ตอนที่แล้วตอนที่ 31 ไร้ปราณี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 33 ชีลด์เข้าแทรกแซง

ตอนที่ 32 เหตุการณ์แปลกๆ


ตอนที่ 32 เหตุการณ์แปลกๆ

“ZA WA RU DO! [เวลาเอ๋ย จงหยุด!]” ดิโอตะโกนและเวลาก็หยุดนิ่ง

การหยุดเวลาแค่หนึ่งวินาทีจะไปทำอะไรได้?

แต่จากประสบการณ์อันขมขื่นในการใช้พลังนี้ครั้งที่แล้ว ดิโอได้เรียนรู้ที่จะควบคุมช่วงขณะก่อนเปิดใช้งานพลัง ดังนั้นทันทีก่อนที่จะตะโกนว่า " ZA WA RU DO [เดอะ เวิลด์]!" เขากระโดดขึ้นกลางอากาศ ทำให้ร่างของเขาถูกแรงกระทำพุ่งออกไปให้ไกลจากจุดระเบิดที่สุด

ทันทีที่เวลาเดินหน้าต่ออีกครั้ง...

ตูม!

ระเบิดมือแตกกระจาย ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณโดยรอบ!

ตัวดิโอเองก็โดนแรงระเบิดอัดเข้าจังๆ จนร่างปลิวว่อนไปในอากาศ

"อ๊าาาาาาากกกกก!"

ดิโอที่นอนกองอยู่บนพื้นพยายามฝืนลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เนื่องจากพลังคลื่นมนตราหมดไปจนไม่สามารถรักษาสภาพปกป้องไว้ได้ เขาจึงได้รับบาดเจ็บไม่น้อย

มันให้ความรู้สึกราวกับโดนค้อนขนาดยักษ์ฟาดเข้าที่แผ่นหลังเต็มแรง

ตอนนี้ดิโอก็อ่อนแออย่างที่สุด แม้แต่ [เดอะ เวิลด์] ก็ไม่อาจปรากฏออกมาได้ แม้แต่มนุษย์ธรรมดาก็สามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย

เขาตัดสินใจหนีเอาตัวรอดดีกว่า เสียงปืนพอรับมือได้ แต่เสียงระเบิดอย่างเมื่อครู่ต้องเรียกความสนใจของตำรวจแน่นอน ถ้าไม่รีบหนีไปตอนนี้ มีแต่ต้องโดนจับ

ดิโอรีบหายตัวไปในความมืดมิดของราตรี ปิดฉากคืนที่แสนวุ่นวายนี้ลง

........

ไม่นานหลังจากได้รับแจ้งเหตุจากคู่รักหนุ่มสาวแอบมาหาความหวาดเสียวแถวนี้ กรมตำรวจนิวยอร์กก็ส่งกำลังมาตรวจสอบ ทว่าเมื่อได้ยินเสียงปืนและระเบิด ทั้งคู่จึงเปลี่ยนใจและรีบโทรแจ้งตำรวจแทน

เสียงไซเรนดังลั่นผ่านตัวดิโอที่กำลังเร่งหลบหนี เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเพราะปกติแล้วตำรวจไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับคดีแก๊งค์นัก

โชคดีที่เขาหลบหนีจากจุดเกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว ก่อนตำรวจจะมาถึง ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องไปนอนค้างที่สถานีตำรวจเป็นแน่ ซึ่งจะทำให้แผนการทุกอย่างในอนาคตต้องยุ่งเหยิงไปหมด

ย้อนกลับไปที่จุดเกิดเหตุ ฝ่ายตำรวจถึงกับอึ้งไปกับสภาพที่เห็น

ควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ประกายไฟเป็นจุดๆ จากเศษสิ่งของที่ระเบิดกระจัดกระจาย ร่างไร้ชีวิตเกลื่อนกลาดเต็มพื้น และเสียงร้องครวญครางขอความช่วยเหลือเบาๆ จากโรงงานร้างที่อยู่ใกล้ๆ

"นี่มัน... นี่ต้องเป็นเศษระเบิดมือแน่ๆ ไอ้พวกสารเลวนี่ไปหามันมาจากไหนกันเนี่ย!" ตำรวจวัยกลางคนคนหนึ่งพูดอย่างเก่นเคี้ยวฟัน

"พวกมันจะเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นเฮลส์คิทเช่นแห่งที่สองหรือไงเนี่ย! เพราะพวกมันแท้ๆ เราถึงต้องมานอนดึกเป็นเวลาสองวันสองคืน" ตำรวจหนุ่มผิวขาวที่ร่วมปฏิบัติงานด้วยบ่นอุบอิบอย่างหัวเสีย

"อย่าบ่นไปหน่อยเลย ในเมื่อได้รับแจ้งเหตุแล้วเราก็ต้องมาจัดการคดีสิ อีกอย่าง มีคนตายขนาดนี้ ไม่ช้าก็เร็วเราก็ต้องรับผิดชอบอยู่ดี อย่างน้อยนายก็น่าจะดีใจที่พวกนักข่าวยังมาไม่ถึง ไม่งั้นกรมตำรวจเรามีหวังได้วุ่นวายหนักแน่!" ตำรวจวัยกลางคนกล่าว

เรื่องแบบนี้ไม่ได้นับว่าแปลกประหลาดอะไรนัก ยกเว้นเรื่องระเบิดมือ ส่วนใหญ่คดีของพวกแก๊งค์ มักเกิดจากการแย่งชิงพื้นที่ หรือล้างแค้น และตำรวจมักจะมาเก็บกวาดตอนท้ายๆ เสมอ

ตราบใดที่เหตุการณ์ไม่เกิดในเขตตัวเมืองและไม่เกี่ยวข้องกับพลเรือน คนส่วนใหญ่มักจะไม่มีปัญหากับเรื่องแบบนี้ ตรงกันข้าม การที่พวกมันห้ำหั่นกันเองย่อมเป็นประโยชน์ต่อตำรวจ!

ส่วนนักข่าว พวกนพวกมันสนใจแค่การไต่เต้าเพื่อหาทางเลื่อนตำแหน่งของตัวเองได้เท่านั้น และนี่คือเหตุผลที่พวกพวกพวกมันพยายามเสาะแสวงหาข่าวแบบนี้โดยไม่สนว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากแค่ไหน พวกเขาคิดแต่เพียงว่ามันน่าเสียดายเหลือเกินที่เหตุการณ์แบบนี้ต้องเกิดขึ้นในเมืองอันแสนวุ่นวายแห่งนี้

เพราะข่าวที่นักข่าวเผยแพร่ แม้แต่คดีเล็กๆ ก็อาจกลายเป็นประเด็นใหญ่โตได้ ทำให้แม้แต่พวกที่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังก็พร้อมจะออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาล ซึ่งสิ่งที่เกิดหลังจากนั้นก็คือปฏิบัติการณ์ประจำของสถานีตำรวจ ที่ผู้บังคับบัญชาจะโวยวายลงมาด่าตำรวจชั้นผู้น้อยว่าไร้ความสามารถ สุดท้ายคดีก็จะยืดเยื้อออกไปประมาณหนึ่งปี ซึ่งไม่มีทางที่จะกล่อมประชาชนได้นอกจากการหาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกครั้งที่มีนักข่าวเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีต่างๆ ดังนั้นเปรียบเทียบกับเหล่าอาชญากรที่พกปืนเป็นประจำแล้ว ตำรวจกลับกลัวบรรดานักข่าวที่พกกล้องถ่ายทำมากกว่าเสียอีก

น่าเสียดาย ทันทีที่ตำรวจวัยกลางคนรู้สึกโล่งใจที่นักข่าวไม่ปรากฏตัว

รถตู้นักข่าวหลายคันก็กรูกันเข้ามาจอดอยู่ด้านหลังรถตำรวจ พวกมันดั่งเช่นปลาฉลามที่ได้กลิ่นคาวเลือด ความสามารถในการเสาะหาข่าวแบบนี้ไม่ใช่ใครก็ทำได้

ตำรวจที่เหลืออยู่ข้างนอกได้แต่มองหน้ากัน ถอนหายใจ และรีบจัดแถวกันเพื่อสกัดกั้นฝูงนักข่าวไม่ให้เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ

"เฮ้ นายจำฉันได้ไหม? ฉันคือคนที่มาสัมภาษณ์นายคราวที่แล้วไง เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยแล้วกัน ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่? มีคนตายไปกี่คนกันแน่? แล้วคาดว่าพวกมันเป็นฝีมือแก๊งค์มาเฟียหรือเปล่า?"

"ไม่ขอแสดงความคิดเห็น!"

“ถามไประหว่างทางก็ได้ ฉันได้ยินว่าเกิดการยิงต่อสู้รุนแรงที่นี่เมื่อกี้ และดูเหมือนจะมีเสียงระเบิดลูกหนึ่งด้วย ฉันอยากรู้ว่า ในฐานะที่เป็นผู้อาศัยในมหานครนิวยอร์ก ฝ่ายตำรวจสามารถรับรองความปลอดภัยของพวกเราได้หรือเปล่า? ทำไมพวกอันธพาลเหล่านี้ถึงได้อาวุธร้ายแรงอย่างนั้นมาได้ง่ายดายขนาดนี้ล่ะ? และทำไมตำรวจถึงมักจะมาถึงที่เกิดเหตุล่าช้าเสมอเหมือนกับตั้งใจด้วย?” นักข่าวคนหนึ่งรัวคำถามออกมาเป็นชุดอย่างไม่ยอมลดละ

"ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ขอแสดงความคิดเห็น!" ตำรวจที่ถูกกระหน่ำคำถามไม่อยากตอบคำถามพวกนี้เพราะมันจะกลับมาทำร้ายหน่วยงานของตัวเองในท้ายที่สุด

"นี่พวกฏิบัติหน้าที่ของพวกคุณโดยการใช้เงินภาษีของพวกเราอย่างนี้เหรอ? พวกเรามีสิทธิที่จะรู้ความจริงนะ!"

นักข่าวมีประชาชนหนุนหลัง การเข้าไปต้อนตำรวจจึงเป็นเรื่องง่ายดาย นายตำรวจที่ว่าโดนพวกสวนซะจนพูดไม่ออก พวกเขาไม่สามารถใช้กำลังกับนักข่าวได้ อย่างเก่งก็คงได้แต่เงียบเข้าไว้

ขณะที่ตำรวจคนอื่นกำลังรับมือกับการจี้ถามหนักหน่วงจากนักข่าว ทีมตำรวจที่เข้าไปสำรวจจุดเกิดเหตุก็พบตัววิลล์และเพื่อนๆ เข้าแล้ว และกำลังซักถามพวกเขาอยู่

เมื่อเห็นสภาพที่เกิดเหตุในตอนแรกตำรวจยังคิดว่านี่อาจเป็นการปะทะกันของแก๊งค์ทั่วๆ ไป แต่พอได้รับฟังคำให้การของตัวประกัน สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันทีราวกับได้ยินเรื่องเหลวไหล

"ฉันว่าพวกพวกน่าจะเมายาขึ้นสมองนะ พวกแกเอายาอะไรเข้าไปเนี่ย? ยาบ้า? กัญชา? โคเคน? คงต้องรอให้สร่างซะก่อนถึงจะสอบปากคำพวกมันได้" ตำรวจที่เป็นผู้นำทีมเอ่ยขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด