ดันเจี้ยนทะเลทรายแห้งแล้ง (อ่านฟรี 21/07/2567)
“เพิ่งจะผ่านไปแค่หนึ่งชั่วโมงก็มีเกือบห้าทีมที่เข้าไปแล้วแหะ” ชายร่างเล็กกล่าวออกมาด้วยความแปลกใจ
เขาเป็นนักผจญภัยที่มีอาชีพเป็นหัวขโมย ชำนาญในการหากับดักและช่องทางลับต่าง ๆ อาชีพนี้นับว่ามีความสำคัญไม่น้อยในการบุกดันเจี้ยนแต่ละครั้ง
“ก็ไม่แปลกหรอก เดี๋ยวนี้นักผจญภัยมีเยอะจะตาย ถึงจะน้อยกว่าผู้ปลุกพลังสายอาชีพอื่นก็เถอะ” หญิงสาวผมทองที่มองยังไงก็น่าจะเป็นคนต่างชาติตอบกลับไป เธอพกแส้ไว้ที่ข้างเอว
“เสียดายที่ไม่มีคนได้อาชีพนักบุญมาด้วย แต่มีหมอยาก็พอแล้วล่ะ” ชายหน้าตาดุดันมีผมสีแดงตัดสั้นกล่าวออกมา เขาพกดาบมือเดียวกับโล่ไว้ที่ด้านหลัง มีอาชีพเป็นนักรบดาบ
“เมื่อไรสมาชิกคนสุดท้ายจะครบสักที ผมกลัวทีมอื่นจะเคลียดันเจี้ยนได้ก่อนพวกเราจะเสียเวลากันเปล่า ๆ” ชายกลางคนที่สวมแว่นหน้าตาดูเหมือนเด็กเรียนกล่าวออกมาด้วยความกังวล เขาสวมชุดคลุมเหมือนหมอแต่พกสมุนไพรแปลก ๆ ไว้ด้านในเต็มไปหมด
แต่ในตอนที่ทุกคนกำลังเบื่อหน่ายอยู่นั่นเองก็ได้มีเสียงใครบางคนดังขึ้นมาเสียก่อน “ทุกคน ฉันพาสมาชิกคนสุดท้ายมาทำความรู้จัก” เป็นทวันซูผู้เป็นมิตรรวมถึงเป็นเสมือนหัวหน้าทีมชั่วคราวนั่นเอง เขาเดินมาพร้อมกับซาฮาที่เป็นนักธนูและชายแปลกหน้าผู้หล่อเหลาแต่ดูเย็นชาคนหนึ่ง
“โอ้ว! ในที่สุดก็ครบสักที แล้วคนสุดท้ายมีอาชีพอะไรล่ะ ? แรงค์อะไร ?” ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่มีผมสามสี สีเขียว สีแดง สีเหลือง ท่าทางดูห้าว ๆ กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น
“อ่า.. เขาชื่อคุณคริสครับ แรงค์ F คุณคริสอาชีพอะไรนะครับ ?” ทวันซูกล่าวแนะนำออกมาก่อนจะหันไปถามต่อเพราะเขาลืมถามอาชีพของอีกฝ่าย
“ผู้กลืนกินสรรพสิ่ง” คริสตอบกลับไปพลางสำรวจสมาชิกคนอื่นในทีมไปด้วย
แต่ละคนพกอาวุธหรือสิ่งของไม่ซ้ำกันเลย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือพวกเขาจะมีป้ายที่แสดงชื่อและระดับติดอยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งบนร่างกาย
“ผู้กลืนกินสรรพสิ่ง ? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยแหะ อย่าบอกนะว่าเป็นอาชีพกรอบสีรุ้ง!!” ชายที่มีอาชีพหัวขโมยกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น
ถ้าทีมพวกเขามีอาชีพกรอบสีไร้มาด้วย ภารกิจของพวกเขาต้องง่ายขึ้นมากแน่ ๆ ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นแรงค์ F ก็เถอะ!
มันมีให้เห็นตัวอย่างตั้งเยอะแยะที่มีเรื่องเล่าว่าพวกอาชีพกรอบสีรุ้งสามารถต่อสู้ข้ามแรงค์ได้บ้างล่ะ หรือมีพลังที่เก่งกาจเหนือผู้ปลุกพลังคนอื่นบ้างล่ะ จนทำให้อาชีพกรอบสีรุ้งเป็นความฝันและความภาคภูมิใจของแต่ละประเทศเลยก็ว่าได้
“สีขาว เห็นเขาว่าอย่างนั้นนะ” คำตอบของคริสทำให้สมาชิกในทีมที่เหลือซึ่งกำลังให้ความสนใจ ต่างพากันหยุดความสนใจในตัวสมาชิกคนสุดท้ายทันที
“ก็มีดีแค่ชื่ออาชีพนี่หว่า สุดท้ายก็ขยะ” ชายหัวสามสีกล่าวออกมาอย่างไม่สนใจว่าจะมีใครได้ยินไหม ซึ่งนั่นก็ทำให้ทวันซูที่เป็นคนพาคริสมามีใบหน้าที่มืดลงเล็กน้อย
“เชอรีฟ นายควรจะพูดจาให้เกียรติคนอื่นบ้างนะ!” หญิงสาวที่มีใบหน้างดงามในชุดนักเวทย์กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ เธอไม่ชอบมารยาทของอีกฝ่ายเอาเสียเลย
“เลิกเถียงกันได้แล้ว! คุณคริสเขาอาสามาเป็นคนแบกสัมภาระ ดังนั้นอย่าเสียมารยาทให้มากนัก” ทวันซูกล่าวออกมาด้วยเสียงที่ดังไม่น้อย ทำให้สมาชิกทุกคนพากันเงียบเสียงลง แม้จะยังมีบางคนที่ไม่พอใจแล้วเดาะลิ้นออกมาก็ตาม
“ตอนนี้คนก็ครบแล้ว จะไปกันได้รึยัง ?” หญิงสาวอีกคนที่สวมชุดคล้ายจอมยุทธ์จีนโบราณกล่าวออกมา เธอสวมผ้าปิดหน้าไว้อีกชั้นนึงจึงทำให้ไม่มีใครมองเห็นใบหน้าของเธอ
“เข้าไปกันเถอะ! พวกเราต้องเคลียดันเจี้ยนนี้ให้สำเร็จเป็นทีมแรกให้ได้!” ทวันซูกล่าวออกมาก่อนจะเดินนำหน้าสมาชิกในทีมที่เหลือเข้าไปยังรอยแยกที่เปิดอยู่
ครึ่งหลัง
เมื่อเกินผ่านรอยแยกเข้ามาแล้วก็พบว่าด้านในมันคือทะเลทรายที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาแห่งหนึ่ง มองไปทางไหนก็มีแต่ทรายและต้นกระบองเพชรเท่านั้น
“ดูเหมือนทีมที่เข้ามาก่อนจะนำหน้าเราไปแล้วนะ” ซาฮา นักธนูประจำทีมกล่าวออกมาหลังสังเกตโดยรอบเรียบร้อยแล้ว เขามองเห็นรอยเท้าของกลุ่มคนอยู่หลายจุด แต่กลับไม่มีผู้คนอยู่โดยรอบเลยแม้แต่น้อย
“ทุกคนลองเปิดหน้าต่างดันเจี้ยนขึ้นมาอ่านรายละเอียดกันก่อนนะ” ทวันซูกล่าวขึ้นมาก่อนจะทำการเปิดหน้าต่างรายละเอียดดันเจี้ยนขึ้นมาอ่าน
คริสที่เพิ่งจะเคยเข้าดันเจี้ยนเป็นครั้งแรกและไม่เคยเปิดหน้าต่างดันเจี้ยนที่ว่ามาก่อน แต่เขาก็ทำการศึกษาจากอินเทอร์เน็ตมาแล้ว ชายหนุ่มจึงทำการเรียกหน้าต่างดันเจี้ยนในใจ
ทันใดนั้นหน้าต่างโปร่งแสงแบบเดียวกับตอนที่เรียกดูค่าสเตตัชก็ปรากฏขึ้น คริสอ่านรายละเอียดบนหน้าต่างทันที
[ดันเจี้ยนทะเลทรายแห้งแล้ง
ระดับความยาก [E]
รายละเอียด : กำจัดบอสมอนสเตอร์ระดับ 3 หนึ่งตัว , มอนสเตอร์ระดับ 2 สิบตัว , มอนสเตอร์ระดับ 1 ห้าสิบตัว
เงื่อนไข : มีสมาชิกในทีมทั้งหมด 10 คน]
“บอสมอนสเตอร์ระดับ 3 ! สมาชิกทีมแค่สิบคนเนี่ยนะ!” ชายที่มีอาชีพเป็นหัวขโมยกล่าวออกมาด้วยความตกใจ ดันเจี้ยนนี้นับว่ายากจนเกินไปเลยทีเดียว!
‘ถ้าเราจำไม่ผิด บอสมอนสเตอร์จะแข็งแกร่งกว่ามอนสเตอร์ปกติสินะ’ คริสที่อ่านจบก็นึกย้อนไปถึงเมื่อวานตอนที่เขาหาข้อมูลเรื่องของมอนสเตอร์
โดยระดับความยากของบอสมอนสเตอร์จะถูกแบ่งความยากตามความเข้าใจของผู้คนไว้ดังต่อไปนี้
มอนสเตอร์ระดับ 1 นักผจญภัยระดับ F 5คน
มอนสเตอร์ระดับ 2 นักผจญภัยระดับ F 10คน หรือ E 3คน
มอนสเตอร์ระดับ 3 นักผจญภัยระดับ E 20คน หรือ D 5คน
มอนสเตอร์ระดับ 4 นักผจญภัยระดับ D 30คน หรือ C 10คน
มอนสเตอร์ระดับ 5 นักผจญภัยระดับ C 50คน หรือ B 15คน
มอนสเตอร์ระดับ 6 นักผจญภัยระดับ B 70คน หรือ A 30คน
มอนสเตอร์ระดับ 7 นักผจญภัยระดับ A 100คน หรือ S 10คน
มอนสเตอร์ระดับ 8 นักผจญภัยระดับ S 50คน หรือ SS 5 คน
ส่วนมอนสเตอร์ระดับ 9 เคยปรากฏออกมาเพียงครั้งเดียว ในตอนนั้นมีนักผจญภัยระดับ S กว่าร้อยคนรุมโจมตีแต่มันก็ยังหนีไปได้ ทำให้โลกตกอยู่ในความวุ่นวายไปชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว แต่ผ่านมาห้าปีมันก็ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นอีกเลย
ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันก็เป็นเพียงการคาดคะเนแบบคร่าว ๆ เท่านั้น เพราะในสถานการณ์จริงมันก็มีปัจจัยอื่นที่ต้องนำมาคำนวณอยู่อีก ไม่ว่าจะคุณลักษณะของบอสมอนสเตอร์ สภาพภูมิประเทศ ความแข็งแกร่งของนักผจญภัยแต่ละคน
“จริงอย่างที่ฮันซูว่า พวกเราจะเอายังไงกันดี ?” หญิงสาวที่มีท่าทางห้าว ๆ ผมของเธอสั้นถึงไหล่สวมชุดนักผจญภัยที่ทำจากหนังอะไรสักอย่างมีสีดำกล่าวออกมา เธอมีอาชีพมือทะลวงใช้หอกเป็นอาวุธหลัก
“ผมคิดว่า เราคงต้องร่วมมือกับทีมอื่นนะครับ ไม่อย่างนั้นคงจะเคลียดันเจี้ยนนี้ไม่ได้แน่ ๆ” ทวันซูกล่าวออกมาหลังจากเขาพยายามคิดหาหนทาง ดูเหมือนการร่วมมือกับทีมอื่นน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว
“ฉันก็เห็นด้วย มีใครไม่เห็นด้วยบ้างไหม ?” ซาฮากล่าวออกมา เขาคิดว่ามันคงจะดีที่สุดแล้ว
หลังจากซาฮาหันไปถามทุกคนแต่ไม่มีใครกล่าวแย้งอะไร ทุกคนจึงได้ทำการเดินทางทันที พวกเขาให้หัวขโมยทำการแกะรอยเท้าแล้วเดินทางตามทีมที่นำหน้าไปก่อน ทุกคนในทีมต่างเฝ้าระวังและอยู่ในตำแหน่งของตัวเองเป็นอย่างดี