บทที่ 10 : ทุบสมบัติระดับปฐพีด้วยมือเปล่า!
บทที่ 10 : ทุบสมบัติระดับปฐพีด้วยมือเปล่า!
ผู้นำตระกูลทั้งสามออกมาจากห้องโถงใหญ่และได้ยินการต่อสู้อันดุเดือดก่อนที่พวกเขาจะเข้าใกล้เขตชานเมืองของตระกูลโจวด้วยซ้ำ
หลังจากเดินมาได้อีกหน่อย, พวกเขาก็ได้กลิ่นคาวเลือดอย่างรุนแรง
ในยามนี้ ใบหน้าของโจวเป่ยฉินมืดมนเป็นอย่างยิ่ง
มีกี่คนที่เสียชีวิตก่อนหน้า, มันถึงได้มีกลิ่นคาวเลือดรุนแรงเช่นนี้ได้
ไม่นานนัก
เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่นอกตระกูลโจว
ฉากการต่อสู้อันดุเดือดก็ปรากฏให้เห็นทั้งสามคนได้เห็น
เมื่อมองไปรอบๆ
พวกเขาต่างได้เห็นว่าเหล่าสาวกที่สวมชุดของตระกูลโจวล้วนนอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น
ในหมู่พวกเขามีผู้อาวุโสมากมาย
นอกจากนี้, ร่างกายของพวกเขาล้วนกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง เปลี่ยนพื้นดินให้ปกคลุมไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน!
เเละยังมีผู้คนมากมายจากตระกูลโจวที่กำลังต่อสู้อยู่
พร้อมเสียงกรีดร้องก็ดังก้องไปทั่วทุกหนแห่ง
เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึงเช่นนี้
ดวงตาของโจวเป่ยฉินก็แปรเปลี่ยนเป็นเจตนาฆ่าอย่างแท้จริง
“คนจากคฤหาสน์ราชาลู่, ช่างรนหาที่ตาย!”
ทุกถ้อยคำของเขาดังก้องกังวาล
เขาจะไม่โกรธได้อย่างไรเมื่อเห็นซากศพของสมาชิกในตระกูลนอนอยู่บนพื้น?
โจวเป่ยฉินปลดปล่อยพลังวิญญาณของเขาค้นหาพื้นที่โดยรอบทันที
เเละทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่าผู้อาวุโสสองของคฤหาสน์ราชาลู่เป็นผู้ที่มีพลังการต่อสู้สูงสุด
เเละเป็นผู้อาวุโสสองลู่ฉางเฟิง, และผู้อาวุโสสี่ลู่เฉียนฉวนที่กำลังต่อสู้อยู่ที่นี่
เมื่อเห็นสิ่งนี้, ใบหน้าของโจวเป่ยฉินก็ผ่อนคลายลง
เดิมทีเขาคิดว่าคฤหาสน์ราชาลู่ได้ผู้ช่วยเหลือที่ทรงพลังมา, แต่ตอนนี้เขาไม่เห็นผู้มีอำนาจคนอื่นเลย
“เดิมข้าคิดว่าจะมีผู้ยื่นมือมาช่วยเหลือคนของคฤหาสน์ราชาลู่ พวกเขาถึงหาญกล้ากล้าที่จะบุกเข้ามาในตระกูลโจวของข้า”
“กลายเป็นว่า, พวกเขาลงมือโดยไม่สนความตายอีกเเล้ว!”
ในขณะที่โจวเป่ยฉินกำลังจะลงมือ
ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งจากคฤหาสน์ราชาลู่
อีกฝ่ายยืนเอามือไพล่หลัง, เเละไม่ได้ลงมือสังหารใครเลย
สิ่งนี้ทำให้เขาค่อนข้างประหลาดใจ
ชายหนุ่มยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน และเมื่อเขาเห็นใครก็ตามในตระกูลลู่ที่ตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต, เขาถึงจะลงมือ
“ลู่ชิงซวน?”
ในไม่ช้า, โจวเป่ยฉินก็จำชายหนุ่มคนนี้ได้
และมันทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
เขาจะไม่สามารถจดจำใบหน้าของผู้นำคฤหาสน์ลู่ที่เพิ่งถูกแต่งตั้งใหม่ได้อย่างไร?
เเต่เขาเเค่ไม่คาดคิดว่าผู้นำคฤหาสน์ตัวน้อยจะมาที่นี่ด้วยตนเอง
เมื่อเผชิญหน้ากับการจ้องมองของโจวเป่ยฉิน ลู่ชิงซวนก็สังเกตเห็นอีกฝ่ายและหันไปสบตากับอีกฝ่ายเช่นกัน
เเต่เมื่อเขาเห็นคนอีกสองคนที่อยู่ข้างๆโจวเป่ยฉิน, แววตาของลู่ชิงซวนก็ฉายแววประหลาดใจ
เขาไม่คาดคิดว่าผู้นำตระกูลทั้งสองของตระกูลฝางและตระกูลฮั่นก็จะอยู่ที่นี่ทั้งคู่
ซึ่งสิ่งนี้มันน่าสนใจมาก
“ถ้าเจ้ากล้ามาที่นี่เพื่อแสวงหาความตาย งั้นก็อย่ากล่าวโทษข้าที่รังแกรุ่นเยาว์!”
ทันทีที่เขาเห็นลู่ชิงซวน, ดวงตาของโจวเป่ยฉินก็เปล่งประกายด้วยแสงเย็นเยือก
ดังสุภาษิตที่ว่า, จับโจรต้องจับหัวหน้าโจรก่อน!
โดยไม่ลังเล, เขาก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและโจมตีลู่ชิงซวนโดยตรง
"ตาย!"
ร่างของโจวเป่ยฉินยังคงอยู่ในอากาศ และมือขวาของเขาก็พุ่งโจมตีอย่างรวดเร็ว
บูมมม!!!
ฝามือจิตวิญญาณที่มีขนาดสามถึงสี่จั้งพุ่งออกไปบนท้องฟ้า
มันรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ และพุ่งไปที่ลู่ชิงซวนอย่างรุ่งแรง
เมื่อเห็นสิ่งนี้
ผู้นำตระกูลทั้งสองของตระกูลฝางและตระกูลฮั่นต่างมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
โจวเป่ยฉินลงมือจับกุมลู่ชิงซวนด้วยตนเอง, สิ่งนี้นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เห็นเลย
ในความเข้าใจของพวกเขา ลู่ชิงซวนเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับต่ำที่ยังไม่ได้เข้าสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วงด้วยซ้ำ
เเล้วเเบบนี้, เขาจะสามารถต้านทานผู้ฝึกตนอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำขั้นที่หกอย่างโจวเป่ยฉินได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม, วินาทีต่อมา รอยยิ้มของพวกเขาก็ชะงักลงในทันที
ในการมองเห็นของพวกเขา
ลู่ชิงซวนได้สร้างหมัดที่ราวกับหมอกควัน
เเละทันทีที่มันสัมผัสกับฝ่ามือที่สร้างด้วยพลังจิตวิญญาณของโจวเป่ยฉิน
ฝ่ามือจิตวิญญาณที่ทรงพลังนั้นก็แตกสลายเหมือนแก้วที่เปราะบาง
นอกจากนี้, พลังของหมัดยังคงไม่ลดลง และพุ่งไปตกลงบนร่างของโจวเป่ยฉินด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
บูมมม~~~!!!
โจวเป่ยฉินเป็นเหมือนกระสอบทรายที่ถูกระเบิดขว้างใส่อย่างรุนแรง
เขากระอั่คเลือดในขณะที่เขายังคงอยู่กลางอากาศ
เเละในที่สุด, ร่างของเขาก็พุ่งชนเข้ากับห้องใต้หลังคาหลายหลังก่อนจะล้มลงกับพื้น
เมื่อมองดูหน้าอกของเขาที่เกือบครึ่งหนึ่งมีรอยบุบจากแรงหมัด
เขาดูน่าสังเวชเวทนาอย่างมาก
จากการปะทะกันครั้งนี้, เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และยากที่จะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
การโจมตีนี้เป็นพลังจากทักษะหมัดหลิงชิงทลายสวรรค์ของลู่ชิงซวน
หมัดที่น่าสะพรึงกลัวจากขั้นแรกของกายาทรราชศักดิ์สิทธิ์นั้นยากเกินไปสำหรับผู้ฝึกตนอาณาจักรแก่นแท้ล้ำลึกที่จะสามารถรับไว้ได้
โจวเป่ยฉินซึ่งอยู่ในอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำขั้นที่หกย่อมไม่สามารถต้านทานพลังอันดุดันเช่นนี้ได้
นอกจากนี้, หากเขาไม่ได้สวมชุดเกราะด้านในไว้
หมัดนี้คงจะส่งเขาไปหายมบาลเรียบร้อยแล้ว
ในเวลานี้ สมาชิกของคฤหาสน์ราชาลู่ที่กำลังต่อสู้อยู่ได้เห็นว่าท่านผู้นำคฤหาสน์ของพวกเขาจัดการผู้นำตระกูลโจวอย่างรุนแรงด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว
สิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นมากและพวกเขาก็มีกำลังใจมากขึ้นในขณะที่ต่อสู้
เเต่ในทางกลับกัน, ทุกคนในตระกูลโจวกลับมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อฉายชัดบนใบหน้า
เเละสิ่งนี้ทำให้จิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาลดลงมากกว่าครึ่ง
……….
“ให้ตายเถอะ ผู้เยาว์ผู้นี้ไม่ใช่ผู้ฝึกตนระดับต่ำอย่างแน่นอน!”
จากระยะไกล ผู้นำของตระกูลฝางและฮั่นต่างตกอยู่ในความหวาดกลัว และรูม่านตาของเขาสั่นสะท้าน
การโจมตีเพียงครั้งเดียวจากผู้ฝึกตนระดับต่ำจะทำให้ชายที่แข็งแกร่งในอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำได้รับบาดเจ็บสาหัสได้อย่างไร?
พวกเขาดูเคร่งขรึมเเละตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แต่แม้ว่าพวกเขาจะปลดปล่อยพลังทางจิตวิญญาณและพยายามสำรวจอย่างเต็มที่
พวกเขาก็ไม่สามารถสัมผัสถึงสถานะเฉพาะตัวของลู่ชิงซวนได้
ในยามนี้ทั้งสองมองหน้ากันและพยักหน้าพร้อมกัน
ความหมายชัดเจน, คือหยิบอาวุธแล้วลงมือจัดการทันที
"ตาย!"
ฮั่นหยาน, ผู้นำตระกูลฮั่นตะโกนและก้าวเป็นผู้นำ
ตูมมม!
หม้อต้มสีแดงลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า และในขณะที่มันหมุน แสงศักดิ์สิทธิ์สีแดงก็บานสะพรั่ง
จากนั้น, มังกรเพลิงตัวหนึ่งก็พุ่งออกมาจากมัน แยกฟันกางกรงเล็บพร้อมสร้างความหายนะให้กับโลก
เกือบจะในเวลาเดียวกัน
ผู้นำตระกูลฝางก็ลงมือเช่นกัน
"ไป!"
สิ้นเสียงคำสั่งของเขา
มันก็ตามด้วยเสียงฟ้าร้องในฤดูใบไม้ผลิ
เขาได้เปิดใช้งานสมบัติซึ่งเป็นภูผาแห่งแสงที่ไหลออกมา หมายฟาดฟันใส่ลู่ชิงซวน
ณ ขณะนี้, ผู้นำของทั้งสองตระกูล ได้ใช้สมบัติอันทรงพลังเพื่อขับไล่ลู่ชิงซวนที่กำลังขวางทางพวกเขา
เเต่เมื่อเผชิญหน้ากับฉากนี้
ลู่ชิงซวนก็ยังคงสงบนิ่ง
เขาเพียงกำหมัดข้างหนึ่ง
จากนั้นปล่อยหมัดที่สั่นสะเทือนท้องฟ้า พุ่งโจมตีไปยังหม้อต้มสีแดง
ครืนนนน!!!
มังกรเพลิงจำนวนนับไม่ถ้วนถูกบดขยี้ด้วยพลังหมัด, จากนั้นหมัดนี้ก็ปะทะหม้อต้มโดยตรง
เปรี๊ยะ!!!
หม้อต้มส่งเสียงแตกร้าวราวกับว่าถูกภูเขาศักดิ์สิทธิ์กระแทก
ช่วงเวลาต่อมา
หม้อต้มก็แตกออกเป็นชิ้นๆและเศษสมบัติก็แหลกสลาย หวนคืนสู่ความว่างเปล่า
ในเวลาเดียวกัน
สมบัติภูผาที่กำลังจะโจมตีมาที่ลู่ชิงซวน
หมัดของลู่ชิงซวนก็ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นฝ่ามือขนาดยักษ์พุ่งออกไปปะทะในแนวนอน
บูมมมม!!!
สมบัติภูผาเป็นเหมือนเต้าหู้ที่ถูกลู่ชิงซวนทุบเป็นชิ้นๆจนสาดกระเซ็นสู่ความว่างเปล่า
ตูม!!! ตูม!!!
ทันทีที่สมบัติทั้งสองถูกทำลาย
ผู้นำทั้งสองของตระกูลฝางและตระกูลฮั่นล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัสจนอดไม่ได้ที่จะพ่นเลือดออกมาจากปาก
“ได้ไง...มันเป็นไปได้ยังไง!”
พวกเขาหวาดกลัวและเริ่มร้องหาความเป็นธรรมต่อสวรรค์
สมบัติระดับปฐพีขั้นสูงทั้งสองชิ้นถูกทำลายด้วยมือเปล่าของลู่ชิงซวน
นี่อีกฝ่ายยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?
ร่างกายของเขาแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ได้อย่างไร?
ในความเป็นจริง พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าลู่ชิงซวนจะได้รับพรจากกายาผู้แข็งแกร่งแห่งสรวงสวรรค์มา
นอกจากนี้, เขายังได้ฝึกฝนคัมภีร์โบราณขั้นสูงสุดของผู้ฝึกร่ายกายอีกด้วย
ดังนั้น, ตอนนี้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาถึงระดับที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
ในสายตาของลู่ชิงซวน, มันคงจะแปลกมากกว่า ถ้าเขาไม่สามารถทุบสมบัติระดับปฐพีได้แม้จะใช้กำลังทั้งหมดของเขาเเล้วก็ตาม
ขณะที่ผู้นำทั้งสองของตระกูลฝางและตระกูลฮั่นต่างก็กำลังตกตะลึง
รอยฝ่ามือที่ปกคลุมท้องฟ้าก็เคลื่อนที่ไปทั่วท้องฟ้าและกำลังคืบคลานเข้ามาหาพวกเขา
ลู่ชิงซวนคือผู้ที่ลงมือ
ร่างของเขาเต็มไปด้วยแสงของพลังวิญญาณ
จากนั้น, ไอน้ำจากโลหิตก็ปรากฏเเละกลายร่างเป็นเหมือนกับมังกรที่ตื่นขึ้นจากขุมนรก
“อาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำขั้นที่เจ็ด!”
“เขา...จริงๆแล้วเขามีระดับพลังยุทธ์ของอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำ!”
“นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”
ในยามนี้
ในที่สุดผู้นำทั้งสองของตระกูลฝางและตระกูลฮั่นก็ค้นพบระดับพลังยุทธ์ที่แท้จริงของลู่ชิงซวน
เเต่พวกเขาเเทบจะไม่อยากเชื่อสายตาของตนเลย
เพราะจากข้อมูลข่าวกรอง, ผู้นำคฤหาสน์ราชาลู่คนปัจจุบันยังไม่ได้เข้าสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วงเลยไม่ใช่หรือ?
เเล้วคนผู้นี้สามารถเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำขั้นที่เจ็ดภายในเวลาไม่กี่เดือนได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะสามารถตอบสนองได้ทัน
รอยฝ่ามือก็ได้บดขยี้ความว่างเปล่าและตกลงมาบนร่างกายของพวกเขาแล้ว
บูมมมมม!!!
มีเสียงดังก้องกังวาน, ทั้งแผ่นดินและภูเขาต่างสั่นสะเทือน
จากนั้น, ผู้นำตระกูลทั้งสองของตระกูลฝางและตระกูลฮั่นต่างก็กลายเป็นคนนอนจมกองเลือดในทันที
เเละหากลู่ชิงซวนไม่หยุดมือในนาทีสุดท้าย, ทั้งสองคนคงตายไปแล้ว
ลู่ชิงซวนเข้าใจว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เขาควรจะฆ่าคนสองคนนี้
มันคงจะไม่ดี ถ้าทั้งสองตระกูลใหญ่สังเกตเห็นอะไรบางอย่างก่อนที่เขาจะไปเยี่ยมเยียน
……….
นับตั้งแต่เวลาที่ผู้นำตระกูลฝางและตระกูลฮั่นลงมือ จนกระทั่งทั้งสองคนถูกกำราบไปพร้อมๆกัน
มันดูเหมือนว่าจะเป็นเวลานาน แต่จริงๆแล้วมันเป็นเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น
ลู่ชิงซวนทุบสมบัติระดับปฐพีขั้นสูงด้วยมือเปล่า และปราบผู้นำของสองตระกูลด้วยฝ่ามือเดียว
เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนในคฤหาสน์ราชาลู่ ก็รู้สึกตื่นเต้นและการตอบสนองของพวกเขาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
นี่คือผู้นำแห่งคฤหาสน์ราชาลู่ของพวกเขา, เขามีพลังมากจนไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้
ในเวลาเดียวกัน ลู่ชิงซวนก็สะบัดนิ้วของเขา และแสงวิญญาณสองดวงก็ถูกยิงออกไปทางผู้นำตระกูลทั้งสอง
มันปิดผนึกการฝึกฝนของพวกเขาชั่วคราวและยังตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ตายในยามนี้
หลังจากทำเช่นนี้ เขาก็เพิกเฉยต่อทั้งสองคน และหันไปจ้องมองไปที่โจวเป่ยฉินซึ่งนอนอยู่บนพื้น
ลู่ชิงซวนใช้ฝ่ามือของเขาคว้าโจวเป่ยฉินมาไว้เบื้องหน้า
แต่ทันใดนั้นเอง
เสียงความโกรธอันลึกล้ำก็ดังมาจากส่วนลึกภายในตระกูลโจว
“บุกดินแดนตระกูลโจวของข้าและยังสังหารคนตระกูลโจวของข้าอีก”
“เจ้าหนู, เจ้ากำลังรนหาที่ตาย”
เสียงเหมือนสายฟ้าดังก้องในหูของทุกคน
…………………………….