัน ทำให้ด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์ตกใจ   เธอหันศีรษะอย่างรวดเร็วและเห็นว่าเวโลซิแรปเตอร์กำลังจ้องมองอย่างตั้งใจอยู่นอกประตูรถที่ปิดสนิท เธอกลัวมาก และยกอาวุธขึ้นทันทีเล็งไปที่หน้าต่างรถที่ปิดสนิท

“อย่าขยับ อยู่นิ่ง ๆ ...”

ซุนเฉิงเหยียบคันเร่ง กำพวงมาลัยแน่นขณะที่รถฮัมเมอร์พุ่งไปข้างหน้าเหมือนลูกศร

“กร๊าซ...”

เห็นได้ชัดว่าเวโลซิแรปเตอร์ไม่คิดที่จะปล่อยให้เหยื่อหนีไปอย่างง่ายดาย มันคำรามและไล่ตามพวกเขาจากด้านหลัง

โชคร้ายสำหรับมันที่ซุนเฉิงยังคงเหยียบคันเร่ง เพิ่มความเร็วอย่างรวดเร็วเป็น 80 ไมล์ต่อชั่วโมง เวโลซิแรปเตอร์ไม่สามารถตามทันความเร็วที่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้แน่ เขาจึงทิ้งห่างเวโลซิแรปเตอร์ไว้เบื้องหลังอันไกลโพ้น มันทำได้เพียงเงยหัวกลับไปด้วยความผิดหวัง และส่งเสียงคำรามยาว เมื่อพวกเขาเลี้ยวโค้ง แล้วหายไปจากสายตามันโดยสิ้นเชิง

“เฮ้อ!”

“ฟิ้ว!”

ภายในรถ ได้ยินเสียงถอนหายใจโล่งอกสองเสียงดังขึ้น

ซุนเฉิงและด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์ตกตะลึงในตอนแรก แต่แล้วก็มองหน้ากันและหัวเราะออกมา

"ขอบคุณนะคะ..." ด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์กล่าวด้วยความซาบซึ้ง "ฉันนึกว่าฉันจะต้องตายไปซะแล้ว..."

ซุนเฉิงยิ้มบาง ๆ มือของเขาจับพวงมาลัยขณะที่เขาหน้ายังถนนข้างหน้าและค่อย ๆ ลดความเร็วของรถลงทีละน้อย

ในแง่ของประสบการณ์การขับรถ เขาเพิ่งขับรถได้มาไม่ถึงปี เขาได้ใบขับขี่มาเมื่อปีที่แล้วเอง ทว่าเพราะซุนเฉิงได้ขับรถเก๋งคันเก่าของครอบครัวเขามาสองสามครั้งในช่วงวันหยุดฤดูหนาวและฤดูร้อน ทำให้ถึงนี้จะครั้งแรกที่เขาขับรถใหญ่อย่างรถฮัมเมอร์ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวสักนิดเดียว

“เราจะไปไหนกันต่อดีครับ?” ซุนเฉิงถาม

"เอ่อ..."

ด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์ไม่รู้ว่าจะตอบอะไร เธอไม่รู้ว่าสามีของเธอ อัลลัน แกรนท์ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า แถมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาอยู่ส่วนไหนของเกาะ ดังนั้นเมื่อเขาถามออกมา เธอก็ลังเลไม่แน่ใจว่าจะพูดอะไรดี

ซุนเฉิงยิ้มอย่างลึกลับ มันเป็นปฏิกิริยาที่เขาต้องการพอดี เขาจึงเสนอขึ้นมาว่า "มีปัญหากับระบบป้องกันความปลอดภัยของเกาะ ไม่มีที่ไหนปลอดภัยเลย เราไปที่แหล่งจ่ายไฟก่อนดีไหมครับ? เราอาจจะหาทางกู้ระบบรักษาความปลอดภัยของเกาะและอาจติดต่อผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ ได้!"

ศูนย์วิจัยย่อมเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการกู้ระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งซุนเฉิงแตกต่างจากคนอื่น ๆ ตัวเขามีรีเวนจ์และเซฟการ์ดอยู่กับเขา ดังนั้นเขาจึงสามารถเชื่อมต่อกับระบบของเกาะได้จากทุกที่ ส่วนเหตุผลในการไปที่แหล่งจ่ายไฟคือการติดตั้งกับดัก ที่นั่นเขาจะติดตั้งกับดักที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของโกสท์ได้อย่างชั่วคราวแน่นอน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์ก็พิจารณาสักครู่และเห็นด้วย

เห็นได้ชัดว่าเธอเข้าใจถึงความสำคัญของการกู้ระบบป้องกันความปลอดภัยของเกาะให้กับผู้รอดชีวิตทุกคนที่เหลืออยู่

ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจไปที่สถานีจ่ายไฟ และไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งสองคนก็มาถึงสถานีจ่ายไฟ ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์วิจัยเพียงไม่กี่กิโลเมตร

สถานีจ่ายไฟบนเกาะนูบลาตั้งอยู่ลึกเข้าไปในป่าและมีการสร้างถนนบนเกาะที่มุ่งตรงไปที่นี่ ถนนจึงไม่เป็นหลุมเป็นบ่อเลย

พวกเขาจอดรถไว้นอกประตูของสถานีจ่ายไฟ ซุนเฉิงไม่รีบลงจากรถ ก่อนอื่นเขาสังเกตสภาพแวดล้อมรอบ ๆ อย่างระมัดระวังสักพัก แล้วจึงพยักหน้าเล็กน้อยให้กับด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์และพูดว่า "ปลอดภัยครับ!"

หลังจากทำท่าทางให้เธอลงจากรถ ซุนเฉิงก็เอื้อมมือไปใต้ที่นั่งคนขับและหยิบเซฟการ์ดออกมา เขาหยิบมันขึ้นมาและเห็นว่ามันหนีบชิ้นส่วนของอำพันสีส้มแน่นด้วยมือโลหะผสมที่ยื่นออกมา

เพียงแค่เหลือบมองมัน เขาก็รู้สึกถึงความปรารถนาอย่างท่วมท้นในใจของเขา เขาฟื้นคืนความสงบและเก็บมันไว้ในกระเป๋าของเขาอย่างรวดเร็ว

ด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์เคยเห็นสีเหลืองอำพันนี้ที่บ้านของแฮมมอนด์ ทำให้ซุนเฉิงไม่ต้องการให้เธอเห็นและเกิดปัญหาไม่จำเป็นขึ้น

"แก๊ก"

หลังจากเปิดประตูสถานีจ่ายไฟ ซุนเฉิงก็เข้าไปก่อน ตามด้วยด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์ พวกเขาต่างถือไฟฉายและเข้าไปในสถานีจ่ายไฟ

ซุนเฉิงมองผนังครู่หนึ่งและพบปุ่มเปิดปิดอย่างรวดเร็ว หลังจากกดแล้ว สถานีจ่ายไฟที่มีแสงสลัวก่อนหน้านี้ก็สว่างขึ้น

"มีใครอยู่ที่นี่ไหมคะ?" ด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์ตะโกนเสียงดัง

หลังจากที่ซุนเฉิงล็อคประตู เขาก็ใส่เซฟการ์ดไว้ในกระเป๋าเป้สะพายหลังชั่วคราวและเริ่มตรวจสอบสถานีจ่ายไฟด้วยปืนของเขาในมือ

สถานีจ่ายไฟมีขนาดไม่ใหญ่นัก หลังจากวนไปรอบ ๆ ไม่กี่นาที ซุนเฉิงก็ยืนยันว่าไม่มีอันตรายอยู่ข้างใน เขาเก็บอาวุธและส่งสัญญาณว่า "ปลอดภัยครับ!"

เขาไม่ได้สนใจด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์และเจอกับอุปกรณ์บางอย่างเข้า เขาจึงเปิดคอมพิวเตอร์และนำอุปกรณ์ป้องกันและ "อุปกรณ์ต่อสู้ของพรีเดเตอร์" ที่เขาได้รับหลังจากฆ่าพวกโกสท์ออกมา

"คุณซุน คุณกำลังทำอะไรเหรอคะ?" ด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์เดินตามหลังเขาและเดินไปรอบ ๆ สถานีจ่ายไฟสักพักแล้ว แต่การไม่พบผู้รอดชีวิตที่นี่ทำให้เธอค่อนข้างผิดหวังพอสมควร จากนั้นเธอก็เห็นเขาหยิบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คออกมาจากกระเป๋าและเล่นกับอุปกรณ์แปลก ๆ อีกชิ้นหนึ่ง เธอจึงอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย

"ผมต้องการที่จะลองทดสอบดู ถ้าเกิดผมสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายของเกาะ บางทีอาจหาวิธีที่จะเปิดใช้งานระบบรักษาความปลอดภัยของเกาะได้..."

เขาตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้น และเริ่มเปิดโน๊ตบุ๊คทันที เนื่องจากด็อกเตอร์เซ็ทเลอร์ไม่เข้าใจภาษาจีน เขาจึงเปิดโน๊ตบุ๊คโดยไม่ได้กลัวอะไรและเขียนคำสั่งเป็นตัวอักษรจีนดั้งเดิมลงใส่มัน "เจาะการเชื่อมต่อของอุปกรณ์นี้ อ่านข้อมูลทั้งหมดภายในและบันทึกค้นหาตำแหน่งของยานอวกาศที่ซ่อนอยู่ของพรีเดเตอร์บนเกาะ ทำเครื่องหมายในนี้และให้คำตอบกลับมาทันที แล้วจากนั้นจัดระเบียบระบบและเริ่มระบบรักษาความปลอดภัยของเกาะใหม่..."

หลังจากออกคำสั่ง อักษรแปลก ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอโน๊ตบุ๊คตรงหน้าเขา มันดูเหมือนตัวอักษรโบราณของอียิปต์ที่อยู่ห่างไกลภาษาแอซเท็กโบราณ และแม้แต่ตัวอักษรเขมรโบราณ สรุปก็คือไม่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษแม้แต่ตัวเดียว

ตัวอักษรบนหน้าจอยังคงดำเนินต่อไปประมาณสี่สิบถึงห้าสิบวินาที จากนั้นพวกมันก็หยุดลง แล้วไฟล์ Word ก็ได้ปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติ

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด