ตอนที่ 32 คุณหมอเกา
ยามที่หยานฮัวยืนขึ้น ร่างกายที่ใหญ่โตของเขาบดบังแสงที่ส่องลงมา เกิดเป็นเงาที่น่าเกรงขามขึ้นมาครอบคลุมเกาหมิงไว้ เทียบกันแล้วเกาหมิงบอบบางราวกับนกแรกเกิดที่อยู่ต่อหน้าสัตว์ร้าย
เขาผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น'เพชฌฆาต'เป็นตํานานในวงการมวยใต้ดิน ด้วยชัยชนะสิบสามครั้งรวด ฉายาของเขามีความหมายเช่นเดียวกับการอยู่ยงคงกระพัน! เขาไม่เคยลังเลที่จะขยี้ใครก็ตามที่เข้ามาขวางทาง!
แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกลังเลขึ้นมา เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว นานจนตัวเขาเกือบจะลืมความรู้สึกนี้ไปแล้ว
โดยเนื้อแท้แล้วหยานฮัวไม่ใช่คนเลวร้าย อย่างไรก็ตามหากปล่อยให้เขาดำเนินตามเนื้อเรื่องที่เกาหมิงตั้งค่าไว้ ไม่นานแรงกระตุ้นที่รุนแรงจะกัดเซาะความมีศีลธรรมของเขาอย่างช้าๆ สุดท้ายจะนําพาเขาไปสู่เส้นทางแห่งการทําลายล้างอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ กลายเป็นหนึ่งในฆาตกรที่น่ากลัวที่สุดของฮั่นไห่
"ไม่ว่าคุณจะฝึกฝนตัวเองหนักแค่ไหน มันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะคุณยังยึดติดอยู่กับวัยเด็กอันเลวร้ายของตัวเอง" เกาหมิงเอนหลังพิงเก้าอี้ ด้านหลังเสื้อเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น เขากำลังเก็บอาการตื่นตระหนกไว้ ทำเหมือนกับว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุม "การใช้ความรุนแรงไม่ได้ช่วยอะไรคุณ มีแต่จะทำให้คุณแย่ลง"
"ใครบอกคุณเรื่องนี้" ชุดสูทบนร่างของหยานฮัวฉีกขาด เผยให้เห็นรอยสักผีที่น่าสยดสยอง ทําให้เขาดูเหมือนอสูรร้ายจากห้วงลึกของนรก
"พี่สาวของคุณ หยานหลิง" เกาหมิงหยิบไฟแช็กออกมาจุดบุหรี่ "ทําไมเราไม่นั่งคุยเรื่องนี้กันล่ะ"
เมื่อได้ยินชื่อพี่สาวอีกครั้ง ดวงตาของหยานฮัวเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ สีหน้าของเขาอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว ชื่อนี้พิเศษมากสําหรับเขา เธอเปรียบเสมือนแสงนำทางความมืดมิดในวัยเด็ก ความทรงจําอันอบอุ่นไม่กี่อย่างที่เขาหวงแหนล้วนมาจากเธอ ความทรงจำเหล่านี้เองที่ทำให้เขาอดทนได้มาจนถึงทุกวันนี้
"เธอ... ยังมีชีวิตอยู่ไหม?" เมื่อหยานฮัวได้สติเขาก็พบว่าตัวเองนั่งลงแล้ว เขาทําสิ่งที่เกาหมิงพูดโดยไม่รู้ตัว
"ใช่.. เป็นเธอที่ขอให้ผมช่วยดูแลคุณ เธออยากให้คุณลืมความเจ็บปวดในอดีตและมีชีวิตเป็นของตัวเอง"
"ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน! พาฉันไปหาเธอที!" หยานฮัวเชื่อในสิ่งที่เกาหมิงพูด เพราะไม่มีใครนอกจากพี่สาวของเขาที่รู้เกี่ยวกับวัยเด็กของเขา และมีเพียงผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากเธอเท่านั้นถึงจะรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้
เกาหมิงยกแขนขึ้น ทำให้แขนเสื้อถูกับโต๊ะ เผยให้เห็นสายรัดสีดําบนข้อมือของเขาโดยไม่ตั้งใจ "ผมเองก็อยากพบเธออีกครั้ง แต่ตอนนี้....." เกาหมิงทำท่าลังเลที่จะพูดเล็กน้อย "เธอกำลังหลงอยู่ในความมืด"
"คุณกําลังพูดถึงอะไร?" หยานฮัวขมวดคิ้ว เริ่มสงสัยว่าเกาหมิงเป็นคนเสียสติหรือไม่
"ความหวาดกลัวจะปกคลุมเมือง วิญญาณชั่วร้ายจะออกอาละวาด หายนะกําลังจะมาถึง"
"....." หยานฮัวพบว่าตัวเองสูญเสียคําพูดโดยสิ้นเชิง สิ่งที่เกาหมิงพูดออกมานั้นแปลกประหลาดจนเขางุนงง จนมีคำหนึ่งแวบขึ้นมาในหัว 'คนบ้า'
หลังจากเงียบเป็นเวลานาน หยานฮัวก็ส่ายหัวเล็กน้อยด้วยความไม่เชื่อ "พอแล้วกับเรื่องไร้สาระ! แค่บอกฉันมาว่าต้องทำอะไร"
"เมื่อคุณตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง คุณคงจำได้ว่ามีรูปถ่ายขาวดำอยู่ข้างตัวคุณ และนั่นคือข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด" เกาหมิงจิบน้ำร้อน "ผมสัญญากับพี่สาวของคุณไว้ว่าจะดูแลคุณในอนาคตและช่วยรักษาคุณ สิ่งที่คุณต้องทําคือให้ความร่วมมือกับการรักษาของผมและรอผมติดต่อมา ”
"นานแค่ไหน?"
"สถานที่ที่พี่สาวของคุณหายตัวไป เป็นที่ที่อันตราย เราไม่สามารถรีบร้อนเรื่องนี้ได้" เกาหมิงจงใจเบี่ยงประเด็นหัวข้อสนทนา "เทียบกับการตามหาพี่สาวของคุณ ตอนนี้ควรเน้นที่การรักษาตัวคุณก่อน"
"ฉันควบคุมตัวเองได้"
"คุณไม่จําเป็นต้องควบคุมมันไว้ การที่คุณผ่านช่วงเวลาเลวร้ายในวัยเด็กมา ได้ฝังพฤติกรรมความรุนแรงเอาไว้ เนื่องจากคุณใช้ความรุนแรงต้านความรุนแรงสิ่งที่คุณได้รับมีแต่จะเลวร้ายลง" เกาหมิงกล่าวขณะที่เขาดับบุหรี่ "การแก้ปัญหาที่คุณทำอยู่ไม่ได้ช่วยอะไรคุณ มีแต่จะทำให้คุณแย่ลง แต่ผมช่วยคุณได้"
ฝนที่ตกหนักทําให้ดูเหมือนร้านอาหารแยกตัวออกจากเมือง สร้างบรรยากาศที่โดดเดี่ยวเหมือนถูกลืมเลือนไปจากโลก
หยานฮัวคุ้นเคยกับแรงกระตุ้นด้านมืดในจิตใจดี ความปรารถนาอย่างท่วมท้นที่จะฆ่าใครสักคนและความเจ็บปวดที่พลุ่งพล่านเกือบจะกลืนกินตัวเขาแล้ว
"ที่จริงมีทางออกที่ดีกว่าการฆ่ามากมาย ความเกลียดชังของคุณมาจากพ่อบุญธรรมของคุณ การฆ่าเขาให้ตายไม่ได้ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น ความตายมันง่ายเกินไปสำหรับคนประเภทนั้น เราควรให้เขาได้รับการลงโทษที่สาสมกว่านี้" เกาหมิงนึกย้อนไปถึงเรื่องผีบางเรื่อง "ให้ผมช่วยคุณ ผมจะให้แผนการรักษาที่น่าพอใจแก่คุณแน่นอน"
"รู้สึกเหมือนคุณจะมีอาการรุนแรงกว่าผมนะ" หยานฮัวเริ่มลดความเป็นปรปักษ์ลงอย่างช้าๆ "ผมควรเรียกคุณว่าอะไร"
"ผมชื่อเกาหมิง" เกาหมิงแลกข้อมูลติดต่อไว้ด้วยรอยยิ้ม "แต่ผมชอบให้คนเรียกว่าหมอเกามากกว่า"
"หมอเกา?" หยานฮัวบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของเกาหมิงลงไป "ผมเคยพบจิตแพทย์มาก่อน แต่ไม่มีใครที่เหมือนคุณเลย"
"เพราะผมอยู่ข้างคุณ" เกาหมิงยิ้มตอบ
หลังจากพูดจบ เกาหมิงก็ไปที่เคาน์เตอร์และหยิบบะหมี่สองถ้วยขึ้นมาแล้วเดินออกจากร้านอาหาร
เมื่อกลับถึงรถ เกาหมิงไม่ได้ปิดบังอะไรยื่นชามก๋วยเตี๋ยวให้จูเหมียวเซียว ทั้งคู่เริ่มกินบะหมี่บนรถ
"เกาหมิง เพื่อนของคุณน่ากลัวมาก! คุณไม่กลัวที่จะคบหากับคนอย่างเขาเหรอ" จูเหมียวเซียวถามขณะที่เส้นบะหมี่ยังเต็มปาก เห็นได้ชัดถึงความหิวของเธอ
"ทำไมต้องกลัว?" หลังจากที่เกาหมิงนั่งอยู่ในรถเขาพบว่าหลังของเขาเปียกโชกไปหมด เม็ดเหงื่อยังคงไหลลงมาที่คอของเขาอยู่เลย
"ฉันก็ไม่ได้มีอคติกับคนที่มีรอยสักหรอกนะ แต่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยสักผี มีแค่สมาชิกแก๊งเท่านั้นที่จะสักอะไรแบบนั้น" จูเหมียวเซียวรีบตอบกลับ
"คุณดูละครทีวีมากไปหรือเปล่า? รีบกินเถอะยังมีที่ที่ต้องไปต่อ" เกาหมิงได้รับข้อความอีกฉบับจากศูนย์ และพวกเขาพบตําแหน่งของ'อาชญากร'คนที่สองซึ่งบังเอิญอยู่ในพื้นใกล้เคียง
หลังจากกินเสร็จ จูเหมียวเซียวก็ขับรถพาเกาไปหมิงไปยังวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ทางเขตตะวันออก
วิทยาลัยแห่งนี้มีความพิเศษมาก ได้รับทุนบริจาคจากภาคส่วนต่างๆภายใต้การอุปถัมภ์ของสมาคมการกุศลฮั่นไห่ ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถาบันอันทรงเกียรติ อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มาตรฐานการศึกษาของวิทยาลัยได้เสื่อมโทรมลงอย่างมาก ซึ่งนําไปสู่ชื่อเสียงในฐานะวิทยาลัยเอกชนที่แย่ที่สุดในฮั่นไห่
เขตตะวันออกเป็นการผสมผสานที่ขัดแย้งกันระหว่างผู้อยู่อาศัยที่ร่ำรวยและยากจนที่สุดของฮั่นไห่ ครอบครัวที่มีรายได้น้อยจํานวนมากไม่สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไปของสถานศึกษาชั้นนําอื่นๆได้ และไม่สามารถเข้าถึงสถานศึกษาของรัฐได้เช่นกัน จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งบุตรหลานไปยังสถานที่เช่นวิทยาลัยเซนต์หลุยส์
"สวัสดี เราเป็นเจ้าหน้าที่จากสํานักงานสืบสวนลี่ซาน ทางเราอยากสอบถามบางอย่างจากคุณ" จูเหมียวเซียวมาที่ห้องรักษาความปลอดภัยของวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนรปภ.สูงอายุจะมีปัญหาทางการได้ยิน จึงหมกมุ่นอยู่กับหนังสือพิมพ์มากกว่าคําถามที่พวกเขาถาม
เกาหมิงหยิบเงินออกมาห้าร้อยหยวน ก่อนยื่นเงินไปที่หน้าต่าง "เมื่อวานตอนเย็นมีนักเรียนมัธยมต้นถูกรุมทำร้ายในซอยนั้นหรือเปล่า"
ดวงตาของรปภ.*สว่างขึ้นเมื่อเห็นเงิน จึงพยักหน้ารับ แต่ก่อนที่เขาจะหยิบเงิน มือของเขาก็ถูกเกาหมิงคว้าไว้
"ห๊ะ?" รปภ.พยายามดิ้นรน แต่เขาไม่สามารถสลัดมือให้หลุดได้ "คุณต้องการจะทําอะไร!"
"เปิดกล้องวงจรปิดตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วบอกเราทุกอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" เสียงของเกาหมิงนิ่งเฉย แต่สีหน้าเคร่งเครียด
ภายใต้ความกดดันจากเกาหมิงในที่สุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เริ่มให้ความร่วมมือ แต่กลับพบว่าคลิปวีดีโอบางส่วนถูกลบออกไป
"เพื่อไม่ให้ทิ้งหลักฐาน คุณถึงกับลบคลิปวีดีโอทิ้ง คุณกล้ามาก!" เกาหมิงยิ้มอย่างเย็นชาไปที่ชายแก่ หลายครั้งที่โศกนาฏกรรมซึ่งอาจจะหลีกเลี่ยงได้ แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยความสิ้นหวัง เพราะการกระทำที่เห็นแก่ตัวและมุ่งร้าย ผลักดันเหยื่อให้ตกอยู่ในความสิ้นหวัง
การกระทําเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ว่าเขากําลังปฏิบัติตามคําสั่งของคนอื่นอีกที โดยให้ความสําคัญกับผลประโยชน์ส่วนตัวหรือความกลัวมากกว่าความรับผิดชอบทางศีลธรรม เขาอาจให้เหตุผลกับตัวเองว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการกระทําใดๆ แต่โดยพื้นฐานแล้วการลบหลักฐานทําให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดไปแล้ว
โดยใช้ข้อมูลที่ได้มา เกาหมิงนำจูเหมียวเซียวไปที่ตึกมัธยมชั้นสาม
"เกาหมิง มันจะไม่เป็นไรแน่หรอที่เราเข้ามาแบบนี้" ตอนนี้จูเหมียวเซียวรู้แล้วว่าทําไมผอ.เฉินถึงต้องการให้เธอติดตามเกาหมิง ถ้าไม่มีใครตามดูคนๆนี้ เขาอาจทําอะไรบางอย่างที่บ้ามากก็เป็นได้
"ไม่ได้อยู่ในห้องเรียน?" เกาหมิงกล่าว ท่าทางของเขาคล้ายกับผู้อํานวยการคนใหม่ที่เข้มงวด เขาหยุดชั่วครู่ที่หน้าต่างของห้องทุกห้องบนชั้นสาม สํารวจนักเรียนด้วยความเข้มข้นจนนักเรียนตึงเครียด แม้แต่ครูที่สอนอยู่ยังรู้สึกกดดัน รีบสอนนักเรียนด้วยความตั้งใจ
"อย่างน้อยเราควรติดต่อกับฝ่ายบริหารของโรงเรียนก่อนไหม" จูเหมียวเซียวพยายามขอร้องเกาหมิง
จูเหมียวเซียวรู้สึกกังวลมากขึ้นถึงการกระทำของเกาหมิง เธอจึงคว้าแขนของเกาหมิงพยายามดึงเขาออกไป ในตอนนั้นเองที่ทั้งคู่ได้ยินเสียงของนักเรียนกลุ่มหนึ่งดังมาจากห้องน้ำชาย
"ทุกคนบันทึกเร็ว! ว่านหยูแอบเข้าห้องน้ำของหญิงระหว่างเรียน! น่าขยะแขยงชะมัด!"