บทที่ 9 : สังหารผู้ฝึกตนอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำสามคนด้วยฝ่ามือเดียว
บทที่ 9 : สังหารผู้ฝึกตนอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำสามคนด้วยฝ่ามือเดียว
ลู่ชิงซวนกำลังนำกลุ่มคนจากคฤหาสน์ราชาลู่ พุ่งตรงไปยังกลุ่มตระกูลโจวที่อยู่ใกล้ที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม, เหมืองแร่ทองคำม่วงคังลันก็อยู่ใกล้เส้นทางการเดินทางของพวกเขาพอดิบพอดี
หลังจากที่ลู่ชิงซวนคิดอยู่ชั่วครู่
เขาก็วางแผนที่จะสังหารศัตรูที่ประจำการอยู่ในเหมืองก่อน
ช่วยคนในตระกูลที่ถูกใช้งานเยี่ยงท่าส, จากนั้นค่อยไปสังหารพวกตระกูลโจว
เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้น
ลู่ชิงซวนก็พาทุกคนไปที่เหมืองทองคำม่วงคังหลัน
สั่งให้ทุกคนลงมือสังหารผู้ฝึกตนจากสามตระกูลใหญ่โดยไม่ต้องพูดให้มากความ
"ฆ่ามัน, แก้แค้นให้คนในตระกูลของเรา!"
สมาชิกของคฤหาสน์ราชาลู่รีบวิ่งออกไปพร้อมอาวุธหลากหลายชนิด และต่อสู้กับสามตระกูลใหญ่ที่ประจำการอยู่ในเหมืองในทันที
ชั่วขณะหนึ่ง
ปราณแห่งจิตวิญญาณก็ระเบิดออก พร้อมเสียงการต่อสู้และเสียงกรีดร้องต่างๆที่ดังก้องกังวาน
สมาชิกของสามตระกูลใหญ่ได้จมอยู่ในกองเลือดทีละคนภายใต้การโจมตีอันโกรธเกรี้ยวของคฤหาสน์ราชาลู่
"อ้าก ให้ตายเถอะ, พวกคนจากคฤหาสน์ราชาลู่เป็นบ้าไปหมดแล้ว!"
“เร็วเข้า...รีบเชิญผู้อาวุโสทั้งสามเร็วเข้า!”
สมาชิกในตระกูลโจวต่างหวาดกลัว อย่างมาก เมื่อพวกเขาเห็นคนจากคฤหาสน์ราชาลู่ซึ่งต่างเหมือนสัตว์อสูรที่บ้าคลั่ง
พุ่งเข้ามาโจมตี, พร้อมกับกู่ร้องคำรามด้วยความโกรธ
อย่างไรก็ตาม, ในยามนี้มีเสียงตะโกนก็ดังมาจากระยะไกล
“พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงมาที่นี่และทำตัวดุร้ายเช่นนี้!”
หลังจากเสียงดังกล่าว
ผู้ฝึกตนสามคนจากอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำก็ร่อนลงมาสู่พื้นที่ว่างเปล่าในสมรภูมิ
เมื่อมองดูสถานการณ์โดยรอบ
พวกเขาก็เห็นว่าสมาชิกในตระกูลของพวกเขาหลายคนกำลังนอนจมกองเลือดหรือเสียชีวิตไปแล้ว
ซึ่งสิ่งเหล่านี้, ส่งผลให้แววตาของพวกเขาฉายเจตนาสังหารขึ้นมาในทันที
"ข้าไม่ได้คาดหวังให้คนจากคฤหาสน์ราชาลู่จะหาญกล้าเช่นนี้จริงๆ!"
ในไม่ช้า พวกเขาทั้งสามก็พบว่าคนที่มาโจมตีพวกเขาล้วนมาจากคฤหาสน์ราชาลู่
นอกจากนี้, ยังมีผู้อาวุโสของคฤหาสน์ราชาลู่ที่คุ้นหน้าหลายคน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขากำลังจะลงมือ
ทันใดนั้น, มันก็มีฝ่ามือปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าและฟาดลงมาเสียก่อน
"แย่แล้ว!"
ภายใต้ฝ่ามืออันน่าสะพรึงกลัวนั้น, พวกเขารู้สึกถึงอันตรายร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน
โดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
ทั้งสามคนต่างใช้อาวุธของตนฟาดฟันฝ่ามือที่อยู่เบื้องหน้าอย่างสุดกำลัง
อย่างไรก็ตาม, ภายใต้ฝ่ามือนี้ วิธีการใดๆของพวกเขาล้วนไร้ประโยชน์
ฝ่ามือที่ถูกกดลงเบื้องร่างเริ่มแผ่ขยายใหญ่ขึ้นในสายตาของผู้อาวุโสทั้งสามคน
บูมมม~~~!!!
ทั้งสามหลายเป็นเพียงก้อนกรวดที่ถูกบดขยี้สู่พื้นพสุธา
เหลือไว้เพียงรอยฝ่ามือทั้งห้านิ้วที่ประทับอยู่บนพื้นดิน
เมื่อมองให้ชัดๆ
จะเห็นว่าผู้ฝึกตนอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำทั้งสามคนต่างถูกบดขยี้จนกลายเป็นเศษเนื้อและแปรเปลี่ยนรอยฝ่ามือให้กลายเป็นเลือดสีแดงฉาน
ผนึกฝ่ามือนี้คือตราประทับเปิดภูผา ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยลู่ชิงซวน, เเละมันเป็นการเคลื่อนไหวจากทักษะระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดอย่าง "วิชาผนึกราชันย์"
ประกอบกับความแข็งแกร่งทางร่างกายที่ไม่มีใครเทียบได้ของเขา, การโจมตีครั้งนี้จึงทรงพลังอย่างไม่อาจจินตนาการได้
แม้ว่าผู้ฝึกตนสามคนในขั้นต้นของอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำจะร่วมมือกันต่อต้าน
เเต่พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานพลังอันดุร้ายและน่าสะพรึงกลัวของฝ่ามือนี้ได้เลย
“ชิบหาย!!! ผู้อาวุโสทั้งสามตายแล้ว, หนีเร็วเข้า!”
สมาชิกของทั้งสามตระกูลที่เคยคาดฝันว่าการมาเยือนของผู้อาวุโสทั้งสามจะทำให้สถานการณ์พลิกกลับ
แต่ก่อนที่ผู้อาวุโสของพวกเขาจะได้ลงมือ
พวกเขากลับถูกฝ่ามือของอีกฝ่ายบดขยี้จนตาย
ซึ่งสิ่งนี้ทำให้พวกเขาตกตะลึงและหวาดกลัวอย่างมาก
พวกเขาจะไปต่อสู้กับปีศาจเเบบนี้ได้อย่างไร?
ชั่ววินาทีนั้น, พวกเขาทั้งหมดต่างเริ่มวิ่งหนีโดยไม่หันกลับมามอง
"อย่าให้พวกมันหนีไปได้!"
เเน่นอนว่าทุกคนในคฤหาสน์ราชาลู่ย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้อีกฝ่ายรอดชีวิตไปได้
พวกเขาจึงรีบเร่งที่จะพุ่งฆ่าศัตรูในทันที
เเละในเวลาเดียวกัน
เหล่าสมาชิกตระกูลที่อยู่ในเหมืองต่างก็ตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินว่าเหล่าผู้คนจากคฤหาสน์ราชาลู่กำลังมาช่วยเหลือ
พวกเขาจึงรีบออกจากเหมืองและเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อปิดล้อมสังหารทั้งสามตระกูลใหญ่ทันที
ก่อนหน้านี้, พวกเขาเคยผ่านการกดขี่ถูกเฆี่ยนตีจากคนทั้งสามตระกูลมามากพอแล้ว
ยามนี้พวกเขามีโอกาสที่จะลุกขึ้นสู้, พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะใช้ความโกรธเกรี้ยวเเละใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีในการสังหารคนจากทั้งสามตระกูลใหญ่
เพียงชั่วพริบตา, ผู้ฝึกตนจากสามตระกูลใหญ่ก็ค่อยๆตายไปทีละคน
เเละหลังจากที่ลู่ชิงซวนสังหารผู้ฝึกตนอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำทั้งสามเเล้ว, เขาก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรอีก
เนื่องจากเขาได้สัญญากับตระกูลของเขาไว้เเล้วว่าใครก็ตามที่ฆ่าศัตรูได้มากจะได้รับรางวัลที่สอดคล้องกัน
เพราะงั้นเขาจึงไม่คิดลงมือใดๆกับผู้ฝึกตนระดับต่ำเช่นนี้
อีกอย่าง, นี่เป็นประสบการณ์การต่อสู้ที่สำคัญสำหรับทุกคนในคฤหาสน์ราชาลู่ ดังนั้นมันจึงสำคัญมากสำหรับพวกเขาเช่นกัน
ไม่นานหลังจากนั้น สมาชิกทั้งหมดของสามตระกูลใหญ่ที่ประจำการอยู่ที่นี่ก็ล้วนถูกคนของคฤหาสน์ราชาลู่สังหารจนสิ้นไม่มีเหลือ
ทายาทหลายคนของคฤหาสน์ราชาลู่ได้หวนกลับมาสู่ลู่ชิงซวนแล้ว
เเม้ว่าสมาชิกในตระกูลบางคนจะยังได้รับบาดเจ็บอยู่, แต่พวกเขาก็ไม่สามารถซ่อนความรู้สึกตื่นเต้นเเละความยินดีได้เลย
ต่อมา, ลู่ชิงซวนก็สั่งให้คนในตระกูลที่มีระดับต่ำประจำการอยู่ที่นี่ก่อน
ในขณะที่คนอื่นๆติดตามเขาไปที่เมืองซีหยวนเพื่อทำลายตระกูลโจว
………….
เขตเหนือ
เมืองซีหยวน
ที่ดินตระกูลโจว
ณ ห้องโถงต้อนรับ
วันนี้ผู้นำจากสองตระกูลใหญ่อย่างตระกูลฝางและตระูลฮั่นได้มาที่ตระกูลโจวเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการจัดสรรปันส่วนของเหมืองแร่ทองคำม่วงคังลัน
“หัวหน้าตระกูลโจว, เจ้าต้องการส่วนเเบ่งมากกว่า 40% ให้กับพระราชวังขององค์ชายจิงหยางจริงหรือ?”
“ด้วยวิธีนี้ ส่วนแบ่งของตระกูลเราแต่ละคนจะเหลือเป็นเพียง 20% เท่านั้น, นี่นับว่าน้อยเกินไป”
ฮั่นหยาน, ผู้นำตระกูลฮั่นที่กำลังดื่มชาได้มองไปที่โจวเป่ยฉินผู้นำตระกูลโจวด้วยสีหน้าค่อนข้างไม่พอใจ
เเต่โจวเป่ยฉินกลับกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม
"เจ้าทั้งสองคนต่างรู้เหตุผลดี”
“ที่ทั้งสามตระกูลอย่างพวกเรากล้าสังหารคนในคฤหาสน์ราชาลู่ โดยไม่ต้องกังวลว่าราชวงศ์จะยื่นมือเข้ามา, ก็เพราะว่าพระราชวังจิงหยาง สามารถปิดกั้นปัญหาทุกประเภทที่อาจจะเกิดขึ้นกับพวกเราได้”
“ไม่เช่นนั้นเราอาจไม่ได้ส่วนแบ่งถึง 10% ด้วยซ้ำ!”
"และตอนนี้ เรายังสามารถได้รับส่วนแบ่ง 20% ซึ่งเพียงพอสำหรับเราแต่ละคนที่จะบ่มเพาะกลุ่มคนที่แข็งแกร่งได้เเล้ว!"
เมื่อได้ยินดังนั้น อีกสองตระกูลต่างก็เงียบไปทันที
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่สามารถปฏิเสธคำพูดของโจวเป่ยฉินได้
พระราชวังองค์ชายจิงหยางเป็นวังขององค์ชายจากราชวงศ์เมฆาสวรรค์และมีพลังอันยิ่งใหญ่
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง, ตระกูลฝางและตระกูลฮั่นต่างก็มองหน้ากันแล้วพูดอย่างประนีประนอม
"เอาล่ะ แบ่งตามนี้แล้วกัน!"
แต่ทันใดนั้นเอง
คนรับใช้จากตระกูลโจวรีบวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก
แต่เนื่องจากเขากังวลมากเกินไป เขาจึงสะดุดล้มลงกับพื้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อเห็นฉากนี้โจวเป่ยฉินก็ขมวดคิ้วทันทีและกล่าวตำหนิ
"ทำอะไรของเจ้าน่ะ”
“เหตุใดจึงไร้มารยาทถึงเพียงนี้”
“เจ้าไม่รู้เหรอว่าข้ากำลังรับแขกผู้มีเกียรติทั้งสองอยู่”
เมื่อเห็นคนรับใช้ของเขาเป็นเช่นนี้, เขาก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอับอายสำหรับตระกูลโจว
คนรับใช้ถูกตำหนิก็ตกใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นทันทีและพูดอย่างเร่งรีบ
"ท่านผู้นำตระกูล เราเกิดปัญหาแล้วขอรับ”
“คนจากคฤหาสน์ราชาลู่หลายคนบุกมาที่นี่”
“เเละทันทีที่พวกเขาเห็นสมาชิกตระกูลโจว, พวกเขาก็ปรี่เข้ามาฆ่าทันทีเลยขอรับ!”
"ตอนนี้...สมาชิกในตระกูลจำนวนมากกำลังถูกพวกเขาสังหารขอรับ!"
เมื่อผู้นำตระกูลทั้งสามได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง, จากนั้นสีหน้าของพวกเขาก็มืดลงทันที
ปัง!
โจวเป่ยฉินตบโต๊ะและลุกขึ้น
ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยแสงเย็นเยียบ
“คฤหาสน์ราชาลู่มาหาที่ตายถึงที่นี่เชียวหรือ?”
ในสายตาของเขา
คฤหาสน์ราชาลู่ในปัจจุบันไม่มีแม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งในอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำ
แต่ทำไมพวกเขาถึงยังกล้าที่จะมาที่ตระกูลโจวของพวกเขาและเริ่มสังหารผู้คน
นี่ไม่เท่ากับหาเรื่องตายหรอกหรือ?
ใครกันกล้ามอบความหาญกล้าเทียมฟ้านี้ให้พวกเขา?
“น่าแปลกจริงๆ คฤหาสน์ราชาลู่ไม่น่าใจกล้าบ้าบิ่นขนาดนี้, พวกเขาได้ความช่วยเหลือจากใครมาหรือเปล่า?”
หัวหน้าตระกูลฮั่นมีสีหน้าสับสนและกระซิบถาม
“ฮึ่ม, มีคนมาช่วยงั้นรึ?”
“งั้นให้ข้าดูหน่อยสิว่าพวกมันพาใครมา”
หลังจากพูดอย่างนั้น, โจวเป่ยฉินก็ออกจากห้องโถงทันที
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผู้นำทั้งสองคนของตระกูลฮั่นและตระกูลฝางก็ติดตามไปดูอย่างใกล้ชิด
…………………………..