ตอนที่ 118 อาคารจุติพลังแห่งเมืองเกาลู่ (อ่านฟรี 14/12/2567)
ภายในห้องสำนักงานแห่งหนึ่ง ในตอนนี้กำลังวุ่นวายเป็นอย่างมาก
“เฮ้ย! เด็กสี่คนนั้นหายไปไหน! พวกแกทำงานกันยังไงวะ!!” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นด้วยความหงุดหงิด เขาชี้นิ้วด่าลูกน้องของตัวเองไม่หยุด
“ผมกำลังติดต่อไปศูนย์กระจายข่าวทุกที่ให้ช่วยตามหาอยู่ครับ เดี๋ยวถ้ามีความคืบหน้าเขาคงจะรีบแจ้งมา หัวหน้าใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ” ลูกน้องคนหนึ่งพยายามทำให้หัวหน้าของตัวเองใจเย็นลง ความจริงทุกคนก็ร้อนใจกันหมดนั่นแหละในสถานการณ์แบบนี้
อัจฉริยะรุ่นเยาว์ของสถาบันโรสโกลหายไปแบบนี้ นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อย
“โถ่เว้ย! ก็อุตส่าห์บอกให้ทางนั้นระวังเรื่องความปลอดภัยของพวกเด็ก ๆ ให้ดีแล้วแท้ ๆ ยังจะบอกว่าการปล่อยให้เด็กอยู่อย่างอิสระจะทำให้เด็กเติบโตได้ดีขึ้นกว่าซะอย่างนั้น”
“แต่ถ้าตายไปก่อนมันจะทันได้โตไหมวะ!” หัวหน้าหน่วยงานจุติพลังโวยวายด้วยความหัวเสีย
ปั้ง! ตึง!
“หัวหน้าครับ! มีเรื่องใหญ่แล้วครับ!” ชายคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาอย่างแรงจนเกิดเสียงดังก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความรีบร้อน
“มีอะไร! เจอพวกเด็ก ๆ แล้วรึไง?” หัวหน้าตะคอกกลับไป
“ใช่ครับ! ศูนย์กระจายข่าวทางทิศใต้ด้านนอกเมืองเกาลู่แจ้งมาว่าเจอกลุ่มคนห้าคนมารายงานเรื่องมอนสเตอร์หลุดจากรอยแยกครับ จากลักษณะภายนอกผมว่ามีสี่คนที่ตรงกันกับอัจฉริยะจากสถาบันโรสโกล” ลูกน้องที่มารายงานรีบกล่าวออกมาทันที
“แล้วพวกเขาปลอดภัยไหม!” หัวหน้ารีบถามต่อด้วยความดีใจทันที ถ้าเจอครบทุกคนแสดงว่าน่าจะไม่ได้รับอันตรายอะไรมากนัก
“ปลอดภัยดีครับ กำลังเดินทางมาที่นี่ แต่พวกเขายื่นคำขอจุติพลังกรณีพิเศษมาด้วยครับ” ชายที่มารายงานรีบกล่าวต่อพลางยื่นเอกสารบางอย่างให้
“หืมม จุติพลังกรณีพิเศษเหรอ?” หัวหน้าหน่วยงานจุติพลังกล่าวออกมาด้วยความสนใจก่อนจะรับเอกสารมาอ่าน หลังอ่านเอกสารที่มีรายงานพร้อมรูปภาพเสร็จเขาก็ตาโตทันที
“ไปเตรียมคริสตัลสีรุ้งเป็นห้าก้อน! รวมถึงเซ็ตจุติพลังเป็นห้าเซ็ตด้วย! ให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด ต้องเสร็จสิ้นก่อนที่ทั้งห้าคนนี้จะมาถึง!!” เขารีบตะโกนสั่งงานลูกน้องด้วยความตื่นเต้นทันที
มีผู้แข็งแกร่งที่ยังไม่จุติพลังกำลังจะมาจุติพลังเป็นกรณีพิเศษ! ถ้าเขาสามารถดึงตัวให้ชายคนนี้มาช่วยงานหรือผูกมิตรไว้ได้มันก็จะสร้างผลประโยชน์ให้กับหน่วยงานเขาได้อย่างมหาศาล ไหนจะผลตอบแทบที่รัฐบาลจะมอบให้กับหน่วยงานของเขาอีก! งานนี้ต้องเตรียมการต้อนรับให้ดีเสียแล้ว
...
ที่ห้องกว้างขนาดใหญ่ซึ่งเป็นห้องแรกสุดเมื่อเดินเข้าอาคารมา
“ยินดีต้อนรับ ทุกคนปลอดภัยดีใช่ไหม ?” หัวหน้าหน่วยงานจุติพลังกล่าวต้อนรับกลุ่มคนทั้งห้าที่เพิ่งจะเดินทางมาถึงเมื่อสักครู่ เขายิ้มแย้มให้อย่างเป็นมิตร
“สวัสดี ครับ/ค่ะ ท่านหัวหน้าหน่วย” ชายหญิงทั้งสี่คนยกเว้นเย่ซีกล่าวตอบกลับทันที
“สวัสดี” เย่ซีที่เห็นคนอื่น ๆ กล่าวออกมาจึงกล่าวตามไป
“ทั้งสี่คนมาจากสถาบันโรสโกลสินะ ฉันได้รับข่าวและเตรียมการไว้ให้แล้ว... ส่วนทางนี้คือท่านเย่ซีใช่ไหมครับ ?” หัวหน้าหน่วยหยักหน้ารับคำทักทายก่อนจะกล่าวออกมา ประโยคแรกเขาหันไปมองกลุ่มคนทั้งสี่ส่วนประโยคสุดท้ายหันไปหาเย่ซี จากการสำรวจภายนอกเขาก็พบว่าชายคนนี้ช่างแตกต่างจากผู้จุติทั่วไปโดยสิ้นเชิง
ด้วยประสบการณ์การเป็นหัวหน้าหน่วยงานจุติพลังมาเป็นเวลาสิบปี เขาสามารถรับรู้ได้ว่ากลิ่นอาย มวลกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหว ความมั่นใจในตัวเองที่แสดงออกของเย่ซี ล้วนเป็นของผู้แข็งแกร่งที่มั่นใจในพละกำลังของตัวเองพึงมีทั้งนั้น นั่นเป็นการบ่งบอกให้รู้คร่าว ๆ ว่าเย่ซีนั้นไม่ใช่คนธรรมดาจริง ๆ
ครึ่งหลัง
“ใช่แล้ว.. ข้าสามารถเข้าร่วมการจุติพลังได้ใช่หรือไม่ ?” ชายหนุ่มตอบรับก่อนจะถามกลับไป
“ได้ครับ! แต่อาจมีเงื่อนไขอยู่เล็กน้อยนะครับ” หัวหน้าหน่วยยิ้มให้ก่อนจะกล่าวตอบ
“ว่ามาสิ” เย่ซีตอบรับอย่างว่าง่าย ขอแค่เขาทำได้เขาย่อมทำตาม
“เงื่อนไขก็คือ คุณต้องช่วยพวกเราต่อสู้กับมอนสเตอร์ ก็พอแล้วครับ” หัวหน้าหน่วยทำหน้าจริงจังก่อนจะบอกเงื่อนไขออกมา เมื่อเย่ซีได้ยินก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
ตอนแรกเขานึกว่าอีกฝ่ายจะขอให้รักษาความลับ เป็นพันธมิตรไม่หักหลัง เข้าร่วมเป็นพรรคพวก หรืออะไรทำนองนั้นเสียอีก
“ข้าตกลง! ถึงยังไงข้าก็กำจัดมอนสเตอร์หรือสัตว์ร้ายอยู่แล้ว” เย่ซีตอบกลับไป
“ถ้างั้นก็เป็นอันตกลงครับ เราไปห้องจุติพลังกันเถอะ!” หัวหน้าหน่วยกล่าวพลางยิ้มออกมา ก่อนที่เขาจะเดินนำหน้ากลุ่มคนทั้งห้าที่ยินงงอยู่
“หัวหน้าครับ! แค่สัญญาปากเปล่าแบบนั้นจะมีประโยชน์เหรอครับ ?” ลูกน้องคนสนิทที่เดินอยู่ข้างหัวหน้าหน่วยกระซิบถามข้างหู
แต่ถึงแม้จะกระซิบกันเบาแค่ไหน เย่ซีที่ยืนอยู่ก็ยังได้ยินอยู่ดี เพราะประสาทสัมผัสของเขานั้นเฉียบคมเป็นอย่างมาก ระยะแค่ไม่ถึงลี้เช่นนี้แม้มีเข็มหล่นสักเล่มเขาก็ยังได้ยิน
“ไม่เป็นไรหรอก กับคนที่แข็งแกร่งแบบนั้นต่อให้จะมีสัญญาสักร้อยฉบับก็ไม่อาจรั้งเขาไว้ได้ ถ้าเขาไม่ต้องการ”
“แต่กลับกัน การที่เขาเอ่ยปากสัญญาเองเช่นนี้ นับว่ามีค่ามากกว่าเสียอีก” หัวหน้าหน่วยตอบลูกน้องของเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขามั่นใจมากว่าเขามองคนออก
เย่ซีที่ได้ยินก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ความจริงมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรอยู่แล้วกับการกำจัดมอนสเตอร์ต่าง ๆ ถ้าจะมีปัญหาก็มีอยู่เรื่องเดียวคืออีกแค่สองวันกว่า เขาก็ต้องกลับไปยังโลกไวท์เรียม โลกแห่งกำลังภายในแล้ว
ดังนั้นต่อให้เขาจะสัญญาอะไรไปเขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักว่าจะทำตามได้ไหม เพราะเขามีเวลาเหลือแค่สามวันเองนี่นา!
หลังจากเดินกันมาได้สักพัก ก็มาถึงห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีประตูห้องอยู่ด้านหน้าสิบห้องหัวหน้าหน่วยผายมือไปยังห้องเหล่านั้น “ที่นี่แหละครับ!” เขายิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจในห้องจุติพลังที่หน่วยงานของเขาสร้างขึ้น
“คุณเย่ซียังไม่ทราบขั้นตอนในการจุติพลังใช่ไหมคะ ?” อันหลานที่นิ่งเงียบมานานกล่าวถามออกมา เพราะหลังจากนี้พวกเขาก็ต้องแยกย้ายกันไปจุติพลังคนละห้องกันแล้ว
“ใช่แล้ว ข้ายังไม่ทราบ” เย่ซีตอบกลับไป เขาก็นึกว่าแค่เดินไปจับลูกแก้วหรือยืนเฉย ๆ แบบในนิยายก็สามารถจุติพลังได้เสียอีก
มันไม่ใช่แบบนั้นรึไง ?
“ไม่ต้องห่วงครับ ข้างในจะมีเครื่องโฮโลแกรมจำลองการจุติพลังให้รับชมอย่างละเอียด ขอเชิญทุกท่านแยกย้ายกันไปคนละห้องได้เลยครับ” หัวหน้าหน่วยที่ได้ยินการสนทนาของทั้งคู่ก็กล่าวออกมา
เมื่อได้ยินสิ่งที่หัวหน้าหน่วยบอก ทั้งห้าคนก็แยกย้ายกันไปคนละห้อง โดยเย่ซีเลือกที่จะเดินเข้าห้องหมายเลขหนึ่ง ส่วนคนอื่น ๆ ก็กระจายกันไป
“ไอ้นั่นสินะ เครื่องโฮโลแกรมที่ว่า” ชายหนุ่มมองเห็นเครื่องฉายภาพจากพื้นที่กำลังแสดงร่างของชายผู้หนึ่งอยู่ ร่างของชายผู้นั้นทำท่าทางยื่นมือไปจับก้อนอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นสักพักก้อนที่ว่าก็เรืองแสงออกมาก่อนจะสลายหายเข้าไปในร่างของชายผู้นั้น
“แค่นี้อะนะการจุติพลัง?!!” เย่ซีกล่าวออกมาด้วยความตกตะลึง
แบบนี้มันก็เหมือนกับในนิยายทั่วไปไม่ใช่รึไงกัน ?!