ตอนที่ 4: ถ้ำในน้ำ ร่องรอยของชุดชั้นใน
ตอนที่ 4: ถ้ำในน้ำ ร่องรอยของชุดชั้นใน
ประตูเขากระบี่ผงาดตั้งตระหง่าน ซึ่งลักษณะโดยรวมคือ “เขาสามน้ำหนึ่ง”
นอกจากทางฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นที่ตั้งของเขากระบี่ผงาด อีกสามฝั่งที่เหลือได้ถูกขุดลอกเทียมเพื่อสร้างแม่น้ำปกป้องขุนเขาตามธรรมชาติ
หากกองกำลังต่างแดนอยากโจมตีก็จำเป็นต้องข้ามแม่น้ำก่อน
หากคนข้างในต้องออกไปข้างนอกย่อมต้องข้ามแม่น้ำเช่นกัน
ในตอนนี้ บริเวณแม่น้ำทางตอนเหนือของเขากระบี่ผงาด
มันคือสถานที่ที่ฉู่อี้มักฝึกฝนกระบี่ ซึ่งเขาคุ้นเคยกับวัตถุที่กระจัดกระจายตามมุมทั้งหลายของฝั่งแม่น้ำทางเหนือเป็นอย่างดี
ไม่นานหลังจากนั้น เขานำเรือกันสาดที่ถูกทิ้งลำหนึ่งมาซ่อมแซมก่อนจะพาลงแม่น้ำ
ฉู่อี้มัดลั่วซินเอ๋อร์ผู้หมดสติ จากนั้นนำมาหมัดกับเรือก่อนจะเตะให้มันลอยไปตามภูมิประเทศ
เขายังคงคาบชุดชั้นในที่ปักด้วยลายดอกเหมยฮวาไว้ในปาก โดยความอบอุ่นกับกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของหญิงสาวที่ยังหลงเหลืออยู่แผ่ซ่านเข้าไปในจมูก แต่มันไม่อาจทำให้ฉู่อี้รู้สึกถึงเสน่หาอะไรได้
ความเร่งด่วนของสถานการณ์ก็เรื่องหนึ่ง
ในทางกลับกัน เนื่องจากไม่มีมือ ทำให้ต้องถอดชุดชั้นในด้วยเท้า
แม้ผู้หญิงจะหน้าตาสละสลวย แต่การให้เลียเท้าออกจากไร้ยางอายเกินไปหน่อย
ฉู่อี้ฟังการเคลื่อนไหวที่ค่อยตามมาข้างหลังก่อนจะทราบว่าผู้ไล่ล่ามาถึงแล้ว
เขาพ่นชุดชั้นในลงบนโคลนริมน้ำแล้วจับเวลา เมื่อโคลนเบื้องล่างถูกน้ำพัดพา พวกมันจึงลอยไปตามกระแสน้ำเพื่อให้สามารถถ่วงเวลาให้กับตนเองได้
จากนั้น ฉู่อี้ที่เหลือเพียงขากระโจนลงไปในน้ำ กระนั้นการเคลื่อนไหวกลับปราดเปรียวประหนึ่งภูตผีน้ำในตำนานที่จมดิ่งลงสู่ก้นน้ำ
ส่วนบริเวณผิวแม่น้ำมีเพียงระลอกคลื่น ไม่ช้าจึงกลับมาสงบอีกครั้ง
ฉู่อี้ค่อยดำลงไปตามแม่น้ำ
ขาซึ่งไร้ความคล่องตัวเมื่ออยู่บนฝั่งกลับกลายเป็นปลาเมื่ออยู่ในน้ำ พวกมันเหมือนกับใบพัดกำลังสูงสุดขณะผลักเขาไปยังสถานที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว
ฉู่อี้จำได้เลือนรางว่ามีทางเข้าคฤหาสน์วารีที่ก้นทะเลสาบ
มันคือสิ่งที่พบโดยบังเอิญขณะดำสำรวจแม่น้ำและฝึกวิทยายุทธ์ ซึ่งฉู่อี้ไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้กับใคร
ประการแรก บริเวณห้วงน้ำทะเลสาบใหญ่ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขากระบี่ผงาดมักมีประเพณีการบูชา "เซียนวารี" มาโดยตลอด
พวกเขาเชื่อว่าน้ำสามารถชะล้างสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดได้ ดังนั้นทุกสิ่งที่จมอยู่ใต้น้ำจึงเป็นลางร้าย
ในตอนนั้นฉู่อี้ถวายหัวใจทั้งหมดให้กับแม่ลูกตระกูลลั่ว แน่นอนว่าหากเน้นเพียงของดี คฤหาสน์วารีแห่งนี้ย่อมไม่ถูกจัดอยู่ในอันดับสูงอย่างไม่ต้องสงสัย
ประการที่สอง พละกำลังของเขาเติบโตอย่างรวดเร็วจนแม่น้ำถูกตัดออกจากรายการฝึกของตนเองอย่างรวดเร็ว
หากไม่กลับมาในวันนี้ เกรงว่าเขาอาจจะจำเรื่องนี้ไม่ได้
ด้วยความผิดพลาดบางอย่าง คฤหาสน์วารีแห่งนี้จึงกลายเป็นความหวังในการหลบหนีของฉู่อี้
ตามเส้นทางการไหลของน้ำที่คฤหาสน์วารีตั้งอยู่ โดยปกติแล้วจะมีแม่น้ำใต้ดินไหลผ่าน แต่ไม่ทราบว่ามันจะพาไปสู่ที่ใด
สำหรับฉู่อี้
ตอนนี้เขาเพียงหวังที่จะหลบหนีจากการไล่ล่าของ “เขากระบี่ผงาด” หากสามารถออกจากขอบเขตอิทธิพลของที่นี่ได้ เช่นนั้นทุกอย่างก็จะดีขึ้น
ไม่ช้า เสาหินสีดำสองต้นจึงปรากฏตรงหน้าเขา
ใต้เสาหินคล้ายกับถูกฝังอยู่ในดินอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าแม่น้ำจะซัดมาเท่าไหร่ก็ยังคงตั้งตระหง่านไม่ไหวติง
น้ำระหว่างเสาหินเริ่มปั่นป่วนจนสามารถให้เพียงคนเดียวผ่านเข้าไปได้
ฉู่อี้มองไปที่อีกด้านของหุบเหวไร้ก้น แม้ก้นบึ้งของหัวใจจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่เขาเหลือกำลังกายไม่มากแล้ว
ยามคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตอนอยู่เขากระบี่ผงาด
ฉู่อี้รู้สึกถึงร่องรอยความเกลียดชังอยู่ภายในขณะสายตายิ่งหนักแน่น ไม่ช้าจึงพุ่งทะยานก่อนจะถูกคลื่นใต้น้ำดูดเข้าไป
…
อีกด้านหนึ่ง
ศิษย์สองคนมาถึงทางน้ำตอนเหนือ ซึ่งพวกเขาบังเอิญพบเสื้อผ้าสีแดงเข้มลอยอยู่บนน้ำ
พวกเขามองหน้ากัน แล้วหนึ่งในนั้นจึงถอดเสื้อออกก่อนจะกระโดดลงน้ำแล้วรีบคว้าเสื้อผ้ามาไว้ในมือ
ทว่า เมื่อเห็นรูปลักษณ์เดิมของสิ่งนี้อย่างชัดเจน
สีหน้าของศิษย์อดไม่ได้ที่จะเผยความประหลาดใจจนถึงขั้นเอื้อมมือไปลูบคลำอยู่หลายครั้งโดยไม่รู้ตัว
“เจ้าพบอะไร?”
อีกคนพลันเอ่ยถาม ทำให้ศิษย์ก่อนหน้าที่จิตใจเตลิดกลับมามีสติ
เขาลังเลสักพัก จากนั้นนำชุดชั้นในกลับไปซักในน้ำแล้วบิดให้แห้ง แล้วรีบโยนข้ามฝั่งจนศิษย์อีกคนคว้าเอาไว้ได้สำเร็จ
หลังจากนั้นคนผู้นี้เอ่ยคำ "นี่น่าจะเป็นของส่วนตัวของแม่นางซินเอ๋อร์... ไอ้สารเลวฉู่อี้ คราวนี้มันทำเกินไปแล้ว!"
ศิษย์ผู้รับชุดชั้นในมีร่องรอยความขุ่นเคืองบนใบหน้าขณะสาปแช่งเสียงดัง
“แล้วเจ้าไม่มีปากพูดหรือไง! เหตุใดถึงต้องโยนของพวกนี้มาให้ข้าด้วย?”
“เจ้าอย่าเพิ่งโกรธ หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดมก่อนว่ากลิ่นหอมหรือไม่”
ศิษย์ที่อยู่ในน้ำเอ่ยคำขณะแสดงสีหน้าว่าผู้ชายทุกคนต่างเข้าใจพร้อมกับถูมือ "พี่หลี่ ตอนนี้พวกเราทั้งได้สัมผัสและก็ดมแล้ว ถือว่าลงเรือลำเดียวกัน เหตุการณ์ในวันนี้ห้ามแพร่งพรายไปถึงหูของบุคคลที่สามเป็นอันขาด หาไม่แล้วเจ้ายอดเขาลั่วย่อมไม่ไว้ชีวิตพวกเราอย่างแน่นอน”
ศิษย์ผู้ถูกเรียกว่า "พี่หลี่" เผยสีหน้าทั้งดีใจและโกรธเมื่อได้ยินเช่นนี้
ทว่า ศิษย์ในน้ำอดรนทนไม่ไหวก่อนจะตะครุบเข้าใส่
"เจ้าจะทำอะไร?"
“ทำอะไรงั้นหรือ เจ้าบีบคลำอยู่นานยังไม่หนำใจหรือไง รีบเอามาให้ข้าดมบ้าง ไม่งั้นเดี๋ยวกลิ่นจะหายเอาได้!”
“ให้ตายเถอะ เจ้าพูดได้ถูกใจยิ่งนัก”
ทั้งสองรีบกระโดดลงไปในน้ำประหนึ่งคู่รักกำลังหยอกเย้าด้วยกัน
ส่วนจุดประสงค์ที่ออกมาในครั้งนี้ต่างถูกมองข้ามไปนานแล้ว
เหลวไหลสิ้นดี!
ต้องใช้สมองมากขนาดไหนถึงคิดปล่อยให้เด็กเหลือขออย่างพวกเขาผู้ยังไม่ไปถึงขอบเขตสวรรค์ประทานมาไล่ตามบุคคลทรงพลังผู้เคยเป็นมหาปรมาจารย์มาก่อน
ภายนอกทำเป็นขึงขัง แต่แท้จริงแล้วคาดหวังให้ทุกคนไปตายหรืออย่างไร?
ถึงกระนั้น เขากระบี่ผงาดยังคงเป็นกองกำลังสูงสุดในห้วงน้ำทะเลสาบใหญ่
ภายใต้การค้นหาอย่างดุเดือดของพวกเขา
แม้ฉู่อี้จะไม่ถูกจับ แต่ในที่สุดลั่วซินเอ๋อร์ผู้ถูกมัดกับเรือจึงถูกพบโดยคนจากเขากระบี่ผงาด
นอกจากร่างของลั่วซินเอ๋อร์จะสกปรกและมีรอยมัดที่ต้นขาด้านในแล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติแต่อย่างใด
เห็นได้ชัดว่าฉู่อี้ไม่ได้แตะต้องหรือกระทำผิดต่อนางแต่อย่างใด
แต่ว่า…
ชุดชั้นในของลั่วซินเอ๋อร์กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
แม้ข่าวจะถูกปกปิดโดยลั่วอวี่เจินเหริน แต่ข่าวซุบซิบทั้งหลายยังคงแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
ผู้คนทั้งหลายถึงกับทำตัวเป็นผู้พิพากษาท้องถิ่นแล้วเริ่มค้นหาผู้กระทำผิดตามเบาะแสที่มี
บางคนสงสัยว่าฉู่อี้กระทำบางอย่างก่อนทำการหลบหนี ทำให้มีการคาดเดาว่านอกจากจะเคยเป็นศิษย์ของเขากระบี่ผงาดแล้ว คนผู้นี้อาจเคยเป็นโจรเด็ดดอกไม้อีกด้วย
แต่การอนุมานพร้อมจุดยืนที่ชัดเจนนี้กลับไม่ได้รับความนิยม
ดังนั้น มันจึงนำไปสู่สมมติฐานอีกอันที่น่าเชื่อถือยิ่งกว่า
พวกเขาคาดเดาว่าอาจเป็นเพราะลั่วซินเอ๋อร์มีงานอดิเรกไม่เหมือนใคร ส่งผลให้สิ่งที่เรียกว่าชุดชั้นในจึงไม่มีอยู่มาตั้งแต่แรก
ถึงอย่างไร มันเป็นเรื่องปกติสำหรับคุณหนูฐานะสูงส่งที่จะมีงานอดิเรกพิเศษหลังจากอดทนอดกลั้นมานาน
ซึ่งสอดคล้องกับการคาดเดาของคนทั่วไปเกี่ยวกับตระกูลที่มีฐานะมั่งคั่ง